“แย่มากครับ” นายเพิบรับ สีหน้าขบขัน “นี่ครั้งแรกเลยแหละครับ ที่คุณกัณห์เมาหนักแบบนี้”
“เรียกว่าเมาไม่เป็นสับปะรดหมาเลยใช่มั้ย”
“ใช่ เอ้อ… แหม คุณแจ้ก็ ถามอะไรผมอย่างนั้นก็ไม่รู้ แต่ก็เห็นจะจริง”
ปัญจมาหัวเราะคิก เคลื่อนร่างเข้าไปใกล้ร่างสูงที่นายเพิบพยายามจะหิ้วปีกไว้สุดความสามารถ
“มา แจ้ช่วย เอาเข้าไปในห้องหนังสือเถอะ ให้นอนที่โซฟาสักคืน ขืนหอบขึ้นบันได มีหวังเราสองคนพลอยกลิ้งตกลงมาด้วยแน่ๆ ตัวโตอย่างกับยักษ์ออกอย่างนี้”
“คราย…ที่หนาย…ย้ากษ์ ม่าย-ม่า…ย ต้อง-ยุ่ง เธอเป็นคราย…เอื้อก!”
“เห็นจะต้องยุ่งล่ะค่ะ นี่!” ปัญจมาดุ “อยู่นิ่งๆ สิคะ แล้วก็ช่วยก้าวขาด้วย”
“ก้าวขา...เหรอ ทำ... งาย เอ่เอ๊…หลานแจ้...คนส-ว-ยน่ะเอง นึกว่า ครา…ย”
“ท่าจะเหล้าพูด น้าเพิบ อย่าไปฟังเลย”
ปัญจมาออกตัวเขินๆ เมื่อเห็นนายเพิบปากสั่นเพราะกลั้นหัวเราะ
ตาปรือเบิกขึ้นสุดความสามารถ แล้วคนเมาชนิดไม่เป็นสับปะรดหมา อย่างที่หล่อนพูดกับนายเพิบ ก็ทำท่าว่าจะจำได้ขึ้นมา
“ทำม-า-ย ไม่พากันปาย-ห-ลั-บปาย-นอนล่ะ”
พอสติรับรู้ในความเป็นจริงเริ่มกลับมาครึ่งๆกลางๆ ก็เกิดจะสงสัยเสียอีก
ปัญจมาค้อน พูดเสียงดุ
“อยากหลับเหมือนกันแหละค่ะ ถ้าไม่มีคนมาส่งเสียงหนวกหูให้ต้องลุกขึ้นมาดู”
“คร้าย…คราย มันทำเสียงหนวกหูหลาน-แจ้ของอา-กานนน เอื๊อก! ปาย...ไล่มันปายเล๊ย!” พูดไม่พูดเปล่ายังกวัดไกวทั้งมือทั้งตัวที่ทรงตัวเองก็แทบไม่อยู่
นายเพิบหัวเราะออกมาพรืดหนึ่ง คงจะขันนายหนุ่มเอามากๆ
“ก็ว่าจะไล่อยู่เหมือนกัน” ปัญจมาตอบ “อากัณห์เดินดีๆ สิคะ ทำตัวเอนไปเอนมาแบบนี้ เดี๋ยวได้ล้มวัดพื้นกันทั้งสามคนนี่หรอก”
“เดินดี...ดี?” เสียงอ้อแอ้ยังบอกความสงสัย “เป็น งา…ย เดินดีๆ แล้ว-วัดทำมายยพื้น”
นายเพิบทำเสียงขลุกขลักในคอ อย่างคนพยายามกลั้นหัวร่อ ปัญจมาเองก็ทั้งฉุนทั้งขัน ที่สุดก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“คุณกัณห์นี่เมาอร่อยจริงๆครับ” นายเพิบพูด ขณะช่วยหญิงสาวพยุงนายหนุ่ม เข้าห้องหนังสือ
“อย่างนี้มันน่าถ่ายคลิปไว้เปิดประจาน” ปัญจมาเข่นเขี้ยว
นายเพิบหัวเราะ เขาลดตัวชายหนุ่มให้นั่งลงบนโซฟาตัวยาวสามารถปรับราบดัดแปลงเป็นเตียงนอนได้
“คุณแจ้ขึ้นไปนอนเถอะครับ”
“น้าเพิบล่ะ”
“ผมก็จะไปนอนเหมือนกัน แต่ขอเช็ดเนื้อเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อกางเกงให้คุณกัณห์ก่อน จะได้นอนสบายๆ คงไปตื่นเอาเที่ยง หรือบ่ายโน่นแหละครับ คนไม่เคยเมาหนักขนาดนี้”
“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้น้าเพิบช่วยสั่งคนในบ้านด้วยละกัน ว่าอย่ามาวุ่นวายในห้องนี้จนกว่าจะเห็นคุณกัณห์ออกจากห้อง”
“ได้ครับ คุณแจ้ไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องห่วง”
“ตกลง น้าเพิบจะนอนเฝ้าหรือเปล่า”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมรับประกัน สภาพแบบนี้หลับยาวไปตื่นเอาเที่ยงๆ นั่นแหละ พอรู้สึกตัวก็คงปวดหัวแทบแตก”
“อะไรกัน รุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือน้าเพิบ แค่เมาเหล้าเนี่ยนะ?”
“ครับ แต่ผมรู้จักวิธีแก้ อย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบา สำหรับคนเมาค้าง”
ปัญจมากลับขึ้นห้อง พยายามจะข่มตาหลับ แต่ก็ไม่หลับ อากาศยามดึกออกจะเย็น ทำให้ออกเป็นห่วงคนเมา ว่าจะหนาวหากนายเพิบลืมห่มผ้าให้
หล่อนลงจากเตียงอีกครั้ง หยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมทับชุดนอนก่อนออกจากห้อง
คนเมาหลับสนิทบนโซฟายาวถูกปรับเป็นเตียงนอนชั่วคราว
แต่ที่ทำเอาจังงัง ก็คือนายเพิบถอดเสื้อผ้าให้นายก็จริง แต่ไม่ได้สวมชุดนอนให้ บนเรือนกายล่ำสันมีเพียงกางเกงในสีขาวกระชับตะโพกเพรียวอยู่เพียงตัวเดียว
กระทั่งละสายตาจากแผ่นอกกว้างตึงด้วยกล้ามใต้ผิวเรียบสีน้ำตาลอ่อน บริเวณกลางอกมีขนสีน้ำตาลขึ้นประปรายเป็นแนวสอบยาวลงมาหาเอว หายลับเข้าไปในขอบเอวกางเกงใน ได้แล้วนั่นแหละ จึงสังเกตเห็นว่าบนเก้าอี้ห่างออกไปมีชุดนอนปาจามา กับเสื้อคลุมผ้าแพรสีน้ำเงินเข้มพาดเอาไว้
แปลว่านายเพิบคงพยายามแล้วที่จะสวมชุดนอนให้นายแต่ถูกปฏิเสธ
เมื่อดึงสายตากลับมาที่โซฟาเบด ก็พบผ้านวมผืนเล็กกองบนพื้น
สรุปว่านายเพิบไม่ได้ทำหน้าที่บกพร่องหรอก พอนายไม่ยอมสวมใส่ชุดนอน คงไปเอาผ้ามาห่มให้กลัวนายหนาว เพราะในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้
แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์คงทำให้คนเมาร้อน ผ่าห่มถึงได้ระเห็จลงมากองอยู่บนพื้นแทนที่จะบนกายเหยียดยาว
ปัญจมาจุปาก เดินเข้าไปหยิบผ้านวมขึ้นมาคลี่ห่มลงไปบนร่างล่ำสัน
แต่ทันทีที่มีสิ่งแปลกปลอมโปะลงบนตัว ก็มีเสียงฮื้อฮ้าขัดใจ แล้วผ้านวมก็มีอันหล่นร่วงลงมากองอยู่บนพื้นข้างโซฟาอีกครั้ง
ปัญจมาเท้าสะเอว ทำเสียงจิ๊กจั๊ก หล่อนก้มลงหยิบผ้าห่มที่ถูกปัดทิ้ง แต่พอเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมก็ถึงเบิกโพลง
มือสีน้ำตาลจางประกอบด้วยนิ้วเรียวยาว กำลังจัดแจงรูดปราการด่านสุดท้ายลงไปตามสะโพกสอบ เปิดเปลือยสัญลักษณ์บ่งบอกความเป็นเพศชายเต็มม่านตาสาวสิบแปด
ถ้าไม่มัวแต่ตกตะลึง หรือเพียงแต่มือไม้จะไม่แข็งชาไปชั่วขณะใหญ่ๆ บางทีอาจจะพอยับยั้งการปลดเปลื้องอาภรณ์ตัวน้อยชิ้นสุดท้ายของชายหนุ่มได้ทัน
แต่เพราะมัวยืนปากคอแห้งผาก แขนขาชาดิก กางเกงในผ้าฝ้ายเนื้อดีสีขาว จึงมีอันถูกสลัดพ้นปลายเท้าไปเป็นที่เรียบร้อย