"คุณเป็นใครเหรอคะ?" ป่านหันไปยิ้มและเอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร
ไวน์จับมือเล็กๆ ของคัพเค้กแน่น พร้อมกับหันไปตอบแทนคนถูกถาม
"นี่เค้ก...แฟนผมเอง" ป่านรู้สึกเจ็บแปล๊บกลางหัวใจ แม้เธอจะเป็นฝ่ายทิ้งไวน์มาแต่งงานกับคอปเตอร์ แต่ลึกๆ ในใจก็มีความรู้สึกห่วงเขาอยู่ดี แม้จะเลิกกันไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้เขามีใคร
"สวัสดีค่ะ จะไม่แนะนำป่านให้แฟนรู้จักบ้างเหรอ" ป่านหันไปบอกกับไวน์
"นี่ป่าน เพื่อนในกลุ่ม" เขาเลือกจะใช้คำที่ฟังแล้วให้ความรู็สึกห่างเหินอย่างตั้งใจ คนฟังเองก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเหมือนกัน แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ เพราะว่าอยู่ต่อหน้าแขกหลายคน แต่จากการประเมินด้วยสายตาแล้วนั้น ป่านคิดว่าผู้หญิงคนนี้ดูจะไม่ใช่สเป็คของไวน์เท่าไหร่ เสื้อผ้าที่ใส่ก็ดูราคาถูก เป็นไปได้ยากที่ไวน์จะลดตัวลงไปสุงสิงกับคนแบบนี้ ถ้าให้เธอเดา ก็คิดว่าเขาคงจะจ้างผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาหลอกทุกคนเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่ถูกเธอหักอกแน่ๆ
"ส่วนนั่น...คอปเตอร์ สามีของป่าน" เพียงแค่ได้สบประสานสายตากับคนคุ้นเคย ความอดทนของคัพเค้กก็หมดสิ้นลงทันที เธอพยายามข่มใจตั้งแต่ที่ทั้งคู๋เดินเข้ามาทักแล้ว แต่เมื่อกี้พอคอปเตอร์หันมาสบตาเธอตรงๆ หัวใจที่เริ่มจะดีขึ้น ก็พลันแตกสลายลงอีกครั้ง
"ขอตัวก่อนนะคะ" คัพเค้กสะบัดมือของไวน์ออก แล้วหมุนตัวหนีออกไปจากวงสนทนาทันที ทิ้งให้ทุกคนพากันงุนงงกับท่าทางแปลกๆ ของเธอ มีเพียงแค่คอปเตอร์คนเดียวเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าอยากวิ่งตามไปใจแทบขาด แต่ทำได้แค่ชะเง้อมองตามไปจนสุดสายตา
"เอ่อ...ต้องขอโทษด้วยนะทุกคน พอดี...ก็นิสัยผู้หญิงอะนะ อยากเห็นหน้าแฟนเก่า รบเร้าอยากตามมาดู พอเจอตัวจริงก็...งอน ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะ" ไวน์รีบอาศัยจังหวะนี้ปิดประตูความน่าสงสัย ว่าเขาจะจ้างใครก็ไม่รู้ให้มางานด้วย แม้แต่ป่านที่มั่นใจนักหนา ก็ยังเชื่อคำพูดของเขาอย่างสนิทใจ
ไวน์วิ่งตามคัพเค้กออกมาจนเจอว่าเธอหนีออกมานั่งร้องไห้อยู่ที่บันไดหนีไฟ ภาพหญิงสาวตัวเล็กๆ นั่งก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ บีบหัวใจของไวน์เสียจนเขาทำอะไรไม่ถูก
"เอ่อ...คุณ...โอเคไหม" คำถามโง่ๆ ที่ไวน์เอ่ยออกไป ด้วยไม่รู็ว่าจะพูดอะไรดี เขาสงสารคัพเค้กจับใจ เพราะเขานั้นเขาใจความรู็สึกพวกนี้ดี วันแรกที่รู้เรื่องนี้เขาก็แทบบ้าเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเขานั้นร้องไห้ไม่เป็น แต่พอได้เห็นสภาพของคัพเค้กในตอนนี้ เขาก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่เธอมี
"สภาพฉัน ฮึก...ดูโอเคไหมล่ะ" ไวน์ค่อยๆ นั่งลงข้างๆ ร่างเล็กที่สั่นเทา เขาพยายามตั้งสติและคิดว่าควรจะทำอย่างไรให้เธอหยุดร้องไห้ดี
"ขอโทษนะ ที่พามาวันนี้ ไม่คิดว่า..."
"ช่างมันเถอะ ฉันมันโง่เองนั่นแหละ ที่ไม่ถามคุณตั้งแต่แรก ถ้าคุณพาฉันไปฆ่าทิ้ง ป่านนี้ฉันก็คงนอนคุยกับรากมะม่วงไปแล้ว"
"อย่าไปคิดแบบนั้นเลย"
"ก็คุณเป็นคนบอกฉันเองไม่ใช่หรือไง มาคิดๆ ดูแล้วมันก็จริงอย่างที่คุณว่า ฉันมันโง่เอง โง่มาโดยตลอด...."
"คุณฟังนะ คุณไม่ได้โง่หรอก แค่อาจจะคิดน้อยไปในบางเรื่อง อย่างวันนี้ ตอนที่ผมชวนคุณมา อย่างน้อยคุณควรจะถามก่อนว่าจะไปที่ไหน ไปงานอะไร ผมพูดเพราะอยากให้จำเอาไว้เป็นบทเรียน ต่อไปถ้าใครจะชวนคุณไปไหน คุณก็ควรจะถามรายละเอียดก่อน เหมือนตอนที่คุณถามผมเรื่องรายละเอียดเค้ก" ไวน์พยายามอธิบายอย่างใจเย็น
"ไม่เห็นจะเหมือน ถามรายละเอียดเค้กฉันจะเอาไปทำเค้กนี่ ถามเรื่องพวกนี้ฉันจะรู้ไปทำไม"
"ต้องรู้สิ ก่อนจะไปไหนกับคนแปลกหน้า ยิ่งเป็นผู้ชายด้วย คุณจะไม่ถามก่อนไม่ได้นะ ถ้าเกิดไปเจอคนที่ไม่หวังดี มันจะไม่ดีต่อตัวคุณเองนะ เข้าใจหรือเปล่า แม้แต่ผมเองคุณก็ไม่ควรไว้ใจ"
"แล้วจะให้ทำยังไง ก็คุณมาบอกว่าจะช่วยฉัน ฉันก็มองไม่เห็นทางอื่น ถึงฉันจะยังรักเขาอยู่ แต่พอวันนี้ฉันมาเห็นเขาอยู่กับ...ผู้หญิงที่เป็นภรรยาของเขาแล้ว ถึงมาก่อนฉันก็ไม่อยากจะยุ่งกับเขาอีกแล้ว คุณก็ดันมาพูดแบบนี้อีก แล้วฉันจะทำยังไง..."
"คุณฟังนะ เรื่องช่วยกันไอ้คอปเตอร์ไม่ให้มันมายุ่งกับคุณน่ะ ผมช่วยแน่ แต่ผมแค่อยากเตือนคุณว่าอย่ารีบไว้ใจใคร เราสองคนเพิ่งรู็จักกันไม่นาน ผมเลยบอกว่าแม้แต่ผมคุณก็ไม่ควรไว้ใจ"
"เรากลับกันได้หรือยัง ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว" คัพเค้กเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยสายตาอ้อนวอน แก้มนวลยังอาบนองด้วยสายน้ำตา มือหนาของไวน์ยกขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่รินไหลอย่างทะนุถนอม ก่อนจะยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้า
"ถ้าคุณอยากกลับ ผมก็จะพากลับ" หญิงสาวพยักหน้ารับ ทั้งคู่พากันลงจากชั้นจัดงาน แล้วตรงไปที่ลานจอดรถ วันนี้คงต้องพอแค่นี้ก่อน เพราะดูท่าแล้วคัพเค้กไม่พร้อมจริงๆ
รถถูกขับออกมาด้วยบรรยากาศที่เงียบสนิท เพราะอีกคนก็กำลังเสียใจ อีกคนก็รู็สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง
"กินอะไรหน่อยไหม" เสียงของไวน์เอ่ยขึ้น แต่คนถูกถามยังคงนั่งพิงกระจกเงียบ เธอไม่มีความรู้สึกหิวเลยสักนิด ในหัวยังคงคิดภาพของป่านกับคอปเตอร์ ซ้ำไปซ้ำมา เธอได้แต่ตั้งคำถามว่าทำไม ทำไมตัวเองต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
"นี่คุณกินอะไรบ้างเถอะนะ คุณดูผอมลงไปเยอะเลยนะ จากที่เราเจอกันครั้งแรก" ไวน์พยายามจะก่อบทสนทนา เพราะอยากไถ่โทษ แม้ว่าเขาะไม่ได้รู้จักกับคัพเค้กมากนัก ทั้งยังไม่ได้เป็นอะไรกับเธอเลย แต่ก็ใช่ว่าจะใจร้าย ไร้ความเป็นมนุษย์ขนาดที่จะไม่รู้สึกอะไรเลยกับเรื่องนี้
"ฉันไม่หิวจริงๆ" เธอยังคงยืนยันตามเดิม
ไวน์ไม่ได้บังคับหรือกวนใจเธออีก เขาปล่อยให้เธอได้ระบายทุกความเจ็บช้ำออกมา ผ่านทางน้ำตาอย่าเงียบๆ
"ผมเข้าใจคุณนะ เรื่องที่ร้องไห้วันนี้ แต่ถ้าจะให้แนะนำ อย่าจมอยู่กับมันนาน เท่าที่เจอกันผมรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่สดใส แต่คุณในตอนนี้ไม่มีความสดใสอยู่ในแววตาเลย ผมก็ไม่รู็หรอกนะ ว่าคุณรักมันมากมายขนาดไหน แต่ก็อยากจะเตือนสติสักนิด ว่าอย่าลลืมรักตัวเองด้วย" ขณะที่คัพเค้กกำลังจะลงจากรถ ไวน์ได้บอกกับเธอแบบนั้น เธอไม่ได้พูดอะไรตอบ มือเรียวปลดเข็มขัดนิรภัยจากตัว แล้วลงรถไปเลย ไวน์มองตามร่างบางที่ค่อยๆ ห่างออกไปจนเธอเดินหายเข้าไปในคอนโด เขาจึงได้ขับรถจากมา