" ไอ้มั่นมึงจับตัวแม่กลอยไปที่เรือนกู แล้วจับนางผูกกับขือข่าไว้กูจักไปเฆี่ยนนาง โทษฐานที่กล้ามาสามห้าวกับกู มึงไปมึงรีบไปจับตัวนาง" ขุนเดชตวาดเสียงกร้าวด้วยความโกรธที่สุมอยู่ในอก เมื่อถูกวาจาอวดดีของเมียที่เขาไม่เคยคิดที่จะเดินเชียดเลยแม้แต่น้อยแต่ไม่รู้เหตุใดพอนางบอกว่านางจะเลิกกับเขาเท่านั้นแหละขุนเดชถึงกับต้องโมโหมากจนสั่งโบยนางอีกคราได้ เมื่อมั่นบ่าวคนสนิทของขุนเดชได้ยินคำสั่งของคนเป็นเจ้านายแบบนั้นแล้ว ไอ้มั่นก็รีบวิ่งเข้าไปทำท่าจะจับตัวของกลอย ชื่นที่รักแม่นายของตนมากก็วิ่งร้องไห้แทบขาดใจเอาตัวมาขวางไม่ให้บ่าวของท่านขุนมาจับตัวของนายเธอได้
" ฮือ....ฮือ....แม่นายหนีไปเจ้าคะแม่นาย แม่นายหนีไป ฮือ....กูอีชื่นยอมตายแทนแม่นาย ถ้าจักเฆี่ยนก็เฆี่ยนบ่าวแทนเถอะเจ้าคะอย่าทำแม่นายของบ่าวอีกเลย ครานั้นที่ท่านขุนทำโบยแม่นาย แม่นายของบ่าวไม่ได้ทำอันใดผิดแม้แต่น้อยท่านก็รู้อยู่เต็มอก แต่ก็สั่งโบยแม่นายจนแทบสินใจ ฮืออออออ " ชื่น ที่รู้ตัแล้วว่าวันนี้ตัวเองต้องตายแทนคนเป็นเจ้านายนางก็เลยพูดสิ่งที่เก็บไว้จนแน่นอก พูดออกไปกลอยที่ได้ยินว่าขุนเดชเคยทำกับตัวเองแบบนั้นนางก็รู้สึกโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเช่นเดียวกัน ไหนจะคนที่ยอมตายแทนเธออีก กลอยไม่มีทางให้เป็นแบบนั้นแน่
" มึงเข้ามาเลยทั้งนายทั้งบ่าวของมึง วันนี้กูอีกลอยขอสู้ตาย " กลอยผลักบ่าวของตัวเองให้ออกมาจากเหตุที่กำลังจะเกิดขึ้น ขุนเดชเมื่อได้ยินคำพูดท่าทายแบบนั้นของหญิงสาวจากโมโหมากอยู่แล้วตอนนี้โมโหยิ่งกว่าเป็น100เท่า เพราะคำพูดที่ออกจากปากของนางไม่มีแม่หญิงคนใดกล้าพูดกับผวของตัวเองแบบนั้น บ่าวไพร่และก็ ชบาและมะลิที่แอบดูอยู่ถึงกับตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่า กลอยที่ฟื้นขึ้นมาจะเป็นไปได้มากถึงเพียงนี้ จนคำพูดที่พูดออกมาไม่รู้ว่าอันไหนต่ำอันไหนสูง
" แม่กลอยมันจะมากเกินไปแล้วนะ ดีถ้าอย่างนั้นเจ้าก็จงตายเสียเถอะในเมื่อเจ้าพูดเองว่าเจ้าจะขอสู้ข้าจนตาย ได้......ถ้าอย่างนั้นเจ้า " ปัก ปึก ตุบ ขุนเดชกัดกรามแน่นด้วยความโมดหจนหน้าแดงเพราะคำพูดที่หยาบช้าของแม่หญิงที่อยู่ตรงหน้าทำให้ขุนเดชถึงกับขาดสติเดินปรี่เข้าไปหาหญิงสาวเอง จากนั้นกลอยที่ตั้งท่าอยู่แล้วเมื่อศัตรูได้เดินเข้ามา นางก็จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้ชายหนุ่มซะเลย โดยการที่เธอซัดกำปันไปที่ลูกกระเดือก ก่อนจะกระโดดถีบเพื่อส่งร่างของขุนเดชลงไปนอนกองกับพื้น จากนั้นนางก็ทำท่าจะเดินปรี่เข้าไปทำร้ายท่านขุนอีกครั้งด้วยความโกรธที่สุมอกเช่นเดียวกัน แต่ชื่นที่เห็นท่าไม่ดีนางก็รีบดึงแม่นายของตนให้รีบหนีออกจากที่นี้ ชบากับมะลิและบ่าวไพร่ที่แอบซุ่มดูอยู่นานแล้ว ทั้งหมดที่เห็นทุกอย่างและก็ทุกตอนทุกคนต่างก็ตกใจแทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าแม่หญิงอยุธทยาจะลุกขึ้นมาเตะต่อยกับผู้ชายอกสามศอกได้จนถึงเพียงนี้
" กรี๊สสสสส ว๊ายคุณพี่ คุณพี่เจ้าขา คุณพี่ " เสียงกรีดร้องของมะลิและชบาเมียเอกเมียโท555 ของขุนเดชวิ่งออกมาจากที่ซ้อนด้วยความตกใจที่เห็นสามีโดนเมียชังต่อยเตะจนสลบกองอยู่กับพื้น เมื่อสถานะการณ์เริ่มดูวุ่นวายมากแล้ว ชื่นกับกลอยต่างก็รีบวิ่งไปเก็บของที่คิดว่าจำเป็นก่อนจะวิ่งออกมาจาเรือนด้วยความรีบร้อน เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังวุ่นวายกับขุนเดชอยู่ ชื่นและกลอยก็เลยได้โอกาสหนีออกมาจากเรือนของขุนเดช บรมเดชา ด้วยความรวดเร็วถึงแม้ว่าทั้งคู่แทบจะไม่ต้องหนีเลยด้วยซ้ำแต่ด้วยความที่ชื่นไม่ได้รู้ด้วยนิว่ามีนักฆ่าอยู่ในร่างของเจ้านายตน กลอยก็เลยได้แต่เล่นตามน้ำไปเพราะกลัวว่าชื่นจะเป็นห่วงเธอจนอกแตกตาย ก่อนถึงวัยอันควร
" คุณพี่ คุณพี่เป้นเยื่องใดบ้างเจ้าคะ " ชบาเมียเอกที่นั่งอยู่บนเตียงกับขุนเดชเอ้ยถามสามีด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนแทบทะลุออกมาทางด้านนอกเพราะกลัวว่าสามีอันเป็นที่รักจะตายหนีแล้วเองเองเป็จะเป็นหม่าย มะลิที่อยู่ไม่ไกลนางก็รีบเข้ามาหาขุนเดชผู้เป็นผัวรักเช่นเดียวกัน ขุนเดชที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความงง ว่าตัวเองเป็นอะไร ก่อนจะค่อยๆเอามือกุมหัวแล้วพยุงร่างของตัวเองขึ้นมาช้าๆด้วยความยากลำบาก
" นี้ข้าเป็นอันใดไปรึ " ขุนเดชฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ เมื่อขุนเดชถามแบบนั้นเมียทั้งสองที่รักผัวมาก็รีบพูดใส่ไฟเมียแสนชั่งของขุนเดชทันที เมื่อขุนเดชได้ฟังแบบนั้นภาพเหตุการณ์ต่างๆก็วิ่งเข้ามาที่หัวเป็นฉากๆอย่างกับหนังตะลุงงานวัด เลยทีเดียว
" พวกมึงไปเอาตัวแม่กลอยมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้ ไป..." ขุนเดชตวาดเสียงดังลั้นด้วยความโกรธที่เมียตัวเองหนีไปไม่ใช่ดกรธที่นางทำร้ายเขา ไม่รู้ทำไมเมื่อได้ยินคำพูดที่นางพูดเอาไว้ก้องอยู่ในหู ขุนเดชถึงกับใจสั่นเกิดกลัวว่านางจะหนีไปจริงๆขึ้นมา บ่าวไพร่ที่ได้ยินคำสั่งเด็ดขาดของเจ้านายทั้งเรือนก็ออกตามหากลอยกับชื่น แทบพลิกเรือนหาทั้งสองคนเลยก็ว่าได้ แต่ดูเหมือนว่าหายังไงก็หาไม่เจอ