“ หยุด! ด้านในมีเสียงพวกมัน ตั้งสติ พอใกล้ เสียงนั้นก็จัดการมันเลย”
ลาราจ พูดเพื่อย้ำทุกคนอีกที นาตาชาที่เดินตามลาราจ มาติดติดกลัวสั่นเทาจนลาราจ เป็นห่วงมากๆ
“ ดูผม ถ้าเสียงนั้นมาใกล้คุณ ก็ให้คุณจัดการแบบนั้น ไม่ต้องกลัวนะ”
นาตาชาที่มีสีหน้าดูดีขึ้น ยิ้มอ่อนให้กับลาราจ
~ตรืดดดดดดดดดดดดด
สัตว์ประหลาดโดนลาราจ สาดสีใส่ และเจอตาข่ายของจอร์จคุมไว้ อัลเบิร์ตอึ้งกับวิธีการจัดการสัตว์ประหลาดของพวกเขาที่ดูฉลาดมาก
~ปังปังปังปัง
สัตว์ประหลาดถูกยิงจนลงไปนอนกองกับพื้น แล้วชักกระตุกก่อนจะแน่นิ่งไป
“ ทางซ้ายครับ”
ทุกคนเดินไปตามทางที่อัลเบิร์ตบอก ตอนนี้สภาพในตึก มีแต่ศพข้าวของพังกระจัดกระจาย
~ตรืดดดดดดดดดดดดดด
สัตว์ประหลาดโผล่ มาอีกตัว แต่เจ้าตัวนี้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดของมนุษย์แทบจะมองเห็นมันเป็นรูปเป็นร่างอย่างเห็นได้ชัด
~ ปังปังปังปัง ~ ปังปัง
เจ้าตัวนี้ไม่ยอมล้มง่ายง่าย เหมือนตัวอื่นๆ มันดูแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นที่พบเจอมาก่อน แต่ก็จัดการได้ไม่ยาก
“ ทางซ้ายครับ”
โถงทางเดินที่เต็มไปด้วยข้าวของและศพ กระจัดกระจายทำให้เดินไปอย่างยากลำบากมากขึ้น
“ ห้องนี้แหละ”
อัลเบิร์ต ยิ้มดีใจรีบวิ่งไปหาโทรศัพท์ของตัวเอง ตาข่ายถูกกาง ออกมัดกันประตูทางเข้าออกไว้ เพื่อดักสัตว์ประหลาดเอาไว้ เพราะประตูกระจกเดิมได้แตกเป็นเสี่ยงเสี่ยงไปแล้ว
“ เจอแล้วครับ”
เบอร์คุณนิโคลัสที่มีอยู่ในเครื่องของอัลเบิร์ตอยู่แล้ว อันเบิร์ตโทรออกแล้วยื่นให้ลาราจ
~ ตรู้ดๆๆๆๆ
“ ฮัลโหล.. อัลเบิร์ตดีใจจริงๆที่คุณยังมีชีวิตอยู่”
นิโคลัส รับสายและคุยด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจ
“ พ่อครับ.. นี่ผมเอง”
น้ำเสียงลาราจ ที่ดูดีใจและอึดอัดใจในเวลาเดียวกัน
“ลาราจ.. แกเป็นไงบ้าง แกทำไมถึงเข้าไปในนั้น ห๊าา อึก..”
ผู้เป็นพ่อดีใจสุดสุด และร้องไห้แต่ทนเก็บเสียงเอาไว้ ทั้งโมโหลูกชายและเป็นห่วง
“ พ่อช่วยเปิดประตูให้พวกเราได้ไหมครับ”
ปลายสายเงียบไปพักนึง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาเบา ปนหวาด ระแวง
“ ฉันไม่รู้จะทำได้ไหม แต่แกรอพ่ออยู่ที่หน้าประตูนะ พอคิดถึงแก..”
การคุยกับพ่อครั้งนี้ทำให้ลาราจ มองพ่อเปลี่ยนไปคนละแบบตลอดกาล พวกเขาค่อยค่อยเดินทางไปที่ประตูใต้ดิน ที่เป็นทางออกเพียงทางเดียว
กับดักสัตว์ประหลาดได้ถูกทำไว้ที่หน้าประตู ที่ถูกสัตว์ประหลาดดึงออกไปหมดแล้วเพื่อกัน พวกมันเข้ามาในห้องใต้ดินด้านล่างนี้ ผ่านไปราว 3 ชั่วโมงจนมืดพวกเขาหิวโหยอย่างหนัก ลาราจ กลับสเกิร์ตอาสามาเอาอาหารที่รถแต่พอถึงด้านหน้าตึกก็ต้องประหลาดใจที่เห็นสัตว์ประหลาดกำลังเดินเข้าไปในป่าสเกิร์ตขยี้ตาไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไอ้ตัวนั้นมันน่าเกลียดมือใหญ่ เท้าใหญ่กรงเล็บยาวหัวใหญ่โต ผิวหนังแห้งกร้าน มีหางยาวใหญ่
“ นายเห็นไหม ฉันต้องหิวจนตาลายแล้วแน่เลย”
สเกิร์ตไม่มั่นใจในสายตาตัวเองว่า สัตว์ประหลาดที่ล่องหนอยู่ดีดีจะมาปรากฏกายให้เห็นได้ยังไง
“ นายตาไม่ฝาดหรอก มันดูอ่อนแรงนะ เดินเหมือนไม่มีแรง”
ทั้งสอง รีบหอบอาหารใส่เป้ แล้วเดินกลับไปชั้นใต้ดิน ด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่เจอ และกลับไปเล่าให้ทุกคนฟัง
“ อ๋อ.. ผมลืมบอกนะครับ พวกมันจะหมดแรงและก็ปรากฏกายในตอนกลางคืน แต่ตัวล่าสุดเนี่ยมันล่องหนตลอดเวลา แถมเรี่ยวแรงก็ไม่หายไปด้วย พอดีเพื่อนผมที่ตายอยู่ในอ้อมแขนของผม บอกมาอีกทีครับ”
อัลเบิร์ตผู้จบก็หันไปอีกทางแอบร้องไห้เสียใจคิดถึงเพื่อนที่ตายไป
“ โถ่.. แล้วทำไมไม่บอกกันแต่แรกครับ”
สเกิร์ตบ่นพึมพำ
ทุกคนไขข้อคล่องใจจบ ก็รับประทานอาหารกันด้วยความหิวโหย
“ แล้วอีกอย่างนะครับ.. ห้องทางด้านบนขวามือเป็นห้องครัวครับมีห้องเก็บอาหารด้วย”
อัลเบิร์ตปาดน้ำตาหันกลับมาบอกพวกเขาอีกเรื่องนึง
ทุกคนต่างอึ้ง พูดอะไรไม่ออก มองหน้ากันพร้อมถอนหายใจ โดยเฉพาะสเกิร์ตที่ถอนหายใจแรงกว่าคนอื่นๆ
~ เฮ้อ..
ทุกคนผลัดกันเฝ้ายามที่ประตูไว้ จนเช้าอีกวันก็ยังไร้ วี่แววว่าจะมีใครมาเปิดประตูให้พวกเขา
“ คุณนิโคลัสจะเปิดประตูให้เราจริงๆใช่ไหมครับเนี่ย”
อัลเบิร์ตเพิ่งตื่นก็ถามคำถามที่ค้างใจมาแล้วทั้งคืน
“ ไม่มีใครรู้ได้หรอกครับ คุณนักวิทยาศาสตร์”
จอร์จที่นั่งเฝ้ายามอยู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงีย แล้วลุกเดินไปหยิบกระเป๋ามาหนุนหัวนอนไปดื้อดื้อ ทำให้อัลเบิร์ตที่ตื่นอยู่คนเดียวต้องย้ายก้น ไปนั่งเฝ้าหน้าประตู โดยที่เจ้าตัวยิงปืนก็ยังไม่เป็นและขี้กลัวจนขึ้นสมอง
นาตาชา ที่เพิ่งตื่นขึ้นมาก็ลุกไปห้องครัวด้านบนเพื่อจัดเตรียมอาหารให้ทุกคนทาน เวลาล่วงเลยมาจนค่ำอีกวัน ไร้วี่แววคุณนิโคลัสจนทุกคนแทบจะหมดหวัง แต่ถ้าว่าเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น
~ คึกก ~ คลื่นนนน
ประตูกลเหล็กหนา 30 เซนติเมตรค่อยค่อยเปิดออก ชายแต่งชุดสูท หน้าตาคมเข้มยืนถือปืนดูท่าทางล้นลาน รีบกวัก มือเรียกพวกเรา ให้เลขเข้ามาแล้ว รีบปิดประตูกล ทันที
“ พี่อาซา..”
จอร์จเอ่ยทักทาย ผู้มาช่วยพวกเราแต่เขากลับทำหน้าดุดีดนิ้วชีมาชนที่ปาก
~ชู่..
แล้วพูดกระซิบเบาเบา
“ คนที่นี่จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวต้อนรับพวกคุณ”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ค่อยค่อยย่องตามอาซาไปอย่างเงียบเงียบ
~บึ๊กกก
อัลเบิร์ตเตะเข้ากับร่างผู้ชายที่นอนสลบอยู่ที่พื้น
“ พวกเขาแค่สลบเท่านั้น คุณต้องระวังหน่อย”
อาซาหันมาดุ อัลเบิร์ต แล้วนำทางเข้ามาในโถงที่มีแต่สายไฟ อยู่เต็มทางเดิน หนทางคดเคี้ยวและทอดยาวอับชื้นและเหม็นสาบ จนในที่สุดก็เห็นประตูที่มีแสงรอดผ่านเข้ามา
“ ด้านหน้าประตู มีคนเฝ้ายามอยู่ พวกคุณรออยู่ด้านล่างนี้”
อาซา พูดจบก็ไม่รอช้ารีบเดินไปเปิดประตูด้วยความเร็วแล้วเดินกลับมาเรียกพวกเราตามไปภายในเวลา 2 นาที
“ เร็วเข้า.. เดินชิดกำแพงเข้าไว้ กล้องตรงนี้ทำงานอยู่”
อาซา รู้มุมกล้องทุกจุด เค้าพาทุกคนเดินมาตามถนน จนเปิดประตูรถตู้สีดำที่จอดอยู่หน้าร้านไอศครีมให้พวกเราขึ้นไป รถออกเดินทาง เข้าไปในเมืองที่มีผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา ทุกคนดีใจมากจนยิ้มไม่หุบ รถตู้คันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้านที่ใหญ่โตอลังการ
“ ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยพวกผมออกมา”
ลาราจ พูดขึ้นมาด้วยแววตาซาบซึ้ง
“ ใช่ครับ ขอบพระคุณจริงๆวันหลังมีอะไรให้ผมช่วยบอกได้เลยนะครับ”
สเกิร์ต
“ ขอบคุณนะคะ คุณอาซา”
นาตาชา
“ นี่บ้านใครล่ะครับ คุณจะให้พวกเราอยู่ที่นี่หรอ”
ลาราจ สงสัย
“ บ้านคุณหนูครับ”
อาซาตอบรับด้วยท่าทางนอบน้อม ลาราจ ประหลาดใจนิดหน่อย ก่อนจะเปิดประตูรถเดินลงไป คนใช้หญิงชายเกือบ 10 คนรีบวิ่งออกมาต้อนรับ
“ ต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณหนู”
เสียงเหล่าคนใช้ พูดประสานเสียงกัน ลาราจ รู้สึกคุ้นชินกับทุกสิ่งที่เห็นตรงหน้า ลาราจ เดินย่างก้าวเข้าบ้านแต่เพื่อนเพื่อนของเค้ากับ ยืนแข็งทือ อยู่หน้าบ้าน..
“ ทำไมทุกคนไม่เข้ามาละครับ”
ลาราจ วิ่งกลับไปถามทุกคน
“ คือฉันเกรงใจ นายจะให้ฉันอยู่ที่นี้หรอ”
สเกิร์ตก้มหน้า ยืนบิดไปมา
“ ผมอยากเจอครอบครัวของผม”
ทริคชี่
“ ฉันจะกลับบ้านไปหาเมีย!”
อัลเบิร์ตพูดด้วยท่าทางกระตือรือร้น
“ คุณล่ะ อยู่กับผมที่นี้นะ”
นาตาชา เงยหน้ามามองลาราจ แล้วสวมกอดเขาเบาเบา
“ ฉัน.. ”
~บรื้นนนนนนนน
รถคันยาวสีดำจอดเทียบหน้าบ้าน
“ รูปพ่อ! หึ.. อ๋อเธอนี้เอง”
คุณนิโคลัส พอรู้ว่าแอบพาลาราจ ออกมาได้แล้วก็รีบขับรถกลับบ้านมาหาลูกชายทันที เค้าจำนาตาชาได้เพราะติดตามถ่ายทอดสดอยู่ตลอด และรู้ว่าลูกชายเค้าคบกับเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นาตาชาค่อยค่อย คลายกอดลาราจ เมื่อเห็นคุณนิโคลัสลงจากรถหรูคันยาวมา
“ พ่อหรอ..”
ลาราจ จำเขาได้จากในฝัน แต่ในฝันเค้ารู้สึกไม่ดีกับพ่อเอามากๆ แต่ก็ได้หายโกรธเขาแล้ว
“ พ่อเอง ไอ้ลูกชาย ทำไมแกถึงได้คิดแบบนี้ ถ้าแกไม่รอดกลับมาจะเป็นยังไง ฮะ”
ลาราจ ก้มหน้ารับคำบ่นของผู้เป็นพ่อ นิโคลัสพุ่งมากอดลูกชายไว้แน่น แล้วครายกอดลูกชายหันไปชื่นชมอาซาและจอร์จ
“ ขอบคุณ.. เดือนนี้นายอยากได้โบนัสเท่าไหร่ บอกฉันได้เลยนายด้วยนะ จอร์จ”
“ ครับนาย/ครับนาย”
อาซายิ้มกว้างดูสนิทสนมกับนิโคลัสมากกว่าจอร์จที่ดูจะสนิทสนมกับลาราจมากกว่า
“เอ่อ.. คุณพ่อครับ ผมอยากแต่งงานกับนาตาชา”
ลาราจ พูดกับพ่อของเค้าด้วยสีหน้าจริงจัง สีหน้าของพ่อเขาที่ได้ยินกลับดูช็อคนิดหน่อยเพราะอยากให้ลูกแต่งงานกับผู้หญิงที่มีฐานะเดียวกัน
“ ลองอยู่ด้วยกัน สักปีก่อนดีไหมลูก นาตาชาว่าไหม”
นาตาชายังไม่รีบร้อน พยักหัว ตอบรับคุณนิโคลัสง่ายง่าย ซึ่งก็ถูกใจเขาอย่างมากๆ
“ คุณ.. ไม่มั่นใจในตัวผมหรอ ผมรักคุณมากนะ”
ลาราจ กลุ้มมือหญิงสาว ด้วยความรัก แล้วยกมือเธอมาหอมฟอดใหญ่
“ ทำตามคุณพ่อบอกเถอะค่ะ”
หญิงสาวโน้มน้าวแฟนหนุ่มสำเร็จ เค้ายิ้มอ่อนตอบรับเธออย่างว่าง่าย ซึ่งคุณพ่อเค้าก็มีสีหน้าพอใจเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับบ้านไป โดยมีจอร์จขับรถไปส่ง เพราะเค้าเป็นคนไปรับทุกคนมาจากบ้านตั้งแต่แรก
นาตาชารู้สึกประหม่าในบ้านหลังใหญ่โต นั่งแข็งทื่ออยู่ที่โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ที่ค่อยค่อยมีอาหารถูกนำมาวางอย่างมากมาย
“ คือว่า.. จะมีใครมาทานอาหารกับพวกเราอีกหรอค่ะ”
อาหารเยอะแยะเรียงเต็มโต๊ะ จนนาตาชานึกสงสัย
“ เปล่าหนิ.. ทานอาหารกันเถอะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”
คุณนิโคลัสยิ้มเจื่อนๆ ตอบเธอไป แล้วหันไปยิ้มล่า ให้กับลูกชายตัวเองที่กำลังหยิบกุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่มากินเป็นอย่างแรกและทำหน้าฟินกับอาหารมื้อนี้สุดสุดจนทุกคนพลอยมีความสุขกับลาราจ ไปด้วย มื้อค่ำผ่านไปอย่างมีความสุข นาตาชาเข้าไปอยู่ห้องเดียวกันกับลาราจ ที่มีเฟอร์นิเจอร์หรูหรากว่าทุกที่กว้างขวางโอ่อ่า นาตาชาอาบน้ำเสร็จก็สวมเสื้อยืดตัวใหญ่ของลาราจ ทับเรือนร่างที่ เปลือยเปล่าของร่างเล็กของเธอ ลารามองเธอด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนนุ่ม มากอดรัดร่างหญิงสาวแล้วเหวี่ยงเธอลงบนที่นอน ก่อนจะก้มลงเอาร่างกายตนทับร่างเล็กเธอไว้ หลังจากนั้นค่ำคืนอันแสนหวาน ก็เริ่มขึ้นด้วยความสุขและเร่าร้อน