chapter 5

1371 คำ
“ฉันเฝ้ามองเขาตั้งแต่เด็ก คอยหาทางเข้าใกล้ บอกให้รู้ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ แล้วฉันได้อะไรกลับคืนมาบ้างล่ะ เวลาที่ยาวนานจนฉันมาคิดว่าตัวเองมันโง่มากเลยนะหนึ่ง ไม่ว่าจะถูกเขาพลักไสยังไงก็ยังคงดื้อรั้น ไม่สิ...ต้องเรียกว่าดื้อด้านดันทุรังมากกว่า ทั้งที่เขาเกลียดจน...” ตอนนี้อย่าว่าจะเห็นหน้าเลย เพียงแค่รู้ว่าเธอจะไป แดนเหนือก็รีบหลบลี้หนีหายตัวไปก่อนแล้ว “ถ้าเขาพูดออกมาว่าไม่ต้องการ ปฏิเสธฉันออกมาเลย ถึงฉันจะเจ็บปวด แต่ก็คงจะยังพอทำใจรับได้ไม่ยาก อาจจะไม่ปล่อยให้เรื่องมันยาวเลยมาถึงตอนนี้หรอกนะ” ถ้าเธอจะไม่เคยเห็นใบหน้าและดวงตาที่เหมือนจะยิ้มได้ยามที่มองมายังเธอ “ฉันคงจะตัดสินใจตัดใจจากเขาไปนานแล้ว แต่นี่เขาไม่พูดไงหนึ่ง ไม่พูดว่าจะเอายังไง บางครั้งฉันก็สับสนนะ เขารังเกียจฉันจริงหรือเปล่า หรือว่าสนุกสนานกับการที่ได้เห็นฉันวิ่งไล่ตามหาเขาเหมือนกับคนบ้า” บางครั้งแดนเหนือก็ทำเหมือนกับว่าห่วงใยเธอเสียเต็มประดา แต่ที่ทำอยู่...ไม่คิดสนใจเธอเพราะรักและเป็นห่วง นี่ไง สุดท้ายแล้วเธอก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขายังรักอยู่ ทั้งที่...แดนเหนือมองเธอด้วยแววตาที่เฉยชา...ดวงตาที่มันเหมือนมีก้อนน้ำแข็งเกาะอยู่ มันเหมือนกับเธอถูกตบหน้า...ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่พันกี่หมื่นครั้ง ถูกตบจนใบหน้ามันชาจนไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดอีกแล้ว “ถ้ามึงคิดว่าทำอย่างนี้นะดีแล้ว กูในฐานะเพื่อนที่คอยซับน้ำตากับฟังเวลามึงร้องไห้พร่ำเพ้อหาไอ้บ้านั่นก็ดีใจมากเลยวะ อยากให้มึงตัดสินใจทำอย่างนี้มานานแล้ว แต่กูรู้ว่ามึงเจ็บแค่ไหน” กลทีป์ยื่นมือไปจับมือเรียวบางที่สั่นสะท้านจนเห็นได้ชัด “กูคงจะบอกได้แค่ว่า...มึงยังมีกูอยู่ตรงนี้นะดาว” “ขอบใจนะหนึ่ง” “เออ...เพื่อนกันนี่น่า ว่าแต่มึงเถอะ จะทำยังไงต่อไป” พันดาวหันหน้าไปทางหน้าต่าง มองออกไปอย่างไร้จุดหมายปลายทางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนสนิท “ที่มึงบอกวันก่อน...เขายังรับคนอยู่ไหม” ถ้าให้อยู่ที่เดิม เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย สิ่งที่คิดทำคงจะไม่สำเร็จเป็นแน่ ในเมื่อมีเวลาว่างมากมาย ก็หาอะไรทำให้เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ทำให้ร่างกายมันเหนื่อยจนล้า ตกกลางคืนพอหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย จะได้ไม่มีเวลาให้คิดถึงแดนเหนือ...ก็คงจะดีไม่น้อย “ถึงรายได้จะไม่น้อย แต่มันไกลนะ จะไปไหนมาไหนก็ลำบาก มันยังไม่เจริญเท่าที่นี่ มึงจะไหวเหรอ” ที่ถามเพราะเขารู้ดี การหนีหัวใจของตัวเอง ไม่ว่าจะไปไกลแสนไกลแค่ไหน สุดท้ายแล้วมันก็ไม่พ้นอยู่ดี แต่ก็นะ...การจะอยู่แล้วก็รับรู้ว่าคนที่รักอยู่ไกลตัวและก็เห็นเขาอยู่เรื่อย ๆ มันยิ่งทำให้เจ็บปวด “มันก็ดีกว่าอยู่ที่นี่ปะวะ ไปให้มันไกลแบบนั้นแหละดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมารับรู้เรื่องราวของเขาอีก” บางทีการห่างไกลและเวลาคงจะทำให้เธอรักษาใจที่พัง ๆ ดวงนี้ให้กลับมาดีก็ได้ เธอได้แต่หวังอย่างนั้นนะ “แล้วคุณย่าล่ะ ท่านเอ็นดูแกอยู่ไม่น้อยเลยนะ ตอนนี้ท่านก็ไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย ถ้าแกไปแล้วท่านจะดูแลท่านล่ะ” ในครอบครัวของบ้านนั้นทุกคน...เรียกได้ว่าทุกคนจริง ๆ ไม่มีใครดีกับพันดาวเลยสักคน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สรรหามาต่อว่าได้ตลอด ยกเว้นเพียงแค่คุณย่า...ครองขวัญ ที่รักและเอ็นดูพันดาวอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น “ถึงท่านจะรักฉันแค่ไหน แต่ยังไงฉันมันก็คนนอกปะวะ ในเมื่อคนในครอบครัวเขาไม่อยากให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ตอนนี้กูคงจะไม่หน้าด้านเข้าไปอีกแล้ว ฉันหายไป...ท่านก็คงเพียงแค่แปลกใจเท่านั้นแหละ ไม่นานก็คงลืมไปแหละว่ามีหลานนอกไส้คนนี้อยู่” “ในเมื่อมึงตัดสินใจแน่นอนแล้ว เดี๋ยวกูขอโทรถามพี่เปรมก่อน ยังมีตำแหน่งว่างอยู่อีกหรือเปล่า” “ขอบใจนะมึง” พันดาวก้มหน้าลงมองมือที่เมื่อก่อนนั้นเคยมีแหวนวงหนึ่งสวมอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้าย หากตอนนี้...เมื่อตัดสินใจว่าจะยุติความรู้สึกที่มีกับเขาคนนั้น เรียกหัวใจที่มันแตกสลายของตัวเองกลับคืนมา เธอก็ควรถอดมันออกไป เพราะถ้าหากว่ามันยังคงอยู่ที่เดิม ใจเธอก็คงจะยังมีความหวังอยู่ ในเมื่อคิดจะตัดใจ เธอก็ควรจะหาโอกาสพามันไปคืนเขา...ให้เร็วที่สุดด้วย “พี่เปรมขอเช็กก่อนนะมึง ยังพอมีตำแหน่งอะไรว่างอยู่หรือเปล่า” “ขอบใจนะหนึ่ง มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูเลย” “ฮื่อ...เพื่อนกัน” กลทีป์ตบบนมือเรียวบางเบา ๆ “จากนี้ไปมึงจะทำยังไงต่อไป” “แยกกันตรงนี้เลยนะ ฉันจะไปธุระสักหน่อย” “ให้กูไปด้วยไหม” “ไม่เป็นไร แค่ตัดใจจากคนที่เขาไม่รักเรา กูยังไหว” แค่นี้เธอก็รบกวนกลทีป์มากเกินไปแล้ว นับจากนี้ไป เธอจะต้องทำอะไรด้วยตัวเอง จะต้องเข้มแข็ง กลับมายืนหยัดเป็นคนที่มีหัวใจและความสุขให้ได้! พันดาวยืนมองประตูทางเข้าออฟฟิศของแดนเหนืออย่างที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ใช่! เธอตัดสินใจแล้วว่าจะมาคืนของให้กับเขา แต่พอมาถึงจริง ๆ เธอกลับลังเลใจที่จะทำ อยากที่จะถอยหลังกลับเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย แต่พอคิดอีกที...ก็ถูกเขาพลักไสเสียขนาดนั้น จะให้เธอเป็นคนหน้าด้านหน้าทนอีกเหรอ มือเล็กกำกระเป๋าที่ถืออยู่ไว้แน่น เอายังไงดี...เข้าไปให้ในตอนนี้ หรือว่าจะรอมาใหม่วันต่อไปดี แต่...ถ้าหากว่าเธอยืดเวลาออกไปให้นานกว่านี้ แทนที่เธอจะตัดใจจากแดนเหนือได้จะยิ่งรักเขามากกว่าเดิมนะสิ พันดาวได้แต่ถอนหายใจ สิ่งที่คิดกับสิ่งที่จะทำนี่มันช่างต่างกันเหลือเกิน ปากบอกกลทีป์ว่าจะตัดใจให้ได้ แต่เอาเข้าจริง พอมาถึงที่นี่เธอกลับเต็มไปด้วยความกังวลใจ ลังเลและขลาดกลัวจนน่ารังเกียจเหลือเกิน แต่พอคิดว่าการที่เธอรักแดนเหนือแล้วมีคนมากมายไม่ชอบใจรวมถึงคนที่เธอชอบก็เกลียดกันด้วย สุดท้ายแล้วผลที่เกิดขึ้นมันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม...ไม่ว่าจะรักเขาแค่ไหน เธอก็ควรที่จะ... “ขอโทษค่ะ ฉันมาขอพบ...” หากเธอพูดยังไม่ทันจะจบดีก็มีใครบางคนเดินผ่านตาไปเสียก่อน ที่เมื่อมองให้ชัดก็เป็นอย่างที่คิด...ใช่เธอคนนั้นอีกแล้ว พันดาวได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น ไม่ว่าทำยังไงเธอก็ไม่เคยได้เข้าไปพบกับเขาดี ๆ สักครั้ง แต่กับเธอคนนั้น...ง่ายดายเหลือเกิน นี่สินะ คนที่เขาต้องการกับคนที่เขารังเกียจ มันต่างกันแบบนี้นี่เอง “ขอโทษค่ะคุณ มีอะไรหรือเปล่าคะ” พันดาวหันมาส่งยิ้มแหย ๆ ให้กับพนักงานสาวตรงหน้าขณะข่มกลั้นความน้อยใจที่มันตีตื้นขึ้นมาจนขอบตาร้อนผ่าวเอ่ยออกไปเสียงสั่นพร่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม