~ปังๆๆๆ
เสียงดังกึกก้องมาจากห้องโถง จอร์จกำลังดวนปืนกับกระป๋องอาหารสำเร็จรูปอยู่ จนทุกคนตกใจวิ่งกูกันมาที่ห้องโถง
“นั้นนายกำลังทำอะไรหนะ”
ทริคขี่เอ๋ยถามด้วยความตกใจ แล้วเดินไปจ้องหน้าผู้มาอยู่ใหม่
“ซ้อมยิงสัปหราด เธอจะเอาด้วยไหม”
ทริคชี่ทำหน้างง แปปนึง ก่อนจะยิ้มแฉ่งตอบจอร์จไป
“เอา!”
และเดินไปหยิบปืนในมือจอร์จมาหมุนดู
“เห้! อย่างจ่อมาทางฉันสิ”
จอร์จรู้สึกกังวลนิดหน่อย ค่อยๆดันปืนในมือทริคชี่ ออกไปมุมหน้าต่างในองศาที่ปลอดภัย
“กระสุนไม่ได้มีไว้ให้ยิงเล่นนะ”
เควินโวยวาย เดินคิ้วขมวด มาดึงปืนจากมือทริคชี่ออก
“เดี่ยวฉันจะพานายไปดูอะไร”
จอร์จพาเควินเดินเข้าไปในห้องเก็บของ แล้วหมุนรูปภาพที่อยู่ข้างกำแพง 2 รอบ
~ครื้นนนนนน
กำแพงอีกฟากค่อยๆเลื่อนออก ให้เห็นห้องลับสุดยอด ที่เต็มไปด้วยกระสุนปืน มืดและทะนุหลากหลายแบบ ปรากฏตรงหน้าพวกเค้า
“พวกคุณควรฝึกซ้อมก่อนออกไปเจอพวกมัน”
จอร์จเสนอ
“คุณรู้ได้ยังไง”
ลาราจสงสัยในตัวจอร์จ
“ต้องรู้อยู่แล้วสิ คงไม่มีใครใช้ปืนเป็นหมดหรอกใช่ไหม”
“ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมหมายถึง คุณเปิดห้องนี้ได้ยังไง”
ลาราจ รอฟังคำตอบ อย่างตั้งใจและจ้องหน้าจอร์จอย่างไม่กระพริบตา
“ แหม เราเจอห้องนี้มันก็ดีแล้วหนิ”
เควินยังพูดไม่จบ ก็มีมือหนาของสเกิร์ตมาปิดปากไว้
“ โอกาสที่คนจะหมุนภาพในห้องเก็บของถึง 2 รอบ มันเกิดขึ้นได้ 0.001% เสกิร์ตสงสัยจอร์จอีกคน
“ แหม๊.. ฉันจะบอกความจริงก็ได้นะ คือฉันเคยอาศัยอยู่อยู่ที่นี่มาก่อน”
ทุกคนต่างตกใจแย่งกันรัวคำถามใส่เค้าจนฟังไม่รู้เรื่อง
“ เออ.. ขอตัวก่อนนะ”
จอร์จวิ่งหนี ออกมาในห้องโถงที่เค้าอาศัยนอนอยู่ที่นั้น วันนี้ทั้งวันทุกคนก็สลับกันซ้อมยิงปืนเสียงดังจนสัตว์ประหลาดมากันหลายตัวทุกคนจึงหยุดซ้อมกันไป วันทุกวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อวันแล้ววันเล่า จน 2 เดือนกว่าๆ ที่ทุกคนอยู่ที่นี้ จนน้ำและอาหารหมด เควิน กับลอเรน และคุณลุงเจ็ทแล็กค์ เลือกจะอยู่ที่นี้ เพราะกลัวจะลำบากกว่าเดิมที่จะไปหาที่อยู่ใหม่ ทั้ง 6 คน เตรียมอาวุธและแผนที่ ขึ้นรถด้วยความเงียบที่ผ่านมาทุกคนต่างได้เรียนรู้ ว่าถ้าเสียงดังสัตว์ประหลาดจะมาตามหาเสียงนั้น เจสซิก้า สั่นกลัว จนเลือกที่จะกลับไปอยู่ในบ้านเหมือนเดิม ณ. ตอนนี้จึงเหลือ 5 คน บนรถกระบะคันยักษ์
“ ผมจะหารถและอาหารไปให้พวกเค้า ทุกคนเห็นด้วยรึเปล่าครับ”
ทุกคนต่างเห็นด้วย พยักหัวตอบรับลาราจ ส่วนจอร์จก็มองมาที่ลาลาจด้วยสายตาภาคภูมิใจราวกับพ่อมองลูก จนลาราจ รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย รถแล่นออกไปพิกัดอู่ซ่อมรถ ขนาดใหญ่ที่มีรถที่ใช้ได้ ให้พวกเค้า เลือกไม่มากนัก
“ คันนี้ผมว่าไม่เลวนะ”
รถกระบะสีขาวถูกจอร์จขับออกมาและขับเลยไปห้างเพื่อขนอาหารใส่จนเต็มรถทั้ง 2 คัน อาหารและรถถูกนำ มาส่ง ให้ทาง 4 คน ที่ไม่ตามมา ทั้ง 4 คนดีใจมากๆ ที่พวกเค้า ไม่ลืมคนที่อยู่ที่นี่ ทั้ง 5 คน เดินทางมาจนถึงทางแยกที่ไม่เคยมาถึง ลาราจ ก้มมองแผนที่ทางซ้ายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าในแผนที่ ส่วนอีกทางเป็นเมืองใหญ่ของที่นี่
“ ผมว่าเราไปทางซ้ายดีมั้ยครับ”
ลาราจ หันไปถามทุกคน แต่ทุกคนก็แสดงท่าทีนิ่งเงียบ พยักหัว ให้เค้า เรากับว่า ทุกคนเห็นเค้าเป็นผู้นำไปแล้ว ตลอดทางช่างเงียบสงบจนน่ากลัว จนเค้าเดินทางมาถึงจุดว่างเปล่า ในแผนที่แต่กลับมีรั้วปูนกั้นสูงลิปตา มองไม่เห็นด้านนอก
~ปึงๆๆๆๆ
ใช่ชุดกลาว สีขาว เปื้อนเลือด ยืนเคาะรถพวกเค้าด้วยท่าทางร้อนรน
“ ช่วยด้วยคุณลาราจ เปิดประตูให้ผมที”
“ เปิดประตูให้เค้าเถอะ”
จอร์จทำท่าทีเหมือนรู้จักใช้แปลกหน้า และเป็นห่วงเค้า ลาราจ ปลดล็อคประตูให้เค้าเปิดเข้ามา เพราะเชื่อใจจอร์จ จอร์จดูเหมือนรู้อะไรอีกมากมาย แต่ไม่ยอมบอก และลาราจ ก็สงสัยมันมาตลอด
“ ขอบคุณ ขอบคุณผมดีใจนะที่คุณยังไม่ตาย”
ชายแปลกหน้าทำท่าทีดีอกดีใจ และเอื้อมมือมาตบไหล่ลาราจ
“ คุณรู้จักผมหรอ คุณก็ด้วย จอร์จพวกคุณรู้จักผม”
ลาราจ ตกใจปนดีใจเล็กๆที่เค้าจะได้รู้ว่าเค้าเป็นใคร แต่สองคนไม่สนใจเค้ากลับจ้องหน้ากันท่าทางดูเครียดอย่างมาก
“ คุณไม่ต้องปิดบังตัวเองแล้ว ตอนนี้อาคารทดลองและห้องถ่ายทอดสดถูกสัตว์ทดลองตัวใหม่ ทำลายไปหมดแล้ว รวมถึงผู้คนในนั้นด้วย เห็นจะมีแค่ผมที่รอดมาคนเดียว”
ทุกคนตกใจสตั๊นกันไปแป๊บนึง ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องราวทั้งหมดก็ตาม
“ เป็นไปไม่ได้พวกมันต้วมเตี้ยม ช้าอย่างกับเต่าคร้าน”
จอร์จพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“ แต่ไม่ใช่กับเจ้าตัวนี้ ใครจะไปรู้ว่ามันจะยังมีแรงมากมายในตอนกลางคืน”
“ เดี๋ยวก่อนนะพวกคุณ สร้างมันขึ้นมาหรอ”
ลาราจ ถามด้วยท่าทางประหลาดใจสุดๆ
“ ฉันเปล่าสร้างนะ พวกเค้า สร้าง ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณหนู”
“ บอดี้การ์ด! ห้ะ ห้าา.. ถึงว่าทำไมคุณมองผมแปลกแปลก และก็คุณ ผมจำคุณได้ คุณบอกว่าผมกำลังจะลืมทุกสิ่ง ที่แท้มันก็เป็นเรื่องจริง”
ลาราจ ไม่รู้ว่า จะตกใจอะไรก่อนดี แต่ถึงรู้แล้วยังไงความทรงจำเค้าก็ไม่กลับมาอยู่ดี
“ คุณยังเหลือความจำอยู่จริงๆด้วย ซึ่งผมตั้งใจจะให้เป็นอย่างนั้น”
และทุกคนก็ถามถึงเรื่องของตัวเอง พวกเขาได้ทำการขายร่างกายตัวเองเพื่อเงินมหาศาลให้กับครอบครัว มีแต่ลาราจ เท่านั้นที่ประชดพ่อลงมาอยู่ในเมืองที่มีแต่สัตว์ประหลาดนี้ เค้าเป็นลูกผู้ก่อตั้งองค์กรนี้ ที่พรากชีวิตผู้คนไปมากมายการใช้ชีวิตของพวกเค้า ในเมืองวิปริตนี้ ถูกถ่ายทอดสดให้กับลูกค้ามากมายในโลกที่หาความสุข จากการดูอะไรแปลกแปลก ต่อสื่อทุกทางได้ถูกสัตว์ประหลาดที่กำเนิดขึ้นมาใหม่ทำลายจนพังไปหมดแล้ว คุณอัลเบิร์ตคือนักวิทยาศาสตร์ 1ใน 8 คน ที่ทดลองสัตว์ประหลาดเพื่อแสดงรายการสด และเพื่อทดลองสัตว์ให้ฉลาดและให้เป็นทาสแรงงานแก่มนุษย์ได้ในอนาคต คุณจอร์จคือบอดี้การ์ดของลาราจ ตั้งแต่ เค้าอายุได้ 10 ขวบ ทุกคนที่ได้รู้ความจริงก็ไม่ได้ดีใจอะไร แถมยังหดหู่มากขึ้นอีกด้วย
“อ๊ะ! นาตาชา ผมมีเรื่องอยากจะบอกคุณตั้งนานแล้ว คุณหนูของผมทำตัวเหมือนก้อนหินมาตั้งแต่เด็กเด็กแล้ว ไม่เคยยอมคบกับผู้หญิงคนไหนเลยพอผมได้มาเจอเค้าที่นี่ ผมนี้ประหลาดใจมากๆเลย ที่สุดเค้าก็มีแฟนสักที”
จอร์จพูดเรื่องที่อัดอั้นใจอยู่นานให้นาตาชาฟัง
“ คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจเลย”
ลาราจ เขินอาย แต่ทำขรึม มองไปนอกรถ
“ จริงหรอค่ะ”
นาตาชายิ้มดีใจเพราะเธอ รักลาราจ เอามากๆแม้จะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานนัก
“ คุณทำงานอยู่ที่นี้ งั้นช่วยพวกเราออกไปจากที่นี้ สิครับ”
สเกิร์ตหันหน้าไปคุยกับอัลเบิร์ต
“ คนพวกนั้น พอรู้ว่าสัตว์ประหลาดหลุด ก็ปิดประตูทางออกขังพวกฉันไว้ที่นี้”
อันเบิร์ตพูดด้วยความคับแค้นใจ ที่ถูกทิ้งอย่างไม่ใยดี
“ แล้วทางอื่นล่ะ มันไม่น่าจะมีทางเดียวนะ”
สเกิร์ตพูดอย่างมีความหวัง
“ ทางออกมีทางเดียว รอบเมืองนี้ถูกกั้นไว้ด้วยคอนกรีตหนาและโดมที่ทำจากเหล็กที่ปล่อยไฟฟ้าแรงสูงอยู่ ถ้าพวกคุณมองขึ้นไป กันดีดีก็จะเห็นเอง”
จอร์จที่เรียนรู้มาอย่างละเอียดก่อนจะลงมาช่วยปกป้องลาราจ อย่างลับลับ
“ เราจะเปิดประตูได้ไงครับ”
ลาราจถามขึ้น
“ เรื่องนั้นฉันก็ยังไม่รู้เลย ถ้าระเบิดทางออกสัตว์ประหลาดก็อาจจะหลุดออกไปด้วย ซึ่งนั่นก็เสี่ยงอย่างมาก ที่ผู้คนภายนอกจะได้รับอันตราย”
อัลเบิร์ตอธิบายอย่างใจเย็น
“ เราถ้าเราโทรไปขอความช่วยเหลือจากคุณนิโคลัสล่ะ ท่านต้องช่วยลูกชายท่านแน่แน่”
จอร์จ พูดอย่างมีความหวัง
“ นายควรรู้ไว้นะ ว่าคุณนิโคลัส คือพ่อของนาย”
อัลเบิร์ตเสริม
“ ผมเคยฝันถึงเค้าแล้ว”
ลาราจ พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพราะผิดหวังในตัวพ่อของตนเอง
“ พ่อคุณหนู รักคุณหนูมากนะครับ”
จอร์จพูดเพื่อไม่อยากให้ลาราจ เกลียดพ่อของตนเอง มือบอดี้การ์ด ที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี ลูบไปบนหัวไหล่ ของเค้า
“ ทำไมผมรู้สึกคุ้น กับการปลอบใจของคุณมากเลยนะ คงไม่ได้ทำบ่อยใช่มั้ยครับ”
ความรู้สึกคุ้นเคย และอบอุ่นก่อเกิดขึ้นในหัวใจของเค้า
“หะ..ห๊าา.. ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
จอร์จพูดแกลมขำ
“ โทรศัพท์ผมอยู่ในห้องวิจัย ตอนนี้ผมไม่รู้ว่ามีสัตว์ประหลาดอยู่ตรงไหนบ้าง”
สเกิร์ตเข้าเรื่องการหาทางออกต่อ
“ ทุกคนพร้อมนะครับ”
ทุกคนยิ้มรับลาราจ เป็นคำตอบ
“ เราทุกคนต้องเกาะกลุ่มกันไว้ ตามคุณอัลเบิร์ตไปที่ห้องทดลอง”
“ ตามผมหรอ ผมยิงปืนไม่เป็นด้วยซ้ำ”
อัลเบิร์ตวิตกกังวลเค้าอาจจะวิจัยเก่ง แต่เรื่องสู้รบเค้าขอยอมแพ้
“ งั้นคุณคอยบอกทางผม นาตาชาคุณอยู่ใกล้ใกล้ผมนะ”
ลาราจ คุยจริงจังกับอัลเบิร์ตก่อนจะหันหน้าเว้าวอนไปทางนาตาชา
ทุกคนเตรียมอาวุธ สีและตาข่ายไว้จับสัตว์ประหลาดล่องหน และค่อยค่อยเดินไปอย่างเงียบเชียบ