แม่กลอยเปลี๊ยนไป๊

952 คำ
" เมื่อกี่เจ้าว่าอันใดนะ พูดใหม่อีกทีสิ" ขุนเดชที่เดินผ่านมาได้ยินพอดี ตอนแรกเขาไม่สนใจเธอด้วยซ้ำว่าเธอจะฟื้นหรือไม่ แต่พอได้ยินนายกับบ่าวตอนแรกก็ว่าจะเดินผ่านไปอย่างไม่ได้สนใจอะไรแต่ว่าระหว่างที่เขากำลังก้าวขาออกไปจากสวนดอกไม้ อยู่ก้ได้ยินเสียงที่คุ้นหูพูดอย่างอวดดีกับบ่าวว่าจะหนีเขา ขุนเดชที่ได้ยินแบบนั้สนถึงกับช๊อคลืมตัวแล้วเดินเข้าอย่างอย่างลืมตัวเช่นเดียวกัน " ท / ท่านขุน " ชื่นบ่าวของแม่นางกลอยพูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก กลอยเมื่อได้ยินเสียงพูดมาจาทางด้านหลังนางก็หันไป ก่อนจะมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง เอาตรงๆเธอก็ว่าอีตาขุนเดชอะไรนี้หล่อนะแต่ที่ฟังจากคำบอกเล่าของกลอยเจ้าของร่างแล้ว นีน่าคิดว่าผู้ชายคนนี้เลวมาก " ว่ายังไงเมื่อกี้ที่เจ้าพูดข้าได้ยินไม่ชัด " เสียงเข้มของขุนเดชเอ้ยถามเมียที่ตัวเองไม่อยากได้อีกครั้งแต่ครั้งนี้ที่ถามน้ำเสียงกลับเยือกเย็นจนหน้าขนลุกไม่เหมือนแต่ก่อนทุกครั้งที่ขุนเดชจะคุยกับเธอจะเย็นชาและก้พูดเหน็บเหนมเธอทุกครั้งที่เจอหน้ากัน แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเปลี่ยนไป กลอยที่ได้ยินเสียงเข้มถามแบบนั้นนักฆ่าอย่างเธอผ่านมาแล้วทุกสนามและก็การทรมานที่สุดแสนจะนรกมาแล้วผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ขนามือเธอเลยแม้แต่น้อย กลอยจ้องหน้าขุนเดชกลับอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะเดินเข้าไปประจันหน้ากับเข้า ชื่นเมื่อเห็นท่าทางอวดดีของแม่นายเธอก็รีบเอามือดึงแม่นายของตนไว้เพราะกลัวว่าแม่นายจะทำเรื่องงามหน้าอีก และที่สำคัญชื่นเคยเห็นท่านขุนเดชทำร้ายแม่นายของมันเธอถึงกลับหยอดน้ำขาวต้มเลย " ข้าบอกว่า ข้าไม่ได้รักท่าน ท่านก็ไม่รักข้า เราสองคนเห็นทีว่าจะอยู่ร่วมเรือนเดียวกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ข้าจะเลิกกับท่าน " กลอยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงใเยือกเย็นสายตาที่เธอมองไปที่ขุนเดชก็บ่งบอกว่าในตาของนางไม่มีเยื้อใยและก็ไม่มีความเสียใจหรือแม้แต่น้อย ขุนเดชได้ยินแบบนั้นเขาก็ตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหนูลูกสาวคนเดียวของท่านเสนาบอดีการคลังจะกล้าอวดดีถึงเพียงนี้ ก่อนที่เขาจะได้สติเพราะเกิดมาไม่เคยเห็นแม่หญิงคนใดในอโยธยาเป็นเหมือนเธอเมื่อเขาคิดได้แบบนั้นขุนเดชก็พูดบางอย่างออกมา " เจ้าแต่งงานกับข้าแล้ว เจ้าคิดว่าแม่หญิงที่หย่ากับสามีแล้วยังจะมีหน้าสู้ชาวบ้านได้เยื้องใด เจ้าไม่รู้จักอายคนบ้างหรือ หรือว่าหน้าของเจ้าหน้าเท้ากับกำแพงวังเลยไม่ได้รู้สึกกับคำพูดอะไรที่เจ้าพูดออกมา พูดอันใดหัดคิดเสียบ้างว่าพ่อแม่ของเจ้าจะหน้าไปไว้ที่ไหน ถ้าเจ้าเลิกกับข้า เจ้าคิดว่าจะมีผู้ใดเอาเจ้าทำเมีย หน้าตาก็ขี้เหร่ออกปานนนั้น" เมื่อขุนเดชพูดอย่างกับแรปเปอร์กับกลอยแล้ว เขาก็อดยิ้มกริ่มอย่าซะใจที่ได้ด่านางไม่ได้ กลอยที่ได้ยินคำพูดที่โบราณและเห็นแก่ตัวแบบนั้นคิดเหรอว่าคนอย่างนางจะสนใจ นอกจากไม่สนใจแล้วนางยังพูดกลับไปอีกว่า " เหตุใดข้าต้องสนใจผู้ใดด้วย ในเมื่อทุกคนต่างก็สนใจแต่ตัวเองอยู่แล้วนี้ ขนาดท่านที่ว่าเป็นสามีของข้า ท่านยังให้เมียเอก โท ตรี จัตวา อะไรนั้นของท่านมาฆ่าข้าได้เลย แล้วเหตุใดคนอย่างข้าต้องสนใจผู้ใดด้วยแล้วอีกอย่างแม่หญิงอโยธยาไม่มีผู้ใดทำ ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นข้าเองนี้แหละที่เป็นแม่หญิงคนแรกในอโยธยาที่กำลังจะหย่ากับสามี โอ๊ะ ไม่ใช่สิท่านขุนเดชต่างหาก เพราะข้ากับท่านเราสองคนแต่งงานกันแค่นั้น เสียงเรื่องอย่างว่าที่ผู้หญิงกับผู้ชายเขาทำกัน เราสองคนยังไม่เคย ......" เมื่อกลอยพูดจบบ่าวและคนใกล้ชิดของขุนเดช รวมทั้งขุนเดชต่างก็ตกใจอ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าแม่หญิงที่งามทั้งกิริยามารยาทอย่างกลอยที่โดนอบรมมาเป็นอย่างดีจะพูดคำต่ำทรามออกมาได้ไม่อายปาก ชื่นเมื่อเห็นท่าไม่ดีนางก็รีบมาดึงตัวแม่นายของมันด้วยความเร็วแสงเพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ " แม่นาย กลับเรือนกันเถอะเจ้าคะ แม่นาย" ชื่นรีบลากดึงแขนของเจ้านายให้เดินตามแต่มีเหรอว่าคนอย่างนีน่าจะยอมในเมื่อสงครามเพิ่งเริ่มเท่านั้นเอง เธอปัดมือของชื่นออกพร้อมกับยืนประจันหน้ากับขุนเดชอีกครั้งอย่างไม่เกรงกลัว ขุนเดชที่โกรธจนหน้าดำหน้าแดงเพราะโดนคำพูดที่หยาบช้าออกจากปากแม่หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย พูดตอกหน้าอย่างไม่ห่วงว่าผัวจะอายบ่าวไพร เมื่อขุนเดชเห็นท่าทางอวดดีและเปลี่ยนไปของกลอยเขาก็คิดว่าต้องสั่งสอนเธอให้หราบจำเหมือนตอนนั้นอีกครา ครานั้นเขาแค่เฆี่ยนไป20ไม้ แต่ครานี้เขาจะเฆี่ยนเธอแล้วก็จับเธอไปขังที่คุกเพื่อไม่ให้เป็นเยื่องอย่างสืบไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม