Chapter 4
วัน ไนท์ แสตนด์ (1)
"แก้วนี้มาร่วมฉลองให้ไอ้เต ขอให้กิจการเจริญของเพื่อนกูรุ่งเรือง อย่าเป็นเหมือนพลุที่ถูกจุดขึ้นไปบนฟ้า ส่องประกายเพียงวูบเดียวแล้วก็สลายหายไปกับความมืด กูขอให้มึงโชคดีแบบนี้ตลอดไปนะเพื่อน"
นคินทร์ชูแก้วเหล้าไปด้านหน้า เสียงแก้วเครื่องดื่มกระทบกันตามมาด้วยเสียงอวยพรที่มาจากบรรดาเพื่อนๆ ที่ได้มีโอกาสกลับมานั่งสังสรรค์กันอีกครั้ง...ในวันที่เตชินทร์ตัดสินใจก้าวออกมาจากชีวิตการเป็นลูกจ้าง ทิ้งเงินเดือนหลักแสนเพื่อออกมาเดินตามความฝัน นั่นคือการเป็นนายตัวเองไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนที่คอยทำตามคำสั่งของใคร
Engine Design & Service ที่วันนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการรับออกแบบเครื่องกลในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กับเตชินทร์ในวัยยี่สิบเก้าปี ผันตัวจากชีวิตลูกจ้างและรับงานฟรีแลนซ์มาเป็นผู้บริหารบริษัทเล็กๆ ที่มีเป้าหมายคือค่อยๆ ก้าวไปช้าๆ ไม่รีบเร่ง...งานเลี้ยงเปิดตัวบริษัทมีเพื่อนฝูงคนรู้จักมากมายมาร่วมแสดงความยินดี รวมทั้งมุกประดับในวัยยี่สิบแปดปี หล่อนคือคนสนิทที่ยังไม่เรียกว่าแฟน และในวันที่เขากำลังก่อร่างสร้างตัวสร้างอนาคตอันมั่นคง ม่านไหมมีอายุเพียงแค่สิบเจ็ดปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เหมือนกับภูริชที่อยู่ในวัยเดียวกัน คบหาเป็นเพื่อนกัน
มาตั้งแต่ทั้งสองมีอายุเพียงแค่เก้าขวบเท่านั้น
"คุณเตเขาชอบเด็กๆ อายุสิบแปดสิบเก้าแบบเธอ...ขายให้เขาครั้งเดียวถือว่าไม่สึกหรอ แต่ถ้าอยากสานต่อ ทำตัวน่ารักๆ ให้เขาเอ็นดู แล้วเธอจะสบาย ที่สำคัญ...เขายังโสดไม่มีลูกมีเมีย"
เสียงคุยกันดังอยู่อีกมุมหนึ่งของงานเลี้ยง สองคนที่ต่างพึ่งพาอาศัย อีกคนได้เงินจากการแนะนำผู้ชายเงินหนาที่พร้อมจะจ่าย อีกคนต้องการเงินก้อนโตแลกกับการทำงานบนเตียง ขายเรือนร่างให้กับผู้ชายที่ยังไม่พร้อมจะมีสัมพันธ์กับใครจริงจัง และไม่ต้องมีเรื่องหัวใจมาพัวพันเพราะทุกอย่างถูกแลกมาด้วยเงิน...
เป็นเวลาดึกสงัดกว่าที่งานเลี้ยงจะเลิกรา...ม่านไหมหอบร่างกายที่แทบจะเดินไม่ไหวออกมาจากลิฟต์ เป็นครั้งแรกที่ได้ลิ้มรสชาติของน้ำเมา หล่อนไม่เคยดื่มค็อกเทลมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต ในงานเลี้ยงเปิดตัวบริษัทของคนที่นับถือว่าเขาคือญาติสนิทจึงเป็นครั้งแรกที่ได้ลองดื่ม ความหวานที่เป็นส่วนผสมทำให้เผลอดื่มไปหลายแก้วอย่างไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีหัวสมองก็มึนเบลอและหนักอึ้งจนแทบจำห้องพักของตัวเองในโรงแรมไม่ได้ หล่อนยืนลังเลงุนงงอยู่นานเมื่อมาหยุดอยู่หน้าห้อง กุญแจในมือถูกเสียบเข้าไปในตัวล็อก...มันเปิดได้ นั่นแสดงว่าไม่ผิดห้องแน่นอน
ร่างที่สติขาดหายทิ้งกายลงบนที่นอนนุ่มๆ แล้วนอนคว่ำหน้า วินาทีนี้รู้แค่ว่าอยากปล่อยกายและใจให้ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน เข็ดขยาดไปอีกนานกับการดื่มแบบขาดความยับยั้งชั่งใจจนเมาหนัก นั่นคือความคิดที่วิ่งวุ่นอยู่ในหัวสมองกึ่งตื่นกึ่งฝัน ความมืดสลัวและอากาศที่กำลังเย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศ ทำให้สติของม่านไหมค่อยๆ หายไปจนกลายเข้าสู่ห้วงนิทรา กับราตรีนี้ที่ยังยาวไกล...
ท่ามกลางความรู้สึกแปลกๆ ในร่างกาย มันมาพร้อมกับสติที่ขาดๆ หายๆ จากการถูกเพื่อนคะยั้นคะยอให้ดื่มจนร่างกายแทบรับไม่ไหว...ในห้องที่ความเย็นกระจายห่มคลุมทั่วพื้นที่ เตชินทร์เดินตรงไปที่เตียงกว้างท่ามกลางความมืดสลัว ชายหนุ่มทิ้งกายลงไปบนที่นอนนุ่มๆ ด้วยสมองอันหนักอึ้ง...กายที่สัมผัสกับผิวเนื้อนุ่มเนียนภายใต้ผ้าห่มอุ่น ทำให้ความคิดบางอย่างแทรกเข้ามาในห้วงการรับรู้ที่ขาดๆ หายๆ...มีใครบางคนมากระซิบบอกตอนอยู่ในงานเลี้ยง กับของหวานที่จัดหามาให้สำหรับเขาโดยเฉพาะ เด็กสาวที่ยอมรับงานบนเตียงเพื่อแลกกับเงินก้อนโต เขาเผลอทำมือลั่นเผลอจับเข้าตรงบั้นท้ายเต่งตึง
‘เราบอกปัดไปแล้วนี่นะ…ทำไม…’
"หืม?"
ม่านไหมรู้สึกตัวเมื่อรับรู้ได้ถึงการถูกบดเบียดเข้าหาจากด้านหลัง...ท่ามกลางความมึนงงและสับสน ร่างของหล่อนก็ถูกรั้งให้นอนหงาย ไม่ทันได้ตั้งตัวร่างหนักก็ทาบทับลงมาจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้ ในความมืดสลัว หล่อนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่กำลังขึ้นคร่อมร่างของตนอยู่ในตอนนี้นั้นเป็นใคร ลมหายใจอุ่นซ่านที่ลอยวนอยู่เหนือใบหน้า ทำให้ขนอ่อนลุกชูชันไปทั่วร่างกาย อุ้งมือแกร่งบีบเคล้นลงบนอกอิ่มหน่วงหนัก แม้สติสัมปชัญญะจะไม่เต็มร้อย แต่ก็ยังพอรับรู้ว่าใครกำลังทำอะไรกับร่างกายของตน
"ยะ อย่า!"
เสียงขอร้องเบาหวิวต้องขาดหายเมื่อเขาบดเคล้าความร้อนรุ่มลงบนกลีบปากนุ่มเพื่อลองลิ้ม สัมผัสอ่อนละมุนมาพร้อมลิ้นร้อนที่ตวัดรุกไล่เรียวลิ้นนุ่ม...จูบหวามหวานสร้างความรู้สึกรัญจวนป่วนหัวใจ มันคือจูบแรกที่เขาปล้นไปอย่างง่ายดาย กลิ่นน้ำหอมแสนคุ้นเคยแทรกลึกล้ำเข้าไปถึงห้วงความรู้สึกสับสน สติที่ไม่เต็มร้อยจากฤทธิ์แอลกอฮอล์รวมทั้งบรรยากาศเป็นใจ ทุกอย่างช่างเอื้อให้หล่อนกำลังจะตกเป็นของเขาอย่างไม่อาจขัดขืนได้เลย
“นึกยังไงถึงมาขายตัว งานมีเยอะแยะทำไมไม่เลือกทำ”
เสียงกระเส่าถามไปอย่างนั้น ขัดกับมือและปากที่รุกรานตะโบมจูบไปทั่วใบหน้าและซอกคอของคนไร้ซึ่งปัญญาจะขัดขืน…ในห้วงกึ่งตื่นกึ่งฝันเสียงนั้นช่างคุ้นในความรู้สึกคนฟัง หากแต่สติที่ไม่เต็มร้อยก็ทำให้เจ้าตัวเผลอไผลไปกับการปลุกเร้า ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ใจเคลิ้มฝันดำดิ่งสู่ห้วงพิศวาสอย่างง่ายดาย
“อื๊อ…”
ปลายนิ้วแกร่งลากไล้เข้าใต้ชายกระโปรง ออกแรงดึงรั้งกางเกงซับในรูดออกจากสะโพกผายด้วยความมุทะลุ ก่อนเขาจะสอดแทรกแท่งนิ้วรุกล้ำเข้าสู่ร่องหลืบคับแน่น แรงบีบรัดปลายนิ้วทำให้คนเมาถึงกับครางฮือ
มือสั่นๆ ปลดตะขอกางเกงแล้วรูดซิปออกอย่างเร็วรี่เมื่อเขาไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้ ความแข็งขึงผงาดชูชันเพราะความกระสันอยาก ท่อนขาเรียวถูกจับแยกออกจากกันพร้อมกับที่เขาขยับเข้าหาจัดท่าทางพร้อมที่จะล่วงล้ำสอดลึก…ท่อนเนื้อร้อนผ่าวดึงดันจดจ่อถูไถอยู่นอกเส้นทางรัก ก่อนจะออกแรงดันพรวดเดียวเข้าไปจนสุดทาง ท่ามกลางเสียงร้องของคนใต้ร่างที่ถูกความเจ็บแปลบเล่นงานจนกายสั่นเกร็ง
ทั้งเจ็บและอึดอัด…นั่นคือความรู้สึกของคนสติขาดหาย หากแต่เขาขยับไม่นานความรู้สึกนั้นก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็นความซ่านเสียวมาแทนที่ แรงโยกขยับกระแทกกระทั้นหน่วงหนักแบบแนบเนื้อเรียกเสียงครางกระเส่าให้เล็ดลอดดังประสาน…เสียงของเขาและเธอที่ต่างฝ่ายต่างสติขาดหายติดๆ ดับๆ รับรู้เพียงแค่ว่าความรู้สึกในตอนนี้นั้นดั่งล่องลอยอยู่บนสวรรค์ ความสุขล้ำที่ทำให้เกี่ยวก้อยพากันขึ้นไปคว้าสายรุ้งที่พร่างพรม