หน่อเนื้อบุรุษยามเดินหน้าถอยหลัง หมุนวน ราวจะให้หล่อนสัมผัสในความแข็งแกร่งของส่วนสำคัญ ทุกครั้งที่บดเบียดเสียดคลึง คือนรกและสวรรค์สำหรับม่ายสาวผู้ชื่นชอบในเกมกามเป็นชีวิตจิตใจ
วัลปรีย์เกือบจะขุ่นเคืองใจ เมื่อนาทีที่หล่อนร่ำๆ จะขึ้นสู่จุดยอดของความสุขสมใกล้เข้ามาทุกขณะ ร่างแกร่งที่กระหน่ำเรี่ยวแรงใส่หล่อนอย่างไม่กลัวว่ากายหล่อนจะชอกช้ำฉีกขาด ก็หยุดกึก
“อยากทำเองมั่งมั้ย”
เสียงห้าว หอบ ถาม
ไม่ต้องแปลความ ไม่ต้องหยุดคิดให้เสียเวลา แค่มองตาก็เข้าใจ
อกัณห์พลิกทั้งตัวเองและร่างม่ายสาวสลับที่กัน โดยที่หน่อเนื้อยังสอดลึกในแก่นกายหญิง
ทันทีที่กลับตัวขึ้นบนกายแกร่ง จัดท่าร่างให้เหมาะเหม็ง ม่ายสาวก็ขยับโยกควบขี่ดุ้นเดือยใหญ่กว่าแขนทารกทันที
แม้ตนจะเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะ ควบคุมความตื้นลึกว่าจะให้ความยาวใหญ่พุ่งผงาดจากหน้าขาชายหนุ่ม เข้าสู่เป้าหมายได้แค่ไหน ความทรมานจากความเสียวก็ยังไม่ผ่อนคลายลง
ยิ่งเมื่อมือหนายื่นมาคลึงเคล้นอกอวบที่กำลังกระเด้งกระดอนขึ้นๆ ลงๆ ตามแรงจังหวะกายขยับ สลับบีบบี้ สะกิดสะเกาจะงอยยอด ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก ไม่ถึงกับขาดใจ แต่ลมหายใจก็ติดขัดไปหมด จนต้องอ้าปากช่วยหายใจ ปล่อยเสียงครางลดความเสียวซ่านอันเป็นที่มาของความคับข้องจุกอก
อกัณห์รู้ว่าหญิงสาวกำลังจะแตะขอบสวรรค์ เมื่อหล่อนเปลี่ยนจากการยกสะโพกขึ้นๆ ลงๆ กระหน่ำท่อนลำแข็งโด่ของเขาอย่างไม่ปรานี เป็นส่ายสะโพกอวบให้เนินอูมเบียดเสียดกับโหนกของเขาแทน
แต่แทนที่จะตามใจหล่อน ให้หล่อนเสร็จสมไปอย่างใจต้องการในท่านั้น เขาเลื่อนมือลงกุมสะโพกผายไว้มั่น จากนั้นก็เด้งบั้นท้ายแรงๆ ให้ร่างอวบขาวกระเด้งกระดอนขึ้นๆ ลงๆ
“อ๊า...อ๊า...ไม่ไห....ว... ไม่ไหว...แล้ว...”
สิ้นเสียงครวญคราง หน้าแหงนเริด ตัวแอ่นเกร็ง โคนขาอวบบีบรัดสีข้างเขาแน่นเข้าอย่างลืมตัวทั้งที่เขาเด้งสะโพกไม่หยุด ร่างขาวโพลนก็ฟุบลงแนบร่างเขา
อกัณห์ไม่ให้เวลาฟื้นตัวแก่ร่างอวบอิ่ม ไม่นำพาว่าม่ายสาวอาจจะอยากปล่อยตัวเองจมจ่อมอยู่ในห้วงความสุขนั้นต่อไปอีก เพราะรู้ว่าตนสามารถทำให้อีกฝ่ายฟื้นตัว ขึ้นมารับความสุขสุดยอดที่เขาจะมอบอีกครั้งได้ไม่ยาก
ไม่กี่นาทีจริงๆ เสียงครางกระเส่าเร่าร้อน ร้องบอกให้เขาช่วยส่งขึ้นสวรรค์ ก็ดังมาจากร่างที่อยู่ในท่าคลาน บั้นท้ายอวบแอ่นให้เขากระหน่ำท่อนลำแข็งโป๊กที่คงจะแข็งไปได้อีกไม่นาน
“ซี้ดดดด...กัณห์ขา! อูว์...อูย......ปรีย์จะ...เสร็จอีกแล้ว เร็วค่ะ แรงอีก...แรงอีก!”
เขาจัดให้ตามคำขอกระแทกโค่นลำสู่เนินอวบอย่างไม่คิดจะยั้งเรี่ยวแรงอีกต่อไป
เสียงดัง ผับ! ผับ! เร็วแรงถี่ยิบนับจังหวะไม่ทัน
เสียงหวีดร้องบอกความสุขสมถึงขีดสุดของม่ายสาว ไม่ได้ทำให้จังหวะสอดแทรกเข้าๆ ออกๆ ของท่อนกำยำแกร่งเกร็งชะงัก หากกลับเร่งกระแทกกระทั้นเร็วรี่ยิ่งขึ้น
ปากได้รูปงามอย่างชายห่อพ่นลม มือหนาบีบโค้งสะอวบผายแน่นเกือบจะเป็นจิกนิ้วลงกับเนื้อนุ่ม
แรงส่งดุ้นเดือยเข้า ๆ ออก ๆ ในช่องทางเยิ้มน้ำรักถี่ยิบ ส่งให้ม่ายสาวสุขสมต่อเนื่อง
จากประสบการณ์ อกัณห์รู้ดี อีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าเขาจะตามม่ายคนสวยขึ้นสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ทว่าชั่ววิบตาที่เปลือกตาเขาบีบแน่นเข้าหากัน ใบหน้าบิดเบ้ด้วยความเสียว แทนที่จะเจอกับม่านหมอกขาวโพลน เมื่อวาระปลดปล่อยมาถึง เขากลับเห็นภาพเด็กสาวในปกครองมองมาอย่างตัดพ้อ
ร่างแกร่งพร้อมกระตุกแอ่นเพื่อปลดปล่อยความเครียด แข็งค้าง
การเคลื่อนไหวในจังหวะสุดท้ายชะงักกึกกลางคัน เปลือกตาที่บีบแน่นเข้าหากัน ลืมโพลงขับไล่ม่านหมอกขาวที่กำลังล่องลอยอ้อยอิ่งเข้ามาใกล้หายไปในวิบตา
ท่อนลำยังเหยียดเกร็งแข็งขึง เมื่อการปลดปล่อยถูกสกัดกลั้นโดยปัจจุบันทันด่วนด้วยอารมณ์ความรู้สึกชนิดหนึ่งของผู้เป็นเจ้าของ
อารมณ์... ที่ชายหนุ่มบอกออกมาไม่ได้ อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่าเสี้ยววินาทีที่ภาพเด็กสาวในปกครองปรากฏในมโนภาพ อารมณ์ใคร่ของเขาก็แห้งเหือดฉับพลัน
กรามแข็งแรงสองข้างถูกบดเข้าหากัน คำรามในใจอย่างโกรธๆ ขณะถอดถอนหน่อเนื้อบุรุษที่ค่อยๆอ่อนตัวลงอย่างช้าๆ จากช่องทางฉ่ำแฉะโดยไร้การปลดปล่อย
‘เด็กบ้า! จะตามรังควานกันไปถึงไหนนะ!’
ปัญจมาไม่คิดว่าหล่อนตื่นขึ้นมาเอง แต่ตื่นเพราะมีบางอย่าง หรือเสียงอะไรชนิดหนึ่ง ปลุกหล่อนจากการหลับลึก
เงี่ยหูฟังครู่ใหญ่ก็จับได้ว่าดังมาจากข้างล่าง หล่อนนิ่วหน้า คิดว่าถ้าเป็นขโมยคงไม่ส่งเสียงดัง
ภาพที่เห็นเมื่อลงมาข้างล่าง คือเจ้าของบ้านกลับเข้ามาในสภาพเมามายครองสติไม่อยู่ มีนายเพิบคนสนิทคอยประคับประคอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเดินได้ไม่ตรงทาง
นายเพิบเห็นปัญจมาลงบันไดมาก็ยิ้มแหย แม้ว่าจะมีท่าทีโล่งใจที่จะมีคนมาช่วย
“ทำไมเป็นแบบนี้ได้ล่ะ น้าเพิบ หรืองานเลี้ยงคืนนี้เหล้าที่เขานำมาเลี้ยงอร่อยเป็นพิเศษ เจ้านายของน้าเพิบเลยฉลองเสียเต็มคราบ”
“ไม่ได้กินมาจากในงานหรอกครับ”
“อ้าว? งั้นไปเมามาจากไหน”
“ให้ผมพาแวะที่คลับแห่งหนึ่ง พวกพนักงานแทบจะพากันหิ้วปีกออกมาส่งที่รถ ดีว่าไม่เจอนักข่าว ไม่อย่างนั้นมีหวังพรุ่งนี้ได้ขึ้นหน้าหนึ่ง เมาไม่เมาเปล่ายังจะอาละวาดเสียอีกแน่ะ ผมแทบจนปัญญากว่าจะพากลับได้ กลัวอยู่ว่าอีตอนขับรถมานี้จะมีการกระโดดลงจากรถ”
“แย่!” ปัญจมาย่นจมูก ส่ายหน้ากับสภาพผมเผ้ายุ่ง เสื้อแสงยับย่นแทบจะดูไม่ได้ของชายหนุ่มเบื้องหน้า
ดวงตาที่เคยดูเข้มและคม ปรือปรอยจะปิดไม่ปิดแหล่ แม้เจ้าของจะพยายามให้เปิดกว้าง
หน้าคมสันแดงก่ำ เหงื่อซึมอยู่รอบกรอบดวงหน้า