17 หรือเราจะเป็นแม่หญิงแพรนวล

1060 คำ
นิราวดีก้มมองเครื่องแต่งกายที่หล่อนสวมใส่อยู่ตอนนี้ หล่อนเคยใส่ชุดคล้ายๆ แบบนี้ ตอนที่ไปเที่ยวงานอุ่นไอรักคลายความหนาว เพียงแต่ผ้าไม่นุ่มเท่าและไม่หอมเท่า เสื้อผ้าชุดนี้หอมกลิ่นดอกไม้ หอมติดอยู่ในเนื้อผ้า หอมจนทำให้ตัวหล่อนหอมไปด้วย หอมแบบนี้ที่หล่อนเคยดูในละคร เขาเรียกว่า ‘หอมติดกระดาน’ ชนิดที่ลุกขึ้นเดินไปแต่กลิ่นยังติดกระดานอยู่ ซึ่งในยุคที่หล่อนจากมาไม่มีแน่ ขนาดน้ำหอมแบรนด์ดังก็ยังหอมไม่เท่า ดังนั้นจึงมีสิ่งเดียวที่หล่อนคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยนั่นคือ หล่อน ‘ย้อนเวลา’ กลับมาในยุคอดีต เหมือนในภาพยนตร์ฝรั่งที่หล่อนเคยดู ย้อนผ่านช่องทางของมิติเวลา ผ่านทางไทม์แมชชีน หรืออาจจะผ่านแบบละครหลังข่าว ดวงตากลมโตวาววับเมื่อคิดถึงละครหลากหลายเรื่องที่เคยดู ‘นี่ฉันเป็นแม่มณีจันทร์ หรือแม่เกศสุรางค์กันล่ะ ไม่ใช่อ่ะ... แม่มณีน่ะไปทางกระจก ส่วนเกศสุรางค์ถูกรถชนแล้วก็วิญญาณสลับกับแม่การะเกด ไม่ใช่แน่... เรามาทางเตียง หรือเราจะเป็นแม่หญิงแพรนวล หลับปุ๊บมาตื่นที่นี่เลย ใช่! เราต้องเป็นแม่หญิงแพรนวลแน่ๆ เดี๋ยวหลับอีกตื่นก็ไปฟื้นที่บ้านเลย’ นิราวดีครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ มือลูบผ้าห่ม ตามองเสาเตียงเคลื่อนขึ้นมายังหัวเตียง สังเกตรายละเอียดตรงไหนบ้างที่เป็นลวดลายแปลกๆ ที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง แตกต่างจากเตียงทั่วไป ที่จะเป็นสาเหตุให้หล่อนย้อนเวลากลับมาได้ ทั้งพยายามนึกว่าที่บ้านของหล่อนมีเตียงแบบเดียวกับที่นี่หรือเปล่า เพราะเตียงคือประตูมิติ “ที่บ้านเราไม่มีแน่ แต่ที่บ้านอาม่าจะมีไหมนะ” หล่อนครุ่นคิดพึมพำตามองซ้ายขวาก่อนจะเหลือบเห็นสองสาว ที่นั่งอยู่มุมห้อง และเมื่อเห็นว่าหล่อนมอง สองสาวก็ชะงักรีบก้มหน้า หล่อนสัมผัสได้ถึงความหวาดหวั่นในสายตา นิราวดีสูดลมหายใจลึกๆ พยายามตั้งสติให้ตนเอง ไม่ใช่แค่หล่อนหรอกที่กลัวคนเหล่านี้ แต่พวกเขาเองก็กลัวหล่อนเช่นกัน “พี่” แค่หล่อนเรียก สองสาวก็สะดุ้งโหยง ก้มหน้างุดกระเถิบตัวออกแต่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก “พี่จ๊ะ บอกฉันหน่อย ที่นี่คือที่ไหน” การสอบถามสถานที่ในเชิงผู้ไม่รู้และต้องการความช่วยเหลือ ย่อมทำให้คู่สนทนารู้สึกดีและคลายความเครียด เพราะหากเป็นอย่างที่หล่อนคิดไว้ ผู้หญิงในยุคนี้ไม่น่าจะกล้าคุยกับคนแปลกหน้าเท่าหล่อน ดังนั้นหล่อนควรเป็นผู้ถามก่อนจะดีกว่า “ที่นี่เป็นเรือนหลวงสำเนียงไพเราะเจ้าค่ะ” “หลวงสำเนียงไพเราะ แปลว่า เสียงเพราะน่ะหรือจ๊ะ” สองสาวพยักหน้าแต่ไม่ได้มองหล่อน นิราวดีจึงถามต่อ “แล้วหลวงสำเนียงไพเราะอยู่ไหมจ๊ะ ฉันอยากคุยกับเขา” สองสาวทำท่าอึกอักมองหน้ากันไปมา ลักษณะเหมือนเกี่ยงกันให้คำตอบ ซึ่งหล่อนไม่รู้ว่านั่นคือความลับ หรือสองสาวนี้ไม่อยากพูดกับหล่อนกันแน่ “หลวงสำเนียงไพเราะไม่อยู่หรือจ๊ะ” “เออ... คุณหลวง... คุณหลวงเข้าพระนครไปแล้วเจ้าค่ะ” “คุณหลวง...” นิราวดีทวนคำพูดของสองสาว เพราะคุณหลวงที่พวกหล่อนหมายถึงก็คือ... “เจ้าค่ะ คุณหลวงก็คือหลวงสำเนียงไพเราะเจ้าค่ะ คุณหลวงนั่งรถไฟเข้าไปทำงานที่กรมมหรสพหลวง วันจันทร์หน้าโน่นเจ้าค่ะถึงจะกลับมาที่เรือนนี้” “นังอิ่ม! แกพูดมากไปแล้วนะ” สาวตัวเล็กร่างบางถองข้อศอกใส่สาวตัวเล็กร่างอวบในเชิงที่ไม่ให้พูดมาก ทว่าแววตาที่มองมายังหล่อนยังคงหวาดหวั่น นิราวดีเห็นดังนั้น ก็ยิ่งต้องทำตัวให้เป็นผู้ป่วยที่น่าสงสารมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหญิงชื่ออิ่มบอกว่าคุณหลวงไม่อยู่นั่นแปลว่า เฮียซึ่งก็คือคุณหลวงไม่อยู่ที่บ้านหลังนี้ แม้หล่อนจะแน่ใจแล้วว่าคุณหลวงไม่ใช่คนเดียวกันกับเฮีย แต่คุณหลวงก็ยังเป็นเพียงคนเดียวที่หล่อนคุ้นหน้ามากที่สุด นอกนั้นหล่อนไม่รู้จักใครเลยสักคน โดยเฉพาะหญิงสูงวัยหน้าตาสะสวยที่คุณหลวงเรียกว่า ‘แม่’ ซึ่งเป็นคนที่ราดน้ำจากเหยือกใส่หล่อนทั้งตัวและก็ทำให้หล่อนได้สติ หล่อนไม่รู้เลยว่าคนที่นี่จะใจดีหรือจะร้าย และก็ยังไม่รู้ว่าภายนอกนั่น หล่อนจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร หล่อนต้องพึ่งพาคนที่เรือนไทยนี้ก่อน ต้องรอจนกว่าจะรู้อะไรมากกว่านี้ หรืออย่างน้อยก็ต้องรอให้คุณหลวงที่หน้าตาเหมือนเฮียกลับมาเสียก่อน เวลานี้สิ่งที่หล่อนควรทำก็คือ ทำตัวให้คุ้นเคย เหมือนที่อาม่าบอกหล่อน ‘ไปอยู่ที่ไหนก็ต้องอ่อนน้อมว่านอนสอนง่าย โอนอ่อนผ่อนตามผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ว่าเยี่ยงไร ก็ต้องรับฟัง ไม่เถียงคอเป็นเอ็น ต้องอยู่ให้เป็น ไปไหนๆ ก็ให้ใครเขาเอ็นดู’ “พี่อิ่ม” นิราวดีเรียกสาวร่างอวบเสียงหวานนั่นทำให้อิ่มตาโตมองหล่อนอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง แววหวาดหวั่นในดวงตาน้อยลง รวมทั้งสาวร่างเล็กที่นั่งข้างอิ่มก็หันมองหน้ากันราวกับจะปรึกษาว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี “แล้วพี่ล่ะจ๊ะ ชื่ออะไร” และแค่ถามชื่อ สาวร่างบางก็มีสีหน้าท่าทางเป็นมิตรขึ้นทันที ความหวาดกลัวในสีหน้าค่อยๆ จางหาย คงเลิกคิดว่าหล่อนเป็นผี พอๆ กับที่หล่อนไม่คิดว่าทั้งสองสาวเป็นผีแล้วเช่นกัน “ชื่อน้อยเจ้าค่ะคุณ” นิราวดีพยักหน้า ส่งรอยยิ้มนำทางไปก่อน “จ้ะ พี่อิ่มพี่น้อย ฉันอยากรู้ว่าเรือนของคุณหลวงสำเนียงไพเราะ อยู่ที่ไหนจ๊ะ” สองสาวทำหน้างงกับคำถาม หล่อนจึงต้องเปลี่ยนคำถามใหม่ “ฉันหมายถึงว่า อยู่ตำบลอะไร อำเภออะไร หรือจังหวัดอะไรน่ะจ้ะ ที่นี่คือที่ไหน สถานที่ตั้งน่ะจ้ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม