ฉันเคยได้ยินมาว่าโลกปีศาจมีราชาอยู่และมี 3 ตระกูลที่วนเวียนกันเป็นราชาปีศาจทุก 100 ปี ซึ่งมีตระกูล ดาริอัส ตระกูล ด๊อกไนซ์ ตระกูลเมดูซ่า ถึงจจะเคยได้ยินมาบ้างแต่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเพราะว่ามันไม่เรื่องของฉันสักหน่อยฉันแค่ใช้ชีวิตให้มันผ่านไปวัน ๆ ทั้งนั้นเอง
“ราชาปีศาจนายอะนะ?”
“ใช่ฉันเอง...เคาท์ดาริอัส ดันเต้” เขาแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มสยอง ๆ
“ดะดันเต้เหรอ?” เหมือนเคยได้ยินมาก่อนเลยแหะ
“เพราะงั้นจำชื่อของฉันให้ดีละ...เรน่า เธอต้องแต่งงานกับฉันในวันที่ได้รับตำแหน่งราชาปีศาจต่อ^^” เขายิ้มเป็นราชาปีศาจต่อเหรอ?
“ยะอย่าบอกนะว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการเลือกราชาปีศาจใหม่?” อย่างที่บอกโลกปีศาจจะมีการแข่งแย่งตำแหน่งราชาปีศาจทุก 100 ปี และมันก็เวลานี้เหรอ??
“ฉลาดมากและฉันต้องได้เป็นราชาปีศาจต่อไปด้วย”
“นะนายเป็นราชามากี่ปีแล้วเหรอ?” แล้วยังมีตำนานอีกว่าถ้าปีศาจตระกูลไหนสามารถครองตำแหน่งราชาปีศาจได้ 1000 ปี จะได้เป็นราชาปีศาจตลอดไปไม่มีการแข่งแย่งกันอีก
“300 ปี”
“นายอยากอยู่ต่อให้ได้ 1000 ปีเหรอ?” ฉันเผลอถามออกไป
“หืม? ท่าทางเธอจะรู้อะไรเยอะนะยัยมนุษย์” เชาโน้มหน้าลงมาใกล้ใบหน้าของฉัน
“ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละกลับไปที่ ๆ นายได้แล้ว!ดันเต้”
“หึ วันนี้ฉันก็แค่มาแนะนำตัวเท่านั้นแหละแล้วเจอกันนะ คุณว่าที่เจ้าสาว” วาบ! แล้วเขาก็หายตัวไป
“ฉันไม่มีวันเป็นหรอก!!!แม่งเอ๊ยยย!!!”
ไม่รู้ที่นี่แม่งแล้ว!
เวลาต่อมา...
เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“ไม่ครับ”
“ทำไมถึงจะไม่ได้ฉันต้องการออกจากที่นี่นะ!” ฉันลงมาแจ้งออกจากอพาร์เม้นนี้ทันทีแต่คำตอบที่ได้คือไม่ได้ฉันไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้
“เพราะท่านดันเต้ไม่อนุญาตครับ”
“ดันเต้?”
“ครับ ท่านดันเต้สั่งว่าไม่ให้คุณเรน่าออกจากที่นี่ครับ เพราะงั้นคุณทำตัวที่ท่านดันเต้สั่งดีกว่าดื้อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกและอีกอย่างในเมืองนี้ไม่มีห้องพักว่างอีกแล้ว คุณออกไปก็จะไปนอนข้างถนนซะเปล่า ๆ ครับ” พูดหน้าตายเหมือนเดิม
“อ่อ อันนี้สำคัญครับต่อให้หนีไปจนสุดโลกท่านดันเต้ก็สามารถตามหาคุณเจออยู่ดีเพราะตอนนี้คุณเป็นว่าที่เจ้าสาวของท่านดันเต้แล้ว...” พูดแล้วมองที่คอของฉัน
แปะ! ฉันเอามือปิดก่อนจะเดินหนีออกมาอย่างหงุดหงิด
“เฮ้อ!!ปัดโถ่เอ๊ย!”
หลายวันต่อมา...
มหาวิทยาลัยฟินลาโอล่า
ตั้งแต่วันนั้นดันเต้ก็ไม่มาอีกเลยซึ่งนั้นทำให้ใจสบายใจขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดีเพราะเขาจะโพล่งมาตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น วันนี้เป็นวันที่ฉันเปิดเรียนวันแรกฉันเข้ามาในนามนักศึกษาปริญญาโทบัตรที่ 999 ได้ได้แล้วมั้งเพราะเรียนมาตลอดนิเปลี่ยนอาชีพอยู่เรื่อย
ตึก...ตึก...ตึก...
ฉันเดินไปตามทางมองนั่นมองนี่ที่นี่ปีศาจก็แฝงอยู่เยอะเหมือนกัน ตอนนี้ร่องรอยของดันเต้หายไปแล้วใช้เวลาตั้ง 2-3 วันทำเอาฉันไม่กล้าออกไปไหนเลยละไม่นานฉันก็มาถึงห้องเรียนก่อนจะเข้าไปนั่งเพื่อรออาจารย์มาสอน ความจริงระดับปริญญาโทไม่ต้องมาเข้าเรียนบ่อย ๆ ก็ได้ แต่ฉันว่างไงอาชีพตอนนี้คือนักศึกษา
พรึ่บ!
“สวัสดีเราขอนั่งด้วยได้ไหม?” ระหว่างที่กำลังนั่งเหม่อเพราะไม่มีอะไรทำก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายฉันซึ่งฉันเป็นบุคคลไม่อยากมีเพื่อนไงและยัยคนนี้ก็เป็นมนุษ์ธรรมดาด้วยถ้าสนิทและสานสัมพันธ์ต่อไปฉันอาจจะเสียใจก็ได้
“ตามใจสิฉันไม่ใช่เจ้าของที่นี่สักหน่อย” ทำนิสัยแย่ ๆ ไปเลยแล้วกัน
“ขอบใจจ้ะ” เธอนั่งลงข้างฉันพร้อมรอยยิ้ม
“เธอชื่ออะไรเหรอเราเบบี้นะ”
“....” ฉันเลือกที่จะเงียบรู้ว่ามันไม่ดีแต่ฉันไม่อยากมีเพื่อนให้ภาระ
“เอ่อ เรามาเป็นเพื่อนกันไหมฉันพึ่งเคยมาประเทศนี้ครั้งแรกไม่มีเพื่อนเลยอะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร
“ไปเป็นคนอื่นเถอะเยอะแยะนู้นน่ะ” ฉันพูดและพยักหน้าไปทางกลุ่มนักศึกษาที่จับกลุ่มคุยกันอยู่รอบห้อง
“แต่ว่าเธออยู่คนเดียวนิฉันอยากเป็นเพื่อนเธอจะได้ไม่เหงา^^”
“ฉันไม่ได้บอกว่าเหงาสักหน่อย พูดตรง ๆ นะ อย่ามายุ่งกับฉันเลย” ฉันมองหน้าและพูดออกไป
“ทะทำไมละ?”
“อย่ารู้เลย”
“แต่ว่า...”
“สวัสดีครับนักศึกษา...” ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรต่ออาจารย์ที่สอนพวกเราก็เข้ามา ฉันเลิกสนใจและเรียกหนังสือเบบี้พยายามชวนฉันคุยหลายครั้งแต่ฉันก็เมินไปไม่ได้สนใจ
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ตั้งใจเรียนกันนะครับ” พรึ่บ! เมื่ออาจารย์ปล่อยให้ออกจากห้องฉันก็ลุกและเดินออกมาทันทีเลย
“นี่! เธอรอด้วยสิ” เบบี้ยังลุกตามมาอีก
“เฮ้อ!” ฉันรีบก้าวยาว ๆ เพื่อหนีการตามของเธอ
“นี่!!!” ตึก ๆ ๆ ๆ
ตุบ! เธอวิ่งแทรงฉันก่อนจะไปชนคนที่เลี้ยวมาจากมุมตึกพอดี เขาประคองเธอเอาไว้และผู้ชายคนนั้นก็คือดันเต้ หนีไม่พ้นมันเป็นแบบนี้เองสินะ
“ขะขอบคุณมากนะคะ -////-” เบบี้พูดพร้อมหน้าแดง ๆ
“....” ฉันกับเขามองหน้ากันแต่ฉันเลือกที่จะเดินผ่านเขาไปอย่างไม่รู้จักกัน ก็นะเราไม่รู้จักกันจริง ๆ นี่
“กรี๊ดดดดด!!”
“นั่นท่านดันเต้นิ!!”
“ลูกชายเจ้าของที่นี่อะนะ?”
“ใช่ไงเขาไม่ค่อยออกมาหรอก กรี๊ดดดด!!!หล่อมากกกกก ><” เฮ้ออออ!!ดันเป็นผู้ชายฮอตที่สาว ๆ กรี๊ดกร๊าดซะได้
“คุณคือคุณดันเต้เหรอคะ?” เบบี้ถาม
“อืม” แต่เขาตอบนิ่งมากเลย ฉันว่าฉันเดินต่อดีกว่า
“สวัสดีค่ะฉันเบบี้เป็นคู่หมั้นของคุณดันเต้ค่ะ!!” กึก!! ฉันชะงัดเท้าทันทีแต่นั่นเพราะคิดว่ามีคู่หมั้นอยู่แล้วยังจะมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีกกกกก
“คู่หมั้น?” เสียงเขาเย็นมาก
“ใช่ค่ะ ฉันเบบี้จากตระกลูมอสครอส์เป็นหุ้นส่วนกับเครือบริษัทพ่อคุณค่ะ” โอ้ววว!! คุณหนูของแท้เลยแหะก็เหมาะกันดีนิ แต่ว่ามนุษย์กับปีศาจเนี่ยนะ?
“หึ ฉันว่าเธอเข้าใจอะไรผิดแล้วละ” เขาขำในลำคอและสายตาก็มองมาทางฉัน ทำให้ฉันรีบเดินต่อทันทีเพราะรู้สึกแปลก ๆ อยู่ต่อไม่ได้แล้ว
ตึก ๆ ๆ
หมับบ!!
“จะไปไหนที่รัก?” เขาตามมาและยังเรียกฉันว่าที่รักอีกทำให้คนรอบข้างมองมาที่ฉันบางคนเหมือนจะเข้ามาตบ บางคนเหมือนกำลังฉีกร่างฉันเป็นชิ้น ๆ
“นี่! ปล่อยนะทำอะไรของนายเนี่ย?!” ฉันพยายามสะบัดมือ
“มานี่!เรน่าอย่าดื้อดิ!” เขาดุฉัน
“ก็นายกำลังทำอะไรเล่า?!”
“ฟังนะ!!! นี่คือว่าที่เจ้าสาวของฉันชื่อเรน่า ไม่ใช่เธอ...” เขาพูดกับเบบี้
“วะว่าไงนะคะ?” เบบี้ทำหน้าตาตกใจมาก
“ตามนั้นแหละเพราะงั้นกลับไปบอกพ่อเธอว่าอย่าคิดเอาลูกสาวมาถวายเพราะฉันไม่เอา!” เขาพูดกับเบบี้ก่อนจะลากฉันออกมาจากตรงนั้น เบบี้ช๊อกไปแล้ว
“ฉันไม่ไปกับนายนะปล่อยเลยดันเต้!!”
“ไม่ปล่อยวันนี้อยากไปทานข้าวกับว่าที่เจ้าสาวสักหน่อย”
“ว่าที่เจ้าสาวบ้านนายดิ!!!ฉันไม่ได้อยากเป็น!!นายไปหาคนที่เขาอยากเป็นนู้น!” หมายถึงเบบี้
“เหอะ!!ยัยนั้นอยากเป็นแต่ฉันไม่ได้อยากได้เว้ย!!เลือดก็ไม่ได้ดีทำไมฉันต้องเอาคนร่างการอ่อนแอแบบนั้นมาเป็นเมียด้วย?”
“ร่างกายอ่อนแอ?” ฉันพูดออกมาอย่างสงสัยภายนอกก็ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกตินะ
“ใช่ ยัยนั่นมองแปบเดียวก็รู้แล้วว่าขี้โรคอ่ะฉันไม่เอาหรอกเลือดไม่อร่อย...เอาเธอดีว่าทั้งอร่อยทั้งทึกกินเท่าไหร่ก็ไม่หมด^^”
“ใครจะให้นายกินไม่ทราบ?”
“ไม่สนใจอะฉันมันพวกเอาแต่ใจแล้วก็อาจเอาแต่เธอด้วย”
“ทะลึ่ง!!” ฉันว่าเขาพูดเอา ๆ ๆ อยู่นั่นแหละ สมองคิดแต่อะไรแบบนั้นหรือไง??
“ฉันหมายถึงเอาเลือดต่างหากยัยบื้อ! เธอเนี่ยคิดอะไรอยู่เหรอ หืม???”
“ป๊าวนิ!!ฉันยังไม่ได้คิดอะไรเลยย่ะ!!”
“หึหึ หน้าเธอมันฟ้องมันแล้วยัยทะลึ่ง!!”
“นายสิทะลึ่งอะ!!”