(8)วันนองเลือด..

1764 คำ
.. เช้าอีกวัน “ นาตาชา” ลาราจ อุทานเสียงค่อย มองหาหญิงสาวคนรัก ที่ไม่รู้เธอได้หายไปไหนตั้งแต่เมื่อไหร่ ลาราจ ลุกขยี้ตาออกจากที่นอน เปิดประตูออกไปด้านนอกห้องด้วยบ๊อกเซอร์ตัวเดียว เดินหาหญิงสาวด้วยท่าทางเบลอเบลอ “ คุณหนูต้องการอะไรค่ะ” หญิงรับใช้ก้มหน้าก้มตาเรากับว่าเขินอายร่างกายสูงขาว หล่ำบึก ของลาราจ ที่ใส่แต่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว “ น้อง นาตาชาล่ะ พวกเธอเห็นรึเปล่า” สองสาวรับใช้ส่ายหัว ด้วยความกระตือรือร้น “ ไม่เห็นค่ะคุณหนู” ลาราจ เดินหาเธอไปทั่วบ้านอย่างไร้จุดหมาย “เอ๋.. คุณหนูทำไมออกมาทั้งทั้งแบบนี้ล่ะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า คุณหนูดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ” จอร์จที่พึ่งเดินกลับเข้ามาในบ้านแอบก้มหน้าหัวเราะลาราจ ที่ทำตัวผิดแปลกไปมาก “ ผมเปลี่ยนไปยังไงอ่ะ” ลาราจ ยกมือซ้ายขึ้นเกาหัวตัวเอง ขมวดคิ้วทำหน้างงเล็กน้อย “ ก็เมื่อก่อนน่ะ.. คุณหนูไม่มีทางเดินออกจากห้องมาสภาพแบบนี้แน่นอนครับ” “หึ..” ลาราจ ขมวดคิ้วตั้งใจฟัง “ คุณหนะ.. จะต้องแต่งตัวจนหล่อเนี้ยบ ตั้งแต่หัวจรด เท้าถึงจะออกจากห้องได้” “ งั้นหรอ.. คุณเห็นนาตาชารึเปล่า” เค้าเหมือนจะสนใจเรื่องของตัวเอง แต่ก็สนใจ นาตาชามากกว่า ราวกับว่า กลัวเธอจะหนีกลับไปที่บ้านของเธอ “ อ๋อ.. หนูนาตาชา ทำไมเธอต้องไปตัดต้นไม้อยู่หน้าบ้านหละครับ หรือว่าคุณหนูให้เธอทำงานแลกค่าอาหาร กลับที่พักหรอ” ลาราจ ยังฟังจอร์จพูดไม่จบก็รีบวิ่งออกไปข้างนอก เพื่อไปหานาตาชา “ นี่คุณ กำลังทำอะไรหรอ” ลาราจ มาถึงก็ดึงกรรไกรตัดหญ้าออกจากมือเธอ “ คุณตื่นแล้วหรอ พอดีนาตาว่างว่าง ก็เลยอยากหาอะไรทำค่ะ” “ คุณเบื่อหรอ ให้ผมพาไปเที่ยวไหม” หน้าหล่อหล่อก้มลงไปหอมหน้าผากหญิงสาว แล้วจูงมือ เธอเดินกลับเข้าบ้าน “ แอบหวงเหมือนกันนะคะเนี่ย.. ทำไมไม่ใส่เสื้อค่ะ” นาตาชาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมองมาที่ตัวเค้า “ ก็คุณนั่นแหละ ออกมาก็ไม่บอกผมเลย นึกว่าหนีกลับบ้านไปซะแล้ว” “ หึหึหึ.. นาตาจะกลับไป โดยไม่บอกคุณได้ยังไง” นาตาชาอมยิ้มขำ ลาราจ ที่ทำท่าทางเหมือนเด็ก มือหนาของลาราจ จับมือเล็กพาเดินกลับเข้าไปในห้องนอน วันทั้งวันของทั้งสอง ผ่านไปอย่างมีความสุข คุณพ่อแสดงท่าทางไม่ค่อยชอบ นาตาชาแต่ไม่อยากขัดใจลูกชายที่เขารัก ทั้งสองคนกินเที่ยวกันอย่างมีความสุข วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จน นาตาชาตั้งท้องได้ 4 เดือน รถหรูคันยาวแล่นเข้ามาในเมืองข้างข้าง ที่ครอบครัวนาตาชาอาศัยอยู่ ครอบครัวเจอกันถามสารทุกข์สุกดิบกัน แบ่งปันเรื่องราวที่ผ่านมาจนนาตาชารู้สึกสนิทสนมกับครอบครัวอีกครั้ง “ ค่อยค่อยเดินนะครับ” ลาราจ ประคองเมียรักขึ้นบันไดด้วยความระมัดระวัง หลังจากเพิ่งเดินทางกลับบ้านมา ~ครึ้นน ~กึก ~กึกก ไฟฟ้าดับมืดสนิทไปทั้งเมือง ทุกคนตื่นตระหนกตกใจกันทั้งบ้าน “ นาตา คุณอย่าพึ่งเดินเลยนะ” แสงถูกส่องไปที่โถงทางเดินออกจากโทรศัพท์ของลาราจ สองแขน ชายหนุ่มประคองเมียรักค่อยค่อยเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินไปกระซิบถามจอร์จด้วยท่าทางสงสัย “ มันเกิดอะไรขึ้น” “ เดี๋ยวผมรีบเช็คให้นะครับ” จอร์จโค้งตัวนอบน้อม ตอบลาราจ แล้วรีบวิ่งลงไปชั้นใต้ดิน ตรวจเช็คคัตเอาท์ไฟแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ไฟนั้นถูกตัดมืดไปทั่วทั้งเมืองอย่างน่าประหลาด ~ตึก ~ตึก ~ตึก จอร์จรีบวิ่งขึ้นมารายงานคุณหนูของเขา “ ที่การไฟฟ้า น่าจะมีปัญหาครับคุณหนู” “ งั้นหรอ เหมือนทั่วทั้งเมืองจะดับพร้อมกันหมดเลยนะ” ..1 ชั่วโมง ต่อมา.. ไฟฟ้า กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง “1 ชั่วโมงเต็มเต็ม การไฟฟ้านี้ทำงานห่วยแตกจริงๆ” จอร์จบ่นพึมพำหลังไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ลาราจ ที่นอนหนุนตักภรรยาอยู่ลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางงัวเงีย “ ไฟมาแล้วหรอ” ลาราจ พูดกับตัวเองพึมพำ ก่อนที่จะลุกขึ้นประคองภรรยาขึ้นอย่างอ่อนโยน ~ ตึก ~ ตึก ~ตึก ~ปึ้งๆ “ เธอปิดประตูทำไม นี่มันเพิ่ง 1 ทุ่มเอง เดี๋ยวคุณพ่อก็กำลังกลับบ้านมาแล้ว” ลาราจ งงอย่างมากที่สาวใช้ 2 คนวิ่งมาปิดประตูด้วยท่าทางรีบร้อน “ คุณหนูดูนี่สิคะ” สาวใช้เดินไปเปิดทีวี เลือกช่องที่กำลังประกาศข่าวอยู่ นักข่าว สาวประกาศข่าวด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ “ ให้ทุกท่านรีบล็อคประตู ล็อคหน้าต่างทุกบานในบ้านของท่านให้เรียบร้อย ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเป็นการฆาตกรรมจากสัตว์ประหลาดไม่ทราบชื่อ ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนอย่างแน่ชัดได้ ช่วงเวลานี้ขอให้ทุกท่านดูแลตัวเองปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกท่านเพื่อความปลอดภัยค่ะ” ภาพศพที่แขนขาด หัวขาด ได้ฉายออกทีวีอย่างต่อเนื่อง ทุกคนในบ้านรีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างทุกบานในในบ้านกันชุลมุนวุ่นวายไปหมด “ คงไม่ใช่มันใช่ไหม” นาตาชาพุ่ง เข้าไปกอดลาราจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขา “นาตา ไม่ต้องกลัวนะอยู่ใกล้ใกล้พี่ไว้” ลาราจ กดโทรศัพท์โทรหาพ่อ แต่โทรไปกี่ครั้งก็ไม่มีคนรับสาย “ คุณพ่อท่านเป็นยังไงคะ พี่ลาราจ” นาตาชานั่งไม่ติดเป็นห่วงเป็นใยพ่อสามี ที่ไม่เคยเป็นห่วงตัวเธอเลยลาราจ จับมือนาตาชาเดินมานั่งที่โซฟาห้องถุงตัวเดิม ~ ตึก ~ ตึก ~ ตึก “ คุณหนู คุณท่านโทรมามาจากบริษัทตอนนี้คุณท่านหลบอยู่ในห้องท่านส่วนพี่อาซาโดนสัตว์ประหลาดเล่นงาน ~ฮึกๆ(น้ำตาไหล) จนเสียชีวิตแล้ว ผมจะขอตัวไปรับคุณท่าน คุณหนูอยู่แต่ในบ้านอย่าออกไปไหนเด็ดขาดนะครับ” จอร์จที่กำลังรีบเดินไปเตรียมข้าวของ แต่ถูกลาราจ ดึงแขนเอาไว้ก่อน “ ผมไปด้วย จะให้คุณไปคนเดียวได้ไง พีอาซา ก็จะจากไปแล้ว พี่ อย่าจากไปอีกคนเลยนะ” จอร์จสีหน้ากังวลใจ พร้อมถอนหายใจเฮือก.. ลาราจ เหมือนน้องชายแท้แท้ เค้าจึงรักและห่วงใยมาตลอด “ ถ้าไปคุณหนูต้องดูแลตัวเองดีดี นะครับ” จอร์จเตือนด้วยความห่วงใย “ ให้นาตาไปด้วย นะ ฮึก ฮือออ” นาตาชากอดลาราจ ไว้แน่น ร้องไห้บนหน้าอกของสามี “ นาตา จะไปได้ยังไง อยู่บ้านคอยเปิดประตูให้นะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา พี่สัญญา” มือหนาลูบใบหน้าภรรยา เช็ดคราบน้ำตาที่อาบสองแก้มแล้วจูบร่ำลาริมฝีปากเล็ก ก่อนจะ ไปเตรียมของเพื่อไปล่าสัตว์ประหลาดพวกนั้น “ เอารถไปคนละคัน เราจะไปคว่านซื้อ อาหารมาเก็บไว้เป็นเสบียงที่บ้านด้วย” ลาราจ หันไปบอกจอร์จอย่างหนักแน่น ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้านออก แล้วรีบปิดด้วยความรวดเร็ว เสียงจากภายนอกเงียบชีนั่นแปลว่าปราศจากสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน “ ดูเหมือนโลกของเราจะเจอศึกใหญ่เข้าแล้ว” จอร์จบ่นพึมพำแล้วรีบวิ่งไปที่รถพร้อมลาราจ ~วี๊ดดดดดดดดดดด แฮร์รี่คอปเตอร์ ค่อยค่อยบินผ่านไปช้าๆพร้อมประกาศแจ้งเตือนไปตลอดทาง “ ให้ทุกท่านอยู่แต่ภายในบ้าน และปิดล็อกประตูหน้าต่างทุกบาน นี้คือ ภัยร้ายแรง โปรดอย่าออกมาด้านนอกอย่างเด็ดขาด ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับสัตว์ประหลาดที่คุณไม่อาจจะมองเห็นพวกมันได้” “ เป็นเจ้าพวกนั้นจริงๆสินะ” ลาราจ เอ่ยสบถขึ้นมาระหว่างที่กำลังขับรถตรงไปยังบริษัทของเค้า ~เอี๊ยดดดดดด รถตู้ 2 คันจอดเทียบที่ทางเข้าบริษัท สูงเสียดฟ้า เค้าทั้งสองคนลงจากรถด้วยความระมัดระวัง จอร์จสื่อสารกับลาราจ โดยใช้ภาษามือทั้งสองขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 15 บนสุดของตึกนี้ ~ ปริ๊งงงงงง ประตูลิฟท์เปิดออก บรรยากาศภายในตึกเงียบสงบไร้เสียงสัตว์ประหลาด ~ ก๊อกๆๆๆๆ “ พ่อนี่ผมเอง” ~ แอ๊ดดดดด “ลาราจ แกมาทำไม” นิโคลัส เมื่อเห็นรูปก็ทำหน้านิ่งวคิ้วขมวด ด้วยความเป็นห่วง “ ผมเคยอยู่ในเมืองบ้านั่น ที่คุณสร้างขึ้นแล้ว เผื่อคุณพ่ออาจจะลืม ผมไม่ยอมให้พวกมันมาเคี้ยวผมเล่นง่ายง่ายหรอก” ลาราจ พูดแทงใจคนเป็นพ่อ จนนิโคลัส หน้าซึม “ ผมว่าเรารีบไปกันเถอะครับ” จอร์จกังวลอยากจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด ทุกคนเดินมาขึ้นรถอย่างปลอดภัย ลาราจ นำทางไปที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ลูกกรงและประตูถูกล็อกอยู่ ทั่วทั้งห้าง ~ปึงๆๆๆๆๆๆ “ เปิดประตูหน่อยครับ ช่วยเปิดประตูที” จอร์จเขย่าประตูร้องเรียกคนด้านในให้เปิดประตูให้กับเขา ไม่นานก็มีเสียงรอดมาจากด้านใน “ ห้างปิดแล้ว พวกเราจะไม่เปิดประตูบานนี้อีก” เสียงชายวัยกลางคนตะโกนเสียงดังลั่นออกมา “ คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังเจออยู่กับอะไร พวกผมจะบอกคุณเองและพวกผมก็รู้วิธีรับมือกับพวกมันเป็นอย่างดี” ลาราจ เอ่ยด้วยความเจ้าเล่ห์ “ งั้นหรอ.. เจ๋งสุดสุดพวกมันเป็นตัวอะไร” เสียงชายคนเดิมเอ่ยขึ้น “ ไม่สิ คุณต้องเปิด ประตูให้พวกผมเข้าไปก่อน ผมขอแค่เข้าไปซื้อของนิดหน่อย” ลาราจ ต่อรองอีกฝ่ายเงียบไปก่อนที่จะเปิดประตูเหล็กขึ้น ~ครืดดดดดดด “ เร็วเข้า รีบเข้ามา” ชายวัยกลางคนรีบดึงพวกเขาเข้าไปในห้าง แล้วรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว ~ครืดดดดดดด ด้านใน มีทั้งเด็กผู้ใหญ่ คนแก่อยู่เต็มไปหมดเหมือนทุกคนจะมารวมกันที่ด้านหน้าประตูทั้งหมด ผู้ชายวัยกลางคนที่สนทนากับพวกเราคือรปภ. ของห้างนี้ ลาราจ ที่กำลังเดินเข้าไปเลือกของถูกแขนอวบอ้วนของรปภ. กันไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม