แก่นกายอันแข็งแกร่งสอดแทรกเข้ามาด้วยความยากลำบาก ฉันรู้สึกได้ถึงความคับแน่นจากด้านล่างจนขาของฉันสั่นไปหมด ทว่ากลับรู้สึกดีขึ้นในเวลาเดียวกันที่เขาส่งเสียงครางในลำคอออกมาระหว่างขยับสะโพกเข้าออก
“อ๊ะ…อื้อ~” ฉันถูกคนหิวกระหายจูบลงอย่างเร่าร้อนขณะกำลังเร่งสะโพกรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
วิคเตอร์ส่งเสียงในลำคอออกมาตลอดในขณะที่กำลังเร่งขยับสะโพกเข้าออกถี่ระรัว ฉันรู้สึกเจ็บระบมและเสียวซ่านมากในเวลาเดียวกัน มือเรียวจิกทึ้งแผ่นหลังเขาสะเปะสะปะ เมื่อถูกคนร่างใหญ่ยกสองขาขึ้นสูง
เขาสบตาฉันด้วยแววตาอ้อนวอนก่อนจะกัดต้นคอฉันเล็กน้อย สองมือหนาอุ้มฉันนั่งคร่อมเขาบนชักโครกก่อนจะใช้ความแข็งแรงทนทานของตัวเองยกฉันขึ้นลงตามใจชอบ
“อ๊า!...อื้อออนายอย่าเพิ่งสิ…ฉะ…ฉันอ๊ะ!”
“เจ็บเหรอ ให้เบาลงไหม” เขาถามฉันเสียงแหบพร่า
“มะ…ไม่!...อ๊ะแรง ๆ เลยก็ได้~” ฉันตอบตะกุกตะกักด้วยเนื้อเสียงที่ไม่คงที่
มันซาบซ่านจนฉันจะรับไม่ไหวแล้ว ยิ่งเขาออกแรงระรัวไม่หยุดยั้ง ในหัวของฉันมันกลับรู้สึกขาวโพลนไปหมด รับรู้ได้ว่าตอนนี้ฉันแทบจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้แล้ว มันทรมานและรู้สึกดีมาก ๆ จนฉันจะต้องขย้ำผมของเขาเอาไว้
“จะเสร็จแล้วใช่ไหม…”
“อะอื้ออ~”
เรี่ยวแรงจากมือหนาทั้งสองข้างของเขายังสามารถเร่งความเร็วได้อีกจนน่าเหลือเชื่อ ฉันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมา ในขณะที่เขากำลังยกบั้นท้ายฉันขึ้นลงถี่
ในขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินอยู่ในกับอารมณ์ เขาก็กดร่างอันน้อยนิดของฉันลงแนบชิดกับหน้าตักของเขาด้วยความรุนแรง
เราทั้งสองเหนื่อยหอบและกระตุกเป็นระยะ ๆ ก่อนจะถูกเขาจับเอวฉันบดขยี้เบา ๆ
“เธอชอบรึเปล่าครั้งแรกของเราน่ะ” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และมองฉันราวกับได้เจอของเล่นชิ้นใหม่
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่านี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกของเรา แต่มันคือครั้งแรกของฉันคนเดียวต่างหาก ฉันหลบตาก้มหน้ามุดลงบนไหล่กว้างของเขา
“นายช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับของเราสองคนหน่อยได้ไหม” ฉันกระซิบขอร้องวิคเตอร์ข้างหูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หวังว่าเขาจะเห็นใจฉันนะ อย่าเที่ยวเอาประกาศทั่วล่ะ…ขอร้อง
“เอางั้นก็ได้” วิคเตอร์ตอบฉันด้วยความเรียบง่าย
ฉันลุกขึ้นยืนด้วยสองขาที่สั่นไหวเป็นเจ้าเข้าพร้อมจัดแจงชุดเดรสของตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ปกติ มือข้างหนึ่งพยายามพยุงตัวเองกับผนังเอาไว้ วิคเตอร์มองฉันจัดการธุระจนเสร็จก่อนจะอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาว
“แกล้งกลับไปเลยก็ได้นะ”
เขาบอกพลางเอาเสื้อคลุมให้ฉัน ฉันเอามาปิดหน้าไว้อย่างรู้หน้าที่และซุกอกเขาด้วยความเขินอาย ไม่นานวิคเตอร์ก็เปิดประตูออกมาและพาฉันไปส่งที่คอนโด
---
กริ๊งงงง~
นาฬิกาปลุกไก่ชนสองตัวชวนปลูกฉันให้ลุกขึ้นจากที่นอน แต่วันนี้มันคือวันหยุดของฉันนี่นา ฉันตบป๊าบปิดนาฬิกาปลุกพลางหลับต่ออย่างสบายอารมณ์
ใบหน้าของวิคเตอร์กำลังคลี่ยิ้มกว้างขณะห่มผ้าให้ฉัน ภาพนั่นทำให้ฉันลืมตาขึ้นเฮือกใหญ่ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง
เมื่อคืนนี้เหมือนว่าฉันจะเจอยาปลุกเซ็กส์เล่นงานเข้าเต็มเปาจนสุดท้ายก็ต้องลงเอยกับวิคเตอร์ ก่อนที่จะไปเที่ยวฉันไม่เคยลืมที่จะกินยาแก้แฮงค์ และดูแลตัวเองเป็นอย่างดีแต่ทำไมถึงได้พลาดท่าให้ปริมได้ ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอทำให้ฉันรอดพ้นจากปริมมาได้แต่ดันไปสะดุดขอนายคนนั้นมีอะไรด้วยเนี่ยนะ!?
ฉันไม่มีอาการมึนเมา ปวดหัวหรืออยากอาเจียนความทรงจำทุกอย่างยังอยู่ภายในเซลล์สมองครบถ้วน มันทำให้ฉันอดที่จะฉุกคิดขึ้นมาไม่ได้เลยว่าความสัมพันธ์ของฉันกับวิคเตอร์จะถลำลึกลงไปมากกว่านี้ ถ้านายคนนั้นมาหาฉันตื้อฉันอีกล่ะ ทีนี้จะทำยังไงกันดี
จากวันหยุดอันแสนสงบสุขของฉันกลายเป็นวันที่วุ่นวายขึ้นมาทันควัน ฉันสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูดีที่สุดเพื่อเข้าไปเลือกรถยนต์คันใหม่
ฉันจัดการถอยรถสปอร์ตหรูป้ายแดงออกมาทันทีโดยที่ไม่รอฤกษ์งามยามดีหรือรถสั่งทำพิเศษ มีคันไหนก็เอาคันนั้น แน่นอนว่าฉันขับรถยนต์เป็นอยู่แล้วเพียงแต่ว่าฉันค่อนข้างที่จะชอบความเรียบง่ายมากกว่าเสียส่วนใหญ่
“ทางเราขออนุญาตขอที่อยู่ในการขนส่งด้วยนะคะคุณผู้หญิง” พนักงานเอ่ยเสียงหวานอย่างให้เกียรติฉันด้วยสุดขั้วหัวใจ
“ไม่เป็นไรค่ะฉันจะขับออกไปเลย ช่วยเอาริบบิ้นสีสวยออกให้หน่อยได้ไหมคะ”
“อะ…สักครู่นะคะ”
พนักงานดูเลิ่กลั่กเล็กน้อยแต่ก็ยินยอมทำตามคำขอของฉันแต่โดยดี ฉันก็ขับรถออกจากศูนย์ใหญ่ทันทีโดยมีพนักงานด้านหลังก้มโค้งลาอย่างนอบน้อม
“แค่นี้ก็จบปัญหา ‘เดี๋ยวไปส่ง’ สักที” ฉันบ่นอุบอย่างอารมณ์ดี
ฉันเป็นมนุษย์ Introvert ที่มีความขี้ระแวงขั้นสุด มีความคิดเองเออเองค่อนข้างสูงปรี๊ดปรอทเเตก จึงได้จัดการย้ายออกจากคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยไปอยู่คอนโดหรูอีกแห่งหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะต้องใช้รถทุกวันแต่มันก็คุ้มที่จะลงทุน
@คอนโดA
ฉันขับรถไปยังโซนวีไอพีหน้าคอนโดก่อนจะมีพนักงานวิ่งเข้ามาบริการฉันถึงที่
“สวัสดีครับ คุณต้นข้าวหรือเปล่าครับ”
“ค่ะ ของอยู่ด้านหลัง”
“สักครู่นะครับ”
“อ๋อ กล่องใบนั้นไม่ต้องก็ได้ค่ะ”
“ครับ”
พนักงานเร่งขนย้ายสัมภาระของฉันลงจากรถจนหมดตามด้วยกระเป๋าเดินทางที่ฉันพยายามยัดมันใส่รถอันน้อยนิดของตัวเองมา
“ห้องที่ 23 นะคะ เดี๋ยวฉันจะขับรถไปเก็บเอง”
“ได้ครับคุณต้นข้าว”
ฉันจัดการธุระของตัวเองเสร็จก็หันไปสนใจกล่องกระดาษแข็งสีน้ำตาลเข้มที่ถูกปิดไว้อย่างมิดชิด ด้านในก็เป็นเอกสารส่วนตัวของฉันซึ่งฉันไม่ไว้ใจให้ใครดูแลให้ทั้งนั้น (คนหวงของ)
ฉันยกกล่องกระดาษเข้าไปในคอนโดหรูใจกลางเมืองแห่งใหม่ที่มีความทันสมัยมากกว่าเดิมถึงหลายเท่าตัว เสียอย่างเดียวไกลจากมหาวิทยาลัยของฉันมากเกินไปหน่อย
ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะจ๊ะเอ๋เข้ากับบุคคลที่ฉันไม่อยากจะพบเจอที่สุด
“ไงคุณหมอ เจอกันอีกแล้วนะครับ” เขาทักทายฉันอย่างเป็นมิตรสุด ๆ
“…” ฉันแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นพลางหันไปกดเลขชั้นตัวเอง