หมับ!!
“เดี๋ยวจะไปไหนใครอนุญาตให้เธอไปไม่ทราบ?” ฉันกำลังเดินหนีแต่กลับโดนเขามาขวางเดินและจับมือเอาไว้
“กลับสิวันนี้ฉันไม่มีเรียนแล้ว” ฉันบอกและพยายามสะบัดมือของเขาออกแต่ว่านั่นมือหรือคีมจับเหล็กทำไมมันแน่นขนาดนี้ อ่อ เพราะว่าเขาเป็นแวมไพร์ไงเลยแข็งแรงกว่าคนปกติทั่วไป
“ฉันยังไม่ได้อนุญาตให้เธอกลับ”
“ฉันอนุญาตตัวเองได้ นายไม่มีสิทธิมาสั่งฉันย่ะ!!”
“อย่าลองดีได้ไหมเรน่าเพราะไม่อย่านั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน!” ปึก! เขากระชากตัวฉันอย่างแรงทำให้หน้ากระแทกที่แผงอกแข็ง ๆ ของเขา
“เจ็บนะ!”
“ไปกินข้าวเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” เขาพูดพร้อมเลิกคิ้วคิดว่าเท่มากมั้ง ถ้าเป็นคนอื่นนคงกรี๊ดแต่สำหรับฉันอยากถีบมากกว่า =_=
“ไม่อ่ะไม่ชอบให้ใครเลี้ยงข้าวมีเงิน”
“เก็บเงินเธอไว้เถอะน่า ไป ๆ กินข้าว....อย่าให้ฉันต้องใช้ความรุนแรงนะ” เพราะฉันไม่ยอมขยับเขาเลยข่มขู่
“ก็ได้เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ” ฉันยอมไปเพราะคิดว่าเราควรคุยอะไรกันสักหน่อย
“ได้สิ อยากคุยอยากถามอะไรก็เชิญเลย” เขายักไหล่ก่อนจะจับมือฉันและให้เดินตามเขาไป
“ไม่จับได้ไหมมือ?”
“ไม่ได้เพราะว่าฉันต้องการประกาศว่าเธอเป็นของฉันไอ้ปีศาจหรือมนุษย์เทวดาคนไหนจะได้ไม่มายุ่งกับเธอ” เขาตอบพร้อมอธิบายเหตุผล ตลอดทางเดินผู้คนมองฉันยกใหญ่กับพวกปีศาจก็เพราะว่าฉันเดินกับราชาของเขา มนุษย์ก็กำลังคิดว่าฉันคือว่าที่เจ้าสาวของเขานั่นแหละ พวกเทวดาก็คงคิดเหมือนกัน
“เฮ้อ!” ฉันเลยได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้อะไรไปเขาก็ไม่สนใจฉันอยู่
ตึกดันเต้
ตอนนี้เราเดินมาที่ตึกดันเต้นเป็นตึกที่เป็นชื่อของเขาเลยและที่นี่ไม่มีนักศึกษาคนอื่นเลย เดินเข้ามาก็พบปีศาจ 4 ตนนั่งอยู่ ฉันเดินเลยไปไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าคงเป็นเพื่อนของดันเต้นั่นแหละเพราะว่าพวกเขาเป็นปีศาจชั้นสูงทั้งนั้นเลย
“นี่เหรอว่าที่เจ้าสาวมึง?” ปีศาจตนหนึ่งถามและหายตัวมาตรงหน้าฉัน
“เสือกถอยไปไอ้แจ๊คกี้” อ่อ ตนนี้ชื่อแจ๊คกี้
“เธอ...ไม่หลบตาฉันเลยนะก็เป็นมนุษย์นิแต่ทำไมไม่กลัวพวกเราเลย?” แจ๊คกี้มองหน้าของฉันก่อนจะถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไรต้องกลัว”
“หึ” เสียงปีศาจอีกตอนขำในลำคอ
“เพราะแบบนี้ไอ้ดันเต้เลยสนใจเธอสินะ” เขาพูดเสียงเรียบนิ่ง
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมีอะไรน่าสนใจ แต่ว่าฉันไม่สนใจเพื่อนพวกนายเลยอะรบกวนบอกให้หน่อยสิว่าฉันไม่อยากเป็นเจ้าสาวของเขา” ฉันและหันไปมองหน้าของดันเต้
“จะยืมมือคนอื่นหรือแต่ว่านะเรน่า...พวกมันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกอย่าหวังเลย”
“กลิ่นเธอ” หมับ! อยู่ ๆ ปีศาจอีกตนก็โพล่งมาอีกและดมกลิ่นของฉัน แต่ว่าดันเต้ดันฉันไปหลบด้านหลังของเขาเอาไว้ก่อน
“อย่าใกล้คนของกูไอ้ไซโค่”
“หวงจังนะปกติมึงไม่ค่อยยุ่งกับมนุษย์นิบอกว่าไม่ทนมือทนแรงมึงเท่าไหร่”
“แปลว่าคนนี้แตกต่างนั่นสิ” เพื่อนของเขามองมาทางฉันไม่หยุด ส่วนอีกคนไม่ได้เข้ามาใกล้นั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนทั้งนั้นไม่หันมามองด้วย ซึ่งมันก็ดีแล้วเพราะแค่สามคนฉันก็แทบจะหายใจไม่ออก
“ก็ปกติไม่ใช่เรื่องที่พวกมันต้องสงสัย...ไปกันเถอะ” เขาพูดกับเพื่อนก่อนจะหันมาบอกกับฉัน
เขาตั้งใจปกติเรื่องเลือดของฉันสินะ...
ปัง!
“ไปนั่งเดี๋ยวมีคนเอาอาหารมาให้” เราเข้ามาในห้องหนึ่งมันมีเตียงด้วยซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนของเขาแต่ว่าใครเขากินข้าวในห้องแบบนี้กัน แต่ว่าสไตร์แตกต่างจากข้างนอกเลยแหะ
“ไม่มีห้องอาหารหรือไง?” ฉันถาม
“มี แต่ไม่ให้ไปนั่ง” พรึ่บ! เขาพูดหน้าตาเฉยก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ภายในห้อง
“ทำไม?”
“ฉันไม่อยากให้พวกนั้นมายุ่งกับเธอ น่ารำคาญมานั่งสิจะยืนทำไมไม่เมื่อยหรือไง?” เขาถามฉันอย่างกวนประสาท
“นายไม่อยากให้เพื่อนรู้เรื่องเลือดของฉันใช่ไหม?”
“ก็...ไม่ขนาดนั้นหรอกแต่ไม่รู้จะดีกว่าเพราะฉันไม่อยากให้พวกมันอยากได้เลือดของเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นของฉันก็ตาม”
“ฉันไม่ใช่ของนาย...อ๊ะ!!” หมับ!!! เขาใช้พลังดึงตัวฉันไปหาเขาและเขาก็กอดฉันไว้แน่นบ่นตักของเขา
“ถ้ายังไม่อยากตายก็อย่าพูดอะไรที่มันแสลงหูฉันเข้าใจไหม?” เขาพูดและใช้หลังมือลูบไล้ตามกรอบหน้าของฉัน
“ฆ่าฉันสิ” ถ้าฆ่าได้น่ะนะ
“อย่าท้าทาย”
“ฉันไม่ได้ท้าทายฉันพูดจริงถ้านายทำให้ฉันตายได้ละก็นะ...”
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันชะงักคำพูดไปก่อนจะลงจากตักและนั่งที่ข้าง ๆ แทน
“เข้ามา” เสียงของดันเต้อนุญาต
แอดดดดด
ประตูเปิดออกพร้อมแวมไพร์ระดับล่างเข็นรถเข็นเข้ามาซึ่งนน่าจะเป็นอาหารนั่นแหละ เขาวางอาหารตรงหน้าของฉันอย่างไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น
“วางเสร็จก็ออกไป”
“ครับท่านดันเต้” เขาก้มหัวนิดหน่อยก่อนจะเดินออกไปทันทีเหลือเพียงฉันและเข้าสองคนเหมือนเดิม
“กินสิ กินเยอะ ๆ ไม่พอก็บอก” เขานั่งไขว้ห้างก่อนจะเท้าคางและมองมาที่ฉัน
“จ้องขนาดนั้นใครมันจะไปกินลง”
“ฉันไม่มองก็ได้อะ” เขาพูดและหลับตาลง
เฮ้อออ!!! ไม่มองหน้าของเขาก่อนจะเริ่มทานอาหารตรงหน้าเพราะว่าเริ่มหิว ถ้าสงสัยว่าทำไมกล้ากินไม่กลัวเหรอ?? จะให้กลัวอะไรอะในเมื่อฉันไม่มีวันตายอยู่แล้วจะยาพิษหรืออะไรก็เอาฉันไม่ลงหรอก
แกร๊ด
เมื่อกินเสร็จแล้วฉันก็วางช้อนลงดื่มน้ำให้เรียบร้อยแต่ฉันมันพวกกินนอนอิ่มแล้วก็ง่วงทันทีเลย
“หาวววว” ฉันเลยเผลอหาวออกไปเสียงดัง
“กินแล้วก็นอนท่าทางจะเลี้ยงง่ายดีนะ”
“ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย” ฉันหันไปมองหน้าของเขา
“นอนก่อนไหมท่าทางจะง่วงนะ?” เขาพูดและยิ้มมุมปากนิดหน่อย
“ไม่นอนจะคุยก่อน”
“เรื่อง?”
“คู่หมั้นว่าที่เจ้าสาวอะไรนั่นฉันไม่อยากเป็น นายไปหาคนอื่นเถอะฉันไม่อยากเอาตัวเองไปผูกกับใครทั้งนั้นและที่สำคัญฉันไม่ชอบหรือว่ารักนาย” ฉันพูดออกไปตรง ๆ ไม่มีอ้อมค้อมอะไรทั้งนั้นฉันเหนื่อยและต้องการความชัดเจน
“ฉันก็ไม่ได้รักเธอและอาจจะไม่มีวันรักเลยด้วยซ้ำ...แต่ที่ฉันต้องการเธอเพราะว่าเลือดของเธอมันทำให้ฉันมีพลังกำลังและแผลก็หายกว่าปกติ ที่จริงแวมไพร์แถมยังเป็นราชาปีศาจอย่างก็สามารถหายเองได้อยู่แล้วแต่ว่านะเรน่าเลือดของเธอ...มันดีสุด ๆ จนฉันไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ยังไงละ?” เขาพูดและโน้นตัวเข้ามาหาฉันเรื่อย ๆ
“ก็คือจะแต่งงานกับเพื่อให้ฉันเป็นอาหารของนายไปตลอดชีวิตหรือไง?”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
“แต่ไม่เห็นต้องแต่งงานเลยนิ!”
“ฉันมันพวกหวงของและของดี ๆ อย่างเธอฉันไม่ต้องการให้ใครแย่งทั้งนั้นแหละถ้าพวกปีศาจรู้เรื่องเลือดของเธอพวกมันคงจะถาถมเข้าใส่แน่เลือกเอาแล้วกันว่าจะเป็นของฉันคนเดียว หรือเป็นของปีศาจทั้งโลกร่างกายของเธอคงได้แหลกเป็นชิ้น ๆ แน่” เขาพูดและลูบไล้ใบหน้าของฉันไปด้วย
“เอามือออกไป” แปะ! ฉันตีมือของเขาออกไปอย่างแรง
“แต่ว่าเธอไม่มีวันตายนี่เนอะต่อให้ร่างฉีดเป็นชิ้นก็คงกลับมาต่อเป็นเหมือนเดิม”
“...!!!” ฉันตกใจเมื่อเขารู้เรื่องของฉันเข้าซะแล้ว
“ไม่ต้องตกใจหรอกฉันรู้ว่าเธอไม่มีวันตายตั้งแต่ที่ฉันดูดเลือดเธอแล้วละ....ระดับเลือดที่ฉันกินวันนั้นสำหรับทำให้มนุษย์ตายแต่เธอกลับสลบเฉย ๆ แถมรอยเขี้ยวของฉันก็ยังหายไปอีก ฉันเป็นปีศาจนับหมื่นปีแค่นี้ก็รู้แล้วเธอเป็นอมตะ...เรน่า”