รุ่งเช้าวันใหม่
ศิลาหันมามองข้างกาย มันว่างเปล่าไร้คนนอนเคียงข้าง
“หายไปไหนแต่เช้าของเธอนะ” ไม่อยากลุกจากที่นอนกลิ่นกายสาวหอมกรุ่น
ชมจันทร์เดินออกมาจากห้องน้ำ
“ผมคิดว่าคุณจะหนีไปไหนเสียแล้ว”
“ฉันไม่มีทางหนีหายไปไหนหรอก ลูกในท้องของฉันต้องการพ่อ นายต้องเป็นพ่อที่ดีให้เขา เข้าใจตรงกันนะ”
หญิงสาวไม่ใส่อารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น หน้าตาไร้สีสันของการแต่งหน้า มันทำให้เธอหน้าเด็กสดใสมากขึ้น จนชายหนุ่มอดมองซ้ำไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นเธอตอนไร้เครื่องสำอางเลย
“นายหิน หน้าฉันมีอะไรติดที่หน้าหรือ เห็นนายจ้องมองอยู่ได้”
ชมจันทร์ลูบใบหน้างาม ศิลาอดหัวเราะเบาๆไม่ได้
“ความสวยมันติดที่หน้าคุณไง ผมมองอย่างไงก็ไม่รู้เบื่อเลย คุณจันทร์ คุณสวยมากเลยยามที่ไม่แต่งหน้าแต่งตา เคยมีใครบอกคุณบ้างไหม”
หญิงสาวหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก น้อยครั้งจะถูกชายหนุ่มชมซึ่งๆหน้า แต่เธอก็เชิดคอ
“ไม่ต้องมีใครมาบอกฉันหรอก ฉันรู้ตัวดีว่าเป็นคนสวย ไม่งั้นหนุ่มๆจะเดินตามเป็นพรวนหรือ รวมทั้งนายด้วย แต่ว่านายโชคดีกว่าคนอื่น แต่เป็นสามีฉันแบบส้มหล่นใส่หัวนาย”
ศิลายักไหล่ “คุณก็โชคดีที่ได้หนุ่มหล่อ รวย มากความสามารถ มาเป็นสามี ผมล่ะมีแต่สาวๆ อยากเป็นเจ้าของทั้งนั้น”
ชมจันทร์ส่ายหน้าตามองบน
“โชคดีตายล่ะ ฉันไม่อยากรับโชคดีแบบนี้เลย” หญิงสาวเดินสะบัดหน้าพรืดออกไป
“คุณก็เอาแต่ใจตัวเอง เหมือนเดิม ลูกออกมาจะถอดแบบนิสัยคุณมาไหม” ชายหนุ่มหัวเราะร่วมตามหลังไป
น้ำทิพย์มารอลูกหยีที่มาวิ่งออกกำลังกายทีสวนสาธารณะในหมู่บ้าน
“สวัสดีค่ะคุณน้า มาออกกำลังกายหรือคะ”
หญิงสาววิ่งเยาะๆ เพื่อคูลดาวน์ร่างกาย ก่อนที่จะหยุดออกกำลังกาย เหงื่อออกตามใบหน้าและลำตัว
“น้ามาเดินออกกำลังกายจ้ะ ว่าแต่ลูกหยีมาออกกำลังกายทุกเช้าเลยนะจ๊ะ” น้ำทิพย์ส่งผ้าเช็ดเหงื่อให้หญิงสาว เธอรับมาซับเหงื่อเบาๆ
“เช้านี้ไปทานอาหารเช้าที่บ้านเป็นเพื่อนน้าหน่อยนะจ๊ะ ลูกหยี”
น้ำทิพย์ตีหน้าเศร้าน้ำเสียงสั่นเครือ ทำให้ลูกหยีรู้สึกสงสารไม่ได้
“นายหินพอมีเมียแต่งงานไป ไม่มาสนใจน้าแล้ว”
ลูกหยีได้แต่ปลอบใจ “คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พี่หินยังคงยังยุ่งๆ อยู่ เลยไม่มีเวลามาดูแลคุณน้ามั้งคะ เอางี้แล้วกัน เช้านี้ลูกหยีไปทานข้าวเป็นเพื่อนคุณน้านะคะ เราไปกันเลยดีกว่าไหม”
“จริงๆนะ น้าดีใจจังเลย” น้ำทิพย์ซ่อนยิ้มอย่างสมใจ “หลานสะใภ้ของฉัน ต้องเป็นลูกหยีเท่านั้น”
ช่วงเที่ยงวัน แสงแดดรอดผ่านผ้าม่านเข้ามา พลอยแสงขยับตัว เธอลืมตามองรอบตัว
“เมื่อคืนหนักไปหน่อย ตื่นสายเลยวันนี้ พลอยแสง” หญิงสาวมองเวลาบอกว่าบ่ายโมงตรงแล้ว
“ตายแล้ว พี่หินแต่งงานกับใครล่ะ” หญิงสาวขยายหน้าจอโทรศัพท์ของตนเอง
“ทำไมพี่หินไม่บอกพลอยคะ” หญิงสาวร้อนรนกดโทรศัพท์ไปหาชายหนุ่ม แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ
“พี่หินทำอย่างนี้กับพลอยไม่ได้นะคะ” หญิงสาวอาละวาดเสียงดัง ขว้างปาข้าวของกระจายเต็มห้องนอน
ก๊อกๆ..
ประตูบานใหญ่ถูกผลักออกมา “เกิดอะไรขึ้น”
“ฮื่อๆ คุณพ่อขา พี่หินเขาแต่งงานค่ะ” หญิงสาววิ่งเข้ามาฟ้องคนเป็นพ่อ
“ไหน มาพ่อดูหน่อยซิ ไหนลูกพลอยกับนายสิงห์เป็นคนรักกันไม่ใช่หรือ แล้วนายสิงห์ทำอย่างนี้ได้ไง”
นายพลเข็มทิศตะเบ็งเสียงถามอย่างไม่พอใจ ที่เห็นลูกสาวคนเดียวอาละวาดขว้างปาข้าวของเต็มห้อง
“คุณพ่อต้องจัดการให้ลูกนะ ไม่อย่างงั้นลูกไม่ยอมจริงๆด้วย”
คนเป็นพ่อพยายามปลอบประโลมลูกสาวที่รักเหมือนดวงใจ
“ลูกพลอยใจเย็นๆนะ”
ห้องทำงานนายพลเข็มทิศ โต๊ะทำงานชุดรับแขก ทำจากไม้สักชั้นดี ในตู้โชว์เต็มไปด้วยถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติมากมายจนละลานตาไปหมด
“สวัสดีครับท่านนายพล มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าเขา” เสียงปลายสายถามอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“นายเทียน ฉันมีเรื่องอยากถามนายเสียหน่อย นายหินมันแต่งงานแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงวางอำนาจ
“เรื่องนี้ผมยังไม่ทราบข่าวเลยครับ”
พลตำรวจตรีเทียน ทองแท้ หรือทุกคนเรียกว่าผู้กำกับเทียนตอบกลับอดีตนายพลใหญ่
“ถ้าอย่างไงนายช่วยตามข่าวให้ด้วย”
ท่านวางสายอย่างไม่สบอารมณ์ นายตำรวจหนุ่มอย่างศิลามาจีบ ลูกสาวเขาแล้วชิงไปแต่งงานกับหญิงอื่น
“ถึงแม้บ้านนายจะร่ำรวยล้นฟ้า แต่มาทำอย่างนี้กับลูกสาวฉันไม่ได้” เขาคำรามเหมือนเสือร้าย
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้กำกับเทียนโทรกลับมา
“นายหินถูกพ่อบังคับให้ครับ” นิ่งเพื่อต้องการฟังเสียงอีกฝ่ายหนึ่งพูดออกมา
“ผู้หญิงที่มันแต่งงานด้วยเป็นใคร” ท่านถามอย่างต้องการคำตอบที่พอใจ
“เป็นลูกเลี้ยงของเจ้าสัววิชัยครับ แต่คิดว่าแต่งงานกัน คงอยู่ด้วยกันไม่ได้นานคงเลิกกัน ผู้หญิงเป็นคนเอาแต่ใจตนเอง นายหินมันขัดใจพ่อไม่ได้เท่านั้น”
ผู้กำกับเทียนมองหน้าลูกน้องตัวแสบ ที่นั่งบอกบทเขาอยู่ข้างๆ ท่านอึดอัดใจกับสิ่งที่เอ่ยออกไป
“อย่างงั้นหรือ ฝากบอกมันด้วยว่าถ้ามันยังไม่เลิกกับเมียมัน ไม่ต้องเอาหน้ามันมาให้พลอยแสงเห็น ไม่งั้นเราสองคนได้เห็นดีกัน”
นายพลเข็มทิศข่มขู่อย่างนักเลงใหญ่ที่มีอำนาจ พร้อมทำร้ายทุกคนที่ทำให้ลูกสาวไม่มีความสุข
“ทำไงล่ะทีนี้ นายพลเข็มทิศโกรธให้แล้ว งานของเราก็ต้องคืบหน้าต่อไปด้วย” ผู้กำกับเทียนเอนหลังพิงเก้าอี้
“ผมปล่อยข่าว เรื่องการแต่งงานของผมไปกับเพื่อนๆ พลอยแสงแล้ว ว่าผมถูกบังคับให้แต่งงาน ไม่ได้รักชอบชมจันทร์เลย”
ชายหนุ่มจัดฉากทุกอย่างไว้แล้ว
“พวกเราต้องระวังท่านเข็มทิศให้ดี งานที่เราวางแผนกันไว้เป็นปีจะมาพังทลายลงไม่ได้”
เจ้านายและลูกน้องส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับผู้มีอำนาจ และใช้อำนาจในทางผิดๆ อยู่เสมอ
“งานนี้พวกเราพลาดไม่ได้ คนร้ายต้องได้รับโทษของมัน คนผิดลอยนวลแบบนี้ผมไม่สบายใจ”
“สส.จอมทัพ เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของนายพลเข็มทิศเท่านั้น แล้วยังลิ่วล้อมันอีก ทั้งค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติด ซื้อขายที่ดินให้ชาวต่างชาติ เปิดบ่อนการพนัน ทำไมมันเลวได้ครบถ้วนอย่างนี้ไม่รู้ เจอหน้ามัน ผมไม่อยากยกมือไหว้ แต่จำเป็นต้องไหว้มัน ไม่งั้นมันจะสงสัย”
ผู้กำกับระบายความในใจที่มันซ่อนเร้นอยู่ลึกๆภายในจิตใจ
“คนเลว ทำไมมันต้องมีอำนาจด้วย”
“พวกมันหนีกฎหมายไปไม่พ้นหรอก ผมจะเป็นคนลากคอมันมารับโทษทัน ที่พวกมันก่อไว้”
ศิลาได้รับมอบหมายจากผู้กำกับเทียน ในการสืบหาความลับของนายพลเข็มทิศผู้อยู่เบื้องหลัง สส.จอมทัพ ที่ถูกจับแต่ไม่ซัดทอดผู้ใด แต่ขบวนการก่อการร้ายมันคงอยู่ต่อไป
ช่วงเย็น
ชมจันทร์ออกมาเดินเล่น เธอสวนทางกับน้ำทิพย์ ที่ทำเป็นเชิดใส่เธออย่างไม่พอใจ หญิงสาวจำเป็นต้องทักทาย แต่นางทำเป็นไม่สนใจ
“เดินอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านเลยนะจ๊ะ เป็นแค่สะใภ้ที่ท้องก่อนแต่งเท่านั้น” นางเธอโอกาสขยี้ปม
“เก่งนี่ที่ยอมท้อง ทำให้หินต้องยอมแต่งงานด้วย เชื้อไม่ทิ้งแถวเลย แม่เธอจับเจ้าสัว ส่วนเธอจับลูกชาย 555”
“ไม่ใช่เก่งธรรมดานะคะ เก่งมากด้วย แถมไข่ยังดี ไม่ฝ่อเหมือนใครบางคน จุดพรึบติดพรืบเลยนะคะ”
“หล่อนยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ ไม่อายปาก”
น้ำทิพย์สบถเสียงดังให้หญิงสาวเกิดความหวาดกลัว แต่เธอรู้จักผู้หญิงอย่างชมจันทร์น้อยไปแล้ว
“ถึงอย่างไง จันทร์ได้แต่งงานกับนายสิงห์ แถมยังมาเป็นนายผู้หญิงของบ้านนี้ด้วยนะคะ อย่างไงก็ฝากนี้ฝากตัวกับคุณน้าด้วยนะคะ ในฐานะหลานสะใภ้ แถมจะมีหลานตัวเล็กๆ มาให้คุณน้าอุ้มเล่นด้วยนะคะ”
ชมจันทร์เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจน้ำทิพย์ที่ฟาดหัวฟาดหางออกมาอย่างไม่พอใจ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ วันพระไม่มีหนเดียว ฉันไม่ยอมรับหล่อนมาเป็นหลานสะใภ้หรอก”
พลอยแสงแต่งตัวอย่างรีบร้อน เธอเดินลงบันไดมาสวนทางกับพี่ชายตรงลานกว้างหน้าบ้าน
“จะรีบไปไหนยายพลอย เดินแทบเป็นวิ่งแล้ว”
“วันนี้ฉันมีนัด ไม่มีเวลาคุยกับพี่เพชรหรอก” น้องสาวยิ้มให้พี่ชายอย่างอารมณ์ดี
“นัดกับนายหินไว้หรือ มันแต่งงานแล้วนะ”พี่ชายพูดอย่างเป็นห่วงกลัวน้องสาวเสียใจอีกครั้ง
“พลอยรู้แล้วค่ะ แล้วยังรู้มาอีกว่า คุณพ่อพี่หินบังคับเขาให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”
“ชมจันทร์” เพชรเอ่ยชื่อหญิงสาวที่เขาหมายปอง จนกระทั่งวางแผนให้ลูกน้องไปจับตัว แต่ศิลามาช่วยไว้ทันจนเรื่องบานปลาย ทำให้เธอต้องแต่งงานกับศิลา
“งั้นพลอยไปก่อนนะคะ ได้เวลานัดแล้ว 555”
พลอยแสงขับรถยนต์ออกไปอย่างสบายใจ ทิ้งความยุ่งยากใจให้กับเพชรพี่ชาย
“หวังว่านายหินคงไม่มาหลอกลวงยายพลอยนะ”
…………………
อาหารค่ำของบ้านเจ้าสัววิชัย
“นายหินไปไหน ทำไมป่านนี้ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง เมียกำลังท้องอยู่ด้วย” พ่อสามีชมจันทร์บ่นลูกชายอย่างเหลือที่จะทนแล้ว
“คุณหินคงงานยุ่งน่ะค่ะ มาฝึกอบรมที่กรุงเทพด้วย พวกเราทานกันก่อนดีกว่านะคะ”ชมดาวออกตัวแทนลูกเขย
“หนูจันทร์เป็นอย่างไรบ้าง แพ้ท้องมากไหม”
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ อยากบอกว่าตั้งแต่แต่งงานมา เธอไม่มีอาการแพ้ท้องให้เห็นเลย
“แม่ว่าเราไปหาหมอฝากท้องดีไหม เกิดอะไรขึ้นจะรักษาทัน ได้แต่ตรวจด้วยตัวเอง ยังไม่เคยไปหาหมอจริงจังเลย” ชมดาวเปรยออกมา
“เอาไว้รอนายหินว่างก่อนดีกว่าค่ะ” หญิงสาวพยายามบ่ายเบี่ยง อย่างไม่อยากรบกวนแม่
“ไม่เป็นไร ถ้าคุณหินไม่ว่าง แม่ไปเป็นเพื่อนก็ได้นะจ๊ะ หลานของแม่จะได้แข็งแรง”
คนเป็นแม่ตักผัดผักใส่จานลูกสาว “จันทร์ ต้องกินเยอะๆ หลานแม่จะได้รับสารอาหารครบถ้วน”
ชมจันทร์เขี่ยอาหารในจานไปมา อย่างรู้สึกเบื่ออาหารมากกว่าจะเจริญอาหาร
“เอาไว้วันไหนพวกเราว่างๆ ตรงกัน ออกไปกินข้าวนอกบ้านกันบ้างเถอะ”
เวลา 3 ทุ่มครึ่ง
น้ำทิพย์มองไปที่โรงรถไม่เห็นรถยนต์หลานชาย นางเดินไปดู ทำให้เจอชมจันทร์กำลังจะขึ้นห้องนอน
“เป็นอย่างไงเจ้าสาวหมาดๆ ถูกผัวทิ้งให้เฝ้าบ้านอีกแล้ว น่าสงสาร คนเขาไม่รักก็เป็นอย่างนี้แหละ” นางพยายามพูดจาเยาะเย้ยให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่น
“จันทร์ว่าจันทร์ยังโชคดี มีสามีเป็นตัวเป็นตน ถึงเขาไม่ได้ดูแลเรา แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นผัวเราค่ะ” หญิงสาวตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ
“โธ่ๆ ต้องคิดเข้าทางตัวเองนะจ๊ะ นายหินเป็นหนุ่ม Hot ไปไหนมาไหน มีแต่สาวตามกันตรึม”
“งั้นจันทร์ก็โชคดีซิคะ ได้ผัวที่สาวๆหมายปอง”
เธอเดินเชิดหน้าตัวตรง แม้ภายในใจจะเจ็บปวดก็ตามแต่ ขออย่าให้ใครมาเยาะเย้ยก็พอแล้ว
“แม่คนเก่ง ขอให้เก่ง ให้ตลอดรอดฝั่งแล้วกัน”
ร้านอาหารยามดึก พลอยแสงนั่งแนบชิดศิลา อย่างกันผัวเมียกันอย่างไงอย่างงั้น…..
“ดื่มค่ะ” หญิงสาวยกแก้วเหล้าชนกับชายหนุ่ม
“มันดึกแล้ว เราสองคนกลับบ้านได้แล้ว” ศิลาเอ่ย
“พลอยยังสนุกอยู่เลยค่ะ พี่หินจะรีบกลับไปไหน” หญิงสาวส่ายตัวไปมาตามจังหวะดนตรีที่เร้าใจ
“คืนนี้เป็นคืนที่พลอยมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” ใบหน้าแนบทรวงอกกว้างอย่างแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผย ไม่เกรงกลัวสายตาผู้คน
“พลอยเมาแล้ว” หินมองอาการหญิงสาว ที่ยกแก้วเหล้าซดอย่างกับมันเป็นน้ำเปล่า
“พลอยม่ายเม๊าๆค่ะ” ลิ้นเริ่มพันกันแล้ว กายแนบกาย ชายหนุ่มพยายามถอยหนี แต่หญิงสาวเข้าประชิดตัว
อีกมุมหนึ่งของร้านที่มืดสลัว
“ยายส้มซ่า มองไปที่ตรงโน้นที่ ใช่คุณหิน ผัวยายจันทร์ไหม” เพื่อนรักของชมจันทร์ตาเบิกโพลง
“ใช่จริงๆ ด้วย แต่ไหงมากับผู้หญิงอื่นได้ไง” สองสาวพยายามเพ่งมองหญิงสาวที่มากับผัวเพื่อน
“พลอยแสง”ทั้งสองสาวอุทาน หน้าตาตกใจพร้อมกัน
“เขาสองคนมาด้วยกันได้ไง แถมสนิทสนมแทบเป็นเนื้อเดียวกันด้วยล่ะ”แยมส้มบรรยายตามภาพที่เห็น
“เรื่องนี้ต้องถึงหูยายจันทร์ ทำอย่างนี้กับเพื่อนเราได้ไง มันหยามกันชัดๆ เลย”
ชมจันทร์กำลังนอนเล่นดูหนังสือมือและเด็กอยู่
“ไงส้มซ่า พวกหล่อนอยู่ที่ไหนกัน เสียงเพลงดังมากๆเลย”
ชมจันทร์ลุกขึ้นนั่งเงี่ยหูฟังเสียงเพื่อนรัก
“หล่อนว่าอย่างไงนะ” เธอตะโกนเสียงดัง
“ผัวหล่อนมากับผู้หญิงคนอื่น นั่งอยู่โต๊ะหน้าพวกฉันไปล่ะ”ส้มซ่าตะโกนบอก
“เดี๋ยวพวกฉันส่งภาพเด็ดๆไปให้ดู นั่งแทบเป็นคนคนเดียวกันเลย น่าเกลียดมากเลย”
“ตามสบายใจเขาเถอะ ฉันไม่สนใจหรอก” ชมจันทร์วางโทรศัพท์ข้างตัวอย่างไม่ไยดี “นายมันจริงๆ เลย ผู้ชายไว้ใจไม่ได้สักคน”
ตี 2 ศิลาพาพลอยแสงมาส่งที่บ้าน หญิงสาวจะไม่ยอมลงรถยนต์ จนเพชรลงมาตามและประคองน้องสาวเข้าบ้านอย่างทุลักทุเล
“กลับบ้านได้แล้วเรา” เขาขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง บนท้องถนนไร้ยานยนต์ “ป่านนี้ ทุกคนคงหลับนอนกันหมดแล้ว”
ศิลาจอดรถยนต์และย่องเบาๆ เข้าบ้าน ขึ้นบันไดไปยังห้องนอนที่เห็นแสงไฟรำไรอยู่
“ก๊อกๆ”
ประตูเปิดออกช้าๆ พร้อมหญิงสาวที่ใส่ชุดนอนหน้าตาบึ้งตึงพร้อมเอาเรื่องทุกคนที่เข้ามา
“นายไปไหนมา ทำไมไม่โทรกลับมาบอก ตัวเหม็นเหล้าด้วย “
หญิงสาวตั้งคำถาม แต่ยืนบังประตูไว้ ไม่ให้ชายหนุ่มเข้าห้องนอน
“เราสองคนเข้าไปคุยกันในห้องดีกว่า มันดึกแล้ว”ชายหนุ่มกระซิบเบาๆ อย่างกลัวคนอื่นได้ยิน
“นายออกไปนอนข้างนอกเลย” หญิงสาวไล่อย่างโกรธกับรูปภาพเรื่องราวที่เขากลับดึก เพราะไปดื่มกินกับหญิงอื่น เธอยืนโทรศัพท์ให้ดู
“เข้าห้องก่อนดีกว่า” ชายหนุ่มดึงร่างเมียสาวเข้าห้องนอน แม้เธอพยายามดิ้นรนทุบตีเขาก็ตาม
“นายแต่งงานแล้วนะ ยังมีหน้าไปเจาะแจะกับหญิงอื่นอีกหรือ ทิ้งฉันอยู่บ้านคนเดียว”
ศิลาประกบปากหญิงสาวที่กำลังโวยวาย มือลูบไล้ที่อกใหญ่ มันร่อนรับมือย่างรับรู้รสสัมผัส
“นายอย่ามายุ่งกับฉัน” มือสองข้างหญิงสาวถูกรวบไว้ด้านหลัง ชายหนุ่มพาหญิงสาวมานอนเป็นเตียง
“คุณสวยมากเลย” ชุดนอนลื่นมือถูกรวบลงไปกองที่พื้น อย่างชำนาญการ สายตาหญิงสาวมีแววเร่าร้อน
“คืนนี้เราสองคนจะมีความสุขด้วยกัน”
มือชายหนุ่มปิดโคมไฟหัวเตียง กายสองกายเป็นหนึ่งเดียว มีแต่เสียงร้องครวญครางอย่างสุขสมของหญิงสาว
“ผมบอกแล้ว ผมจะมอบความสุขให้แก่คุณ”
ร่างหญิงสาวโอนอ่อนผ่อนตามชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของปทุมคู่งาม แม้แต่เกสรดอกงาม พร้อมรองรับความเป็นชายในตัวชายหนุ่ม
“ฮื่อๆ..อ่าๆ”
“นายหิน” หญิงสาวกลายเป็นรุกเร้าโต้ตอบอย่างถึงพริกถึงขิง จนลืมไปว่าตนเองต้องโกรธชายหนุ่มที่กลับบ้านดึก ไปเที่ยวกับสาวๆ แถมไม่ยอมโทรกลับมาบอกเธอ
“คืนนี้เรามาต่อแขนขาให้ลูกเราดีกว่า”
หลังจากยกแรกผ่านไป ชายหนุ่มของต่ออีกครั้งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาดูดดื่มปทุมคู่งามอย่างหิวกระหาย หญิงสาวส่ายตัวไปมา รองรับและรุกเร้าเป็นครั้งคราว มันทำให้ชายหนุ่มเปี่ยมความสุข
“คุณจันทร์นอนได้แล้วครับ ผมไม่กวนคุณแล้ว”
หญิงสาวนอนหนุนแขนสามีเธอ เขาห่มผ้าให้เธอ มันอบอุ่นทั้งกายและหัวใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น
“นายหินเมื่อคืนกลับบ้านกี่โมง พ่อรออยู่เกือบเที่ยงคืน ไม่เห็นแม้เงาแกเลย” คนเป็นพ่อถามหลังจากลูกชายตื่นนอนมาตอนสาย
“น่าจะประมาณตี 2 นะครับ คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ” เขาตอบเบาๆ พร้อมถามอย่างกลัวคนอื่นได้ยิน
“ฉันอยากรู้เรื่องงานของแก จะทำอย่างไง มีลูกมีเมียแล้ว ยังอยากไปเป็นตำรวจอยู่ต่างจังหวัดไหม”
คำถามคนเป็นพ่อ ทำให้ชายหนุ่มคิดหนัก เขาเองยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
“ผมยังไม่คิดเลยครับ ว่าควรทำอย่างไงต่อไป”
“พ่อว่าแกน่าจะขอย้ายมาอยู่กรุงเทพ หรือไม่ก็ลาออกไปเลยดีกว่า”
ท่านบอกความต้องการ
“ผมขอปรึกษาผู้กำกับเทียนก่อนนะครับ”
ชื่อนั้นทำให้เจ้าสัววิชัยหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
“ทำไมลูกต้องถามมันด้วย มันไม่ใช่ญาติเรานะ”หน้าและเสียงเหวี่ยงอย่างไม่สบอารมณ์
“แต่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาผมนะครับ”
ชายหนุ่มบอกความจริงในข้อนี้ และที่สำคัญเขารักท่านเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
“ตามใจแกแล้วกัน แต่ฉันหวังว่ามันต้องเป็นคำตอบที่ฉันพอใจด้วยแล้วกัน”
หลังจากเจ้าสัวเดินจากไปแม้จะไม่พอใจก็ตาม ศิลาคิดถึงความเมตตาที่ผู้กำกับเทียนมอบให้เขาเหมือนเป็นลูกชาย เสียดายท่านไม่ได้แต่งงาน ท่านเคยรักอยู่กับแม่เขา แต่ด้วยหน้าที่ตำรวจทำให้ท่านไม่มีเวลาให้อดีตคนรัก ทำให้เธอหันไปแต่งงานกับเจ้าสัววิชัยชายหนุ่มที่รักเธอ
“คุณพ่อรักผมอย่างไร อาเทียนก็รักผมอย่างนั้น”
บ้านไร่สิงห์ราช
ชายหนุ่มกำลังกินข้าวเที่ยงกับเมียรักที่กำลังท้องอ่อนๆ
“หนูอัญ ต้องไปอบรมที่กรุงเทพตั้งสองอาทิตย์เชียวหรือ มันนานไปไหม” ชายหนุ่มส่งสายตาวิงวอน
“ไม่นานหรอกค่ะ คุณครูส่วนใหญ่เขาไปกันทั้งนั้น ครั้งนี้หนูอัญไปกับครูนาค่ะ นายสิงห์จะได้สบายใจ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูอัญนะคะ”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเสน่ห์แสนกล
“แต่ความคิดถึงมันห้ามกันไม่ได้เสียด้วย เวลาพี่คิดถึงหนูอัญ จะทำอย่างไงดี ยังเจ้าตัวเล็กในนี้อีก”น้ำเสียงเว้าวอน มือลูบคลำท้องที่เริ่มเห็นชัดเจน
“นายสิงห์ก็โทรหาหนูอัญได้ค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างรู้ทันความคิดสามี ตีมือเบาๆ ที่มันเริ่มอยู่ไม่สุข ไต่ไปตามเนื้อตัว
“พี่อยากทำอย่างอื่นนอกจากได้ยินเสียง จะทำอย่างไงดีหนอ คนยิ่งไม่เคยจากเมียไปไหนหลายๆวันด้วย”
อัญชันอมยิ้ม “นายสิงห์จะไปกรุงเทพด้วยกันไหม”
เธอแกล้งเอ่ยชวนเท่านั้น แต่ตกใจกับคำตอบที่ได้รับ
“งั้นพี่ไปด้วยแล้ว ฝากพ่อหนูอัญช่วยดูแลไร่สิงห์ราชแล้วกัน ถือโอกาสไปเยี่ยมนายหินด้วย”ชายหนุ่มจุมพิตหน้าผากเมียรัก ก่อนเดินจากไป
“ให้มันได้อย่างนี้ซิ นายสิงห์จอมเผด็จการ”
รถยนต์ไร่สิงห์ราชวิ่งเข้ามา ลุงทูลเป็นคนขับ นายโมกนั่งข้างมาด้วย
“นายสิงห์จะไปกรุงเทพจริงหรือครับ ให้ผมไปขับรถให้ไหม”จ้อยถามอย่างสนใจ
“ไม่ดีกว่าข้าขับเองได้ เอ็งอยู่ช่วยงานในไร่ลุงทูลกับพ่อโมกดีกว่า”ชายหนุ่มกำชับ
“เรื่อง สส.จอมทัพว่าไง เรื่องไปถึงไหนแล้ว ผมไม่ค่อยได้ตามข่าวสักเท่าไรเลย”
“รู้สึกจะมีอำนาจมืด กับมือที่มองไม่เห็นให้ความช่วยเหลืออยู่นะครับ ส่วนกำนันทิวยังนิ่งๆ ไม่ได้ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลยครับ” โมกรายงานเจ้านายที่เป็นทั้งลูกเขยด้วย
“กำนันทิวกลัวพูดอะไรไปจะถูกเก็บหรือเปล่า” ทูลตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมด้วยร่วม ซึ่งตอนนี้แกนิ่งเฉยยอมรับความผิดนั้นโดยดี
“คงเป็นอย่างนั้น อย่างไงผมจะลองคุยกับนายหินดูว่าจะทำอย่างไงต่อไป”
สามคนมองหน้ากันอย่างรู้คำตอบ ถ้าเรื่องราวยังจับตัวคนบงการไม่ได้ อย่าหวังว่าพวกเขาจะอยู่ได้อย่างปกติสุข
“ว่าแต่นายสิงห์จะไปกรุงเทพเมื่อไรครับ”
“วันอาทิตย์ครับ อย่างไงผมฝากทุกคน ช่วยดูแลไร่ให้ด้วยนะครับ”
สิงห์ราชตอบออกมา ทุกคนพยักหน้ารับรู้ ทำทุกอย่างเพื่อไร่สิงห์ราช
ศิลาเดินหาชมจันทร์เสียทั่วบ้าน จนมาพบเธอนั่งเล่นอยู่หลังบ้านที่เป็นแปลงปลูกดอกไม้ มุมโปรดของแม่เขา
“คุณมานั่งอยู่ที่นี่เอง ผมตามหาเสียแทบแย่ หิวข้าวจังเลย ออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
หญิงสาวหันหน้ามามองชายหนุ่มช้าๆ อย่างไม่สบอารมณ์กับเรื่องเมื่อคืน ที่ชายหนุ่มกลับบ้านดึ กมาพร้อมรูปภาพที่อยู่กับผู้หญิงคนอื่น แถมกลิ่นเหล้ามาหึ่งอีกด้วย
“นายหิวก็ไปหาอะไรกินซิ ท้องนายกับฉันไม่ได้ติดกันเสียหน่อย”
“แต่ว่าเมื่อคืนท้องเราสองคนติดกัน แนบแน่นเลยนะครับ”ชายหนุ่มกวนประสาทหญิงสาว
“นายอยากไปดีๆ หรืออยากไปแบบมีแผลที่หัว”
ก่อนที่หญิงสาวจะคว้าอะไรก็ได้ ที่อยู่ใกล้มือปาหน้าชายหนุ่ม เขาเข้ามาประชิดตัวกอดเธอไว้แน่นๆ
“นายปล่อยฉันเดียวนี้ ใครมาเห็นเข้าอายเขา”
คิดหรือว่าคำพูดนั้นจะหยุดความบ้าระห่ำของศิลาได้ เขาไม่เคยสนใจใครมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งเธอเป็นเมีย เขายิ่งไม่สนใจใหญ่เลย
“ทำไมต้องอาย ผัวเมียเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น”
คราวนี้หญิงสาวใช้กำปั้นทุบที่หน้าอกชายหนุ่ม เขารวบตัวเธอไว้
“ไปกินข้าวกันนะครับ” สายตาหวานปานน้ำผึ้ง
“นายไปคนเดียว ฉันยังไม่หิว” หญิงสาวยืนยันคำเดิม
“คุณจันทร์รู้ไหม กำนันทิวไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลย”
หญิงสาวหน้าเสีย เหมือนจะร้องไห้ สงสารบิดา
“ฉันควรทำอย่างไรดี” เธอมองหน้าเขาอย่างขอความเห็น เพราะเขาเป็นตำรวจ น่าจะให้คำแนะนำที่ดี
“คุณพ่อคุณควรให้การเพื่อช่วยให้พวกเราสาวไปถึงตัวผู้บงการใหญ่”
ชมจันทร์ตกใจกับสิ่งที่ได้ฟัง
“หมายความว่าอย่างไง ฉันไม่เข้าใจ พวกนายจับ สส.จอมทัพได้แล้ว รูปคดีน่าจะจบลงแล้วไม่ใช่หรือ”
“ตัวการใหญ่ยังลอยนวลอยู่นอกห้องขัง”