Chapter 10. บทลงโทษเด็กดื้อ/1

1491 คำ
“เป็นยังไงบ้างจูบแบบไม่ตั้งใจของฉัน” เขายิ้มเยาะเธอ นภัสรดาหน้าแดงก่ำ เมื่อรู้ตัวว่าเผลอไผลไปกับรสจูบของคู่หมั้นหนุ่มจนเขาล้อให้อาย สาวน้อยใช้แรงฮึดทั้งหมดที่มีผลักร่างหนาจนหงายท้อง แล้วขยับลุกจะวิ่งหนี แต่คนตัวโตก็ไวเกินคน เขารวบขาเล็กไว้ได้ทัน แต่ก็โดนฤทธิ์หมัดศอกไปหลายตุ๊บ เขาปัดป้องแต่ไม่ตีเธอคืนจึงพากันล้มกลิ้งอยู่บนพื้นทรายอีกครั้ง คนตัวโตล็อกท่อนแขนรัดร่างคนตัวเล็กกว่าไว้แน่น จนดิ้นไม่หลุดนั่นแหละ ถึงได้ยุติการปะทะกันได้ “ยังออกฤทธิ์ได้นะยายเด็กดื้อ” โดมินิกหัวเราะเสียงเหี้ยม ขณะขยับลุกขึ้นจับข้อมือคู่หมั้นสาวน้อยลากพาไปยังท่าเรือ “จะพาหนูไปไหน ปล่อยนะ” นภัสรดาขืนตัวไว้สุดกำลัง แต่ก็แพ้แรงคนตัวใหญ่กว่า สุดท้ายก็โดนเขาลากพามาจนถึงท่าเรือซึ่งอยู่บริเวณหน้าเกาะ นภัสรดามองไปรอบท่าเรือ เธอกับคู่หมั้นหนุ่มกำลังถูกสายตาของนักท่องเที่ยวและคนบนเกาะล้อมรักจดจ้องอยู่ ถ้าเธอกรีดร้องขอความช่วยเหลือขึ้นมา รับรองว่าโดมินิกจะโดนสหบาทาจนเละแน่ “ปล่อยหนูนะ ไม่อย่างนั้นหนูจะร้องให้คนช่วย คราวนี้ลุงเละแน่ ที่นี่มีคนเยอะแยะ” “ร้องสิ ร้องดังๆ ร้องเมื่อไหร่ฉันจะจูบเธอโชว์พวกเขาเลย” โดมินิกไม่กลัวคำขู่สักนิด ยื่นหน้ามาคลอเคลียอยู่ข้างแก้มสาว “อยากโดนจูบหรือเปล่า ฮึ ยายตัวแสบ ช่วยร้องหน่อยสิ ฉันอยากจูบเธอจะแย่” “คุณมันวายร้าย” นภัสรดาเอนหน้าหนี กดเสียงหนักอย่างเคืองใจ เธอรู้ว่าเขาทำจริง เขาไม่ได้แค่ขู่ และเรื่องอะไรเธอจะไปเปิดโอกาสให้เขารังแกอีก “อ้อ เรียกคุณแล้วเหรอ ทำไมไม่เรียกลุงอีกล่ะ ฮึ” เขาหัวเราะลงคอ ชอบใจที่กำราบคนฤทธิ์มากได้ “อยากเรียกลุงเหมือนกันแหละ” ใบหน้าอ่อนใสเชิดขึ้น สู้ตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้ โดมินิกหัวเราะลงคอ “เรียกลุงเมื่อไหร่ ฉันก็จะจูบเธอเมื่อนั้น” เขากระซิบขู่ ปลายจมูกกดลงบนแก้มนุ่มพอให้เธอสะดุ้งเล่น “โรคจิต...” สาวน้อยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเจ็บใจ “จิตไม่จิต เดี๋ยวก็รู้” ร่างหนาเดินกึ่งลากร่างเล็กพาไปยังเรือยอร์ชที่จอดอยู่ เรือลำนั้นเป็นของโจนาธานน้องเขยของเขา และพี่เมียอย่างเขาก็มีสิทธิ์ยืมไปใช้เล่นหากต้องการ โจนาธานสั่งคนเรือไว้ให้อำนวยความสะดวกให้คนในครอบครัวภรรยาสาว ก่อนจะไปฮันนีมูนที่เกาะดาวเคียงเดือน แค่บอกว่าจะออกเรือเองก็ได้กุญแจตามต้องการ โดมินิกจับคู่หมั้นสาวน้อยมามัดไว้กับเก้าอี้โดยใช้เข็มขัดของตัวเองมัดไว้แทนเชือก ก่อนจะนำเรือออกจากฝั่ง “จะพาหนูไปไหน ปล่อยนะ หนูไม่ไป๊” ร่างเล็กดิ้นปั๊ดๆ เมื่อเห็นเรือเคลื่อนออกจากท่า “ก็พาไปอบรมบ่มนิสัย ให้เลิกดื้อไงจ๊ะสาวน้อย” โดมินิกยอมปล่อยเธอเป็นอิสระ เมื่อเห็นว่าเรือแล่นห่างจากเกาะมาพอสมควร ไกลเกินกว่าที่ใครจะกล้ากระโดดลงน้ำว่ายกลับไปไหว เขาดับเครื่องยนต์แล้วพาตัวเองไปนั่งเล่นตรงเก้าอี้ ปล่อยให้คู่หมั้นสาวกระฟัดกระเฟียดเดินไปมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่ตรงนั้น สุดท้ายคนฤทธิ์มากก็เดินมาเขาเอง “พาหนูกลับเดี๋ยวนี้นะ” “ถ้าอยากกลับก็กระโดดลงไปแล้วว่ายน้ำกลับเองสิ ฉันจะไปล่องเรือเล่น” เขาเอนกายนอนบนเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ หลับตานิ่งไม่สนใจ เสียงกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ ทำให้ต้องหรี่ตาขึ้นมองแล้วยิ้มขำ “หนูจะฟ้องคุณลุงคุณป้า” เธอสะบัดเสียงใส่ กอดอกนิ่งหน้าตูม โดมินิกยกแขนสอดใต้คอหนุนแทนหมอน เอียงคอมองใบหน้าบูดบึ้งด้วยแววตาขบขัน “เด็กหนอเด็ก เอะอะก็ฟ้องผู้ใหญ่ นี่เหรอคนที่จะมาทำหน้าที่เมียของฉัน” เขาเหยียดริมฝีปาก ปรายตามองเธออย่างเยาะหยัน “คนแก่อย่างลุงก็ไม่มีใครเอา ไม่อย่างนั้นจะอยู่เป็นโสดมาจนอายุปูนนี้เหรอ” เธอสวนกลับทันที ดวงตาคมเปลี่ยนแววตามาดุกร้าวเมื่อได้ยินคำพูดบาดหู “ฉันไม่เอาใครต่างหาก” เขาขยับลุกขึ้นนั่งจ้องหน้าคนว่าเขม็ง “เหอะ ไม่เอาใคร” เธอเบ้ปาก ปรายตามองเขาแล้วเมินหน้าหนี “หนูก็ไม่เอาลุงเหมือนกัน ที่หมั้นด้วยเพราะความจำเป็นบังคับ” “ฉันก็ไม่ได้อยากหมั้นกับเธอสักนิด” เขาตอกกลับ มองร่างบางของสาวน้อยอย่างโมโห “ถ้าคุณแม่ไม่บังคับฉันก็ไม่ยอมหมั้นกับเด็กปัญญาอ่อนอย่างเธอหรอก” เด็กปัญญาอ่อนหันขวับมามองหน้าผู้ใหญ่ทันที “หนูไม่ได้ปัญญาอ่อน ลุงต่างหากที่ปัญญานิ่ม เกิดมาจนแก่ป่านนี้แล้วยังยอมให้พ่อแม่บังคับ อายุตั้งสามสิบกว่าไม่มีปัญญาปฏิเสธหรือไง” เธอเบะปากใส่เขา “ยังปากดีไม่เลิกนะ แบบนี้ต้องอบรมบ่มนิสัยสักหน่อยท่าจะดี” ร่างหนาขยับลุกจากเก้าอี้ ทำให้คนตัวเล็กรีบขยับหนี “ลุง จะทำอะไร” เธอถามเสียงสั่น นึกเจ็บใจตัวเองที่ปากไว หาเรื่องให้คนแก่กว่าโมโห มองไปรอบๆ หาทางเอาตัวรอด ถ้าไม่รอดก็ต้องหาเครื่องทุ่นแรงไว้สู้กะคนแก่จอมหื่นนี่ สายตาอันว่องไวเหลือบไปเห็นไม้เบสบอลวางกองรวมกับห่วงยาง จึงรีบวิ่งเข้าไปหยิบมาหมายจะฟาดคนตัวโตให้หัวแตก ทว่า... “นึกว่าไอ้ไม้เบสบอลโฟมนั่นจะทำอะไรฉันได้หรือไง ยายเด็กสมองนิ่ม” โดมินิกหัวเราะเสียงดัง ยืนเท้าเอวจ้องหน้าคนที่กำลังทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ด้วยแววตาเวทนา คิดจะสู้กับเขารอให้แก่กว่านี้อีกสักสิบปีเถอะ ยายหนูน้อย... “อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาหนูจะ... จะโดดลงทะเลจริงๆ ด้วย” นภัสรดาถอยไปจนชิดกาบเรือ หันไปมองแผ่นน้ำสีฟ้าครามด้วยหัวใจสั่นหวิว หวังว่าเขาคงจะกลัวคำขู่ของเธอบ้าง ไอ้ที่บอกจะกระโดดลงไปนั่นมันคำขู่ล้วนๆ ใครจะเสียสติกระโดดลงไปจริงๆ “แถวนี้ฉลามชุมนะ อยากเป็นอาหารฉลามก็กระโดดลงไปเลยสิ” เขาไม่แยแสคำขู่ของเธอสักนิด ขยับเข้ามาเรื่อยๆ ด้วยท่าทีคุกคามน่ากลัว “ไอ้ลุงโรคจิต ไอ้คนแก่ใจร้าย นี่แน่ะ ตายซะๆ” เมื่อหนีไม่ได้นภัสรดาเลยวิ่งเข้าใส่ เอาไม่เบสบอลโฟมตีคนใจร้ายจนไม้หักกระจุย ก่อนจะวิ่งหนีเขาไปรอบๆ เรือ การไล่ล่าจึงเกิดขึ้นอีกหน สุดท้ายเธอวิ่งไปจนมุมโดนเขารวบตัวได้ “ดื้อมาก ฤทธิ์เยอะจริงแม่คุ้ณ” โดมินิกกดร่างบางแนบกับพื้นเรือ ใช้ตัวหนาหนักของเขากดทับเธอไม่ให้ดิ้นหนี ให้มันรู้ไปว่าเขาจะปราบยายเด็กฤทธิ์มากนี่ไม่ได้ เขาจ้องมองสาวน้อยด้วยประกายตาวาวจ้า ก่อนจะกระตุกยิ้มร้ายเมื่อนึกวิธีลงโทษเด็กดื้อออก... “กรี๊ดดดด ปล่อยหนูนะอีตาลุงบ้า!” ร่างเล็กกรีดร้องพยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ หลังจากที่สู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ไหวโดนเขาจับมามัดไว้กับเก้าอี้อีกครั้ง “ไม่ปล่อย อยากร้องอยากดิ้นก็ทำให้เต็มที่ไปเลย” โดมินิกยื่นหน้าเข้ามาหาคนที่กำลังกรีดร้องอยู่ เขากดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสายตาตื่นกลัวของสาวน้อยตรงหน้า มือหนายกดอกคาร์เนชั่นมาสูดดม เขาเจอมันอยู่ในแจกันตกแต่งในเคบินเรือเลยหยิบติดมือออกมาด้วย ชายหนุ่มยิ้มร้ายขณะยื่นดอกไม้แสนสวยไปตรงหน้าคนที่ถูกมัดไว้ “ลุงจะทำอะไร” นภัสรดามองดอกไม้สีขาวในมือของคู่หมั้นหนุ่มอย่างแปลกใจแกมสงสัย เริ่มระแวงว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรแผลงๆ กลั่นแกล้งเธอหรือเปล่า แล้วไอ้ดอกคาร์เนชั่นในมือเขาจะมันเอามาทำอะไรเธอ “ก็จะลงโทษเด็กดื้อไง” เขาตอบเสียงกลั้วหัวเราะ เปิดรอยยิ้มกว้างขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเปล่งประกายวาวจ้า ตีสีหน้าให้ดูโรคจิตหลอกให้คนเห็นหวาดกลัวเล่น มันได้ผลเมื่อสาวน้อยหน้าเริ่มซีดเผือด ดวงตาระริกไหวจ้องมองเขาอย่างหวาดระแวง “อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ” นภัสรดาแหวเข้าใส่ ทั้งๆ ที่ใจเต้นรัวด้วยความกลัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม