“ถ้าเป็นแบบนี้ยัยหนูแย่แน่ๆ เห็นทีต้องรีบตามหมอผีมาไล่… ว่าแต่เธอรู้จักหมอผีบ้างไหม… ”
“บัวเคยได้ยินคนกล่าวถึง ‘หมอทัพพ์’ ค่ะเสี่ย เขาว่ากันว่าแกเก่งนักในเรื่องปราบผีและขับไล่คุณไสยมนต์ดำ… สำนักแกอยู่ตีนดอย… ”
ป้าบัวกล่าวตามที่เคยได้รู้มา
“ทำไมเธอรู้เยอะจัง… ”
“ก็หมอทัพพ์คนนี้หล่อ เมื่อก่อนแกเคยเป็นหมอแผนโบราณค่ะ มีความเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรพื้นบ้าน จากนั้นเข้าวงการพระเครื่อง กลายเป็นเซียนพระชื่อเสียงโด่งดัง ก่อนจะผันตัวมาศึกษาศาสตร์ลี้ลับ”
“งั้นรีบให้คนไปตามหมอทัพพ์มาด่วน… ”
เสี่ยสั่งเสียงเข้ม…
“ค่ะนาย… ”
จากนั้นรถตู้สีขาวคันใหญ่ที่ตั้งใจจะมารับคุณหนูฮานะไปส่งสนามบินเชียงใหม่เพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ ก็มีอันต้องเปลี่ยนภารกิจไปรับหมอผีมาไล่ผีที่กำลังเข้าสิงร่างของคุณหนู
ในเวลาต่อมา
ใช้เวลาไม่นานนัก ‘หมอทัพพ์’ จอมขมังเวทย์ผู้เลื่องชื่อก็เดินทางมาถึงบ้านหลังใหญ่ของเสี่ยอนันต์
“พ่อหมอครับช่วยลูกสาวผมด้วย… ”
เสี่ยอนันต์ยกมือไหว้จอมขมังเวทย์ร่างสูงใหญ่ ใบหน้าของพ่อหมอทัพพ์คนนี้หล่อเหลาจริงอย่างที่บัวตองว่า อีกทั้งท่วงท่าการเคลื่อนไหวยังดูทะมัดทะแมงไม่ต่างจากหนุ่มๆ ทั้งที่อายุใกล้ห้าสิบปี
“ข้าได้กลิ่นอายของปีศาจ… ”
พ่อหมอทัพพ์สวมชุดขาวทั้งตัว ยืนนิ่งหลับตาลงชั่วขณะ ทำจมูกฟุดฟิดเมื่อย่างกรายเข้ามาในบ้าน
“คุณหนูอยู่ข้างในค่ะ… เชิญทางนี้ค่ะพ่อหมอ”
บัวตองรีบเดินนำหน้าจอมขมังเวทย์ขึ้นบันไดมาที่ห้องนอนของฮานะ
“คุณหนู… ”
บัวตองร้องอุทาน…
เมื่อผลักบานประตูเข้ามา สายตาปะทะเข้ากับร่างของคุณหนูที่ยังอยู่ในสภาพเดิม ผมเฝ้ายุ่งเหยิง สายชุดนอนบางๆ ข้างหนึ่งหลุดลุ่ยออกจากไหล เผยให้เห็นลาดไหล่สล้างและเนินเต้าขาวเนียนสะดุดตา
“พ่อหมอคะช่วยคุณหนูด้วย… ”
“ที่เจ้าเห็นอยู่นี่ไม่ใช่คุณหนู… แต่เป็นนังผีร้ายที่เข้าสิงร่างคุณหนู… ”
จอมขมังเวทย์กล่าวเสียงเข้ม สายตาแทบไม่ละจากเรือนร่างสุดเซ็กซี่เย้ายวนของสาวน้อย ค่อยๆ สืบเท้าเข้าไปหา
“เจ้าเป็นใคร… เพราะเหตุใดเจ้าจึงมาเข้าสิงร่างหญิงสาวคนนี้… ตอบข้ามาเดี๋ยวนี้นะเจ้าผีร้าย… ”
พ่อหมอกราดน้ำเสียงใส่อย่างไม่กลัวเกรง
“ข้าคือผีแม่ม่าย… ”
ฮานะตอบเท่าที่จะคิดขึ้นมาได้…
เพราะว่าตามแผนการที่คิดเอาไว้นั้นตัวเองไม่ได้คิดไกลมาถึงขั้นว่าผู้เป็นบิดาจะตามหมอมาปราบผี แต่ตอนนี้สถานการณ์บานปลาย หล่อนจึงต้องเล่นไปตามบท
“ที่แท้ก็วิญญาณนังผีแม่ม่ายเร่ร่อนนี่เอง… นังผีร้ายข้าขอสั่งให้เจ้าออกไปจากร่างของหญิงสาวผู้นี้แต่โดยดี… ”
เสียงของจอมขมังเวทย์ดุดันน่ากลัว
“ข้าไม่ไป… ”
ฮานะส่ายหน้า ทำตาถลนใส่คนที่กำลังจ้องมองหล่อน
“เจ้าอยากลองดีกับข้าใช่ไหมนังผีร้าย”
พ่อหมอเอื้อมมือลงไปในย่ามสะพายบ่า ควักข้าวสารเสกออกมาสาดใส่คุณหนู
ขวับ…
“กรี๊ดดดด… ”
ฮานะร้อง ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด แต่ร้องไปตามบท ทำเอาเสี่ยเสี่ยอนันต์กับป้าบัวตองที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ถึงกับหันมามองหน้ากันด้วยอาการขนลุกซู่
“ถ้าเจ้ายังไม่ยอมออกจากร่างของคุณหนูข้าจะสะกดวิญญาณเจ้าลงหม้อแล้วเอาไปถ่วงน้ำ… ทีนี้เจ้าไม่ได้ผุดได้เกิด… ”
พ่อหมอทัพพ์ขู่
“ข้าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น… ถ้าเจ้าขืนมายุ่งกับข้า… ข้าจะกินตับเจ้า… ”
ฮานะตวัดลิ้นเลียริมฝีปาก จ้องมองพ่อหมอตาเขียวปัด
“ข้าเตือนเจ้าดีๆ แล้วนะ… นี่เจ้าอยากลองดีกับข้าใช่ไหม… ”
พ่อหมอเอื้อมมือหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากย่าม เปิดขวดแล้วสาดน้ำสีขาวในขวดเข้าใส่ร่างของหญิงสาว
“กรี๊ดดดดดดด… ”
ฮานะกรีดร้อง…
แต่ไม่สะทกสะท้าน ตายังจ้องมองพ่อหมอเขม็ง ทำท่าทางให้รู้ว่าผีร้ายยังไม่ยอมออกจากร่างง่ายๆ
“ถ้าเจ้าขืนมายุ่งกับข้าอีก… ข้าจะกินตับไตไส้พุ่งของอีคนนี้… ข้าจะเอาชีวิตมัน… ”
ผีร้ายกราดน้ำเสียงผ่านร่างของหญิงสาวที่โดนสิงสู่ ประโยคที่ได้ยินทำเอาเสี่ยอนันต์ตกใจมาก รีบขยับเข้ามาหาพ่อหมอ
“ช่วยลูกสาวผมด้วยนะพ่อหมอ… ”
เสียงของเสี่ยอนันต์สั่นเครือ…
ขอร้องให้ช่วยเพราะกลัวว่านังผีร้ายจะเอาชีวิตของลูกสาว
“ไม่ต้องกลัว… ข้ามีวิธีปราบนังผีร้ายตนนี้ แต่ข้าต้องทำพิธีเพียงลำพัง ระหว่างทำพิธีพวกเจ้าทุกคนต้องลงไปรอข้างล่าง”
“ได้ครับ… ”
เสี่ยรีบพยักหน้า
“ข้าขอเวลาแค่พักเดียว… รับรองว่านังผีร้ายตนนี้จะต้องยอมออกจากร่างของลูกสาวของเจ้าแต่โดยดี”
สิ้นคำสั่งของพ่อหมอ ทุกคนจำต้องลงไปรออยู่ที่ห้องรับแขกชั้นล่าง ปล่อยให้พ่อหมอทัพพ์ทำพิธีขับไล่ผีแม่ม่ายไปเพียงลำพัง
เบื้องหลังบานประตูห้องนอนที่ปิดลง…
พ่อหมอทัพพ์รีบล็อกประตู สืบเท้าเข้าหาหญิงสาวผู้มีทรวดทรงเซ็กซี่เย้ายวนตาแม้อยู่ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง
“นังผีแม่ม่าย… ข้ามีข้อแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจ้าออกจากร่างของหญิงสาวคนนี้แต่โดย… ”
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไร… ”
หญิงสาวตกใจ…
เกือบจะยอมสารภาพออกมาว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงละครที่สร้างขึ้นมาหลอกผู้เป็นพ่อ
“ร้อยทั้งร้อยของผีแม่ม่ายล้วนต้องการสิ่งนี้ของบุรุษเพศ… รับรองว่าเอ็นของข้าทั้งยาวทั้งใหญ่จุใจเจ้าแน่ๆ… เจ้าอยากได้ไหมล่ะ… ”