ตอนที่ 4 (1)

1110 คำ
เจ้าของโรงแรมมีสีหน้าเคร่งเครียดยกมือขึ้นกอดอกเอนหลังพิงเก้าอี้นวม เด็กดื้อไม่ยอมรับสายเขามาสามวันสามคืนแล้ว ตกลงกันว่าจะไปทำความสะอาดคอนโดให้ก็ไม่มีแม้แต่เงา สงสัยคราวนี้จะโกรธจริงแฮะ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรงขนาดนั้นสักหน่อย แค่สงสาร ไม่อยากให้ต้องทำงานพิเศษหลายอย่างเพื่อหาเงินมาซื้อของขวัญวันเกิดให้เขา หรือว่าที่ทำไปจะร้ายแรงมากเกินไปอารยาถึงโกรธมากขนาดนี้ ปกติเด็กน้อยของเขาโกรธไม่ถึงวันก็หายแล้ว ภีมพลหน้านิ่วคิ้วขมวด จมอยู่ในภวังค์ความคิดนานจึงไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู และเสียงเลขานุการเดินเข้ามา แนนชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นเจ้านายนั่งนิ่งราวกับกำลังทำสมาธิ สายตาจดจ้องมองไปมองอะไรก็ไม่รู้แหละ มุมห้องก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรให้มอง ยกเว้นถังขยะน่ะนะ แต่คิดว่าเจ้านายคงไม่เหม่อมองขยะในถังหรอกมั้ง “ขออนุญาตค่ะคุณภีม แนนมีเอกสารมาให้เซ็นค่ะ” บอกพลางวางแฟ้มงานลงบนโต๊ะ ทว่าภีมพลยังนิ่งเฉย แนนจึงเรียกซ้ำ “คุณภีมคะ เอกสารค่ะ!” “ครับ เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ” เพิ่งจะคืนสติหมุนเก้าอี้กลับมามองคนเรียก ศีรษะเขาปวดหนึบๆ เริ่มจะเบลอแล้วเผลอเห็นหน้าเลขาเป็นอารยา ต้องสะบัดศีรษะสองทีถึงลบใบหน้าแสนหวาน แสนงอนของเด็กคนนั้นออกไปได้ หลอกหลอนเขามาสามวันสามคืนทั้งที่บ้านที่ทำงาน ร้ายจริงๆ นะหนูอาย “เอกสารความคืบหน้าโครงการรีสอร์ตที่เกาะเต่าค่ะ ทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างส่งมาให้ตรวจสอบ และขอคอนเฟิร์มวันเดินทางไปตรวจงานค่ะ” เลขาสาวมีบุคลิกการวางตัวที่ดี ก้าวเท้าเข้ามาชิดโต๊ะเล็กน้อยเพื่อเปิดแฟ้มงาน ทว่าภีมพลเพียงปรายสายตามองมาเท่านั้น ไม่ได้สนใจจะรับมาอ่านเลยสักนิด “วางทิ้งไว้ก่อนแล้วกัน ผมปวดหัวนิดหน่อย” “รับยาพาราสักเม็ดไหมคะ” “ก็ดี ขอบคุณครับ” ส่งยิ้ม แบบไม่เต็มใจยิ้ม แต่เมื่อเลขาจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ ภีมพลกลับเป็นฝ่ายรั้งไว้ อึกอัก จะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูด เลขาสาวเลิกคิ้วขึ้นสูงรอฟังใจจดใจจ่อ เขาควงมือกลางอากาศพยายามจะใช้มือช่วยอธิบาย “คุณ… อยากได้เลขาผู้ช่วยไหม มาช่วยทำงานเกี่ยวกับด้านเอกสาร พิมพ์งาน จัดตารางงาน ดูแลผมอะไรประมาณนั้น อยากได้ลูกมือไหม” สัปดาห์ก่อนได้ยินพนักงานเม้าท์กันว่าเจ้าของโรงแรมลงไปถึงแผนกเฮชอาร์ด้วยตัวเอง เห็นทีคงจะจริงล่ะมั้ง สาวสวยก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนรอยยิ้ม เกรงว่ารอยยิ้มของตนจะทำให้เจ้านายเขิน อาย หรืออาจจะเสียฟอร์มเล็กน้อย เพราะที่จริงแล้ว เจ้าของโรงแรมไม่จำเป็นต้องถามเลขาแม้แต่น้อย “พนักงานประจำ หรือนักศึกษาฝึกงานคะ” ซ่อนรอยยิ้มไว้อย่างแนบเนียน ถามต่อตามมารยาท แม้ในใจทั้งสองต่างรู้ดีว่าหมายถึงใคร “ก็ เอ่อ… ได้ทั้งสองนั่นแหละ” ยกไหล่เหมือนไม่แคร์ “ดีค่ะ แนนกำลังต้องการอยู่เหมือนกันแต่ไม่กล้าขอคุณภีม ออกจากห้องนี้แนนจะไปลงประกาศรับนักศึกษาฝึกงาน จะให้เบี้ยเลี้ยงเท่าไหร่ดีคะ” “เสนอให้ตามโครงสร้างของโรงแรม แล้วก็จะมีเบี้ยเลี้ยงพิเศษกรณีออกต่างจังหวัด…” โหนกแก้มแดงระเรื่ออายที่ต้องเป็นฝ่ายพูดเรื่องนี้ ถ้าเจ้าหล่อนตกลงมาฝึกงานกับเขาจริง ก็ไม่รู้แหละว่าต้องช่วยงานใครระหว่างเลขากับเจ้าของโรงแรม จับมาอยู่ใกล้ตัว จะได้เลิกพยศ เลิกประท้วงบ่อยๆ สักที “ได้ค่ะ แนนขอตัวก่อนนะคะ จะโทรไปถามคุณหนูอายเป็นคนแรกก่อนเปิดรับสมัครค่ะ” โป๊ะแตกไหมล่ะ ภีมพลเกือบจะเก๊กหน้าขรึมแบบเดิมไม่ไหวเมื่อถูกเลขานุการจี้จุดได้ตรงประเด็น แต่นาทีนี้เขาจะอายไม่ได้เด็ดขาด ต้องให้คุณแนนช่วยพูด บางทีอารยาอาจยอมรับสายและยอมมาทำงานด้วย “อืม” ขานรับ ปรายสายตาไปมองดวงหน้าสวย เห็นคุณแนนจุดประกายรอยยิ้มหวานบนปาก “หรือถ้า… ไม่พอใจ จะเพิ่มให้อีกสักนิดก็ได้” “ได้ค่ะ แนนจะจัดการให้” ก้มศีรษะให้ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องทำงานไปจัดการธุระให้เจ้านาย คล้อยหลังคุณแนนออกไปข้างนอกภีมพลยังไม่สนใจงาน ยังเขี่ยโทรศัพท์ไปมาชั่งใจว่าจะโทรหาอารยาอีกรอบดีไหม สุดท้ายเลือกจะไม่โทรแล้วเปลี่ยนเข้าไปส่องเฟซบุ๊กของหล่อนแทน เกือบเดือนแล้วไม่มีอะไรอัปเดตเลยสักอย่าง รูปเดิม โพสต์เดิม ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ รู้ว่าโทรศัพท์ของหล่อนใช้งานพวกนี้ไม่ค่อยได้ แถมเพิ่งจะพัง แต่ได้ข่าวว่าซื้อเครื่องใหม่แล้วน่าจะเข้ามาโพสต์อะไรให้เขาเห็นบ้าง เฮ้อ หรือเจ้าหล่อนจะบล็อกไม่ให้เขาเห็นโพสต์ใหม่กันนะ อารยาจะใจร้ายทำกับเขาได้ลงคอเชียวเหรอ สักพักใหญ่ๆ คุณแนนย้อนกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำและแก้วบรรจุยาพาราสองเม็ด “ยามาแล้วค่ะ รับยาแล้วนอนพักสักงีบ อาการน่าจะดีขึ้น” “ขอบคุณครับ แล้ว…” โธ่ เล่าเร็วๆ หน่อย ในใจเขาตอนนี้มีแต่เรื่องของอารยา “คุณหนูอายบอกติดต่อบริษัทอื่นไปแล้ว กำลังรอฟังผลการพิจารณาอยู่ค่ะ แต่ถ้าคุณภีมจะชวนมาฝึกงานด้วยจริงๆ แลกกับต้องปฏิเสธฝ่ายนั้นกรณีได้รับคัดเลือก คุณหนูอายร้องขอเบี้ยเลี้ยงวันละสี่ร้อย เบี้ยพิเศษต่างจังหวัดคูณสอง วันหยุดสองวันต่อสัปดาห์ แล้วก็ขออาหารกลางวันตลอดสามเดือนของการฝึกงานค่ะ” มากไปหน่อย ถ้าเป็นนักศึกษาคนอื่นคงโดนกาหัวตั้งแต่ข้อแรกแล้ว แต่แนนเชื่อว่าแค่นี้คุณภีมให้ได้สบายอยู่แล้ว “ได้ทีเอาใหญ่เชียวนะ” กัดฟันกรอดบ่นเสียงเบา แม้ใบหน้าหล่อจะยุ่งเหยิงไม่ค่อยพอใจ ถึงอย่างนั้นเขาก็พยักหน้ารับยอมอนุมัติให้ตามคำขอ นาทีนี้ต่อให้อารยาขอบ้านขอรถเขาก็จะซื้อให้ เพื่อรักษาหัวใจของเขาเอง ไม่ให้มันแห้งแล้งไปมากกว่านี้ ซึ่งเลขานุการเองก็เหมือนจะรู้ข้อเท็จจริงนี้ดีจึงรีบกลับไปทำงาน และหนึ่งในนั้นก็คือการโทรคอนเฟิร์มการเจรจาดังกล่าว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม