“ เชิญปลัดตามสบายนะ ผมขอตัวสักครู่เสร็จธุระแล้วจะตามขึ้นไป ” แสนหันไปพูดกับปลัดหนุ่มก่อนจะเดินไปหาผู้ใหญ่แม้นที่ยืนคุยกับชาวบ้านอีกด้านหนึ่ง
“ ฉันว่า.. รอไปพร้อมพ่อดีกว่าไหมป้าเมี้ยน ? ” หญิงสาวหันไปสะกิดเมี้ยน เมื่อเห็นว่าบิดาเดินจากไปแล้ว เพราะไม่อยากทำบุญร่วมกับธนาจึงหวังให้เมี้ยนเป็นตัวช่วยเห็นดีเห็นงามด้วย แต่ว่าตัวช่วยของเธอก็ช่วยได้มากเสียด้วยสิ
“ ป้าว่านะ พวกเราขึ้นไปบนศาลาก่อนดีกว่า ดูสิ.. คนเริ่มมากันเยอะแล้ว ปะเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่ง แล้วก็ต้องไปเบียดกันตอนตักบาตรด้วย เชิญปลัดขึ้นศาลาก่อนดีกว่าจ๊ะ ” เมื่อได้ยินดังนั้นกุ้งนางยิ่งทำหน้ามุ่ย
“ ป้าเมี้ยน ดูท่าคุณหนูของป้าคงไม่อยากทำบุญร่วมกับผมเท่าไรหรอก ไม่เชื่อป้าลองถามดูสิ ” ธนาก็หันไปบอกเมี้ยนที่ยืนอยู่ระหว่างกลาง เพราะตั้งแต่มายังไม่เห็นหญิงสาวยิ้มหรือทักอะไรสักคำ แถมยังทำหน้าง้ำเหมือนไม่พอใจใครเสียอีก
“ จริงหรอค่ะคุณหนู ” เมี้ยนหันมาทางซ้าย ถามคนที่ยืนทำแก้มป่องอย่างไม่สบอารมณ์
“ มันก็จริงนะป้า ” กุ้งนางตอบโดยไม่หันไปมองหน้าอีกฝ่าย
“ อ้าว! ทำไมล่ะค่ะคุณหนู ? ”
“ ก็..เออ.. เอาอย่างนี้ป้าเมี้ยนฝากไปบอกเขาด้วย.. ที่ไม่อยากทำบุญด้วยก็เพราะไม่อยากเห็นกันในชาติหน้าอีก ”
“ อ้อ!..เพราะแบบนี้เอง คุณปลัดค่ะ! คุณหนูบอกว่าที่ไม่อยากทำบุญด้วย เพราะกลัวว่าจะไปเห็นกันในชาติหน้าอีก ” เมี้ยนรับสารจากคนทางซ้ายแล้วหันไปบอกคนที่ยืนอยู่ด้านขวา
“ ฝากถามคุณหนูของป้าด้วยนะ ว่าหน้าฉันเป็นยังไงถึงทนเห็นไม่ได้ ” ปลัดหนุ่มหน้าตึงตีรวนกลับไปบ้าง
“ คุณหนูคะ ปลัดถามว่าหน้าของปลัดมันเป็นยังไงหรือคะ ถึงทนดูไม่ได้ ? ” เมี้ยนยังเป็นสื่อกลางเชื่อมสัญญาณให้หนุ่มสาวลืมนึกไปว่าทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึงศอก
“ ที่ทนดูไม่ได้ก็... เพราะเหม็นขี้หน้าสิป้า..ถามได้ ” กุ้งนางตอบทันควันส่วนคนที่คอยเชื่อมสัญญาณยังทำหน้าที่ไม่ตกหล่น
“ อ้อ! .. เพราะอย่างนี้นี่เอง ปลัดค่ะ! คุณหนูบอกว่าที่ไม่อยากเห็นก็เพราะว่าเหม็นขี้หน้าคุณปลัดนะคะ ว้าย!..ตายแล้ว ป้าไม่ได้ตั้งใจนะคะ ” เพราะไอ้นิสัยปากไวพูดอะไรไม่ทันคิด ทำให้เมี้ยนโพล่งออกไปแต่เมื่อนึกได้ตัวเองก็ตกใจยกรีบขอโทษขอโพยธนาปะหลกๆ
“ ฝากไปบอกคุณหนูของป้าด้วยนะ...ว่าหน้าหล่อๆ แบบนี้หากันไม่ได้ง่ายๆ และที่สำคัญ ฉันจะตามหลอกเธอไปทุกชาติ ”ธนาไม่ถือสาเมี้ยนแต่นึกเคืองหญิงสาว
“ ป้าว่าคุณสองคนพูดกันเองเลยดีกว่า ป้าคงรับฝากไม่ไหวแล้วรู้สึกมึนๆ ยังไงก็ไม่รู้ ” เมี้ยนหิ้วปิ่นโตรีบเดินขึ้นศาลาเมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศชักจะแปลกๆ ยังไงพิกล
กุ้งนางมองตามป้าเมี้ยนที่เผ่นขึ้นศาลาไปแล้ว จะเรียกให้รอก็ไม่ทัน วงแขนเรียวกอดขันข้าวสวยใบใหญ่เริ่มขยับเพราะรู้สึกร้อนแขนเนื่องจากในขันมีข้าวสวยที่ยังมีไอร้อนลอยให้เห็น พอจะก้าวขึ้นศาลาตามเมี้ยนก็ถูกธนาขวางพร้อมกับแย่งขันข้าวในมือหญิงสาวไปถือเสียเอง
“ จะทำอะไร ? เอาของฉันคืนมานะ ” คนตัวเล็กยื้อไว้ขึงตาใส่อีกฝ่ายเหมือนเด็กหวงของ
“ ก็จะช่วยถือให้ ไม่หนักหรือไง ? ” ธนาย้อนถามด้วยความหวังดี กลัวว่าเนื้อขาวๆ เนียนๆ จะพองเสียหมด
“ จะหนักหรือไม่หนัก มันก็เรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรด้วย ? ” กุ้งนางถามอย่างถือดีเหมือนจะถามว่ามันหนักส่วนไหนของเขากันแน่
‘ นั่นสิ! เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย แต่ช่วยไม่ได้.. ก็คนมันอยากเกี่ยวมีอะไรไหม ? ’ ปลัดหุ่นล่ำนึกแย้งในใจก่อนจะออกแรงแย่งเอาขันข้าวไปถือเสียเอง เมื่อเห็นว่าผิวบางของเธอเริ่มเป็นรอยแดงขึ้น
“ ก็ไม่อยากยุ่งอะไรด้วยหรอก ถ้าไม่เห็นว่าแขนขาวๆ ของเธอมันจะแดงไปหมดแล้ว ” ธนาคว้าข้อมือเล็กยกแขนเรียวให้ดูรอยแดงๆ โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ไม่พอใจคนตรงหน้า
“ ไม่แสบ ไม่ร้อนบ้างหรือไง ? สงสัยหนังคงจะหนา ” ในใจนึกห่วงคนผิวบาง แต่ปากยังไม่วายเหน็บให้อีกดอก
“ คนนะไม่ใช่กระเบื้อง จะได้ทั้งหนา ทั้งทนร้อนเหมือนใครบางคน ” เพียงแค่ถูกธนาสัมผัส กายสาวก็เกิดกระแสความร้อนกว่าไอร้อนของข้าวในขันเสียอีก กุ้งนางสะพัดแขนออกจากอุ้มมือใหญ่ ไม่อยากให้เขารู้ว่าตนเองกำลังหวั่นไหวกับอีแค่ถูกเขาจับข้อมือ
“ เขาเรียกว่ามีความอดทนครับคุณผู้หญิง แต่ถ้าวันไหน...น้ำอดน้ำทนหมดไปเมื่อไรล่ะก็...น่าดู ” คนพูดทำเสียงฮึ่มฮั่มเหมือนกับจะขู่
“ นึกว่าจะกลัวเหรอ..ที่ผ่านมายังไม่เข็ดอีกใช่ไหม ? วันหลังจะได้จัดแบบหนักๆ ให้ ” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายก่อนจะสะบัดก้นงอนๆ เดินขึ้นศาลา
“ เดี๋ยวซิ! เล่นหนีกันแบบนี้ ไม่แน่จริงนี่ ” ธนาตามไปติดๆ
เมื่อขึ้นศาลาได้กุ้งนางทรุดตัวลงนั่งบนเสื่อใกล้เมี้ยนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว แต่แล้วก็ต้องขยับหนีแทบไม่ทัน เมื่อธนาตามมานั่งลงข้าง เธอหนำซ้ำยังนั่งชิดจนไหล่เกือบชนกัน พอขยับหนี ธนาก็ขยับตามมาติดๆ จนเธอต้องแหวกลับไป
“ตรงอื่นไม่มีนั่งแล้วหรือไง ? ” หญิงสาวหันทำตาขุ่น
“ ก็ใช่นะสิ ไม่เห็นเห็นหรือไง คนเยอะแยะเต็มศาลา ” ปลัดหนุ่มตอบเสียงเรียบๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ดูจะมีผู้คนพลุกพล่าน แต่มันก็ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องมานั่งเบียดกระแซะหญิงสาวถึงขนาดนี้
‘ แต่อย่างว่าคนมันอยากเบียดอ่ะ ช่วยไม่ได้ ’ ธนามองหญิงสาวแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ ที่ว่างตรงนั้นก็มี ทำไมต้องเบียดฉันด้วย ” กุ้งนางชี้นิ้วไปตรงที่ว่างข้างธนาเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งนิ่งไม่ขยับ
“ ใครว่าว่าง.. แล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะไปเบียดกับเธอด้วย ฉันขยับเว้นที่ไว้ให้คนอื่นนั่งต่างหาก ”