‘เบน ฉันจะทำไงดี ฉันเจอผู้ชายคนนั้นหน้าบ้านตัวเอง’
พอใจกดโทรศัพท์มือไม้สั่น เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ดีทว่ากระโดดขึ้นรถแท็กซี่ทัน ไม่อย่างนั้นเธอน่าจะเป็นลมอยู่ตรงนั้นแหละ
กระเบนวางมือ มองโทรศัพทย์ที่มีไฟกะพริบแว๊บๆ
เธอกดสไลด์หน้าจอ เปิดแอพพลิเคชันดังเพื่ออ่านข้อความ กระเบนยกมือปิดปาก โลกมันกลมเหลือเชื่อ คนที่ไม่ควรเจอกลับเจอกันดื้อๆ
‘แกหลบทันไหม ให้ฉันไปรับหรือเปล่า’ กระเบนพิมพ์ข้อความตอบด้วยความร้อนใจ
‘ทัน ฉันกำลังไปหาแก’
คำตอบของพอใจ กระเบนโล่งใจขึ้น เธอวางมือจากงาน ลุกขึ้นไปอาบน้ำให้ตัวเองสมองโล่ง หลังจากนั้นก็เตรียมมื้ออาหารง่ายๆ ให้ตัวเอง ผ่านไปสามสิบนาที พอใจก็มาถึง เสียงตึงตังด้านหน้าประตู กระเบนเลยรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูรอ
“แกเอากระเป๋ามาทำไม?” กระเบนถาม เมื่อพอใจลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาด้วย
“ฉันจะมาอยู่กับแก จนกว่าจะคลอด” พอใจตอบ
“เห้ย!! พ่อแกไม่โวยแหลกเหรอวะ?”
พอใจเข็นกระเป๋าไปไว้มุมห้อง ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาแล้วจึงตอบ “เหอะ!! ฉันไม่สำคัญขนาดนั้นหรอก บ้านหลังนั้นไม่มีฉันก็ได้”
กระเบนเดินไปรินน้ำใส่แก้ว แล้วเดินมายื่นให้พอใจ “กินน้ำเย็นๆ ดินก่อน ท่าทางแกเหนื่อยนะ แกหิวมั้ยพอ ฉันผัดข้าวผัดไว้อยากกินรองท้องสักหน่อยมั้ย?” ความเป็นห่วงที่ฉายชัดออกมาทางแววตา แม้กระเบนจะไม่ใช่พี่น้องไม่ใช่ญาติ แต่กระเบนกลับมีความจริงใจนั่นมากกว่าคนในครอบครัวของเธอเสียอีก
“หิว!!” พอใจตอบสั้นๆ
อยู่ที่บ้านหลังนั้น พอใจกลืนอะไรไม่ลงเลย
“รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวค่อยคุย” ถึงจะอยากรู้จนอกเกือบแตก แต่คนที่ไม่มีสติแถมหิวด้วยอย่างพอใจ ต้องให้เวลาเตรียมใจบ้าง กระเบนเดินกลับมาพร้อมกับจานข้าว ที่มีข้าวผัดฝีมือตัวเอง
“กินซะ กินอิ่มก่อนค่อยคุยกัน” กระเบนยื่นจานข้าวให้ แล้วก็เดินไปลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ
“ฉันเจอหมอนั่นที่หน้าบ้านฉัน ฉันจะทำไงดีวะเบน?” พอใจถามเสียงขลุกขลักเพราะมีข้าวผัดอยู่ในปาก
“แกแน่ใจนะว่าจำหมอนั่นได้ชัวร์นะ” กระเบนย้อนถาม
“แน่ใจสิ ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมนี่หว่า ทำไมฉันจะจำคนที่ฉันนอนด้วยไม่ได้ยะ”
“แกเคยบอกฉันว่า แกเมานี่พอ” กระเบนแย้ง
“ก็เมาจริง แต่ฉันก็ยังจำเขาได้” พอใจยืนยัน
“หล่อมั้ย?” ท่าทางเคร่งเครียดของเพื่อนกระเบนเลยถามเพื่อให้พอใจคลายเครียด
พอใจนิ่ง ทำท่านึก “ก็หล่อนะ หล่อแบบหมดจด หล่อแบบไม่มีที่ติ หล่อแบบเทพบุตรเลยนะ” กระเบนอ้าปากพะงาบๆ คิดไม่ถึงกับคำตอบแบบนั้น
“แกล้อฉันเล่นใช่มั้ย?”
“ไม่ได้ล้อ เรื่องจริง ฉันคิดว่าฉันเคยเห็นเขามาก่อน ขอคิดแปบนะเบน” พอใจตักข้าวใส่ปาก ขมวดคิ้วนิ่งคิด เธอล้วงโทรศัพท์มาสไลด์หน้าจอ หลังค้นหาอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง ก็ยื่นส่งให้กระเบนดู “คนนี้แหละ ผู้ชายที่ฉันนอนด้วย ฉันมั่นใจ”
กระเบนยิ้มแหยๆ มองหน้าจอโทรศัพท์สลับกับการจ้องหน้าพอใจ
“เขาว่าไงบ้าง ตอนที่เจอเธอ” กระเบนถามต่อ
“ไม่รู้สิ ฉันรีบเผ่นออกมาก่อน ยัยแป้งขวางไว้ด้วยมั้ง เขาเลยตามฉันมาไม่ได้” พอใจเล่าแบบไม่ใส่ใจ เธอไม่ทันได้อ่านรายละเอียดของชายผู้นั้นด้วยซ้ำ
“พอ นี่มันทายาทรัตนไพศาลกิจกรุ๊ปเชียวนะ” กระเบนท้วงเสียงหลง หลังอ่านเนื้อหาใต้รูปภาพ
“บ้าเหรอเบน ไม่ใช่หรอก แกดูดีๆ สิ” พอใจส่ายหน้า เธอไม่ได้โชคดีถึงขนาดไปคว้าทายาทเศรษฐีมากก ทั้งที่ตัวเองไม่มีสติหรอกนะ
“อ่านสามรอบแล้ว ค้นหาจากรูปด้วย แกแน่ใจนะพอ ผู้ชายคนนี้คือพ่อของลูกแกจริงๆ” กระเบนชักไม่มั่นใจ พอใจคงไม่โชคดีขนาดนั้น ทายาทตระกูลดังนั่น ไปเที่ยวในสถานบันเทิงพื้นๆ ได้ยังไง แหล่งส่องสุมลูกหลานคนรวย มันคนละระดับกับที่พอใจไปเมาหัวราน้ำมา
“ฉันจะโกหกแกทำไมยะ ผู้ชายคนนี้แหละ”
พอใจแก้มร้อนฉ่า ภาพความทรงจำผุดขึ้นมาทีละน้อย ฉากหวามๆ นั่นทำให้เนื้อตัวเธอร้อนผ่าว เธอรีบสลัดหน้า ไล่ความทรงจำหวามๆ นั่นทิ้ง เวลานี้เธอควรจริงจัง ป่วยการคิดเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ผู้ชายลักษณะอย่างเขา คงไม่ต้องการความทรงจำสั้นๆ เช่นนี้เหมือนกัน
“เขารวย รวยแบบร๊วย!!” กระเบนพูดเสียงดัง ท่าทางขึงขังจนพอใจ ใจไม่ดี
“แกล้อฉันเล่นเหรอ?” พอใจถามเสียงอ่อยๆ
“ไม่!!” กระเบนส่ายหน้าแรงๆ แล้วก็ยัดโทรศัพท์ใส่มือของพอใจ “ดูเองแล้วกันนะ นั่นน่ะ ใช่พ่อของลูกแกใช่ไหม?”
พอใจลดสายตาลงมอง เธอกลืนน้ำลายฝืดๆ ภาพของชายที่ติดอยู่ในความทรงจำเรียงเป็นพืดเต็มหน้าจอโทรศัพท์ เธอไล่ดูตั้งแต่บนสุด จนถึงล่างสุด เนื้อข่าวนั่นล้วนแล้วแต่สรรเสริญ ผู้ชายที่โปรไฟล์ดี มีชาติตระกูล นามสกุลของเขา มีสาวๆ เกือบทั้งประเทศอยากครอบครอง
สีหน้าพอใจซีดลงเรื่อยๆ
“เบน ฉันควรทำไงดี?”
กระเบนมองหน้าพอใจตรงๆ “ทางที่ดีนะยัยพอ แกควรอยู่ห่างๆหมอนี่ แล้วห้ามให้เขารู้เด็ดขาดว่าแกท้อง!!” กระเบนย้ำแล้วย้ำอีก
หากผู้ชายคนนั้นไม่ต้องการ ‘เด็ก’ มันก็เป็นความโชคดีของพอใจ แต่หากตรงกันข้ามละ ชายผู้นั้นต้องการทายาทของเขาขึ้นมา พอใจคงเจอศึกหนัก อำนาจเงินที่เขาครอบครอง พอใจไม่มีทางสู้ได้เลย ประเทศที่เธอกับพอใจอาศัยอยู่ คนรวยเป็นคนที่มีสิทธิเลือก ส่วนคนไร้เงิน ไร้อำนาจ ต้องกล้ำกลืนฝืนทน เงินเปลี่ยนทุกสิ่งได้ แม้แต่ผิด หากมีเงินก็เปลี่ยนให้ถูกได้หน้าตาเฉย
เมฆถูกตามตัวกลับด้วยคำสั่งเร่งด่วน สีหน้าตึงๆ ของเจ้านายเขาทำได้แค่ก้มหน้ารอฟังคำสั่ง เมฆเริ่มวิตกเล็กน้อย ผู้ช่วยที่เขาเตรียมไว้ให้ครินต์คงไม่ถูกใจนัก เลขาฯ หนุ่มถอนใจ ความเอาแต่ใจเรื่องเดียวของครินต์ที่น่ากลัวที่สุด คือผู้หญิงที่เข้าหาเขาในที่ทำงาน
ครินต์แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไว้อย่างชัดเจน
เมฆเลยรู้สึกเหงื่อตก เขาคัดคนมาอย่างดี ไม่รู้ว่าพลาดตรงไหน ในบรรดาพนักงานที่ฝ่ายบุคคลส่งมาให้ แป้งร่ำดูลักษณะเข้าทีที่สุด หล่อนแทบไม่ชายตามองเพื่อนร่วมงานเพศชายเลย
เขามาถึงบางอ้อ ก็ตอนที่สายไปแล้ว
การที่แป้งร่ำไม่มองเพื่อนร่วมงาน นั่นก็เพราะเป้าหมายของหล่อนชัดเจนที่สุด เขาพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ มารู้ตัวอีกทีก็สายเกินไปเสียแล้ว เมฆล้วงผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อ ระหว่างที่รอคำสั่งจากเจ้านาย
“ไปสืบมาให้หน่อย ประวัติครอบครัวของผู้ช่วยเลขาฯ ที่คุณส่งมาช่วยงานผม” วันนี้ครินต์ทำงานไม่รู้เรื่อง เขาแทบไม่ใส่ใจเนื้อหางานชิ้นนั้น เขาอารมณ์เสียเพราะแป้งร่ำแทบนับครั้งไม่ถ้วน ผู้หญิงคนนี้อยู่ใกล้แล้วทำให้เขาเดือดได้อย่างง่ายได้
สมองของหล่อนไม่ได้โตเท่ากับหน้าอก
ความคิดของหล่อนก็ด้วย เขาไม่อยากคิด หากฝืนให้แป้งร่ำทำงานตำแหน่งนี้นานๆ อนาคตเขาคงเส้นเลือดในสมองแตกตาย
เมฆกะพริบเปลือกตาปริบๆ เขาแน่ใจว่าได้ยินคำสั่งชัดเจน ท่าทางของครินต์ไม่ได้พอใจแป้งร่ำสักนิดเดียว ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้านายของเขาจะสืบประวัติส่วนตัวของหล่อนไปทำไม ในเมื่อประวัติของแป้งร่ำมีที่ฝ่ายบุคคลครบ
“คือ...”
“ยัยนั่นมีพี่สาว ซึ่งไม่ได้ลงไว้ในประวัติครอบครัว นั่นคือคำสั่งที่ผมอยากให้คุณไปสืบมา” เสียงแข็งๆ สีหน้าเรียบกริบ
เมฆเม้มปาก น้อมรับคำสั่งแบบไม่โต้แย้ง
“พรุ่งนี้เช้านะ ผมต้องการรายละเอียดทั้งหมด เรื่องง่ายๆ แค่นี้ คุณคงทำได้ใช่มั้ย?”
พอหายหวาดหวั่น เมฆก็เริ่มร้อนรน เขามีเวลาเหลือแค่อีกไม่เกินสิบสองชั่วโมง กับประวัติผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีแม้แต่รูปถ่าย
“ครับ” เมฆเดินหน้าตั้ง เขาเรียกรวมการ์ดส่วนตัวของครินต์ และแบ่งงานให้ทุกคนไปทำ งานเร่งด่วนขนาดเมฆเองยังถูกเรียกตัวกลับ ทั้งที่นัดสำคัญยังไม่เริ่ม เมฆอดสงสัยไม่ได้ ‘ผู้หญิงปริศนา’ คนนั้นสำคัญกว่าโครงการหลายร้อยล้าน ที่ครินต์เกาะติดมากว่าครึ่งปี เมฆอดสงสัยไม่ได้ บางทีผู้หญิงคนนั้น กับผู้หญิงที่ทำให้ครินตืหัวเสียเมื่อเดือนก่อนอาจเป็นคนเดียวกัน