18 ทฤษฎีการย้อนอดีต

1065 คำ
“อ๋อ... ตรงนี้เรียกว่าตำบลบางขนากเจ้าค่ะ” “บางขนาก เอ... ใช่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรามั้ยจ๊ะ” “ใช่เจ้าค่ะ ที่นี่เป็นจังหวัดฉะเชิงเทรา” คำตอบจากสองสาวทำให้นิราวดีอึ้งหนัก เพราะสถานีโทรทัศน์อยู่ที่อโศกแล้วหล่อนมาโผล่ที่บางขนากได้อย่างไร แม้หล่อนจะรู้จักชื่อตำบลบางขนากเพราะบ้านคุณทวดอยู่ที่อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา แต่หล่อนก็ไม่เคยมาที่บางขนากเลยสักครั้ง แล้วอย่างนี้หล่อนจะกลับไปที่อโศกได้อย่างไร ทฤษฎีการย้อนอดีตที่หล่อนดูจากภาพยนตร์หรือในละคร ก็ล้วนแต่มาจากที่ตรงไหนก็ต้องกลับไปที่ตรงนั้นให้ได้ เพื่อจะย้อนคืนไปสู่จุดที่จากมา หรือไม่ก็ต้องมีวัตถุบางอย่างเป็นตัวเชื่อมต่อ เช่น ถ้าเข้าทางกระจกก็ต้องกลับทางกระจก เหมือนกระจกที่ห้องแม่มณีและห้องคุณหลวง หรือถ้าย้อนอดีตผ่านทางเตียงนอนเหมือนแม่หญิงแพรนวล แม่หญิงก็ยังนอนหลับบนเตียงที่บ้านตัวเองแล้วมาโผล่บนเตียงของพี่หลาวเปิง เพราะมีเตียงเป็นตัวเชื่อม ส่วนเกศสุรางค์ก็แลกวิญญาณมาเลยไม่ได้ย้อนไปย้อนมา แต่เคสของหล่อนแปลกออกไป หล่อนตกท่อระบายน้ำแล้วก็มาโผล่ที่เตียงของคุณหลวง ดังนั้นการที่หล่อนจะย้อนกลับไปปัจจุบัน หล่อนก็ควรจะตกท่อแล้วไปโผล่ที่เตียงใครสักเตียง เพราะควรจะมีจุดเชื่อมโยงถึงกัน แต่หล่อนควรจะตกท่อที่ไหนล่ะ หรือหล่อนควรไปที่ตึกอโศก เพื่อเดินตกท่อบริเวณนั้นอีกรอบ แล้วสมัยนี้ตึกอโศกมีแล้วหรือยัง ถ้ายัง... แล้วจะมีท่อระบายน้ำไหม หรือความจริงหล่อนไม่ควรลงจากเตียง หล่อนควรจะนั่งๆ นอนๆ รอคอยให้เตียงพาย้อนไปในท่อระบายน้ำที่ตกลงมา เพราะหล่อนโผล่มาบนเตียง หล่อนก็ควรจะอยู่แค่บนเตียง ไม่ควรไปที่ไหนเลย เพราะหากเตียงเรียกแล้วหล่อนกลับมาไม่ทัน นั่นคือหล่อนพลาด “นั่งๆ นอนๆ อยู่บนเตียงนี้เหรอ แล้วถ้านอนหลายวันแล้วยังไม่ย้อนล่ะจะทำไง หรือต้องไปหาตึกอโศกให้เจอ แล้วถ้ายังไม่มีตึกล่ะ จะไปหาท่อระบายได้จากที่ไหน” นิราวดีพึมพำสับสน นิ้วมือนวดที่ขมับตัวเอง ไม่ทันได้สังเกตว่าอิ่มกับน้อยทำหน้าหวาดกลัวหล่อนขึ้นมาอีกแล้ว กว่าจะสังเกตเห็นก็ตอนที่อิ่มกับน้อยกระเถิบเข้าไปจนชิดฝาผนังห้อง “พี่…” แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ร่างอวบอิ่มของป้าอ้อยก็ปรากฏที่ประตูเสียก่อน ดวงตากลมโตชำเลืองมองป้าอ้อยที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับบ่าวถือถาดใส่อาหารที่มีกลิ่นหอมเรียกน้ำลายสอ กลิ่นแบบนี้หล่อนมั่นใจว่าต้องเป็นข้าวต้มเครื่องอย่างแน่นอน นิราวดีกลืนน้ำลายลงคออัตโนมัติ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ป้าอ้อยมองมาพอดี หล่อนยิ้มแหยเพราะยังจำสีหน้าท่าทางของป้าอ้อยกับคุณหญิงแม่คุณหลวงได้เป็นอย่างดี ผู้ใหญ่ 2 คนนี้ดูท่าจะไม่ชอบหล่อนนัก ทว่าป้าอ้อยกลับมองหล่อนด้วยแววตาที่แปลกไป แววปรานีที่เห็นทำให้หล่อนยิ้มแหยอีกครั้ง “หิวหรือยังเจ้าคะ” เสียงของป้าอ้อยอ่อนลงทั้งท่าทางก็ดูเป็นมิตรไม่เหมือนตอนที่มองหล่อนตาขวาง “คุณหญิงให้ป้าทำข้าวต้มเครื่องร้อนๆ มาให้ คุณน่าจะรับประทานได้ ข้าวต้มปลาช่อนเคยรับประทานไหมเจ้าคะ” นิราวดีมองป้าอ้อยที่รับถาดอาหารจากบ่าวนำไปวางที่โต๊ะริมหน้าต่าง จากนั้นป้าอ้อยก็เปิดฝาโถข้าวต้มหอมกลิ่นกระเทียมเจียวควันฉุย พร้อมบอกเล่าถึงที่มาของปลาช่อนนาที่ลงไปนอนเท้งเต้งเนื้อขาวเรียกน้ำลายสอ “เนี่ยปลาช่อนนาด้วยนะเจ้าคะ ชาวบ้านแถวนี้เขาไปธงปลามาแล้วก็เอามาขายให้ ถ้าอยู่ที่พระนครคงไม่ได้กินปลาสดๆ แบบนี้ดอกเจ้าค่ะ ที่บางขนากเนี่ยปลาก็สด พืชผักก็มากมี ถ้าคุณอยากรับประทานอะไรเป็นพิเศษ คุณบอกป้าได้นะเจ้าคะ ป้าจะทำให้ คุณต้องรับประทานข้าวนะเจ้าคะ เพราะหากคุณไม่รับประทานอะไรเลยคุณจะป่วยได้ และอาการป่วยที่คุณเป็นอยู่ก็อาจจะหายช้า รับประทานข้าวเสร็จแล้วก็ต้องกินยาที่แพทย์โอสถจัดไว้ให้ด้วย” ป้าอ้อยพูดจบก็พยักพเยิดกับบ่าวสาวรุ่นรวมทั้งพี่อิ่มกับพี่น้อยจะพากันออกไป แต่ก่อนจะออกป้าอ้อยก็ทำเหมือนนึกอะไรขึ้นได้หันกลับมาหาหล่อนอีกครั้ง “อ้อ... คุณหญิงท่านฝากเรียนว่า คนในเรือนนี้ไม่ใช่ภูตผีดอกเจ้าค่ะ เพราะผีคงไม่มีปัญญามาต้มข้าวต้มเครื่องควันหอมฉุยส่งกลิ่นหอมแบบนี้ให้คุณรับประทานได้ดอก รับประทานเสร็จแล้วก็เรียกนังพวกนี้นะเจ้าคะ ป้าจะให้มันนั่งอยู่ด้านนอกนี่แหละ” “ป้าอ้อยเดี๋ยวจ้ะ” นิราวดีเรียกหญิงสูงวัย ซึ่งป้าอ้อยชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มปรานีให้ หล่อนยกมือไหว้ “หนูขอบคุณนะจ๊ะ ที่ป้ากรุณาหนู แล้วหนูก็ต้องฝากขอบพระคุณไปยังคุณหญิงด้วยจ้ะ ข้าวต้มของป้าหอมมาก หนูจะกินให้หมดเลย” ป้าอ้อยพยักหน้าเพียงนิดแต่ยิ้มกว้างก่อนจะเดินออกไป พี่อิ่มพี่น้อยพากันไปนั่งอยู่หน้าห้องที่เปิดประตูไว้ให้มองเห็นหล่อน และหล่อนเองก็มองเห็นคนด้านนอกเช่นกัน นิราวดีก้าวลงจากเตียง เดินตรงไปที่ชุดโต๊ะเก้าอี้ริมหน้าต่างซึ่งทำให้เห็นบรรยากาศด้านนอกซึ่งยังคงเป็นเหมือนเมื่อวานเย็นที่หล่อนเห็น นั่นคือ ลำคลองที่ทอดตัวยาวทั้งด้านซ้ายและด้านขวา กลิ่นหอมของข้าวต้มเครื่องในหม้อ โชยมาให้ท้องร้องจ๊อกๆ และควันฉุยโชยขึ้นจากหม้อก็บ่งบอกว่ายังร้อนอยู่มาก นิราวดีค่อยๆ แตะปลายนิ้วมือที่ด้านข้างของตัวหม้อ “อุ้ย!” หล่อนยกนิ้วขึ้นแตะติ่งหูโดยอัตโนมัติ เพราะความร้อนจากหม้อข้าวต้มนั้นแผ่ซ่านเข้ามาในปลายนิ้วมือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม