.. เช้าอีกวัน
“ นาตาชา”
ลาราจ อุทานเสียงค่อย มองหาหญิงสาวคนรัก ที่ไม่รู้เธอได้หายไปไหนตั้งแต่เมื่อไหร่ ลาราจ ลุกขยี้ตาออกจากที่นอน เปิดประตูออกไปด้านนอกห้องด้วยบ๊อกเซอร์ตัวเดียว เดินหาหญิงสาวด้วยท่าทางเบลอเบลอ
“ คุณหนูต้องการอะไรค่ะ”
หญิงรับใช้ก้มหน้าก้มตาเรากับว่าเขินอายร่างกายสูงขาว หล่ำบึก ของลาราจ ที่ใส่แต่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว
“ น้อง นาตาชาล่ะ พวกเธอเห็นรึเปล่า”
สองสาวรับใช้ส่ายหัว ด้วยความกระตือรือร้น
“ ไม่เห็นค่ะคุณหนู”
ลาราจ เดินหาเธอไปทั่วบ้านอย่างไร้จุดหมาย
“เอ๋.. คุณหนูทำไมออกมาทั้งทั้งแบบนี้ล่ะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า คุณหนูดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ”
จอร์จที่พึ่งเดินกลับเข้ามาในบ้านแอบก้มหน้าหัวเราะลาราจ ที่ทำตัวผิดแปลกไปมาก
“ ผมเปลี่ยนไปยังไงอ่ะ”
ลาราจ ยกมือซ้ายขึ้นเกาหัวตัวเอง ขมวดคิ้วทำหน้างงเล็กน้อย
“ ก็เมื่อก่อนน่ะ.. คุณหนูไม่มีทางเดินออกจากห้องมาสภาพแบบนี้แน่นอนครับ”
“หึ..”
ลาราจ ขมวดคิ้วตั้งใจฟัง
“ คุณหนะ.. จะต้องแต่งตัวจนหล่อเนี้ยบ ตั้งแต่หัวจรด เท้าถึงจะออกจากห้องได้”
“ งั้นหรอ.. คุณเห็นนาตาชารึเปล่า”
เค้าเหมือนจะสนใจเรื่องของตัวเอง แต่ก็สนใจ นาตาชามากกว่า ราวกับว่า กลัวเธอจะหนีกลับไปที่บ้านของเธอ
“ อ๋อ.. หนูนาตาชา ทำไมเธอต้องไปตัดต้นไม้อยู่หน้าบ้านหละครับ หรือว่าคุณหนูให้เธอทำงานแลกค่าอาหาร กลับที่พักหรอ”
ลาราจ ยังฟังจอร์จพูดไม่จบก็รีบวิ่งออกไปข้างนอก เพื่อไปหานาตาชา
“ นี่คุณ กำลังทำอะไรหรอ”
ลาราจ มาถึงก็ดึงกรรไกรตัดหญ้าออกจากมือเธอ
“ คุณตื่นแล้วหรอ พอดีนาตาว่างว่าง ก็เลยอยากหาอะไรทำค่ะ”
“ คุณเบื่อหรอ ให้ผมพาไปเที่ยวไหม”
หน้าหล่อหล่อก้มลงไปหอมหน้าผากหญิงสาว แล้วจูงมือ เธอเดินกลับเข้าบ้าน
“ แอบหวงเหมือนกันนะคะเนี่ย.. ทำไมไม่ใส่เสื้อค่ะ”
นาตาชาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมองมาที่ตัวเค้า
“ ก็คุณนั่นแหละ ออกมาก็ไม่บอกผมเลย นึกว่าหนีกลับบ้านไปซะแล้ว”
“ หึหึหึ.. นาตาจะกลับไป โดยไม่บอกคุณได้ยังไง”
นาตาชาอมยิ้มขำ ลาราจ ที่ทำท่าทางเหมือนเด็ก มือหนาของลาราจ จับมือเล็กพาเดินกลับเข้าไปในห้องนอน วันทั้งวันของทั้งสอง ผ่านไปอย่างมีความสุข คุณพ่อแสดงท่าทางไม่ค่อยชอบ นาตาชาแต่ไม่อยากขัดใจลูกชายที่เขารัก ทั้งสองคนกินเที่ยวกันอย่างมีความสุข วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จน นาตาชาตั้งท้องได้ 4 เดือน
รถหรูคันยาวแล่นเข้ามาในเมืองข้างข้าง ที่ครอบครัวนาตาชาอาศัยอยู่ ครอบครัวเจอกันถามสารทุกข์สุกดิบกัน แบ่งปันเรื่องราวที่ผ่านมาจนนาตาชารู้สึกสนิทสนมกับครอบครัวอีกครั้ง
“ ค่อยค่อยเดินนะครับ”
ลาราจ ประคองเมียรักขึ้นบันไดด้วยความระมัดระวัง หลังจากเพิ่งเดินทางกลับบ้านมา
~ครึ้นน ~กึก ~กึกก
ไฟฟ้าดับมืดสนิทไปทั้งเมือง ทุกคนตื่นตระหนกตกใจกันทั้งบ้าน
“ นาตา คุณอย่าพึ่งเดินเลยนะ”
แสงถูกส่องไปที่โถงทางเดินออกจากโทรศัพท์ของลาราจ สองแขน ชายหนุ่มประคองเมียรักค่อยค่อยเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินไปกระซิบถามจอร์จด้วยท่าทางสงสัย
“ มันเกิดอะไรขึ้น”
“ เดี๋ยวผมรีบเช็คให้นะครับ”
จอร์จโค้งตัวนอบน้อม ตอบลาราจ แล้วรีบวิ่งลงไปชั้นใต้ดิน ตรวจเช็คคัตเอาท์ไฟแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ไฟนั้นถูกตัดมืดไปทั่วทั้งเมืองอย่างน่าประหลาด
~ตึก ~ตึก ~ตึก
จอร์จรีบวิ่งขึ้นมารายงานคุณหนูของเขา
“ ที่การไฟฟ้า น่าจะมีปัญหาครับคุณหนู”
“ งั้นหรอ เหมือนทั่วทั้งเมืองจะดับพร้อมกันหมดเลยนะ”
..1 ชั่วโมง ต่อมา..
ไฟฟ้า กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
“1 ชั่วโมงเต็มเต็ม การไฟฟ้านี้ทำงานห่วยแตกจริงๆ”
จอร์จบ่นพึมพำหลังไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ลาราจ ที่นอนหนุนตักภรรยาอยู่ลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางงัวเงีย
“ ไฟมาแล้วหรอ”
ลาราจ พูดกับตัวเองพึมพำ ก่อนที่จะลุกขึ้นประคองภรรยาขึ้นอย่างอ่อนโยน
~ ตึก ~ ตึก ~ตึก ~ปึ้งๆ
“ เธอปิดประตูทำไม นี่มันเพิ่ง 1 ทุ่มเอง เดี๋ยวคุณพ่อก็กำลังกลับบ้านมาแล้ว”
ลาราจ งงอย่างมากที่สาวใช้ 2 คนวิ่งมาปิดประตูด้วยท่าทางรีบร้อน
“ คุณหนูดูนี่สิคะ”
สาวใช้เดินไปเปิดทีวี เลือกช่องที่กำลังประกาศข่าวอยู่ นักข่าว สาวประกาศข่าวด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ
“ ให้ทุกท่านรีบล็อคประตู ล็อคหน้าต่างทุกบานในบ้านของท่านให้เรียบร้อย ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเป็นการฆาตกรรมจากสัตว์ประหลาดไม่ทราบชื่อ ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนอย่างแน่ชัดได้ ช่วงเวลานี้ขอให้ทุกท่านดูแลตัวเองปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกท่านเพื่อความปลอดภัยค่ะ”
ภาพศพที่แขนขาด หัวขาด ได้ฉายออกทีวีอย่างต่อเนื่อง ทุกคนในบ้านรีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างทุกบานในในบ้านกันชุลมุนวุ่นวายไปหมด
“ คงไม่ใช่มันใช่ไหม”
นาตาชาพุ่ง เข้าไปกอดลาราจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขา
“นาตา ไม่ต้องกลัวนะอยู่ใกล้ใกล้พี่ไว้”
ลาราจ กดโทรศัพท์โทรหาพ่อ แต่โทรไปกี่ครั้งก็ไม่มีคนรับสาย
“ คุณพ่อท่านเป็นยังไงคะ พี่ลาราจ”
นาตาชานั่งไม่ติดเป็นห่วงเป็นใยพ่อสามี ที่ไม่เคยเป็นห่วงตัวเธอเลยลาราจ จับมือนาตาชาเดินมานั่งที่โซฟาห้องถุงตัวเดิม
~ ตึก ~ ตึก ~ ตึก
“ คุณหนู คุณท่านโทรมามาจากบริษัทตอนนี้คุณท่านหลบอยู่ในห้องท่านส่วนพี่อาซาโดนสัตว์ประหลาดเล่นงาน ~ฮึกๆ(น้ำตาไหล) จนเสียชีวิตแล้ว ผมจะขอตัวไปรับคุณท่าน คุณหนูอยู่แต่ในบ้านอย่าออกไปไหนเด็ดขาดนะครับ”
จอร์จที่กำลังรีบเดินไปเตรียมข้าวของ แต่ถูกลาราจ ดึงแขนเอาไว้ก่อน
“ ผมไปด้วย จะให้คุณไปคนเดียวได้ไง พีอาซา ก็จะจากไปแล้ว พี่ อย่าจากไปอีกคนเลยนะ”
จอร์จสีหน้ากังวลใจ พร้อมถอนหายใจเฮือก.. ลาราจ เหมือนน้องชายแท้แท้ เค้าจึงรักและห่วงใยมาตลอด
“ ถ้าไปคุณหนูต้องดูแลตัวเองดีดี นะครับ”
จอร์จเตือนด้วยความห่วงใย
“ ให้นาตาไปด้วย นะ ฮึก ฮือออ”
นาตาชากอดลาราจ ไว้แน่น ร้องไห้บนหน้าอกของสามี
“ นาตา จะไปได้ยังไง อยู่บ้านคอยเปิดประตูให้นะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา พี่สัญญา”
มือหนาลูบใบหน้าภรรยา เช็ดคราบน้ำตาที่อาบสองแก้มแล้วจูบร่ำลาริมฝีปากเล็ก ก่อนจะ ไปเตรียมของเพื่อไปล่าสัตว์ประหลาดพวกนั้น
“ เอารถไปคนละคัน เราจะไปคว่านซื้อ อาหารมาเก็บไว้เป็นเสบียงที่บ้านด้วย”
ลาราจ หันไปบอกจอร์จอย่างหนักแน่น ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้านออก แล้วรีบปิดด้วยความรวดเร็ว เสียงจากภายนอกเงียบชีนั่นแปลว่าปราศจากสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน
“ ดูเหมือนโลกของเราจะเจอศึกใหญ่เข้าแล้ว”
จอร์จบ่นพึมพำแล้วรีบวิ่งไปที่รถพร้อมลาราจ
~วี๊ดดดดดดดดดดด
แฮร์รี่คอปเตอร์ ค่อยค่อยบินผ่านไปช้าๆพร้อมประกาศแจ้งเตือนไปตลอดทาง
“ ให้ทุกท่านอยู่แต่ภายในบ้าน และปิดล็อกประตูหน้าต่างทุกบาน นี้คือ ภัยร้ายแรง โปรดอย่าออกมาด้านนอกอย่างเด็ดขาด ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับสัตว์ประหลาดที่คุณไม่อาจจะมองเห็นพวกมันได้”
“ เป็นเจ้าพวกนั้นจริงๆสินะ”
ลาราจ เอ่ยสบถขึ้นมาระหว่างที่กำลังขับรถตรงไปยังบริษัทของเค้า
~เอี๊ยดดดดดด
รถตู้ 2 คันจอดเทียบที่ทางเข้าบริษัท สูงเสียดฟ้า เค้าทั้งสองคนลงจากรถด้วยความระมัดระวัง จอร์จสื่อสารกับลาราจ โดยใช้ภาษามือทั้งสองขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 15 บนสุดของตึกนี้
~ ปริ๊งงงงงง
ประตูลิฟท์เปิดออก บรรยากาศภายในตึกเงียบสงบไร้เสียงสัตว์ประหลาด
~ ก๊อกๆๆๆๆ
“ พ่อนี่ผมเอง”
~ แอ๊ดดดดด
“ลาราจ แกมาทำไม”
นิโคลัส เมื่อเห็นรูปก็ทำหน้านิ่งวคิ้วขมวด ด้วยความเป็นห่วง
“ ผมเคยอยู่ในเมืองบ้านั่น ที่คุณสร้างขึ้นแล้ว เผื่อคุณพ่ออาจจะลืม ผมไม่ยอมให้พวกมันมาเคี้ยวผมเล่นง่ายง่ายหรอก”
ลาราจ พูดแทงใจคนเป็นพ่อ จนนิโคลัส หน้าซึม
“ ผมว่าเรารีบไปกันเถอะครับ”
จอร์จกังวลอยากจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด ทุกคนเดินมาขึ้นรถอย่างปลอดภัย ลาราจ นำทางไปที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ลูกกรงและประตูถูกล็อกอยู่ ทั่วทั้งห้าง
~ปึงๆๆๆๆๆๆ
“ เปิดประตูหน่อยครับ ช่วยเปิดประตูที”
จอร์จเขย่าประตูร้องเรียกคนด้านในให้เปิดประตูให้กับเขา ไม่นานก็มีเสียงรอดมาจากด้านใน
“ ห้างปิดแล้ว พวกเราจะไม่เปิดประตูบานนี้อีก”
เสียงชายวัยกลางคนตะโกนเสียงดังลั่นออกมา
“ คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังเจออยู่กับอะไร พวกผมจะบอกคุณเองและพวกผมก็รู้วิธีรับมือกับพวกมันเป็นอย่างดี”
ลาราจ เอ่ยด้วยความเจ้าเล่ห์
“ งั้นหรอ.. เจ๋งสุดสุดพวกมันเป็นตัวอะไร”
เสียงชายคนเดิมเอ่ยขึ้น
“ ไม่สิ คุณต้องเปิด ประตูให้พวกผมเข้าไปก่อน ผมขอแค่เข้าไปซื้อของนิดหน่อย”
ลาราจ ต่อรองอีกฝ่ายเงียบไปก่อนที่จะเปิดประตูเหล็กขึ้น
~ครืดดดดดดด
“ เร็วเข้า รีบเข้ามา”
ชายวัยกลางคนรีบดึงพวกเขาเข้าไปในห้าง แล้วรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
~ครืดดดดดดด
ด้านใน มีทั้งเด็กผู้ใหญ่ คนแก่อยู่เต็มไปหมดเหมือนทุกคนจะมารวมกันที่ด้านหน้าประตูทั้งหมด ผู้ชายวัยกลางคนที่สนทนากับพวกเราคือรปภ. ของห้างนี้ ลาราจ ที่กำลังเดินเข้าไปเลือกของถูกแขนอวบอ้วนของรปภ. กันไว้