ระหว่างที่คนทั้งสามเดินออกจากอาราม เถียนซูหลินที่เดินนำออกมาเกือบจะชนกับสตรีผู้หนึ่ง ดีที่อีกฝ่ายมีสาวใช้ด้านหลังประคองอยู่จึงไม่ทำให้ล้มลง
"ฮูหยิน!" สาวใช้ที่ประคองพร้อมสาวใช้นางอื่นที่ตามมาด้วยต่างก็ตกใจจนเผลออุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
ใบหน้าซีดเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่สร้างความตกใจให้กับนางไม่น้อย แต่เมื่อขายืนได้มั่นคงแล้วใบหน้าก็เริ่มมีสีเลือดขึ้นจางๆ ก่อนจะเป็นปกติ จิวลู่ที่ยืนข้างหลังกระซิบข้างหูอาม่าน "มีเรื่องกันแน่พี่สาว" อาม่านต้องหันมาปรามจิวลู่ทางสายตานางถือดียังไงจึงกล้าคิดออกมาเสียดังขนาดนั้น
"นึกว่าใคร ไปเถอะ!" เถียนซูหลินเห็นสตรีท้องโย้มีสาวใช้ประคองไม่ห่างกาย นางก็ไม่คิดจะใส่ใจและไม่คิดที่จะเอ่ยปากขอโทษ อาจเพราะเห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตาเมื่อเห็นหน้าของตน นางจึงเอ่ยปากบอกสาวใช้ด้านหลังที่เดินตามมา “กลับ!” ทว่าเถียนซูหลินยังไม่ทันยกขาก้าวก็ได้ยินสาวใช้อีกฝ่ายเปิดฉากขึ้นเสียก่อน
"คุณหนูจะไม่คิดขอโทษฮูหยินของบ่าวเลยหรือเจ้าคะ หากเมื่อครู่พวกบ่าวไม่ทันระวัง ก็คง...แต่อย่างว่า..."
"ซินซิน!" จื่อหยวนสตรีท้องโตเอ่ยปากห้ามปรามสาวใช้ไว้เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้น ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมฟังทำหน้าง้ำงอตัดพ้อฮูหยินตน
"จริงนี่เจ้าคะ หากคุณชายรองมาไม่ทัน..."
"เงียบ!" บ่าวที่เดือดร้อนแทนเจ้านายรีบหุบปาก แต่ยังรู้สึกไม่พอใจกับคนตรงหน้า มีเพียงแต่สตรีท้องโย้ที่ฝืนยิ้มแห้งให้กับ
เถียนซูหลินทั้งที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะและพยายามฝืนให้ตนเองมีความมั่นใจ
"คุณหนูไม่กลับจวนบ้างหรือเจ้าคะท่านแม่บ่นคิดถึง อีกทั้งได้ข่าวว่าท่านจมน้ำ ทุกคนย่อมเป็นห่วง" น้ำเสียงตะกุกตะกัก จับไม่ได้ว่านางจะพูดประโยคใดก่อนดี
"ทำไม? ไม่มีข้าชีวิตเจ้าขาดสีสันหรือ เอาเป็นว่าอีกสักสองสามวันข้าจะกลับไปก็แล้วกัน หวังว่าเจ้า ไม่สิ! พี่สะใภ้รองจะอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาให้กับข้า" คำพูดนางหากผู้อื่นพูดก็คงไม่คิดอะไรแต่นี่เป็นคำพูดของเถียนซูหลิน ยิ่งทำให้คนโดยรอบรู้สึกขวัญผวาเริ่มตั้งปราการป้องกันไม่แม้แต่จื่อหยวนที่บัดนี้กลายเป็น ฮูหยินของบุตรชายคนที่สองของสกุลเถียนและมีฐานะเป็นพี่สะใภ้ของเถียนซูหลิน
"ข้าไปล่ะ ดูแลหลานข้าให้ดีด้วยเล่า อีกอย่างอย่าใจอ่อนกับบ่าวไพร่มากนักเพราะประเดี๋ยวมันจะแว้งกัดเหมือนกับที่ข้าโดน" เถียนซูหลินเอ่ยขึ้นทั้งดวงตายังจดจ้องที่ท้องของอีกฝ่ายสลับกับใบหน้าที่ซีดเผือดราวกับนางมีชนักติดหลัง นั่นคงยังไม่รู้สึกสาแก่ใจ นางจึงตัดสินใจยกมือลูบที่ท้องของอีกฝ่ายจนทำให้ใบหน้าแต่เดิมก็ซีดอยู่แล้วของจื่อหยวนกลับซีดลงอีกแต่นางก็ไม่กล้าก้าวเท้าถอยหลังหนีหรือเอ่ยห้ามปรามได้แต่ทำใจสู้ยืนให้เถียนซูหลินลูบจนพอใจ “เข้มแข็งดีนี่ คนอย่างนี้สิข้าชอบ” เถียนซูหลินกล่าวจบพร้อมปล่อยมือลงและเดินสวนไปโดยไม่หันมามองว่าคนพวกนั้นจะคิดอย่างไร
เมื่อทั้งสามเดินออกมาไกลแล้ว อาม่านที่ดูจะโตกว่านายสาวและจิวลู่จึงเอ่ยเตือนผู้เป็นนาย "คุณหนู คุณหนูคงไม่คิด..."
"ข้าคิด!" อาม่านตกใจกับคำตอบ รีบสาวเท้ามายืนดักข้างหน้า และทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอย่างไม่อายว่าตอนนี้นางกำลังทำสิ่งใดอยู่ และไม่สนใจด้วยว่าที่นี่คืออาราม
"คุณหนู บ่าวขอเถิดเจ้าค่ะ" นางมองสาวใช้ด้วยสายตาเยือกเย็นแต่อาม่านไม่กล้าละสายตายังคงส่งสายตาวิงวอนให้อีกฝ่าย
"เจ้าห่วงข้าหรือห่วงใคร?" นางย้อนถามบ่าวที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้วยน้ำเสียงเรียบ ในใจนึกชิงชังอาม่านขึ้นมาบ้างแล้ว
"บ่าวย่อมเป็นห่วงคุณหนูอยู่แล้วเจ้าค่ะ" นางก้มหน้าตอบคำถามอย่างประหม่า แม้เมื่อครู่นางจะทำใจกล้าเผชิญหน้ากับนายสาวแต่เมื่อเจอคำถามที่ทำให้หัวใจกระตุกนางไม่กล้าสู้หน้าผู้เป็นนายจริงๆ
"โกหก! โป้ปดไม่แนบเนียนเสียเลยนะ" นางเงยหน้ามองผู้เป็นนายและสบเข้าที่นัยน์ตา อีกฝ่ายจ้องเขม็งมาที่ตน "บ่าว...บ่าวกลัวว่าคุณหนูจะผิดใจกับคุณชายรองและถูกฮูหยินลงโทษเหมือนเมื่อครั้งนั้น หาก...หากครั้งนั้น..."
"หากครั้งนั้นพี่รองมาไม่ทัน นางสองแม่ลูกก็โดนถ่วงน้ำตายไปแล้ว!" อาม่านเริ่มมีน้ำตาคลอที่เบ้าตา นางไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อระลึกความหลัง แต่นี่เป็นการฆ่าคนถึงสองชีวิต หากนายสาวคิดจะทำเช่นนั้นอีกครั้ง คาดว่าพวกนางคงโดนลงโทษด้วยชีวิตตามไปด้วยเช่นกัน
"ข้าพูดจริง หลานข้าคนนี้เมื่อมีโอกาสรอด ข้าย่อมมีส่วนร่วมด้วยสิ ไม่เช่นนั้นพี่รองจะกล่าวโทษข้าได้" นางไม่สนใจอาม่านอีก ทำเพียงเดินผ่านร่างที่ยังคงคุกเข่าอยู่ จิวลู่ที่ยืนไม่ห่างเดินมายืนใกล้ๆ
อาม่าน เอ่ยคำออกมาอย่างไม่ถนอมน้ำใจแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะนางเพิ่งมาใหม่จึงไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของนางและคุณหนูเถียนที่มีต่อจื่อหยวน หรือเพราะนางหงุดหงิดที่ไม่ได้ดูงิ้วฉากเล็กๆเมื่อครู่จึงพาลต่อว่าอาม่าน
"พี่จะเอามือเข้าไปสอดทำไมกัน คุณหนูร้ายออกอย่างนั้น ไม่แน่คุณหนูอาจเปลี่ยนเป้าหมายมาที่พี่ก็ได้ หากถึงเวลานั้นจริงๆ ข้าก็ช่วยพี่ไม่ได้หรอกนะ ใครดวงซวยก็รับไป" กล่าวจบนางรีบสาวเท้าก้าวตามนายสาวอย่างเอาใจ
จังหวะที่ขาแต่ละก้าวเดินตรงไปยังรถม้า ความคิดนางได้ย้อนกลับไปเมื่อจับได้จื่อหยวนตั้งครรภ์กับเถียนซินฟู่พี่รองของนาง ทุกคนต่างเข้ามาปกป้องจื่อหยวน มีเพียงนางที่ถูกมารดาสั่งลงโทษ
แส้ที่หวดลงมาบนสีข้างและแผ่นหลังนางยังจดจำได้ดี นี่คือวิธีการลงโทษของคนสกุลเถียนที่แม้แต่บุตรสาวก็ยังไม่เว้น บ่าวไพร่แต่ละคนเห็นการลงโทษยังรู้สึกขยาดเพราะอย่างนี้จึงทำให้นายหญิงใหญ่สามารถปกครองบ่าวไพร่ในจวนได้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาทั้งหลายต่างเชื่อกันว่าใครทำผิดต้องถูกลงโทษ แม้เป็นบุตรก็ต้องโดนเช่นกัน
เถียนซูหลินสาวเท้าตรงไปยังรถม้าที่จอดอยู่ไม่ไกลจากอารามนัก ขากำลังก้าวขึ้นทว่าหางตาเห็นชายคุ้นหน้าที่ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วในความรู้สึกทั้งที่จริงพวกเขาทั้งสองอาศัยอยู่ในจวนเดียวกัน นางจึงได้เปลี่ยนความคิดที่จะขึ้นรถม้าเป็นการเดินตรงไปหาชายผู้นั้นแทน
"โหย่งเฉียน!" เสียงเรียกขานที่ดังพร้อมแฝงด้วยความดีใจยากจะปิดเมื่อได้พบหน้า ทว่านางต้องชะงักฝีเท้าทั้งที่รู้ว่าเขาผู้นั้นหันมาสบสายตากับนางแล้วแต่เพราะด้านหลังของอีกฝ่ายกลับปรากฎเงาอีกคน
"นางอีกแล้วหรือ?"