เมื่อเห็นเขาถอดปราการด่านสุดท้ายของท่อนล่างออก ใจสาวก็เต้นรัวแรง เลือดสูบฉีดไปที่แก้มจนแดงก่ำ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นผู้ชายแก้ผ้าจะจะตาก็คราวนี้
สาวน้อยสูดลมหายใจพยายามลดความตื่นเต้น แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นแรงแทบทะลุออกมาจากอก ร่างกายแข็งทื่อจะลุกหนีก็ต้องเดินผ่านจุดที่เขายืนอยู่ มือน้อยกำขวดครีมอาบน้ำแน่น ไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ชวนอกสั่นขวัญสะเทือนแบบนี้ เสียงน้ำไหลแรงพร้อมเสียงครวญเพลงหงุงหงิงทำเอาคน ได้ยินใจเต้นรัวนับจังหวะแทบไม่ทัน ใจหนึ่งอยากหันไปมองตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น แต่อีกใจก็สั่นหวิวเกรงเห็นภาพชวนสะท้านไหว ร่างบางนั่งแข็งทื่ออยู่จนเสียงน้ำเงียบไป ได้ยินเสียงเขาเดินไปมา แล้วก็เงียบหายไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็ต้องตกใจเมื่อคนตัวโตนั่งยองๆ เกาะขอบอ่างยิ้มเผล่อยู่ข้างๆ
“ไหนบอกว่าหนาว ทำไมไม่รีบอาบน้ำให้เสร็จ”
โดมินิกมองหน้าสาวน้อยในอ่างแล้วกลั้นยิ้มไม่อยู่ เมื่อครู่เขาอาบน้ำไปมองเธอไป นภัสรดาช่างมีความอดทนสูงจริงๆ เจ้าหล่อนนั่งก้มหน้านิ่ง ทำตัวแข็งทื่อเหมือนรูปปั้นจนเขาอาบน้ำเสร็จ เขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวสวมชุดคลุมเดินกลับมาก็ยังอยู่ท่าเดิม ไม่รู้จะเป็นตะคริวอีกหนหรือเปล่า
“คุณอาบเสร็จแล้ว ก็ออกไปสิคะ”
นภัสรดาบอกเขาเสียงแผ่ว ไม่ยอมสบตาคนถาม มือน้อยกำขวดครีมอาบน้ำแน่น
“เมื่อกี้ฉันอาบน้ำให้เธอดู เธอก็อาบน้ำให้ฉันดูบ้างสิ” เขาแกล้งหยอก มันได้ผลเมื่อเธอแก้มแดงจัดหันมาแหวเข้าใส่เสียงแหลม
“บ้า! หนูไม่ได้โรคจิตชอบโชว์เหมือนลุงนี่”
เธอปาขวดครีมในมือทิ้ง ผลักอกเขาให้ออกห่างแล้วรีบลุกก้าวจากอ่างทำท่าจะวิ่งออกไป แต่เท้าเปียกและพื้นยังลื่นส่งผลให้ร่างบางหงายท้อง โชคดีที่คนตัวโตรอจังหวะอยู่แล้วจึงรับร่างน้อยไว้ได้ทันก่อนจะหัวฟาดพื้น
“ดื้อจริงๆ คงรอให้อาบเองไม่ได้แล้ว เดี๋ยวเป็นหวัดตายไปก่อน”
เขาอุ้มร่างบางพาไปหย่อนลงอ่างเหมือนเดิม หยิบขวดครีมมาเปิดเทครีมนุ่มหอมใส่มือเธอแล้วจับมือนั้นถูๆ บนเนื้อตัวทั้งๆ ที่สวมเสื้อผ้าแบบนั้นแหละ อย่างน้อยก็ช่วยล้างน้ำทะเลเค็มๆ ออกก็ยังดี นภัสรดาพยายามดิ้นหนีเลยโดนคนแรงเยอะจับกดน้ำ สำลักค่อกแค่กตาแดง
“ไอ้ลุงโหด หนูไม่ใช่หมานะจะได้มาจับอาบน้ำ จับกดน้ำแบบนี้” เธอดิ้นรนโวยวายใส่เขาเป็นชุด
โดมินิกไม่ได้สนใจตั้งหน้าตั้งตาเปิดน้ำจากฝักบัวที่อ่าง ราดรดจนเนื้อตัวสาวน้อยสะอาดเอี่ยมไร้ฟองครีม จากนั้นก็อุ้มเด็กดื้อของเขาพาไปยังตู้เก็บผ้าเช็ดตัว แล้ววางลงบนเคาน์เตอร์ล้างหน้า นภัสรดาทำท่าจะขยับลงมาแต่ถูกชี้หน้าส่งสายตาดุๆ ห้ามไว้ก่อน สาวน้อยได้แต่เบะปากใส่ดวงตาวาววับด้วยความโมโห แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะรู้ดีว่าคนมากวัยกว่าจะหาเรื่องลงโทษเธอหนักกว่าที่ทำอยู่
“ถอดเสื้อผ้าเปียกๆ ออก แล้วใส่นี่ซะ” เขาส่งผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่กับเสื้อคลุมให้ “จะให้ช่วยเปลี่ยนไหม”
“ไม่ ไม่ ไม่ หนูเปลี่ยนเอง ลุงออกไปให้พ้นๆ เลย” เธอรีบคว้าผ้าเช็ดตัวมากอดไว้ โบกมือไล่คนแก่ออกไป
“ให้เวลาห้านาที ถ้าไม่ออกไปฉันจะมาช่วยแต่งตัวให้”
เขาสั่งก่อนจะยอมเดินออกไปจากห้องนั้น ทันทีที่ร่างหนาเดินไปพ้นประตูนภัสรดาก็รีบกระโดดลงจากเคาน์เตอร์ตรงไปปิดประตูโครม แล้วถอนหายใจแรง
“ตาลุงบ้า ทำไมถึงนิสัยไม่ดีแบบนี้นะ”
เธอกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห ว่าที่คู่หมั้นของเธอนิสัยแย่เหลือเกิน เขาไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยหรือไง นภัสรดาถอนหายใจแรง
“ไอ้ลุงบ้า คอยดูเถอะจะทำให้รู้สำนึกสักวัน ตาแก่ ตาหื่น ตาคนนิสัยเสีย”
เธอก่นด่าคนที่อยู่นอกห้องขณะลุกขึ้นยืนจัดการถอดเสื้อผ้าเปียกชุ่มออกจากร่าง แล้วรีบเช็ดตัวให้แห้ง ค้นหาผ้าเช็ดตัวผืนใหม่มาพันกายไว้แล้วสวมชุดคลุมทับอีกชั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!
“เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยัง นานแล้วนะ รีบออกมาเลย ถ้าไม่ออกฉันจะไขกุญแจเข้าไปแล้วนะ”
เสียงทุบประตูกับเสียงตะโกนเรียกทำให้นภัสรดารีบเปิดประตูออกไป คนเรียกเท้าแขนกับขอบประตูทำหน้ามุ่ยอยู่ เขากวาดสายตามองเธอทั้งตัวแล้วเบี่ยงตัวให้เธอเดินผ่านออกไป กลิ่นหอมของชาโชยมาเข้าจมูก นภัสรดามองหาที่มาของกลิ่นก็พบกาน้ำชาพร้อมถ้วยชาที่รินรอท่าไว้แล้ววางอยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียงนอน
“ดื่มชาร้อนๆ จะได้ไม่เป็นหวัด ฉันสั่งซุปมาให้แล้วเดี๋ยวคงมาส่งพร้อมกุญแจห้องของเธอ”
หลายนาทีที่เธออยู่ในห้องน้ำ เขาออกมาโทรหาพนักงานสั่งการให้นำอาหารมาส่งและแจ้งเรื่องกุญแจห้องพักของเธอหาย เมื่อจัดการทุกสิ่งเรียบร้อยจึงไปเคาะประตูเรียก ร่างน้อยในชุดคลุมดูกลมปุ๊กเหมือนหมอนยัดนุ่น ดวงคมแอบลองมองผ่านรอยแยกของสาบเสื้อคลุมเห็นผ้าเช็ดตัวที่พันไว้ด้านในก็ถอนหายใจ
ช่างหวงเนื้อถนอมตัวเสียจริงแม่คุณ...
เมื่อครู่เขาแทบระงับความต้องการไว้ไม่ไหว แค่ได้ลูบไล้เนื้อตัวเธอผ่านเสื้อผ้าไม่ทันจะเห็นผิวกายขาวนวลเต็มตาก็จวนคลั่ง นภัสรดามีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาหลุดความควบคุมบ่อยครั้ง ยายเด็กแสบมีรูปร่างยั่วยวนราคะแบบที่ไม่ต้องออกแรงทำอะไรก็ทำให้เขาแทบกระโจนเข้าหา มันอันตรายมากหากเขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ เขาแตะเธอเมื่อไหร่มหันตภัยจากมารดาสุดที่รักมาเยือนเมื่อนั้น ปลอกคอที่ชื่อว่าการแต่งงานจะโดนโยนใส่คอเขาในทันที เขาไม่พร้อมมีเมียเด็ก ไม่พร้อมมีใครเข้ามาวุ่นวายในชีวิต และหัวใจของเขาไม่พร้อมจะเปิดรับผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว ประตูหัวใจปิดตายไปพร้อมกับความหลังเมื่อหกปีก่อน ปิดสนิทหลังจากเขาฟื้นจากความตายหลังอุบัติเหตุร้ายที่เกือบพรากลมหายใจของเขาไป มันทำให้เข็ดขยาดผู้หญิงร้ายๆ และแค้นฝังใจจากการกระทำของผู้หญิงที่เขาเคยรัก ยาย เลสเบี้ยนที่ชื่อ ไลลา เคอร์แมน ยายตัวร้ายที่เขายังไม่ได้คิดบัญชี เจ้าหล่อนเป็นคนทำให้เขาเกือบตาย หลังจากนั้นก็นำแบบรถบิ๊กไบค์ของเขาไปขายให้คู่แข่ง หอบเงินก้อนโตหนีหายไป ชาตินี้หากเขาไม่จัดการหล่อนให้ได้รับความเจ็บปวดแบบเดียวกัน เขาไม่มีวันอยู่อย่างเป็นสุขแน่
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยขอบคุณเขา แล้วยกถ้วยชาขึ้นจิบ
คนตัวโตเดินมายืนข้างๆ ยื่นมือมาแตะหน้าผากเธอ “ตัวอุ่นๆ นะ กินอะไรแล้วกินยาสักหน่อยนะ เดี๋ยวจะไข้ขึ้น พรุ่งนี้จะอดเป็นคู่หมั้นฉัน” เขายังไม่วายเหน็บแนม
“หนูไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกค่ะ” นภัสรดาปัดมือเขาออกจากหน้าผาก ย่นจมูกเข้าใส่ “ถ้าหนูจะตายก็ขอตายหลังจากสามเดือนนี้ ถึงตอนนั้นลุงจะได้เป็นอิสระแบบไม่ต้องกลัวใครกล่าวหาไงคะ”
น้ำเสียงของเธอแผ่วหวิว ดวงตาคู่งามทอประกายอ่อนเศร้าชั่วแวบ ก่อนจะกลับมานิ่งสงบเหมือนเก่า ร่างบางขยับเดินหนีไปนั่งที่เก้าอี้ห้องรับแขกด้านนอก
“ทำไมรู้สึกแปลกๆ วะ”
โดมินิกกุมหัวใจตัวเอง เขาเจ็บจี๊ดๆ เมื่อได้ยินเธอพูดและสบสายตาคู่นั้นเพียงไม่กี่วิ ภาพบางอย่างผุดพรายขึ้นมาในหัวแล้วก็หายไปเร็วจนนึกไม่ออก เขากุมขมับก่อนจะเสยผมที่ระใบหน้าให้เข้าที่ เดินออกมาหาคนที่เดินมาก่อน ชายหนุ่มชะงักเท้ายืนนิ่งงันเมื่อเห็นว่าตอนนี้นภัสรดาไม่ได้นั่งอยู่เพียงลำพัง แต่มีมารดาสุดที่รักของเขานั่งตีหน้ายักษ์มองเขาด้วยแววตาเอาเรื่องอยู่ด้วย
“ฉันว่าพรุ่งนี้เปลี่ยนจากงานหมั้นเป็นงานแต่งเลยดีไหม”
“คุณแม่ !”
โดมินิกอุทานลั่น ยกมือกุมหน้าผาก เวรแล้วไหมล่ะ !