บทที่ 2 แค่สบตา

1968 คำ
"น้องครับจะยืนมองหน้าพี่อีกนานไหมหลบสักทีพี่จะได้รีบไปกินข้าว" เสียงทุ้มนุ่มนวลชวนหลงใหลสะกดหัวใจฉันให้นิ่งอยู่กับที่ "ไม่รู้จะหลบไปไหนเพราะอยากเข้าไปนั่งอยู่ในใจของพี่ค่ะ" สายตาหยาดเยิ้มกำลังเคลิ้มลุ่มหลงจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับรูปปั้น คำพูดเพ้อฝันของสาวน้อยแตกเนื้อสาวใหม่ๆอย่างฉันที่เผลอไผลพูดออกไปอย่างที่ใจคิด ฉันได้แต่นึกในใจคนอะไรหล่อบาดตาบาดใจจนฉันไม่อยากขยับหนีอยากยืนมองความหล่อและกินมันแทนข้าวเสียเลย อยากทำตัวเกาะติดไปทุกที่ "ตกเด็กอีกแล้วนะมึงเนี่ย" เสียงทุ้มกังวานจากเพื่อนพี่เขาทำให้ฉันต้องหันไปมอง พี่คนนี้ก็หล่ออย่างกับไอดอล ส่วนพี่คนข้างๆถึงจะดูหน้าตึงแต่ก็โคตรหล่ออีกคนก็ใช่ย่อย พี่กลุ่มนี้เขาคัดหน้าตามาเป็นเพื่อนกันหรือยังไงหล่อทุกคน แม้แต่พี่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันความหล่อคูลละมุนมากแม่ ฉันมองหน้าพี่เขาเคลิ้มไม่ขยับไปไหนเพียงแค่สบตาก็โดนตกเต็มๆพี่คนนี้แหละใช่เลยแฟนในอนาคตของฉันพ่อของลูกในที่สุดฉันก็หาเนื้อคู่จนเจอ คนที่มีด้ายแดงผูกติดกับฉันไปแสนนาน "เลิกล้อเล่นสักทีพวกมึงก็รู้กูไม่ชอบเด็กไม่มีอะไรให้มอง" พี่เขาพูดสวนกลับเพื่อนไปทำให้ฉันต้องก้มมองตัวเอง ฉันไม่มีอะไรให้มองตรงไหนฉันว่าฉันดูดีมากในระดับหนึ่ง พิสูจน์ได้จากตอนเดินเข้ามาที่โรงอาหารพร้อมหญ้าหวานมีแต่ผู้ชายมองมาที่เราทั้งคู่ "น้องเขาก็น่ารักดีนะเว้ยกินหญ้าอ่อนอาจจะเหมาะกับโคแก่อย่างมึงก็ได้" เพื่อนพี่เขาอีกคนยังแซวเพื่อนไม่หยุดฉันยิ้มหวานให้พี่เขาที่ชมฉันว่าน่ารัก "แบนๆกูไม่ชอบไม่มีอะไรให้จับ" เหมือนหอกแหลมทิ่มเข้ากลางอก พี่เขามองสำรวจฉันตั้งแต่บนลงล่างมองที่หน้าอกฉันเป็นพิเศษก่อนจะยิ้มเหมือนเยาะเย้ย ทำให้ฉันหน้าเจื่อนแต่ไม่สลดยอมให้ว่าที่พ่อของลูกเย้ยหยันไปก่อนเป็นแฟนกันเมื่อไหร่แล้วพี่เขาจะรู้ว่าข้าวปุ้นคนนี้มีดีกว่าที่เห็น ถึงจะโดนแขวะฉันก็จะไม่ยอมเสียหน้าอย่างเด็ดขาดเมื่อฉันเองก็มั่นใจว่ามีดีไม่แพ้ใคร "แบนแต่แอบแซบนะคะลองดูลองคบกันก่อนไหมคะ" ฉันทำตาวิ้งๆใสส่องประกายส่งให้พี่สุดหล่อของฉันพร้อมพูดด้วยความมั่นใจ "พอเลยยัยเด็กแก่แดดกลับไปกินนมกินไข่รอให้โตก่อนเถอะหลบไปได้แล้ว" คติฉันตื้อเท่านั้นที่จะได้แฟนฉันยอมแพ้เป็นที่ไหนยังคงไม่ขยับตัวไปไหนในเมื่อยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่เขาเลย "พี่ชื่ออะไรเหรอคะหนูชื่อข้าวปุ้นเรียนม.4 ตอนนี้ไม่เด็กแล้วนะคะ" ฉันรีบแนะนำตัวอยากรู้จักพี่เขาด้วยจะได้ตามหาข้อมูลพี่เขาได้ถูก เล็งแล้วนี่คนนี้แหละใช่เลย "พี่ไม่ได้อยากรู้ชื่อเราครับหลบไปได้แล้วจะหมดเวลากินข้าวไม่หิวรึยังไง" เสียงพี่เขาเริ่มแข็งขึ้นอีกทั้งยังพูดดับฝันทำฉันหน้าแหกทุกคนมองมาที่ฉัน วันนี้ยอมถอยให้ก่อนก็ได้แต่อย่าคิดว่าคนอย่างข้าวปุ้นจะยอมแพ้แค่นี้ ฉันเบี่ยงตัวหลบให้พี่เขากับเพื่อนเดินออกไป "ทำไมซื้อนานจังเลยข้าวปุ้น" ฉันเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวมานั่งยังโต๊ะที่หญ้าหวานจองเอาไว้ หญ้าหวานมองหน้าฉันและถามด้วยความสงสัย "สวรรค์ดลให้เราเจอเนื้อคู่เราก็เลยต้องรีบคว้าโอกาสทำความรู้จักนานไปหน่อย" หญ้าหวานทำหน้างงไปใหญ่ ฉันจึงชี้ไปยังโต๊ะของรุ่นพี่กลุ่มนั้นที่ฉันคอยมองตามตลอดเวลาว่าพี่เขานั่งอยู่ตรงไหน หญ้าหวานจึงหันไปมองตามมือของฉันที่ชี้ไป "เราว่าข้าวปุ้นอย่าไปยุ่งกับพี่กลุ่มนี้เลยตัวร้ายชัดๆ" หญ้าหวานมองรุ่นพี่กลุ่มนั้นไม่นานแล้วหันกับมาคุยกับฉันด้วยใบหน้าเหมือนคนที่กำลังเอือมละอา หญ้าหวานคงจะรู้จักกับรุ่นพี่กลุ่มนั้นดีทำให้ฉันเริ่มมีความหวังเล็กๆขึ้นมา "หญ้าหวานรู้จักกับพี่กลุ่มนั้นเหรอ พี่คนหล่อๆผมสีน้ำตาลคนนั้นแหละที่ตกใจเราไปเต็มๆ" ฉันบุ้ยหน้าให้หญ้าหวานมองพี่คนที่ฉันเล็งไว้ "นั่นแหละตัวร้ายอยู่ห่างไว้ดีกว่านะ" หญ้าหวานพูดไปส่ายหน้าไปเหมือนรู้จักพี่คนนั้นดี "หญ้าหวานรู้จักกับพี่เขาเหรอ แนะนำให้เรารู้จักบ้างสิ" ฉันคะคั้นคะยอหญ้าหวาน "พี่ชายเราเอง" ตาฉันลุกวาวยิ้มกว้าง "อนาคตเราจะได้เป็นพี่สะใภ้ของหญ้าหวานสินะ" ฉันคงต้องเอาอกเอาใจหญ้าหวานมากๆจะได้เป็นแม่สื่อให้ฉันกับพี่ชายของหญ้าหวาน "อย่าไปยุ่งกับกลุ่มนั้นเลยนั่นตัวพ่อทั้งนั้นเราหวังดี" ดูเหมือนหญ้าหวานจะไม่สนับสนุนให้ฉันไปยุ่งกับพี่กลุ่มนั้นแม้แต่กับพี่ชายของตัวเอง ต้องมีอะไรแน่ๆแต่ฉันดันตกหลุมที่พี่เขาคงไม่ตั้งใจขุดดักใครเข้าเต็มๆแค่เพียงได้สบสายตาหัวใจของฉันมันก็ลอยเข้าไปหาพี่เขาโดยไม่รู้ตัว "มันคงสายไปแล้วหญ้าหวานเราถอดหัวใจไปให้พี่ชายหญ้าหวานไปแล้ว นั่นสเปคเราเลยนะหญ้าหวานต้องช่วยเราแล้วแหละ" หญ้าหวานถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่รู้ว่าหนักใจเพราะเรื่องของฉัน หรือว่าหนักใจกับพี่ชายตัวเอง "คิดใหม่ได้นะพี่เราร้าย ไม่เห็นจริงจังกับใครสักคนจีบอ่อยไปเรื่อย" หญ้าหวานยังคงถามย้ำกับฉันอีกรอบ ใบหน้าของฉันแน่วแน่ไม่เปลี่ยนใจอยากลองดูสักครั้งไม่แน่ถ้าพี่เขาเห็นความจริงใจ ความใสซื่อพี่เขาอาจจะเปลี่ยนใจยกให้ฉันเป็นคนสำคัญของพี่เขาก็ได้ใครจะไปรู้ ฉันเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกแรกของตัวเองเสมอและอยากทำตามหัวใจดูสักครั้ง รักแรกพบนั่นคือความรู้สึกที่สัมผัสได้ "เราไม่เปลี่ยนใจแน่ ขอเราลองดูสักครั้ง" ไม่รู้ว่ารักจริงหรือแค่ปลื้มแบบดารารู้แค่ว่าพี่เขาคือคนที่เห็นแล้วลืมไม่ลงมันติดในใจตั้งแต่ที่สบตากัน "ว่าแต่พี่ชายหญ้าหวานชื่ออะไรมีแฟนหรือยัง" ไหนๆก็มีเพื่อนเป็นน้องสาวของว่าที่แฟนในอนาคตแล้วต้องหาข้อมูลของว่าที่แฟนสักหน่อย "ธีร์ธาม...แฟนเหรอเราไม่แน่ใจเห็นเปลี่ยนคนควงบ่อย" หญ้าหวานคงเห็นจนชิน แต่ฉันจะไม่ลดละความพยายามฉันต้องเป็นแฟนคนเดียวของพี่เขาให้ได้ ฉันได้แต่แอบยิ้มคนเดียวถามข้อมูลพี่ชายของหญ้าหวานทุกอย่างที่อยากรู้ พรุ่งนี้เป็นต้นไปฉันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่พี่ธีร์ธามจะต้องเห็นฉันอยู่ในสายตาตลอดเวลา พาตัวเองไปให้พี่เขาเจอจนจำฉันได้ขึ้นใจและตราตรึงฉันไว้ในความรู้สึก "ข้าวปุ้นเอาดีๆนะพี่เรากะล่อนจะตายเพื่อนพี่เขาก็ใช่ย่อยเราไม่อยากเห็นข้าวปุ้นเสียความรู้สึก" ฉันพยักหน้าไม่เปลี่ยนความตั้งใจ ถึงแม้ตอนนี้พี่เขาจะไม่สนใจฉันก็ตาม แต่เชื่อสิถ้าพี่เขาได้เจอได้คุยกับฉันทุกวันพี่เขาจะได้เห็นความมุ่งมั่นและความจริงใจของฉันพี่เขาต้องชอบฉันได้ไม่ยากแน่ นั่นคือจุดเริ่มต้นความรักวัยใสในวัยมัธยมปลายของฉัน มันความเป็นความใสซื่อของเด็กที่คิดอะไรง่ายๆแต่มันไม่ง่ายเลย เอี๊ยดด...!! รถสปอร์ตคันหรูขับมาด้วยความเร็วพุ่งเสียบตรงช่องว่างที่เหลือเพียงช่องเดียวเสียงเหยียบเบรคดังลั่นโรงจอด ปัง! ตึก.. ตึก.. รองเท้าส้นสูงสี่นิ้วที่กระทบพื้นพร้อมกับปิดประตูรถกระแทกเสียงดังด้วยความเร่งรีบ วันแรกในมหาวิทยาลัยของสาวร่างสวยหุ่นสะอวดสะองเอวเป็วเอว หน้าอกเป็นหน้าอก ผมสีน้ำตาลดัดลอนปลายอย่างสวยงามใบหน้าสวยเฉี่ยวสะดุดทุกสายตาผู้ชายที่พบเห็นจนต้องตกตะลึง แต่ในเวลานี้เจ้าของใบหน้าสวยอย่างฉันกลับไม่ได้สนใจสายตาเหล่าชายหนุ่มที่เพ่งมองน้ำลายแทบหก เพราะเหลือเวลาแค่สิบนาทีที่ต้องรีบขึ้นตึกไปเรียนในวันแรกก่อนที่จะสาย ไม่ว่าจะผ่านไปสองปีฉันก็ยังมีนิสัยเดิมไม่ต่างจากข้าวปุ้นตอนเข้าเรียน ม.4 ยังคงมาเรียนสายในวันเปิดเรียนวันแรกอีกครั้ง ปึก ผั๊วะ~~ "อ๊ะ!!" อีกแล้วคราวนี้ฉันไม่รู้ว่าชนเข้ากับใครอีกคนนั้นคงแข็งแรงน่าดูถึงทำให้ฉันเซได้ อยากจะอ้าปากด่าออกไปฉันกำลังจะสายทำไมต้องมาขวางทางฉันด้วย ฉันเงยหน้าเพื่อสำรวจคนที่ฉันเดินชนแม่จะด่าให้ยับถนนก็ออกกว้างทำไมต้องเดินทับเส้นทางฉันด้วย พอเงยหน้าเพียงแค่สบสายตาแววตาคุ้นเคยที่ทำให้ฉันหวั่นไหวได้ทุกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ฉันควบคุมอารมณ์และเก็บความรู้สึกได้ดีไม่แสดงออกให้อีกคนได้รู้ความในใจ แววตาคู่เดิมที่เคยทำให้ฉันหมดความมั่นใจในวันนั้น วันนี้มันฉายชัดขึ้นอีกครั้งจนฉันต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาคู่คมที่จ้องมองไม่วางตาเหมือนคนที่ถูกสะกดนิ่ง ปากที่กำลังจะอ้ากว้างบ่นก็หุบลง ฉันทำเป็นไม่สนไม่แคร์สายตาคู่นี้ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบแล้วกำลังจะเดินจ้ำอ้าวหนีไปให้ไกล แต่ถูกเสียงเรียกชื่อสะกดทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก ไม่คิดว่าเจ้าของสายตาคมกริบคู่นั้นเขาจะยังจำชื่อฉันได้ "ยัยข้าวปุ้นจอมจุ้นจำพี่ไม่ได้หรือไงทำไมไม่ทัก" เสียงทุ้มนุ่มหูที่ห่างหายไปเมื่อสองปีก่อนดังก้องอยู่ในใจอีกครั้ง เข้าของเสียงที่เคยประกาศก้องต่อหน้าทุกคนว่าไม่มีวันสนใจและไม่คิดจะเป็นแฟนกับเด็กแก่แดดอย่างฉัน คำพูดพวกนั้นมันยังฝังอยู่ในหัวเหมือนเมมโมรี่ที่ไม่มีวันจางหาย ฉันก้าวเดินต่อไปข้างหน้าทำเป็นไม่สนใจทั้งที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นของพี่เขายังติดตรึงในความทรงจำไม่มีวันลบเลือน ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมเดินตามตื้อเหมือนสองปีที่ผ่านมาเพราะไม่อยากเสียหน้า เสียความรู้สึกอีกแล้ว "เดี๋ยวสิยัยจุ้นจะรีบไปไหนคุยกันก่อน" ฉันเดินหนีอย่างเร็วและอีกอย่างเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีฉันกำลังจะเข้าเรียนสายอีกแล้ว ฉันไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเจ้าของเสียงเรียกเหมือนเสียงนั้นเป็นเพียงแค่อากาศเหมือนกับที่พี่เขาเคยทำกับฉันไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม