อารยาร้องไห้อย่างหนัก มือข้างหนึ่งของเขากดลงกลางแผลเต็มแรง อาจเพราะความโกรธกำลังครอบงำ เขาจึงมองไม่เห็นว่าสัมผัสโดนผ้าพันแผล หล่อนเจ็บ แต่พยายามกัดฟันไว้ไม่ยอมเปล่งเสียง หรือขอร้องเขาให้ปล่อย
“ถามจริงเถอะนะ เงินที่ฉันให้ไปมันไม่พอใช้เหรออาย ตอบมาสิ จะมัวแต่ร้องไห้ทำไม!” ได้ยินน้ำส้มพูดว่าเพื่อนในสาขาหลายคนทำไซด์ไลน์เหมือนกัน ยกตัวอย่างชื่ออารยามาด้วย เขาไม่เชื่อไม่สนใจจะฟังเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยเห็นหล่อนคุยหรือคบกับผู้ชายคนไหน แต่มาวันนี้เขากลับเห็นหล่อนขึ้นรถไปพร้อมผู้ชาย มันแทบจะโอบเอวหล่อนเดินกลางมหาลัยด้วยซ้ำ
“อาย!” คำรามลั่นห้อง ถามไปขนาดนั้นแล้วอารยาไม่ยอมตอบอะไรร้องไห้อยู่ได้ เขาโกรธมาก ฟิวขาดจริงๆ จึงเลือกจะจูบปิดเสียงร้องไห้ แนบริมฝีปากกระด้างลงประชิดกลืนกินกลีบปากนุ่มทีละส่วน ขบเม้มหนักหน่วงมากขึ้นทุกครั้งที่คนใต้ร่างพยายามขัดขืน เขาขยับอุ้งมือลงมาตรึงบนข้อมือบางและปล่อยข้างหนึ่งออกมาสอดเข้าใต้ศีรษะเล็ก บีบให้เอียงองศาตามการจุมพิต
หลายครั้งที่หล่อนพยายามจะกัดทว่าภีมพลรู้ทัน ไม่ยอมเป็นฝ่ายเจ็บตัว เขาใช้ประสบการณ์ที่เหนือกว่าทำให้หล่อนยอมคล้อยตาม กระทั่งเจ้าของร่างเผลอตัวเปิดปากให้จุ่มจ้วงปลายลิ้นเข้าไปเกาะเกี่ยว มอบจุมพิตแสนหวานและเร่ารอนให้เป็นการตอบแทน เสียงจูบดังจุ๊บจิ๊บตลอดเวลา
อารยาเจ็บไปทั่วทั้งร่างกายพยายามยกมือข้างที่เจ็บมาผลักอกกว้างออก เขาที่เมามันอยู่กับการจูบไม่สนใจเรี่ยวแรงเท่ามดเลยสักนิด ปากจูบ มือล้วงกายอรชรไปถึงไหนต่อไหน แม้กระทั่งทรวงอกทั้งสองเขาก็ถือวิสาสะเลื่อนเข้าใต้เสื้อนักศึกษาไปจับพร้อมกับออกแรงบีบเคล้นขย้ำหนักมือ
จนกระทั่งมีเสียงคนคุยกันสะท้อนเข้ามาใกล้หน้าห้องขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงยอมถอนริมฝีปากออก แต่มือข้างนั้นยังวางอยู่ที่เดิม สายตาคมกริบมองเร็วออกไปทางประตูแว็บเดียวเท่านั้นสองสาวเจ้าของเสียงก็เดินผ่านมา และสายตาทั้งสองคู่ก็มองเข้ามาภายในห้องพักนี้เช่นเดียวกันจึงประสานกันแว็บหนึ่ง
สองสาวสะดุ้ง ตกใจตาแทบถลนออกมาจากเบ้า รีบไขกุญแจเข้าไปในห้องฝั่งตรงข้ามทันที จะมีอะไรกันทำไมถึงไม่ยอมปิดประตูก่อนนะ!
เมื่อไร้สายตาคนแปลกหน้าภีมพลหันกลับมามองอารยาอีกครั้ง เพิ่งจะสังเกตก็ตอนนี้ว่าดวงหน้าหล่อนมอมแมมเต็มไปด้วยคราบน้ำตามากแค่ไหน ปากหล่อนสั่นเทิ้มพอๆ กับร่างกาย เสียงสะอื้นร่ำไห้เล็ดลอดออกจากปากจิ้มลิ้ม มันบวมเป่งขึ้นจากแรงจูบ ตามขอบปากมีรอยแดงจากแรงเสียดสีของหนวด เขาตกใจที่ได้เห็นสภาพร่างแน่งน้อยแหลกละเอียดอยู่ใต้ร่างชัดๆ
ภีมพลดึงมืออีกข้างออกจากอกอวบ ก้าวถอยหลังลงจากเตียงเดินไปปิดประตู หันกลับมาอีกทีอารยากำลังดึงกระโปรงให้ปิดไม่ให้เห็นกางเกงชั้นใน และกำลังดึงผ้าห่มมาห่อคลุมร่างกายไว้ไม่ให้เขาเห็นอะไรไปมากกว่านี้
“ฮือ…” เสียงร้องไห้นั้นหดหู่เหลือเกิน ภีมพลยืนมองอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน กำลังจะตัดใจเดินออกไปแล้วถ้าไม่บังเอิญมองไปเห็นเศษผ้าสีขาวเปื้อนเลือดตกอยู่ขอบเตียง เขาย่างสามขุมเข้ามาเพ่งมองใกล้ๆ ว่ามันคืออะไร
นี่มัน… เศษผ้าพันแผลเปื้อนเลือดนี่นา อารยาเป็นอะไร
“อายมีแผลตรงไหน ทำไมผ้าผืนนี้ถึงเปื้อนเลือด”
“อาภีมกลับไปเถอะค่ะ ไม่ต้องมายุ่งกับอาย…” หล่อนตอบโดยที่ไม่กล้ามองหน้าภีมพลด้วยซ้ำ ร่างกายยังไม่หายสั่นมาจนถึงตอนนี้ หวาดกลัวการคุกคามทางเพศจากชายที่มีพละกำลังเหนือกว่า มีศักดิ์เป็นเจ้าหนี้ของตน
“ไม่เข้าใจคำถามหรือไง! ตอบมาคำเดียวก็จบแล้ว!”
เสียงตวาดจากเขามันดังก้องไปทั้งชั้น อารยากลัวจนโรยตัวจากเตียงลงมานั่งข้างล่าง ใช้ผ้าห่มห่อกายไว้ให้ห่างจากเขามากขึ้น กลัวจะถูกเขาตบ ตี หรือทำร้ายให้เจ็บปวดอีก ตั้งแต่เล็กจนโตเห็นเขามาตลอดจึงมองเขาเป็นบ้าน เป็นที่พึ่งพิง เมื่อเขาขับไล่ไม่ให้ความอบอุ่นหรือความปลอดภัยใดๆ อารยาจึงมีปฏิกิริยาต่อต้าน