ปัง!ปัง!ปัง!
บึ้ม!บึ้ม!บึ้ม!
เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ เสียงระเบิดดังสนั่นครึกโครม กระสุนนัดแล้วนัดเล่า ถูกยิงออกจากปลายกระบอกปืน เจาะเข้าขมับของศัตรูอย่างแม่นยำ กระสุนไม่เคยพลาดเป้า ร่างแล้วร่างเล่าร่วงกองลงกับพื้น เลือดสีแดงฉานสาดกระจายไปทั่วพื้น
การปรากฎตัวของสามยมทูต ที่เข้ามาปลิดชีพส่งลงนรก กระสุนร่วงกระจัดกระจายเต็มพื้น ร่างกายกำยำของชายฉกรรจ์ ต่างวิ่งหลบหนีวิถีกระสุนที่พุ่งตรงเข้าใส่ และไม่เคยพลาดเป้าแม้แต่นัดเดียว
"ไอ้น้ำนิ่ง มึงแยกไปจัดการฝั่งนั้น ระเบียดสินค้าที่มันมี ให้พังราบเป็นหน้ากอง มันทำให้กูเสียหายเท่าไหร่ มึงเอาคืนเป็นสองเท่า" เสียงสั่งที่มีอำนาจ และทรงพลังของผม ที่สั่งการให้ไอ้น้ำนิ่งมือซ้าย ไปทำลายคลังอาวุธ ของพวกศัตรู
"ครับบอส" น้ำนิ่งรับคำผม และแยกตัวพร้อมด้วยระเบิดหลายลูก มุ่งตรงไปยังคลังอาวุธ ไม่ว่าลูกกระจ๊อกหน้าไหน ก็ไม่สามารถหยุดการลงมือของน้ำนิ่งได้ คนนับสิบไม่สามารถสู้น้ำนิ่งเพียงคนเดียว
"ส่วนมึงไอ้คิสติน ไปจัดการพวกลูกสมุนที่ยังเหลือให้หมด อย่าให้พวกมันรอดไปได้สักคน กูจะเขย่าขวัญสั่นประสาทให้หัวหน้ามันรับรู้ ถ้าคิดจะสู้กับกูและเล่นงานกู มันจะมีสภาพอย่างที่เห็น" สายตาเย็นเยียบเหมือนยามค่ำคืน และน้ำเสียงทรงพลังถูกเปล่งออกไป
"ครับบอส" คิสตินแยกจากผมไปอีกฝั่ง เก็บพวกที่มันหนีไปแอบซุ่ม เสียงปืนจากปลายกระบอกของไอ้คิสติน ไม่เคยทำให้บอสอย่างผม ต้องลงมือเองเลยสักครั้ง พวกมันสองคนคือยมทูต แห่งรัตติกาล ผมกับไอ้คิสติน น้ำนิ่ง บุกเข้ามาจัดการโกดังสินค้าขนาดใหญ่ของซิซาบะ พวกนั้นคงไม่ทันคาดคิดว่าผมจะลงมือทันที มันลงมือเช้ามืด ผมลงมือต่อเที่ยงคืน พวกมันจึงไม่ทันเตรียมตัว และพวกมันคงคิดว่าผมคงเตรียมระดมพล พวกมันจึงหละหลวม งานกระจอกพวกนี้ ผมสามคนเอาอยู่แน่นอน
"บอสครับ พวกมันหนีไปได้หนึ่งคน บอสจะให้ผมตามเก็บมันไหมครับ" คิสตินวิ่งมารายงานผม หลังจากผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที คิสตินมันลงมือปลิดชีพได้เร็วมาก
"มึงไม่ต้องตามไป ปล่อยให้มันไปงายงานนายของมัน และคนอย่างมันคงไม่รอด นายมันคงไม่ปล่อยไว้ ดีเหมือนกัน ให้มันไปรายงานความน่ากลัวของคาบาเลียนให้นายมันรับรู้" น้ำเสียงสายตาความเหี้ยมเกรียมของผมแผดออกไปรอบตัว คิดจะจัดการคนอย่างผมมันไม่ง่าย
"ครับบอสแล้วเราจะเอางัยต่อ จัดการกับศพพวกนี้ หรือปล่อยทิ้งไว้" คิสตินมองไปที่ศพพวกลูกสมุน ที่ล้มตายระเนระนาด ผมบอกแล้วงัยจะเอาคืนพวกมันสองเท่า
"ไม่ต้องจัดการอะไรทั้งนั้น ปล่อยทิ้งไว้ เดี๋ยวพวกตำรวจก็ตามมาจัดการเอง" อิทธิพลของคาบาเลียน แผ่กระจายไปทั่ว คาบาเลียนจึงไม่จำเป็นต้องเกรงกลัว เพราะอำนาจทุกสิ่ง คาบาเลี่ยนล้วนกุมอำนาจไว้ในมือ ไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้ามาเหยียบหนวดคาบาเลียน
"บอสครับคลังสินค้าของพวกมัน ผมจัดการระบิดทิ้งไม่ให้เหลือซาก พวกมันไม่มีอาวุธส่งให้ลูกค้าได้แน่นอนครับ" ระเบิดในมือที่ไอ้น้ำนิ่งมันพกมาหลายสิบลูก ถูกใช้งานจนไม่มีเหลือ เปลวเพลิงและควันไฟสีขาวหม่นลุกโชติช่วง ผมสามคนยืนมองความฉิบหายวายวอดของซิซาบะ และไม่คิดจะหลบหนี เพราะไม่มีอะไรให้กังวล ผมไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวใครหน้าไหน คนเพียงสามคนสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ข่าวนี้ต้องแพร่กระจายออกไป และถูกพูดถึงปากต่อปาก แก๊งเล็กแก๊งน้อยจะได้ไม่เหิมเกริม ขึ้นมาเทียบเท่า
"บอสจะกลับคฤหาสน์เลยไหม หรือจะไปเยี่ยม
ซาบิโอต่อ ป่านนี้พวกมันเตรียมระดมพล ไว้ต้อนรับแล้วครับบอส" น้ำเสียงอันเยือกเย็นของ
คิสติน กล่าวเสริมขึ้น ในขณะที่สายตาจ้องมองศพนับยี่สิบศพ ที่มันลงมือเจาะกระโหลกพวกมันด้วยกระสุนเพียงนัดเดียวในแต่ละศพ
"มึงรู้จักกูดีคิสติน ถ้ากูลงมือ กูกัดไม่ปล่อย แล้วถ้าคิดว่าคนแค่นั้นหยุดกูได้ กูคงไม่ได้ขึ้นมาเป็นบอสในเวลาไม่นาน" กว่าผมจะผ่านมายืนจุดนี้ได้ ผมแทบเอาชีวิตไม่รอด ในวัยเพียงห้าขวบ แต่ผมต้องเอาตัวรอดจากศัตรูนับสิบ ด้วยตัวคนเดียว
"รถพร้อมแล้วครับบอส" น้ำนิ่งมันรายงานผม พวกมันต่างรู้ใจว่าจุดหมายต่อไปคือที่ไหน ผมกับพวกมันสองคนไม่เคยหวาดเกรง ในเวลาไม่นานรถอีกคันที่น้ำนิ่งมันเตรียมอาวุธครบครัน ถูกนำมาใช้ น้ำนิ่งมันทำงานได้เร็ว ในเรื่องการข่าวสาร
"ไปทำให้พวกมันกลัวจนหัวหดกัน กูจะเอาคืนพวกมันอย่างสาสม" น้ำนิ่งขับรถมายังโกดังใหญ่อีกที่ของซาบิโอ พวกมันคงได้ข่าวแล้วว่า ซิซาบะพังพินาศไปแค่ไหน มันจึงระดมคนนับร้อยมารอต้อนรับ ผมนั่งบนรถ มองดูการวางกำลังพลคุ้มกันของพวกมัน
"พวกมึงสองคนอาจเหนื่อยหน่อยนะ ทักทายพวกมันหน่อยน้ำนิ่ง" คนแค่นี้จัดการได้สบาย แต่มันจะเสียเวลา และพลังงานหน่อย
"สบายมากบอส ไม่คณามือคนอย่างไอ้คิสติน เดี๋ยวพวกผมจัดให้สมฐานะบอส ที่มาเยือนพวกมันเองถึงที่" น้ำนิ่งมันแสยะยิ้มร้าย และไม่เกรงกลัวพวกสมุนที่ถูกระดมมาคุ้มกัน ความว่องไวของมันกับไอ้คิสติน ไอ้น้ำนิ่งมันปาระเบิดทักทายตรงหน้าประตู ผมจะเข้าไปแบบสมศักดิ์ไม่มีการลอบเข้า แบบพวกหมารอบกัด มันคือการมาเอาคืนแบบสมศักดิ์ศรีเจ้าชายรัตติกาล
ปัง!ปัง! ปัง!
เสียงกระสุนที่รัวกระหน่ำจากปลายกระบอกปืน ของคิสตินและน้ำนิ่ง พวกที่ยืนเฝ้าหน้าประตูทางเข้า ไม่ทันความเร็วและการหลบแบบคล่องแคล่วของสองคนนั้น ชายพวกนั้นล่วงลงคนแล้วคนเล่า ผมเดินตามเข้าไปข้างใน โดยไม่ทันได้ลงมือ
"บอสครับระวัง" เสียงเตือนจากน้ำนิ่ง ผมหลบฉากจากมีด ที่แทงมาจากด้านหลังด้วยความรวดเร็ว
ฉึก!!
เสียงมีดสั้นจากมือน้ำนิ่งที่ปักเข้าที่คอศัตรูจนมิด้าม แน่นิ่งล่วงลงกับพื้น มันลอบเข้ามาทางด้านหลัง ด้วยความไว และความเก่งกาจของการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของน้ำนิ่ง ส่งมันลงนรกด้วยมีดเล่มเล็ก ผมหันไปมองมันด้วยสายตาเย็นเฉียบ เล็งกระสุนเจาะกระโหลกอีกนัด โทษฐานที่ลอบทำร้าย พวกมันระดมเข้ามานับสิบ กระสุนที่ออกจากปลายกระบอกปืน พุ่งเข้ากลางอกร่วงระนาว ควันปืนสีขาวลอยคละคลุ้ง ออกจากปากกระบอกไม่ขาด
"ไอ้คิสตินมึงจัดการพวกที่เหลือ ไอ้น้ำนิ่งจัดการระเบิดทิ้งให้หมด อย่าให้มันเหลือของออกไปขายได้แม้แต่ชิ้นเดียว" พวกมันสองคนแยกกันทำงานอย่างรวดเร็ว ปืนที่พกมาหลายกระบอก ถูกกระหน่ำยิงรัว เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พวกสมุนบางคนที่เห็นถึงความร้ายกาจ พยายามหลบหนีเอาตัวรอด แต่ยมทูตทั้งสองไม่เคยปล่อยให้พวกมันหลุดรอดจากความตายได้ พวกมันยังอ่อนชั้นจากผมอย่างมาก ผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียว ทุกอย่างเหมือนจะเริ่มสงบลง มีเพียงเสียงระเบิด ที่ยังคงดังต่อเนื่อง ผมเดินสำรวจพวกที่ยังหลบซ่อนตัว เพื่อส่งพวกมันลงนรกทีละคน อย่างเลือดเย็น เลือดสีแดงกระเด็นเต็มเสื้อ ผมถอดมันทิ้งอย่างไม่ใยดี
"บอสครับผมจะจัดการกับอาวุธพวกมันเรียบร้อย ครั้งนี้มันคงเสียหายหลายพันล้าน เพราะเป็นโกดังใหญ่สุดของพวกมัน" น้ำนิ่งเดินเข้ามารายงานผมอย่างคนใจเย็น แววตามโหดทมิฬถ้าใครเผลอสบตามัน คงกลัวจนหัวหด
"บอสครับผมจัดการพวกสมุนพวกมันหมดทุกคนแล้ว บอสจะกลับไปพักเลยไหมครับ" คิสตินเดินมาเข้ารายงานผม ด้วยแววตาของนักล่า ที่มันคงไม่มอดลงง่าย มันคงยังมันมืออยู่
เวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสาม ที่พวกผมสามคนจัดการทั้ง ซิซาบะ และซาบิโอลงอย่างงายดาย โดยที่ไม่เสียคนตัวเองสักคน แต่มันแลกมาด้วยความเหนื่อยนิดหน่อย ถึงเวลาที่ผมจะไปนอนรอดูพวกมันดิ้นพล่านด้วยความหวาดกลัว ไม่ใช่แค่สองแก๊ง แต่มันจะแผ่ไปทั่วทุกสารทิศ
"อืมกลับเลย ถึงเวลาที่กูต้องพัก วันนี้เสียเวลานอนกูฉิบหาย" ปกติเวลานี้ผมคงต้องได้พัก แต่ต้องออกมาข่มขวัญพวกมันด้วยตัวเอง ให้มันเห็นความร้ายกาจของบอสคาบาเลียน