Devil Bride 5 อาหาร

1501 คำ
หมับ!! “เดี๋ยวจะไปไหนใครอนุญาตให้เธอไปไม่ทราบ?” ฉันกำลังเดินหนีแต่กลับโดนเขามาขวางเดินและจับมือเอาไว้ “กลับสิวันนี้ฉันไม่มีเรียนแล้ว” ฉันบอกและพยายามสะบัดมือของเขาออกแต่ว่านั่นมือหรือคีมจับเหล็กทำไมมันแน่นขนาดนี้ อ่อ เพราะว่าเขาเป็นแวมไพร์ไงเลยแข็งแรงกว่าคนปกติทั่วไป “ฉันยังไม่ได้อนุญาตให้เธอกลับ” “ฉันอนุญาตตัวเองได้ นายไม่มีสิทธิมาสั่งฉันย่ะ!!” “อย่าลองดีได้ไหมเรน่าเพราะไม่อย่านั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน!” ปึก! เขากระชากตัวฉันอย่างแรงทำให้หน้ากระแทกที่แผงอกแข็ง ๆ ของเขา “เจ็บนะ!” “ไปกินข้าวเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” เขาพูดพร้อมเลิกคิ้วคิดว่าเท่มากมั้ง ถ้าเป็นคนอื่นนคงกรี๊ดแต่สำหรับฉันอยากถีบมากกว่า =_= “ไม่อ่ะไม่ชอบให้ใครเลี้ยงข้าวมีเงิน” “เก็บเงินเธอไว้เถอะน่า ไป ๆ กินข้าว....อย่าให้ฉันต้องใช้ความรุนแรงนะ” เพราะฉันไม่ยอมขยับเขาเลยข่มขู่ “ก็ได้เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ” ฉันยอมไปเพราะคิดว่าเราควรคุยอะไรกันสักหน่อย “ได้สิ อยากคุยอยากถามอะไรก็เชิญเลย” เขายักไหล่ก่อนจะจับมือฉันและให้เดินตามเขาไป “ไม่จับได้ไหมมือ?” “ไม่ได้เพราะว่าฉันต้องการประกาศว่าเธอเป็นของฉันไอ้ปีศาจหรือมนุษย์เทวดาคนไหนจะได้ไม่มายุ่งกับเธอ” เขาตอบพร้อมอธิบายเหตุผล ตลอดทางเดินผู้คนมองฉันยกใหญ่กับพวกปีศาจก็เพราะว่าฉันเดินกับราชาของเขา มนุษย์ก็กำลังคิดว่าฉันคือว่าที่เจ้าสาวของเขานั่นแหละ พวกเทวดาก็คงคิดเหมือนกัน “เฮ้อ!” ฉันเลยได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้อะไรไปเขาก็ไม่สนใจฉันอยู่ ตึกดันเต้ ตอนนี้เราเดินมาที่ตึกดันเต้นเป็นตึกที่เป็นชื่อของเขาเลยและที่นี่ไม่มีนักศึกษาคนอื่นเลย เดินเข้ามาก็พบปีศาจ 4 ตนนั่งอยู่ ฉันเดินเลยไปไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าคงเป็นเพื่อนของดันเต้นั่นแหละเพราะว่าพวกเขาเป็นปีศาจชั้นสูงทั้งนั้นเลย “นี่เหรอว่าที่เจ้าสาวมึง?” ปีศาจตนหนึ่งถามและหายตัวมาตรงหน้าฉัน “เสือกถอยไปไอ้แจ๊คกี้” อ่อ ตนนี้ชื่อแจ๊คกี้ “เธอ...ไม่หลบตาฉันเลยนะก็เป็นมนุษย์นิแต่ทำไมไม่กลัวพวกเราเลย?” แจ๊คกี้มองหน้าของฉันก่อนจะถามอย่างสงสัย “ไม่มีอะไรต้องกลัว” “หึ” เสียงปีศาจอีกตอนขำในลำคอ “เพราะแบบนี้ไอ้ดันเต้เลยสนใจเธอสินะ” เขาพูดเสียงเรียบนิ่ง “เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมีอะไรน่าสนใจ แต่ว่าฉันไม่สนใจเพื่อนพวกนายเลยอะรบกวนบอกให้หน่อยสิว่าฉันไม่อยากเป็นเจ้าสาวของเขา” ฉันและหันไปมองหน้าของดันเต้ “จะยืมมือคนอื่นหรือแต่ว่านะเรน่า...พวกมันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกอย่าหวังเลย” “กลิ่นเธอ” หมับ! อยู่ ๆ ปีศาจอีกตนก็โพล่งมาอีกและดมกลิ่นของฉัน แต่ว่าดันเต้ดันฉันไปหลบด้านหลังของเขาเอาไว้ก่อน “อย่าใกล้คนของกูไอ้ไซโค่” “หวงจังนะปกติมึงไม่ค่อยยุ่งกับมนุษย์นิบอกว่าไม่ทนมือทนแรงมึงเท่าไหร่” “แปลว่าคนนี้แตกต่างนั่นสิ” เพื่อนของเขามองมาทางฉันไม่หยุด ส่วนอีกคนไม่ได้เข้ามาใกล้นั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนทั้งนั้นไม่หันมามองด้วย ซึ่งมันก็ดีแล้วเพราะแค่สามคนฉันก็แทบจะหายใจไม่ออก “ก็ปกติไม่ใช่เรื่องที่พวกมันต้องสงสัย...ไปกันเถอะ” เขาพูดกับเพื่อนก่อนจะหันมาบอกกับฉัน เขาตั้งใจปกติเรื่องเลือดของฉันสินะ... ปัง! “ไปนั่งเดี๋ยวมีคนเอาอาหารมาให้” เราเข้ามาในห้องหนึ่งมันมีเตียงด้วยซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนของเขาแต่ว่าใครเขากินข้าวในห้องแบบนี้กัน แต่ว่าสไตร์แตกต่างจากข้างนอกเลยแหะ “ไม่มีห้องอาหารหรือไง?” ฉันถาม “มี แต่ไม่ให้ไปนั่ง” พรึ่บ! เขาพูดหน้าตาเฉยก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ภายในห้อง “ทำไม?” “ฉันไม่อยากให้พวกนั้นมายุ่งกับเธอ น่ารำคาญมานั่งสิจะยืนทำไมไม่เมื่อยหรือไง?” เขาถามฉันอย่างกวนประสาท “นายไม่อยากให้เพื่อนรู้เรื่องเลือดของฉันใช่ไหม?” “ก็...ไม่ขนาดนั้นหรอกแต่ไม่รู้จะดีกว่าเพราะฉันไม่อยากให้พวกมันอยากได้เลือดของเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นของฉันก็ตาม” “ฉันไม่ใช่ของนาย...อ๊ะ!!” หมับ!!! เขาใช้พลังดึงตัวฉันไปหาเขาและเขาก็กอดฉันไว้แน่นบ่นตักของเขา “ถ้ายังไม่อยากตายก็อย่าพูดอะไรที่มันแสลงหูฉันเข้าใจไหม?” เขาพูดและใช้หลังมือลูบไล้ตามกรอบหน้าของฉัน “ฆ่าฉันสิ” ถ้าฆ่าได้น่ะนะ “อย่าท้าทาย” “ฉันไม่ได้ท้าทายฉันพูดจริงถ้านายทำให้ฉันตายได้ละก็นะ...” ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันชะงักคำพูดไปก่อนจะลงจากตักและนั่งที่ข้าง ๆ แทน “เข้ามา” เสียงของดันเต้อนุญาต แอดดดดด ประตูเปิดออกพร้อมแวมไพร์ระดับล่างเข็นรถเข็นเข้ามาซึ่งนน่าจะเป็นอาหารนั่นแหละ เขาวางอาหารตรงหน้าของฉันอย่างไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น “วางเสร็จก็ออกไป” “ครับท่านดันเต้” เขาก้มหัวนิดหน่อยก่อนจะเดินออกไปทันทีเหลือเพียงฉันและเข้าสองคนเหมือนเดิม “กินสิ กินเยอะ ๆ ไม่พอก็บอก” เขานั่งไขว้ห้างก่อนจะเท้าคางและมองมาที่ฉัน “จ้องขนาดนั้นใครมันจะไปกินลง” “ฉันไม่มองก็ได้อะ” เขาพูดและหลับตาลง เฮ้อออ!!! ไม่มองหน้าของเขาก่อนจะเริ่มทานอาหารตรงหน้าเพราะว่าเริ่มหิว ถ้าสงสัยว่าทำไมกล้ากินไม่กลัวเหรอ?? จะให้กลัวอะไรอะในเมื่อฉันไม่มีวันตายอยู่แล้วจะยาพิษหรืออะไรก็เอาฉันไม่ลงหรอก แกร๊ด เมื่อกินเสร็จแล้วฉันก็วางช้อนลงดื่มน้ำให้เรียบร้อยแต่ฉันมันพวกกินนอนอิ่มแล้วก็ง่วงทันทีเลย “หาวววว” ฉันเลยเผลอหาวออกไปเสียงดัง “กินแล้วก็นอนท่าทางจะเลี้ยงง่ายดีนะ” “ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย” ฉันหันไปมองหน้าของเขา “นอนก่อนไหมท่าทางจะง่วงนะ?” เขาพูดและยิ้มมุมปากนิดหน่อย “ไม่นอนจะคุยก่อน” “เรื่อง?” “คู่หมั้นว่าที่เจ้าสาวอะไรนั่นฉันไม่อยากเป็น นายไปหาคนอื่นเถอะฉันไม่อยากเอาตัวเองไปผูกกับใครทั้งนั้นและที่สำคัญฉันไม่ชอบหรือว่ารักนาย” ฉันพูดออกไปตรง ๆ ไม่มีอ้อมค้อมอะไรทั้งนั้นฉันเหนื่อยและต้องการความชัดเจน “ฉันก็ไม่ได้รักเธอและอาจจะไม่มีวันรักเลยด้วยซ้ำ...แต่ที่ฉันต้องการเธอเพราะว่าเลือดของเธอมันทำให้ฉันมีพลังกำลังและแผลก็หายกว่าปกติ ที่จริงแวมไพร์แถมยังเป็นราชาปีศาจอย่างก็สามารถหายเองได้อยู่แล้วแต่ว่านะเรน่าเลือดของเธอ...มันดีสุด ๆ จนฉันไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ยังไงละ?” เขาพูดและโน้นตัวเข้ามาหาฉันเรื่อย ๆ “ก็คือจะแต่งงานกับเพื่อให้ฉันเป็นอาหารของนายไปตลอดชีวิตหรือไง?” “จะว่าอย่างนั้นก็ได้” “แต่ไม่เห็นต้องแต่งงานเลยนิ!” “ฉันมันพวกหวงของและของดี ๆ อย่างเธอฉันไม่ต้องการให้ใครแย่งทั้งนั้นแหละถ้าพวกปีศาจรู้เรื่องเลือดของเธอพวกมันคงจะถาถมเข้าใส่แน่เลือกเอาแล้วกันว่าจะเป็นของฉันคนเดียว หรือเป็นของปีศาจทั้งโลกร่างกายของเธอคงได้แหลกเป็นชิ้น ๆ แน่” เขาพูดและลูบไล้ใบหน้าของฉันไปด้วย “เอามือออกไป” แปะ! ฉันตีมือของเขาออกไปอย่างแรง “แต่ว่าเธอไม่มีวันตายนี่เนอะต่อให้ร่างฉีดเป็นชิ้นก็คงกลับมาต่อเป็นเหมือนเดิม” “...!!!” ฉันตกใจเมื่อเขารู้เรื่องของฉันเข้าซะแล้ว “ไม่ต้องตกใจหรอกฉันรู้ว่าเธอไม่มีวันตายตั้งแต่ที่ฉันดูดเลือดเธอแล้วละ....ระดับเลือดที่ฉันกินวันนั้นสำหรับทำให้มนุษย์ตายแต่เธอกลับสลบเฉย ๆ แถมรอยเขี้ยวของฉันก็ยังหายไปอีก ฉันเป็นปีศาจนับหมื่นปีแค่นี้ก็รู้แล้วเธอเป็นอมตะ...เรน่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม