ร่างสูงก้มลอดผ่านช่องประตูเข้ามา กิมฮวนก้มหน้านิ่งแม้จะบอกว่าไม่ตื่นเต้นแต่การหลอกลวงเบื้องสูงหากถูกจับได้โทษตายยังน้อยไปด้วยซ้ำ
“นั่งรออยู่ในนี้เสียนาน กินอะไรบ้างหรือยัง”ผิดจากที่คาดการณ์ไว้ กลิ่นสุราหอมติดตัวของคนร่างสูงริมฝีปากยิ้มพึงใจ เขามองสบตาผ่านผ้าแพรบางเบากิมฮวนกลับหน้าแดงเมื่อมองเห็นสายตาที่เหมือนจะสื่อความหมายบางอย่างที่นี่ห้องหอยอมก็ช่างไม่ยอมก็ดี สิ่งเดียวที่ต้องทำคือ..มอบกายให้กับบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลาผู้นี้อย่างปฏิเสธไม่ได้
กิมฮวนไม่กล้าจะเอ่ยคำ ไม่ได้กลัวว่าเสียงจะห้าวหาญเกินหญิงใครๆ ก็ต่างรู้ดีว่าน้ำเสียงของกิมฮวน น่าเอ็นดูเพียงใด
“วันนี้ข้าเหนื่อยแล้ว”เดินมาหยุดตรงหน้าเอื้อมมือเปิดผ้าคลุมหน้า กิมฮวนยิ่งก้มหน้าทว่ามืออุ่นเชยคางขึ้นมาสบตากลมโต รอยยิ้มพึงใจปรากฏที่ใบหน้า หล่อเหลาราวเทพบุตรอีกครั้งแต่สายตาซ่อนแววตาซุกซน
“งดงามเกินกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก”ดวงตาจ้องมองสื่อความหมายบางอย่างที่จะปฏิเสธว่าไม่รู้ก็คงไม่ได้ กิมฮวน เสียวแปลบที่หน้าท้อง
ริมฝีปากอุ่นประทับลงที่ริมฝีปากสีแดงชาดสีแดงเปรอะเลอะไปทั่ว มิใช่แค่เพียงจูบแผ่วเบาหากแต่บดขยี้คล้ายดังหิวกระหายมานาน ผลักร่างบางลงบนแท่นนอนบดเบียดริมฝีปากเสียงหายใจสั่นกระเส่า
“เจ้ายินดีเป็นของข้าไหม”แม้จะเมามายทว่าบทจูบกับตั้งอกตั้งใจยิ่งเหมือนจะเชิญชวนและร้องขอให้ยอมเป็นของเขาเสียกิมฮวนไม่เคยต้องมือชายใดร่างกลับสั่นสะท้าน หากเอ่ยวาจาตอนนี้น้ำเสียงคงแปร่งปร่าจึงเลือกที่จะ
พยักหน้าขึ้นลงมือเย็นเฉียบใจเต้นระรัวแทบจะทะลุออกจากอก
“ปลดอาภรณ์ข้าออกสิ”มือเรียวบางของกิมฮวนปลดแกะอาภรณ์พร้อมกับอาการสั่น มืออุ่นรวบมือบางมาจุมพิต สะบัดมือจนเปลวไฟมอดดับลงทันที
“ ช่างน่าเอ็นดูจริงชายาข้า”กดเอวลงบนเอวบาง กิมฮวนสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ดีดตัวขึ้นมา
“ข้าจัดการกับอาภรณ์ของเจ้าเองดีกว่า”ดึงทึ้งเสื้อผ้าของกิมฮวนออกอย่างเร่งรีบ แม้จะปกปิดก็ไม่อาจกระทำ จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้เช่นนั้นเขาจะต้องรู้ว่ากิมฮวนไม่ได้เป็นอย่างที่เขาต้องการ ดิ้นรนทว่าซอกคอขาวกับถูกดูดเลียทั้งเสี่ยวซ่านเจ็บแปลบปะปนกันไป ร่างบางอ่อนระทวยใต้ร่างใหญ่แต่จะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้จะต้องรวบรวมความกล้าทั้งหมดตอนนี้
“ทะท่านอ๋องนอนนิ่งๆ ให้ข้า.. ปรนนิบัติจะดีกว่า”ผลักร่างสูงให้นอนหงายกับแท่นนอนกางขาขึ้นคร่อมเอวหนา ถลกชายกระโปรงดึงมือใหญ่สัมผัสบั้นท้ายงอนงาม กดเอวลงอย่างยากลำบากด้วยความบีบรัดคับแน่นน้ำอุ่นๆ เหนียวเหนอะไหลออกจากช่องแคบ โยกขยับกายไปมาช้าๆ ทั้งๆ ที่กัดฟันข่มความเจ็บปวดแสนสาหัส ในครั้งแรกมักจะเจ็บปวดเสมอ ร่องแคบเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวทว่ากับรู้สึกเป็นสุข ขย่มเอวบางขึ้นลงอีกคนขย้ำบั้นท้ายตรึงไว้กับเอวหนา ใบหน้าหล่อเหลาอ้าปากค้างเลิกคิ้วสูงด้วยความประหลาดใจก่อนจะส่งเสียงร้องครางด้วยความสุขสม
มืออุ่นคว้าที่หน้าอกแบนราบตั้งจะบีบเคล้นเพิ่มความกระสันก่อนจะขมวดคิ้วผุดลุกขึ้น ในท่าคุกเข่าสะบัดมือให้เปลวไฟลุกโชติช่วง
“เจ้า” ผลักร่างบางเปลือยเปล่าของกิมฮวนทรุดลงไปกองกับพื้นเจ็บปวดไปทั่ว
“กล้าหลอกลวงข้าหรือ”กิมฮวนก้มหน้าเหมือนโลกกำลังจะพังทลายลงในตอนนี้ ทว่าร่างสูง กับดึงเอวบางเข้าหา แม้จะพยายามหนี กระแทกเอวใหญ่เข้าใส่อย่างแรงอย่างไม่ปรานีปราศรัย
“โอ๊ยเจ็บ ท่านอ๋องได้โปรด”น้ำตาไหลพราก กิมฮวนพลาดแล้วทั้งๆ ที่เตรียมใจว่าต้องแก้ไขสถานการณ์ได้แต่กลับตาลปัตร โง่งมเสียจริงบุรุษใดบ้างจะไม่รู้ว่า หญิงหรือชายยามนอนร่วมกันบนแท่นนอนกิมฮวนโง่งมเองที่ยอมใจอ่อนเห็นแก่บิดาแอบอ้างเข้ามาให้อ๋องไป๋กวานจับได้ในคืนแรกความเจ็บปวดที่โถมเข้าใส่พร้อมกลับร่างกำยำที่ไม่ปรานีเป็นเพราะความกระสันและอารมณ์ครุกรุ่นที่ผสมปนเป
“ได้โปรดหรือ เห็นได้ชัดว่าเจ้ากล้าหลอกลวงข้าใครให้เจ้ามา บอกมา ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาชีวิตเจ้าเสีย” ร่างบางสะท้อนขึ้นลง เจ็บจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เอวหนายังกระแทกซ้ำๆๆ จนสุดแรง แต่ละครั้งที่กระแทกเอวหนาลงไปกิมฮวนจุกจนแทบจะสำลัก อีกทั้งยังรู้สึกถึงบางอย่างที่ฉีกขาดด้วยความคับแน่นเป็นทุนเดิม
จะทำอย่างไรได้ในมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วทางเดียวที่จะรอดคือบอกความจริงไปเสีย
“ข้าน้อยคือกิมฮวน เป็น..เป็นน้องชายของพี่สาวเจียจิว”ร่างใหญ่ยังยิ้ม กระแทกเอวจนร่างเล็กแทบจะกระดอนไปข้างหน้า หากไม่ติดที่เอวบางถูกรั้งไว้ด้วยมือใหญ่ที่ดึงเอวเข้าหาพร้อมกับจังหวะกระแทกแรงๆ ไปพร้อมกันเขาสุขสมทว่ากิมฮวนเจ็บปวดแสนสาหัส
“ดี ข้าจะถือว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นโมฆะเจ้าต่อแต่นี้เป็นแค่ชายาบำเรอของข้าส่วน เจียจิวตัวจริงคนนั้นอย่างไรก็จะต้องมาเป็นเมียข้าให้จงได้ในข้อหาหลอกลวงข้า”
เอวหนากระแทกลงซ้ำๆ วนๆ จน กิมฮวนฟุบหน้าลงกับพื้นปล่อยน้ำตาไหลรินด้วยความเจ็บปวด ร่างสูงฟุบลงบนแผ่นหลังลิ้นอุ่นยังเลียเล็มบนหลังเนียนละเอียด กิมฮวนรู้สึกถึงบางอย่างที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ไป๋กวานดึงร่างบางกระแทกเอวเข้าใส่ไม่หยุด ไม่สนใจว่าร่างบางในอ้อมแขนจะเจ็บปวดแทบทนไม่ไหว กัดฟันข่มความเจ็บปวด กิมฮวนฟุบหน้าลงบนแท่นนอนหมดสติไปแล้วด้วยความเจ็บปวดที่แทบจะทนไม่ไหว
“ดีสมน้ำหน้า หลอกลวงข้าคิดว่าข้าโง่งมหรือไร สะบัดกายลุกขึ้นยืน ร่างเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ดึงเสื้อคลุมมาสวมทับร่างเปลือย
“จือไช้เข้ามานี่” ดึงผ้าห่มคลุมร่างเปลือยของกิมฮวนที่ไร้สติ จือไช้ประสานมือตรงหน้า
“ท่านอ๋อง”ไม่กล้าเหลือบตามองร่างบางที่นอนหมดสติบนแท่นนอนสีแดงพร้อมรอยเลือดสีแดงที่สีเข้มกว่า มองเห็นเป็นด่างดวง
“ส่งคนตามหาเจียจิว ลากนางกลับมา คลุมตัวใต้เท้าถังข้อหาหลอกลวงเบื้องสูง”
“ท่านอ๋องแล้วแม่นางคนนี้”
“555แม่นางอย่างนั้นหรือ 5555เขาเป็นชายาบำเรอของข้า ข้อหาร่วมกันหลอกลวงข้า”
ส่งเสียงหัวเราะเยือกเย็น จื่อไช้ประสานมือออกจากห้องไป
ไป๋กวานถลกผ้าห่มออก ดึงร่างบางของกิมฮวนให้หงายหน้าขึ้นมากดริมฝีปากที่ปากอวบอิ่มบดเบียดรุนแรง อย่างกักขฬะก่อนจะผลักร่างบางให้หงายหลังลงบนแท่นนอน กิมฮวนหมดเรี่ยวแรงไม่อาจขยับกายเจ็บปวดไปทั่วร่าง น้ำตาที่ไหลเหมือนเขื่อนแตกเริ่มไหลรินอีกครั้ง
“ต่อไปเจ้าคือชายาบำเรอของข้า จำใส่ใจไว้”ดึงร่างบางมากะซิบข้างหูเบาๆ