บทที่ 6
ดินิย่าร์หรี่ตามองบอดีการ์ดหน้าหวานด้วยสายตาเหยียดหยัน
“แล้วไอ้ที่นายถืออยู่ในมือน่ะ นายก็หยิบผิดด้วยใช่ไหมล่ะ”
คนถูกถามหน้าแดงก่ำแทบไหม้ ขณะจ้องมองไปที่มือของตัวเองที่ยังกำกางเกงในของดินิย่าร์เอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกอับอายสุดขีด
“คือ ผม... ผมไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง”
ว่าแล้วหล่อนก็รีบปล่อยกางเกงชั้นในของดินิย่าร์ออกจากมือ และเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าซีดสลับแดงระเรื่อ อายแทบมุดดินหนี และก็หวาดกลัวจนแทบอยากจะกระโดดตึกตาย
“อย่างนั้นหรือ”
ดินิย่าร์ขยับเข้ามาใกล้ ใกล้จนคู่สนทนาอย่างหล่อนแทบมึนเมาไปกลับกลิ่นกายที่เต็มไปด้วยความเป็นบุรุษเพศของพ่อเจ้าประคุณ ยิ่งใกล้ๆ ยิ่งมองใกล้ๆ แบบนี้ หัวใจของหล่อนก็เต้นแรงขึ้นอีกหลายเท่านัก ทั้งๆ ที่ก่อนรับงานนี้หล่อนคิดว่ามันเป็นงานที่แสนจะง่าย
การแฝงตัว การปลอมตัวเป็นสิ่งที่หล่อนซึมซับกับมันมาตั้งแต่เด็ก แต่พอถึงเวลานี้ เวลาที่ได้สบตากับดินิย่าร์ในระยะเผาขนแบบนี้ สติก็กระเจิดกระเจิงไปจนหมดสิ้น มีแต่ไอ้ความรู้สึกร้อนผ่าวแปลกๆ เท่านั้นที่เข้ามาเกาะกินหัวใจ
หล่อนอยากให้ดินิย่าร์จูบ... บ้าชะมัดทำไมถึงมีความคิดนี้ขึ้นมาในสมองได้นะ มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่ มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ในเมื่อตอนนี้หล่อนอยู่ในคราบของเมซซี่ หนุ่มน้อยบอดีการ์ด ไม่ใช่เมลิน่าสาวน้อยสักหน่อย ไม่มีทางที่ดินิย่าร์จะจูบหล่อนได้ ไม่มีทางหรอก หญิงสาวสะบัดศีรษะของตัวเองและรีบเรียกสติสตังของตัวเองกลับคืนมาอย่างสุดความสามารถ
“ผม... ผมเข้าผิดห้องจริงๆ ฮะ”
“แกเป็นใครกันแน่เมซซี่...” น้ำเสียงลอดไรฟัน พร้อมๆ กับดวงตาสีเขียวที่ลุกเป็นไฟที่จ้องมองมาทำให้เมลิน่าแทบไหม้เกรียม
“นาย... นายหมายถึงอะไรกันฮะ” คนตอบหน้าซีดเผือด หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ใครส่งแกมา”
“ไม่... ไม่มีครับนาย ผม... ผม... ไม่ใช่...” แล้วร่างของหล่อนก็ถูกผลักแรงๆ จนล้มลงกับพื้นอย่างไม่ปรานี เมลิน่าเจ็บจนจุกแต่ก็ร้องอุทานออกไปไม่ได้
“ไม่มีใครส่งผมมาจริงๆ ครับนาย ได้โปรดเชื่อผมนะครับ”
ไม่มีวี่แววว่าจะเชื่อเลยในดวงตาของดินิย่าร์
“ไปโกหกกับยมบาลเถอะไอ้หน้าหวาน”
แล้วพ่อมาเฟียร้ายก็เดินกลับไปที่เตียงหยิบปืนด้ามเขื่องที่ลิ้นชักออกมาถือเอาไว้ และเดินกลับมาจ่อหัวของหล่อน
เมลิน่าตกใจแทบสิ้นสติ “นาย... ผม... ผมไม่ได้ทรยศอะไรจริงๆ นะฮะ ได้โปรด... อย่าฆ่าผมเลย...”
“ลุกขึ้นไอ้เมซซี่...”
หญิงสาวแทบจะกระโดดลุกขึ้นเลยทีเดียว ขณะมองเขาอย่างวิงวอน “นายฮะ ผม... ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับนายนะฮะ...”
“งั้นก็ตอบมาว่าแกเข้ามาในห้องของฉันทำไม”
“คือว่า ผม...”
“ถ้าตอบไม่ได้... ฉันเป่านายแน่”
ความเหี้ยมเกรียมบวกกับท่าทางของดินิย่าร์ทำให้เมลิน่าหวาดกลัวยิ่งนัก หล่อนจะต้องไม่ตาย อย่างน้อยๆ หล่อนก็ต้องกลับไปหาพ่อก่อน พ่อที่หล่อนไม่มีโอกาสติดต่อหาท่านมาเกือบสองเดือนแล้ว
“ผม... ผมเข้ามาเพราะ... เพราะนายครับ”
“เพราะฉัน...?”
คนตัวโตทวนคำตอบของหล่อนอย่างประหลาดใจ ขณะปืนสั้นสีดำเงาวับยังไม่ละไปจากศีรษะของหล่อนแม้แต่วินาทีเดียว
“ครับ... ผม... ผมรักนายฮะ...”
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เมลิน่าก็จำต้องโกหกออกไป โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปนั้นกำลังทำให้คนฟังถึงกับช็อกเลยทีเดียว
“รักฉัน...?!”
“ครับนาย ผมรักนาย...”
แล้วเมลิน่าก็แสดงบทบาทตามคำพูดของตัวเองด้วยการมองพ่อเทพบุตรสุดหล่อด้วยสายตาที่หวานหยาดเยิ้ม จากนั้นก็ขยับเข้าไปหา วางฝ่ามือน้อยๆ ลงกับแผงอกกว้างสีแทนนั้นอย่างจงใจทำให้เขารู้สึกไปตามคำพูดของหล่อน
“อยากกอดนายฮะ...”
ดินิย่าร์ยืนนิ่งราวกับถูกสาป ตอนนี้ไม่สามารถขยับกายได้เมื่อถูกไอ้หนุ่มหน้าหวานตรงหน้าสวมกอดอย่างแนบแน่น แต่แปลกชะมัด ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจ แถมยังรู้สึกอยากจะกอดตอบเสียด้วยซ้ำ
บ้าฉิบ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ แล้วชายหนุ่มก็กัดฟันผลักร่างของเมลิน่าในคราบของเมซซี่ออกไปจากกายด้วยท่าทางขยะแขยงชิงชัง
“ไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะไอ้ตุ๊ด แล้วอย่ามาเข้าใกล้ฉันอีก ไปสิ!”
ท่าทางขึงขังของดินิย่าร์ทำให้เมลิน่ารู้ทันทีเลยว่าตอนนี้ตัวเองรอดพ้นจากคมกระสุนปืนแล้ว หญิงสาวกัดฟันลุกขึ้นยืนและก็นึกสนุกที่จะแกล้งพ่อมาเฟียร้ายต่ออีกนิด
“ถ้านายเหงา... เรียกหาผมได้ทุกเวลานะฮะ”
“ไปให้พ้นหน้าฉันเลยไปไอ้เมซซี่”
เมลิน่าอมยิ้ม และเดินเข้าไปก้มลงเก็บกางเกงชั้นในของดินิย่าร์ขึ้นมาสูดดม
“ผมไปก็ได้ฮะ แต่ผมขอกางเกงในตัวนี้ของนายนะฮะ กลิ่นหอมดีผมชอบ...” พูดจบเมลิน่าก็รีบเผ่นแน่บออกไปจากห้องของดินิย่าร์ทันที
“ไอ้คนวิปริต ทุเรศชะมัด”
ดินิย่าร์กระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด และก็ชิงชังกับสิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งนัก
“คอยดูเถอะ ฉันไม่ปล่อยให้แกอยู่ในเซอร์คอฟนานนักหรอก”
ชายหนุ่มคิดอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินกลับไปทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอน และสมองอดนึกถึงความรู้สึกยามที่อยู่ในอ้อมแขนของไอ้บอดีการ์ดหน้าหวานไม่ได้ ตอนนั้นร่างกายนุ่มนิ่มไม่ผิดไปจากสตรีเพศของเมซซี่ทำให้เขารู้สึกไม่ต่างจากการถูกผู้หญิงกอดเลยแม้แต่นิดเดียว แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อมันคือผู้ชาย และไอ้คนที่ยืนมองเขาปานจะกลืนจะกินเข้าไปทั้งตัวมันก็คือผู้ชายทั้งแท่ง
บ้าชะมัด ทำไมจะต้องรู้สึกหวั่นไหวกับไอ้เมซซี่บรรลัยนั่นด้วยนะ ทำไมกัน?!