ตอนที่ 6
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น น่านนัทธีร์มาตรงเวลาเป๊ะไม่ขาดไม่เกิน...เขาใส่เสื้อผ้าสบายๆ เป็นเสื้อโปโลสีครีม กับกางเกงสแล็คส์สีดำสะอาดตา ชุดสีเสื้อของเขาก็ยังสีคล้ายกับชุดเดรสของเธออีก ทำไมเวลาอยู่ใกล้ ๆ เขาแล้วความบังเอิญมันเกิดขึ้นมาบ่อยจังเลย หรือว่าเธอจะคิดมากไป!
“พร้อมไปทานข้าวกับผมหรือยังครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
“พร้อมค่ะ” หล่อนกับเขาเข้ามานั่งในภัตตาคารของโรงแรมชั้นล่าง ไม่นานนักพนักงานก็เอาน้ำมาเสิร์ฟ และให้ทั้งคู่แสกนคิวอาร์โค๊ดบนโต๊ะเพื่อสั่งอาหารได้เลย
“คุณทานอาหารทะเลได้มั้ยครับ”
“ทานได้ค่ะ”
“ดีเลยครับ ไหน ๆ ก็มาทะเลทั้งทีแล้ว ก็ต้องทานอาหารทะเลสักหน่อย” น่านนัทธีร์เป็นคนสั่งรายการอาหารให้เธอด้วยตนเอง ซึ่งบังเอิญเป็นของที่รัตติกาลก็ชอบเช่นกัน
“ที่ผมสั่งไปทั้งหมด มีอันไหนที่คุณไม่ชอบบ้างครับ” เขาเอ่ยถามเผื่อว่าเธออาจไม่ชอบเขาจะได้ลบมันออก
“อืม..ก็ไม่นะคะ ฉันทานได้หมด”
เขาทานอาหารไปก็ชวนเธอคุยไปด้วย ทำให้รัตติกาลลืมเรื่องที่ทำให้เธอต้องมาที่นี่เสียสนิท
“คุยกันมาตั้งนานแล้ว ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
“ผมชื่อน่านนัทธีร์ครับ เรียกผมว่าธีร์ก็ได้ แล้วคุณล่ะครับ”
“ฉันชื่อรัตติกาลค่ะ คุณแม่ตั้งให้เพราะฉันคลอดตอนกลางคืน”
“แล้วคุณมีชื่อเล่นมั้ยครับ”
“ระตี ค่ะ คุณธีร์เรียกฉัน ว่า ระตีก็ได้” เขาพยักหน้ารับรู้
“ฉันอยากรู้เห็นผลว่า ทำไมคุณถึงชวนฉันมาทานข้าวคะ”
“อืม!..ผมคงต้องบอกคุณจริง ๆ สินะ” รัตติกาลรู้สึกตื่นเต้นก่อนจะเอ่ยต่อไป
“อย่าบอกนะคะ ว่าคุณกำลังจีบฉัน”
“ถ้าผมตอบว่าใช่...คุณจะให้โอกาสผมมั้ย” เขายิ้มและหัวเราะ เบา ๆ หญิงสาวผ่อนลมหายใจ แล้วเอ่ยออกมา
“ก็ไม่รู้สิคะ คุณก็ต้องลองดูก่อน” แล้วจู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของรัตติกาลก็ดังขึ้น เธอเห็นว่าเป็นเบอร์ของติณณภพจึงปิดเสียงที่ดังนั้น แล้วโยนลงกระเป๋าตามเดิม
“ไม่คิดจะรับโทรศัพท์หน่อยเหรอครับ”
“ไม่คะ” เธอยิ้มแล้วไม่พูดอะไรต่อ ระหว่างนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟพอดี รัตติกาลหยิบกุ้งมาแกะด้วยตัวเองแต่แล้วไม่รู้อีท่าไหนเธอเกิดโดนเศษกุ้งบาดมือ จนเลือดออก น่านนัทธีร์เห็นจึงบอกกับเธอ
“คุณรอผมตรงนี้...แป็บนะ” เขารีบวิ่งไปร้านสะดวกซื้อที่ตรงกันข้ามเพื่อซื้อพาสเตอร์ยามาพันนิ้วให้เธอ
“ช่วยส่งมือคุณมาให้ผมด้วยครับ” เขาโชว์พาสเตอร์ให้เธอดู
“แผลนิดเดียวเอง ฉันไม่รู้ว่าคุณจะลงทุนวิ่งข้ามถนนไปซื้อมา”
“ผมเต็มใจครับ งั้นเดี๋ยวผมแกะกุ้งให้คุณดีกว่านะ” เขาพูดเมื่อพันแผลให้เธอเสร็จเรียบร้อย
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ...คุณระตี” เขาดูเธอเหมือนลูกคุณหนู ลักษณะเมื่อสักครู่บ่งบอกเลยว่าเธอแกะกุ้งไม่เป็น
“ไม่บอก ลองทายมาสิคะ” เธอปรายยิ้มแล้วเอ่ยออกมา
“อย่างคุณก็น่าจะ 26 -28 โดยประมาณ”
“คุณอย่าเหมาสิคะ พูดตัวเลขมาเลยดีกว่า”
“26 อะ”
“เก่งคะ!!! คุณทายถูก”
“มีรางวัลให้ผมมั้ยครับ”
“ไม่มีหรอกค่ะ...งั้นฉันขอทายคุณกลับบ้างก็แล้วกัน รูปร่างหน้าตาอย่างคุณเนี่ย..ก็น่าจะสัก! เอ่อ..30ต้น ๆ ”
“อื้ม!!.. คุณมาถูกทางแล้วล่ะ ว่าแต่ต้น ๆ เนี่ยเท่าไหร่ล่ะ” หญิงสาวทำท่าลังเลก่อนจะตอบ
“เดาว่าไม่น่าเกิน 35 ค่ะ”
“ผมดูหน้าแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ!!!!”
“คุณจะดูเด็กลงกว่านี้ ถ้ารู้จักโกนหนวดโกนเคราซะบ้าง” เธอว่าเขา
“ทำไม คุณไม่ชอบมันเหรอ”
“เอาไว้ให้ฉันเป็นแฟนคุณก่อนนะคะ แล้วฉันจะบอก ว่าชอบหรือไม่ชอบ”
“แต่เมื่อสักครู่...คุณยังไม่บอกเลยนะว่าผมอายุเท่าไหร่”
“35 ปี บวกลบไม่เกินสอง คุณน่าจะอายุราว ๆ 32 ใช่!..คุณน่าจะอยู่ในเกณฑ์นี้”
“คุณทายว่า 32 ปีเหรอครับ”
“ค่ะ ถูกไหม”
“ถูกต้องนะคร๊าบบบบ!!..ฮ่า ๆ ” เขาหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“งั้นคุณก็แก่กว่าระตีหลายปี จะให้ระตีเรียกพี่มั้ยคะ”
“แล้วระตีอยากเรียกพี่มั้ยละ..”
“อืม!..ก็ได้นะคะ ระตีเรียกพี่ก็ได้ พี่อายุมากกว่าระตีตั้ง 6 ปีแน่ะ”
“แต่พี่เปลี่ยนใจแล้ว”
“อ่าว!..ทำไมละคะ”
“อยากให้ระตี..เรียกพี่ว่าที่รักมากกว่า”
“หือ!!!..เร็วไปค่ะเราเพิ่งจะรู้จักกันเอง เรียกพี่น่ะดีแล้ว” เธอหัวเราะต่อท้าย