ทรมานหัวใจ (4)

1461 คำ
ลูกผู้ชายฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ โชคดีที่ตอนนั้นเขายังไม่ได้รักหล่อนมากมาย แค่เริ่มรักเริ่มชอบเท่านั้นในความคิดของเขา ทำให้เขาตัดสินใจเลิกกับศศิวิมลได้ไม่ยาก แต่กว่าจะทำใจให้ลืมอดีตได้มันยากกว่า เขาไม่ได้เสียใจหรอก แต่เขาเสียความรู้สึกต่างหาก เขาอุตส่าห์วาดหวังอนาคตไว้กับหล่อนเสียสวยหรู คิดแม้กระทั่งอยากจะขอหล่อนแต่งงานหลังจากเขาใช้ชีวิตโสดให้เต็มที่ แต่ศศิวิมลก็รอเขาไม่ได้ พอกันทีกับความรัก เขาจะไม่รักใครจริงจังเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ผู้หญิงที่เขารู้จักมา แม้กระทั่ง ลิซ่า แอนนา เชอรี่ สามสาวที่เขากำลังควงอยู่ตอนนี้ หาใครดีไม่ได้สักคน แต่ละคนต้องการเพียงแค่เงินของเขาเท่านั้น ผู้หญิงสวยๆ ยอมทำตามใจเขาทุกอย่างเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย เขาก็จัดให้ไม่เคยขาด แต่อย่าหวังว่าพวกหล่อนจะมาครอบครองร่างกายและหัวใจของเขาเอาไว้คนเดียว ผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงินหาความรักจริงจากหล่อนไม่ได้สักคน ร่างสูงใหญ่มองไปทางบ้านพักสองชั้นด้วยสายตาสงสัย เขาอยากจะรู้เหมือนกัน ผู้หญิงอย่างอัญชนาจะเลิศเลอไปกว่าผู้หญิงที่ผ่านๆ มาของเขาสักแค่ไหน ในเมื่อหล่อนก็ทำเพื่อเงินเหมือนกัน ‘อัญชนา คืนนี้ผมจะพิสูจน์ตัวคุณว่าจะสมค่าสมราคากับที่ผมจะยอมลงทุนแต่งงานกับคุณหรือเปล่า’ อัญชนายืนมองออกไปยังท้องทะเลกว้างใหญ่ตรงราวระเบียง เห็นคลื่นสาดซัดเข้ามากระทบฝั่งเป็นระยะๆ สายลมอ่อนๆ พัดมากระทบผิวกายให้ความรู้สึกสดชื่นเย็นสบาย แต่ในหัวใจของเธอตอนนี้สิ กลับร้อนรนไปด้วยความรู้สึกที่ยังมืดมนจนหนทาง ไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอทุ่มลงทุนทั้งกายและใจในวันนี้จะคุ้มค่ากับคำตอบที่จะได้รับจากเขาหรือเปล่า กฤตภพยังไม่ได้ให้คำตอบอะไรเธอเลย เธอกับเขาแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวด้วยซ้ำ เธอเดาใจเขาไม่ได้เลยจริงๆ หลายครั้งที่เธออยากจะถามเขาว่า...ตกลงเขาจะเอายังไง เขาจะปฏิเสธหรือว่าจะตอบรับ แต่กำแพงใจที่กฤตภพกั้นเอาไว้ ทำให้เธอไม่สามารถจะทำอะไรได้ดั่งที่ใจนึก เขาทำเหมือนไม่สน ไม่แคร์ ไม่ง้อ ไม่เห็นว่าเธออยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เธอจะไปหรืออยู่เขาก็ไม่สนใจ ปากของเขาก็คอยแต่ผลักไสไล่ส่งเธอทุกครั้งที่เธอออกอาการต่อต้านไม่ทำตามใจเขา แต่กฤตภพก็ไม่ได้ปฏิเสธเธอเสียทีเดียว มันจึงทำให้เธอยังรู้สึกว่ายังมีความหวังอยู่บ้าง แม้ว่ามันจะเลือนราง แต่เธอก็จะพยายามให้ถึงที่สุด อดทนให้ถึงที่สุด สมุดบันทึกเล่มเล็กที่หยิบติดมือมา ถูกเปิดขึ้นพลิกไปยังหน้าที่ว่าง ร่างบางเดินไปนั่งที่ม้านั่งที่ทำด้วยไม้สักทองลวดลายสวยงาม จับปากกามาเขียนความรู้สึกบางอย่างในหัวใจลงไป หัวหิน 20.39 น. ยิ้มรับกับเสียงคลื่น      ชื่นมื่นกับสายลมหนาว ซาบซึ้งกับหมู่ดาว ที่พร่างพราวบนท้องนภา ราตรีนี้ช่างเงียบเหงา    ซ่อนรอยเศร้าในใจที่เหว่ว้า แอบลอบกลืนน้ำตา     ที่ไหลมาจนท่วมใจ ฉันไม่อาจที่จะอ่อนแอ เพราะฉันจะแพ้ไม่ได้ ฉันไม่ต้องการชนะใคร แค่ชนะใจเธอได้ก็เพียงพอ ไม่ได้ขอให้เธอมารัก   แค่ชอบก็ไม่คิดร้องขอ เพราะรู้ฉันอาจไม่มีค่าพอ     ที่จะร้องขอต่อรองสิ่งใด ได้แต่เก็บซ่อนความเจ็บปวด จนร้าวรวดในหัวใจที่อ่อนไหว เก็บกดทุกอย่างไว้ภายใน      หวังว่ามันจะไม่พังทลายในชั่วข้ามคืน อัญชนาพับปกสมุดบันทึก ปิดปลอกปากกาเอาไว้แค่นั้น ทุกครั้งที่เธอรู้สึกสุขมากหรือเศร้ามากๆ เพื่อนที่คลายเหงาที่ดีที่สุดของเธอก็คือสมุดบันทึกเล่มนี้ เธอชอบเขียนความรู้สึกออกมาเป็นบทกลอนเสมอ อย่างน้อยมันก็เป็นการระบายความในใจออกมาได้เต็มที่ ระบายในสิ่งที่ใครบางคนอาจไม่อยากจะรับฟัง หรือไม่สามารถรับฟังเธอได้เลย ร่างบางนั่งพิงพนักเก้าอี้ หล่อนกอดสมุดเอาไว้แนบอก และเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว สมุดบันทึกเล่มเล็กร่วงลงพื้นเมื่อไหร่หล่อนก็ไม่อาจรู้ได้ ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้ เขาก้มลงเก็บสมุดบันทึกเล่มนั้น แล้วเหม่อมองไปยังเจ้าของสมุดบันทึกนิ่งงันหลายวินาทีอย่างลืมตัว ก่อนที่จะเสียมารยาทเปิดอ่านสมุดไดอารี่หน้าหลังสุด ‘คืนนี้เอาชนะใจผมให้ได้ก็แล้วกัน อัญชนา’ มือเรียวปิดสมุดไว้ดังเดิมหลังจากที่อ่านบทกลอนไม่กี่บทนั้นจบลง และก้มลงเอามันวางไว้ที่เก่า ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน และราตรีที่เงียบเหงาแบบนี้ เขาไม่คิดอยากนอนคนเสียด้วยสิ อสูรร้ายสำหรับอัญชนาในร่างของเทพบุตรสุดเสน่หา หันหน้าไปมองเตียงกว้างที่ว่างเปล่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปากเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ        กฤตภพอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาเดินออกมานอกห้องก็ยังเห็นอัญชนานั่งหลับอยู่ที่เดิม เขาไม่รู้ว่าหล่อนง่วงนอนมาจากไหน ถึงได้หลับทั้งที่ยังนั่งอยู่แบบนั้น มองไปมองมาหล่อนก็ดูน่ารักดี ผิวสวยผุดผ่อง น่ากินไปทั้งตัว เขาสำรวจหล่อนตั้งแต่ริมฝีปากอิ่มบางสีกุหลาบที่เขารู้แล้วว่ามันให้ความรู้สึกหอมหวานมากแค่ไหน เขามองเรื่อยลงมาจนถึงนิ้วเท้าเรียวเล็กที่โผล่พ้นชุดนอนบางเบาออกมา ก่อนที่จะตวัดสายตามองใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรานั้นอีกครั้ง        “อัญชนา” เขาเรียกหญิงสาวเบาๆ        “.....” ร่างบางยังคงหลับตาพริ้ม        “อัญชนา” เขาเรียกหล่อนดังขึ้นอีกนิด        “......” ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ        แมวสาวขี้เซายังคงนั่งหลับฝันหวานอยู่เช่นเดิม กฤตภพไม่เรียกหล่อนเป็นครั้งที่สาม เขาโน้มตัวลงช้อนแขนแข็งแรงทั้งสองข้างตวัดร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอด เดินเข้าไปยังห้องนอนทันที อัญชนารู้สึกตัวทันทีเมื่อแผ่นหลังแตะลงบนที่นอน ร่างเล็กรีบลุกขึ้นนั่งและถอยร่นขึ้นไปบนหัวเตียงทันที และออกเสียงขู่ฟ่อมองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง        “คุณกฤต คุณจะทำอะไรฉันน่ะ อย่าเข้ามาใกล้นะ!” หล่อนขู่เขาทั้งน้ำเสียงและสายตาอย่างหวาดหวั่น ร่างบางตัวสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ชายตัวโตๆ หน้าตาไม่น่าไว้ใจอย่างเขา กฤตภพดูน่ากลัวที่สุดในเวลาเช่นนี้ แววตาของเขาฉายแววหื่นกระหายออกมาอย่างไม่ปิดบัง พร้อมกับรอยยิ้มหยันเมื่อเห็นเหยื่อจนมุม        “ถามมาได้ ว่าผมจะทำอะไรคุณ โตเป็นสาวขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าเวลาที่ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสองเนี่ย พวกเขาต้องทำอะไรกันบ้าง อย่าบอกนะว่าคุณยังไม่เคยอยู่ร่วมห้องกับใครมาก่อน ไม่เคยมีแฟนหรอกรึ ถึงได้ทำท่าอินโนเซ้นท์ไร้เดียงสาแบบนี้” ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับเอามือเชยคางมนของหล่อนให้ขึ้นมาสบตากับเขา ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าสาวน้อยตรงหน้ากำลังตื่นกลัว หล่อนตัวสั่นขนาดนี้ สงสัยจะยังไม่เคย        “ฉัน...ฉันยังไม่มีแฟน และ...และไม่เคยอยู่กับใครสองต่อสองแบบนี้” หล่อนพูดเสียงสั่นๆ ไม่กล้าสบตาเขา ขณะที่ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้กระต่ายสาวจอมตื่นมากขึ้นเรื่อยๆ        “จะให้ผมเชื่อคุณเหรอ ง่ายเกินไปหรือเปล่า อย่างนี้มันต้องพิสูจน์กันหน่อยละ ว่าคุณพูดจริงหรือว่าแกล้งอำผมเล่น อ้อ...กรุณาแทนตัวเองว่าอัญด้วยนะ ยังจำได้มั้ย” เขาทวงอีกครั้งด้วยสายตาพราวระยับและบังคับเป็นนัยๆ “อัญพูดจริงๆ นะคะ คุณกฤตอย่าแกล้งอัญแบบนี้เลยนะคะ”  หล่อนบอกเขาด้วยสายตาวิงวอน ใจเต้นโครมครามด้วยความหวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะดูแววตาท่าทางของเขาช่างน่ากลัวยิ่งนัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม