ผู้หญิงสาวสวย ทั้งโสด และไม่โสด ต่างดาหน้าเข้าหาธาม ยอมเสนอเรือนกายให้ชายหนุ่ม แลกกับการได้มีโอกาสร่วมงานกับ NAKARA สักครั้ง...เครื่องเพชรของ NAKARA กำลังเป็นที่กล่าวขาน โดดเด่นทั้งดีไซน์ และรูปแบบ เมื่อธันน์ทุ่มเต็มตัว เขาผลักดันจน NAKARA ติดท็อป เป็นที่นิยม และมีออเดอร์แบบถล่มทลาย...
ธันน์เป็นผู้บริหาร ธามเป็นประชาสัมพันธ์ ตามความถนัดของแต่ละคน และสองหนุ่มทำหน้าที่ตนเองได้เป็นอย่างดี
“พี่จะจัดการกับ ‘หล่อน’ ยังไงครับ?” ธามถาม เขาอยากรู้วิธีจัดการกับ ‘โจรกระจอก’ คนนั้น
คนเป็นพี่ยิ้ม “แกอยากรู้...แกไปหาฉันที่...ภูพิงสิ...”
ภูพิงรีสอร์ท...แหล่งกบดานของธันน์ เขาชอบที่สงบสบายเป็นส่วนตัว ไม่ต้องระวังสายตาสื่อ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีสายตาคนมอง...เมื่อเป็นเกาะส่วนตัวกลางทะเล ธันน์สัมปทานได้มาเป็นกรรมสิทธิ์ เขาใช้เงินจำนวนไม่น้อย เนรมิตให้เกาะแห่งนั้นเป็นเกาะในฝัน
“บะ!!” ธามจิปาก ดวงตาเต้นระริก “แม่นั่นวาสนาดีชะมัด พี่จะพาไปเชือดในที่แสนหวงเลยเชียว”
“ไม่ใช่คนที่แกคิดหรอก...คนอย่างแพรวนรี...แค่เดินผ่านฉันยังแขยง” ธันน์ตอบเบ้ปากไหวไหล่ เมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนั้น เขายกแก้วไวน์ขึ้นจิบ หลุบเปลือกตาลง คิดถึงภาพผู้หญิงอีกคนที่ติดค้างอยู่ในความทรงจำไปพรางๆ
“เอ๋!!” น้องชายคราง เรียวคิ้วเข้มขมวดแน่น
เขาคงต้องหาเวลาแวบไปดูหน้า...ผู้หญิงที่พี่ชายคิดจะพาไปขย้ำเสียแล้ว...
เช้าวันทำงาน ทอปัดเดินเข้าสำนักพิมพ์พร้อมกับแก้วกาแฟในมือ เธอลืมเรื่องของธันน์ไปเสียสนิท เขาหายเงียบไปเกือบหนึ่งอาทิตย์...ทำเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องร้ายๆ ที่เกี่ยวพันกับตนเอง ทั้งที่เธอตั้งตารอ เพราะอยากให้จบเรื่องวุ่นวายนี่สักทีไม่อยากให้มันคาราคาซัง
“ไอ้ปัด ไปรู้จักกับคนระดับนั้นตอนไหนวะ?” หัวหน้ากองข่าวโผล่หน้าออกมาแซว ก่อนจะผลุบกลับเข้าห้องทำงานไปเหมือนเดิม...
“หือ...” หญิงสาวเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง ปลดกระเป๋าสะพายที่ไหล่ วางบนผิวโต๊ะแบบกระแทกนิดๆ
“อะไรพี่คม!!” เธอตะโกนถาม...ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบแก้เครียด
“เข้ามาในนี้เลยปัด... พี่มีเรื่องจะคุยด้วยเร็ว!!” เสียงอธิคมตะโกนเรียก เสียงห้วนๆ ลอยออกมาจากห้องทำงาน
ทอปัดเลยจำต้องเดินเข้าไปในห้องทำงานเจ้านาย ใบหน้าสวยหงิกงอ
หญิงสาวชะงัก!! เธอไม่ได้รู้สึกไปเอง สายตาของอธิคมเปลี่ยนไป เมื่อก่อนสายตาของเขาจะมองเธอแบบคนสนิทเป็นกันเอง แต่วันนี้... มันมีรอยหยันๆ แทรกปนอยู่ในนั้น
“นั่งสิ” หัวหน้ากองข่าวผายมือให้ลูกน้องสาว เขาถอนใจแรงๆ ก่อนจะพูดเสียงดัง “นายสั่งให้ปัดทำบทสัมภาษณ์พิเศษ กับคนที่ NAKARA พี่พลาดอะไรไปหรือเปล่าหึ?”
หญิงสาวเบ้ปาก “นึกว่าอะไร!!” ทอปัดแค่นพูด ในที่สุดเวลานั้นก็มาถึงสักที
“รู้อยู่แล้ว...เห้ย!! เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่” จากประสบการณ์ อธิคมเชื่อว่าลูกน้องสาวตรงหน้าไม่เหมือนกับบรรดาสาวๆ ที่เขารู้จัก ทอปัดมีความเป็นตัวเองสูง เธอมาเป็นนักข่าวเพราะชอบอาชีพนี้ ไม่ใช่เพราะอยากไต่เต้า...ไม่เคยมีวี่แววว่าเธอจะวิ่งตามคนรวย ไม่เคยชายตาแลแม้หนุ่มๆ จะมาแวะแจกขนมจีบ ดังนั้นไม่น่าจะใช่เรื่องชู้-สาว
“เรื่องมันยาวพี่คม แต่ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดหรอก” หญิงสาวพูดดัก “แค่นี้ใช่มั้ยพี่ เขาบอกให้ไปวันไหนล่ะ” เธอถามต่อ เวลาที่เธอต้องเดินเข้าแดนประหารคือตอนไหน
“พรุ่งนี้...ระวังตัวด้วยล่ะ ไอ้หมอนั่นมันยิ่งกว่าเสือ”
หัวหน้ากองข่าวเอ่ยเตือน
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทอปัด จึงทำได้แค่เป็นห่วง
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวรับคำเซ็งๆ เธอเดินออกไปจากห้องทำงานของหัวหน้า โดยไม่ปริปากพูดอะไรอีก
มันคงจบแค่นั้น... หากคนที่ไม่ชอบหน้าจะเดินมาเยาะเย้ยถึงโต๊ะทำงาน
ทอปัดกำลังเรียบเรียงบทความที่ต้องส่งให้อธิคมก่อนจะไปทำงานกับธันน์ เธออ่านทบทวนบทความอยู่เงียบๆ
“ได้ข่าวว่า...” น้ำเสียงที่ใช้ฟังแล้วระคายหู จนทอปัดต้องละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เงยหน้าขึ้นมองคนที่แวะมาทักทาย “กำลังขึ้นหม้อ ขนาดส่งออกไปเกาะติดคนดังเลยเหรอ? เธอใช้อะไรล่ะปัด กระซิบบอกเนตรหน่อยสิ เนตรอยากได้โอกาสดีๆ แบบนั้นบ้าง”
เนตรตรา...เพื่อนร่วมงานจอมสอดรู้ คู่ปรับที่ตั้งตนแข่งกับเธอทุกกรณี โดยที่เธอไม่เคยแม้แต่จะคิดลงสนาม
หญิงสาวยิ้มมุมปาก “ไม่ได้ใช้แบบที่เธอใช้แล้วกันเนตร...” ทอปัดตอบด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกัน
“ปัด...เราถามดีๆ” เนตรตราหน้าตึง ย้อนกลับเสียงขุ่น
“เราก็ตอบดีๆ นี่เนตร” คนตอบตอบพร้อมกับยิ้มมุมปาก
“เหอะ!! เธอมันหมาป่าเจ้าเล่ห์ อะไรดีๆ เธอมักจะรีบคาบไปก่อนคนอื่นเสมอ... พี่คมก็ลำเอียง!!” เนตรตรายกมือกอดอก แดกดันทอปัดตรงๆ
“เธออยากไปแทนฉันงั้นเหรอเนตร?” ทอปัดยิ้มเยาะ เธอไม่ได้เยาะหยันเนตรตรา แต่เย้ยหยันตนเอง เมื่อคนนอกไม่มีใครรู้ เธอไปเป็นตัวประกัน เขาคงไม่ได้ยกย่องหรือให้เกียรติเธอนักหรอก...
“ถามเหมือนเย้ยกันนี่ ฝ่ายนั้นเขาเจาะจงเธอมา...ใครจะไปแทรกได้” เพื่อนร่วมงานตอบเสียงกระแทก ถึงอยากไปแทนทอปัดใจแทบขาด...แต่ฝ่ายรับ เขาจะต้องการเหรอ ในเมื่อเขาระบุตัวตนคนที่ขอมา...
“ก็รู้นี่ แล้วยังจะมาแดกดันฉันทำไม!!”
ทอปัดไม่ยอมเป็นเป้านิ่ง คนพวกนี้ชอบมาแควะทั้งที่ไม่รู้ความจริง เธอทำงานด้วยใจทั้งหมด ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ แต่กลับมองว่าเธอใช้รูปร่างหน้าตา...ใช่...เธอสวย ทอปัดรู้ตัวดี เธอจัดอยู่ในกลุ่มคนหน้าตาดี แต่เธอไม่เคยใช้มันสักครั้ง...การที่เธอมาทำงานที่นี่ มันก็มาจากความสามารถ ไม่เคยอ่อยหัวหน้า ไม่เคยอ่อยแม้แต่เพื่อนร่วมงาน
“ชิ!!” เนตรตราสะบัดหน้าใส่ หล่อนเดินหนีไป แต่ก็ยังมีเสียงพึมพลอยลมมาเข้าหูทอปัดจนได้
“ฝันหวานไปเถอะ คนระดับนั้นเขาไม่ลดตัวมาแลนักข่าวกระจอกๆ แบบเธอหร๊อก!!”
ปัง!! หญิงสาวตบโต๊ะดังปัง...เสียงลอยๆ นั่นจึงเงียบไป
“เพราะนายเชียว ตาบ้า!!”
เรื่องโดนกัด โดนกระแทกจากเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้หญิง ทอปัดร้อนหูไม่เว้นแต่ละวัน เพราะความริษยาล้วนๆ ไม่คิดว่าครั้งนี้จะหนักหนา ขนาดกล้าเข้ามาเอ่ยปากพูดต่อหน้า...เพราะทุกครั้ง เนตรตราทำแค่แควะ ลอยๆ...
“เนตรไม่เข้าใจเลย...พี่คมเห็นอะไรดีในตัวยัยนั่น งานดีๆ ละโยนให้หล่อนหมด!!” สภากาแฟ หน้าห้องน้ำ เนตรตราเริ่มเต้าข่าวก่อน เพื่อนร่วมงานคนอื่นจึงหันมาสนใจและร่วมวงสนทนา
“อะไรอีกล่ะเนตร ขอล่ะ... อย่ามีเรื่องกับปัดอีกเลย ก็รู้อยู่ นั่นน่ะลูกรักพี่คมเค้า”
“เชอะ!! เลียแข้งเลียขาพี่คม จนไม่เห็นหัวคนอื่น” เนตรตราเบ้ปาก นินทาทอปัดแบบไร้ความจริง
“ปัดเขาเก่ง กล้าชน ไม่ได้ออเซาะของานพี่คมหรอกมั้ง”
มีบางคนพยายามแย้ง เมื่อทุกคนรู้ดี ทอปัดขยันขันแข็ง...ไม่หวั่นแม้งานจะยาก ขวบปีที่ทำงานมา เธอจึงได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้างาน ถูกใช้ให้ตามข่าวสำคัญบ่อยครั้ง
“คิดจะประจบยัยปัดล่ะสิ ...ขึ้นหม้อขนาดพี่คมส่งไปประกบเจ้าพ่อวงการอัญมณีเชียวนะ” นักข่าวสาวขี้อิจฉาตวัดตาค้อนขวับ
“เห้ย!! จริงดิ?”
เสียงครางดังประสานกัน โดยเฉพาะสาวๆ
“จริง...เนตรแอบได้ยินแม่บ้านเม้าท์กัน...คนพวกนั้นหูดีจะตาย” ข่าวที่เธอรู้มา มาจากกลุ่มแม่บ้านประจำสำนักงาน พวกหล่อนได้ยินผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งพูดคุยกับใครบางคนทางโทรศัพท์ เนตรตราจึงเนื้อเต้น โอกาสแสนงามนั่น พลาดหลุดมือไป ลอยใส่มือของทอปัดโดยที่หล่อนไม่ได้ดิ้นรนอะไรเลย
“น่าอิจฉาปัดเนอะ...พี่น้องนาคะวงศ์ น่าสนใจจะตาย ทั้งโสด ทั้งรวย”
“แถมหล่อเวอร์ทั้งคู่” นักข่าวสาวหัวเห็ดครางเสียงละห้อยละเหี่ย อิจฉาความโชคดีของทอปัดกันเป็นแถว
“NAKARA กำลังจะออกคอลเลคชั่นใหม่เสียด้วย เผลอๆ ตอนงานจบอาจจะได้ของกำนัลติดมือมา...”
เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้น การระมัดระวังตัวลดน้อยลง...ทอปัดที่เดินมาทีหลังเพราะหวังจะชงกาแฟดื่มแก้ง่วงสักแก้วจึงบังเอิญได้ยินเต็มสองหู