Chapter 3 บ่วงสวาท (1)

2135 คำ
Chapter 3 บ่วงสวาท (1) หลังจากอาบน้ำอาบท่าและสงบจิตใจจนกลับมาเป็นปกติ ม่านไหมปั้นหน้ามาร่วมโต๊ะอาหารกับจอมบงการทั้งที่ไม่เต็มใจ ไม่อยากมองหน้าคนใจร้ายจนพานกินอะไรไม่ลง แต่เพราะวันนี้ภูริชอยู่ทานมื้อเย็นด้วยจึงไม่อาจปฏิเสธได้ ส่วนลูกนั้นฝากลออให้ช่วยอยู่เป็นเพื่อนชั่วคราว...คนสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะกับภูริชต่างแสดงละครใส่กัน รอยยิ้มที่ภูริชเห็นนั้นถูกกลั่นออกมาจากใจอันแสนขมขื่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณอาของตนกับม่านไหมกำลังมีท่าทีปั้นปึงต่อกันเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอม "ทานเยอะๆ นะไหม ต้องให้นมน้องไม่ใช่เหรอ" ภูริชเห็นว่าม่านไหมทำเหมือนทานอะไรไม่อร่อย เขาจึงตักชิ้นปลาทอดสมุนไพรใส่จานให้อย่างเอาใจ...เพียงได้กลิ่นฉุนๆ ที่ผสมปนเปกันมาแบบชิดปลายจมูก อาการคลื่นเ**ยนก็เล่นงานทันที "อื้อหืมมม...เหม็น...ไหมไม่กินแล้วนะปลาทอด" หล่อนยกมือขึ้นปิดจมูก เลื่อนจานข้าวออกห่างแล้วเบือนหน้าหนี...เตชินทร์หรี่ตามองอาการแปลกๆ นั้น ไม่ทันได้ถามไถ่อะไรหล่อนก็ลุกพรวดขึ้น ก่อนจะวิ่งปิดปากไปทางห้องน้ำ ในขณะที่ภูริชตกอยู่ในอาการงุนงงทำอะไรไม่ถูก เตชินทร์ก็ลุกตามไปเมื่อส่วนลึกร้องสั่ง...เขาเป็นห่วงเธอ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาคนที่ยืนโก่งคออาเจียน ฝ่ามือแกร่งยื่น เข้าไปช่วยลูบหลังให้ ทว่าคนแสนงอนกลับทำท่าพยศฟึดฟัด ปัดมือของเขาออกไม่ให้ถูกตัว "ไปไกลๆ เลยไม่ต้องมาถูกตัว ไหมดูแลตัวเองได้!" "สะดีดสะดิ้งเรื่องเยอะแบบนี้ มันน่าปล่อยให้เป็นลมล้มหัวฟาดอยู่ในห้องน้ำ ถ้าปัดออกอีกทีคราวนี้มีเรื่องแน่" เขาเข่นเสียงข่มขู่ ทว่าแววตาซ่อนความอาทรก็ยังคงไม่ละมาจากคนตรงหน้า วินาทีนี้เขาไม่คิดเป็นอื่น นอกจากอาการป่วยไข้ธรรมดา 'ถ้าเป็นแบบนี้ เห็นทีคงให้นมม่านมุกไม่ไหวแน่...’ ความคิดแวบเข้ามาขณะวักน้ำจากก๊อกบ้วนปาก ก่อนจะเงยหน้ามองเงาสะท้อนตัวเองในกระจก...เงาของเขาก็สะท้อนอยู่ในนั้นเช่นกัน "ไหวหรือเปล่าไหม จะไปหาหมอมั้ย" 'คงต้องไปปรึกษาหมอให้เร็วที่สุด ถ้าให้นมทั้งที่ท้องอ่อนๆ จะเป็นอันตรายมั้ยนะ...’ ในหัวของม่านไหมอื้ออึงจนไม่ได้ยินคำถามของเตชินทร์ เมื่อเริ่มแพ้ท้องความห่วงใยอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในครรภ์ก็เอ่อท้น...มือที่เกาะขอบอ่างเปลี่ยนมาทาบบนหน้าท้องอย่างลืมตัว ลูบไล้สัมผัสอย่างอ่อนโยนด้วยความรักที่ก่อเกิด ชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นจากสัมพันธ์รักลึกซึ้ง หาใช่วิธีทางการแพทย์เช่นลูกคนแรกที่เกิดจากการอุ้มบุญ "ไหม...ได้ยินมั้ยที่อาถามน่ะ" "คะ?" เสียงนั้นดึงหล่อนขึ้นมาจากภวังค์ เหลือบมองก็เห็นแววตาอาทรจับจ้องมองมา "อาเต...ถามว่าอะไรนะคะ" "จะไปหาหมอมั้ย อาเจียนแบบนี้เวียนหัวด้วยหรือเปล่า" "นิดหน่อยค่ะ แต่...แค่นอนพักคงจะค่อยยังชั่ว ไหมไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ต้องไปหาหมอหรอกค่ะ เดี๋ยวม่านมุกต้องกินนม" "เธอไม่สบายแบบนี้จะให้นมได้ยังไง หรือว่าจะให้เหมียวออกไปปากซอยซื้อนมมาชงให้กินแทนไปก่อน" "ถ้าให้ไม่ไหวไหมจะลองปั๊มใส่ขวดทิ้งไว้ แต่...ก็ไม่รู้ว่าเขาจะยอมดูดจุกนมหรือเปล่า ก็คงต้องลองดู" "เอาเถอะ เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้เธอต้องไปกินข้าวก่อน ถ้าไม่อยากกินอะไร เดี๋ยวให้ป้าแมวต้มข้าวต้มให้ ถึงยังไงเธอก็ต้องฝืนกินสักนิดก็ยังดี" เตชินทร์ประคองคนที่อาเจียนจนหมดแรงเดินออกมาจากห้องน้ำ ใครบางคนที่ยืนมองอยู่อย่างเงียบๆ ทำให้แววตาสองคู่สบประสานอย่างล่วงรู้ในความนึกคิดของกันและกัน "ไหมเป็นยังไงบ้างครับอาเต..." 'มันไม่มีอะไรใช่มั้ย...ปาล์มพยายามจะไม่คิดอะไรในแง่ลบนะไหม’ ภูริชเห็นแล้วกับภาพนั้น...สองคนที่คุยกันกระหนุงกระหนิงราวกับว่าโลกนี้มีเพียงเราสอง ความห่วงหาอาทรที่คุณอาของเขาแสดงออกมา ทำให้เขาทำได้เพียงยืนมองอยู่ห่างๆ แม้จะห่วงม่านไหมมากแค่ไหนก็ตาม "ก็...น่าจะไม่สบายน่ะ หากไม่ดีขึ้น พรุ่งนี้คงต้องไปหาหมอ" ตอบคำถามหลานชายแล้วก็หันไปสบตาคนที่ยืนหน้าซีดหน้าเซียว อดคิดไม่ได้ว่ามันซีดเพราะอาการป่วยไข้ หรือเพราะกลัวความลับจะรั่วไหลกันแน่ "ไหมไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องห่วงนะปาล์ม ไปกินข้าวกันต่อเถอะจ้ะ" "อาเตน่าจะรีบพาไหมไปโรงพยาบาล อาเจียนแบบนี้ไม่ปกตินะครับ" "เอาเถอะ นายไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนี้หรอก ถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวอาจัดการต่อเอง" "นอนพักก็คงดีขึ้นแล้วล่ะปาล์ม" "ไหวแน่น่ะไหม" "อืม..." คนแพ้ท้องเก็บซ่อนอาการผิดปกติเอาไว้ ต้องซ่อนหลบเรื่องตั้งครรภ์ยังไม่กล้าบอกเตชินทร์ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะยินดีหรือไม่หากได้รู้ ซ้ำยังต้องปิดบังสัมพันธ์ลึกซึ้งไม่ให้ภูริชต้องมารับรู้ แม้จะไม่ได้คิดเกินเลยมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่หล่อนก็แคร์ความรู้สึกกลัวว่าเขาจะเสียใจ มันคือเรื่องละเอียดอ่อนแสนเปราะบางต่อความรู้สึกอยู่มากทีเดียว ภูริชกลับไปได้พักใหญ่แล้ว ความมืดโรยตัวมาห่มคลุมทั่วทุกพื้นที่ ภายใต้ร่มเงาหลังคาบ้านหลังใหญ่ แสงไฟสลัวสาดส่องอยู่กลางโถงชั้นบนให้พอมองเห็นบรรยากาศโดยรวม...ภายในห้องนอนของม่านไหม เสียงร้องไห้จ้าดังกลบเสียงขับกล่อมปลอบโยน อาการเวียนศีรษะที่รุมเร้าในช่วงหัวค่ำทำให้ม่านไหมถึงกับลุกไม่ขึ้น นอนมองคนเป็นพ่ออุ้มลูกที่กำลังโกงเดินวนไปทั่วห้อง อันมาจากความหงุดหงิดที่หิวนมแล้วไม่ได้ดั่งใจ ขวดนมที่มีน้ำนมปั๊มใส่เอาไว้ถูกมือน้อยๆ ปัดทิ้งเพราะไม่คุ้นชินกับจุกนม รวมทั้งอ้อมกอดของคนเป็นพ่อนั้นสร้างความรู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอ้อมอกอุ่นที่เคยได้รับทุกวันคืน วันนี้หนูน้อยจึงออกอาการพยศทั้งที่เคยเลี้ยงง่ายเลี้ยงดาย ชายหนุ่มรู้ซึ้งแล้วถึงความเหนื่อยยากของการเลี้ยงเด็ก เมื่อวันนี้ได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง "ม่านมุก...ไม่อ้อนสิครับคนดี คุณแม่ไม่สบายให้นมหนูไม่ได้รู้มั้ย" คนลืมตัวปลอบโยนลูก ขวดนมในมือของเขาจดจ่ออยู่ตรงปากเล็กที่ยังตะเบ็งเสียงร้องไม่หยุด เขาปลอบก็แล้ว โอ๋ก็แล้ว พยายามยัดจุกนมเข้าไปในอุ้งปากน้อย แต่ลูกสาวเขารู้ว่าไม่ใช่อ้อมอกอุ่น ลิ้นเล็กจึงดุนดันขัดขืนไม่ยอมดูดกลืนน้ำนมจากขวด นั่นทำให้เขาเริ่มกังวลใจ เพราะหากลูกสาวเขาไม่ยอมกินนม ก็จะร้องเพราะหิวอยู่อย่างนี้กันไปทั้งคืนแน่นอน "ส่งเขามาให้ไหมเถอะค่ะ ดูท่าแล้วคงไม่ยอม" น้ำเสียงเบาหวิวดังมาจากเตียงนอน ชายหนุ่มหันไปมอง เห็นม่านไหมกำลังค่อยๆ พลิกกายนอนตะแคง เขายืนลังเลเพราะไม่อยากรบกวนคนไม่สบาย อยากให้หล่อนนอนพักผ่อนให้เต็มอิ่ม กลัวจะทรุดลงไปเพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ "แต่..." "มาเถอะค่ะ อาเตเอาไม่อยู่แน่ๆ นึกแล้วเชียวว่าน้องต้องติดมือไหม เขาไม่ชินกับอาเตเพราะไม่ได้เลี้ยงเขามา" "เธอไหวแน่นะไหม" หล่อนพยักหน้ารับ ชายหนุ่มเดินไปที่เตียงแล้ววางร่างที่ยังร้องไม่หยุดลงบนที่นอนข้างกายม่านไหม หล่อนขยับจัดท่านอนให้เหมาะสมเพื่อให้นม แขนข้างหนึ่งโอบประคองทารกน้อยเอาไว้ มืออีกข้างเปิดเสื้อเพื่อเตรียมให้นม...สายตาคมกล้าที่จับจ้องมองมาอย่างไม่ละสายตา ทำให้พวงแก้มแดงซ่านอย่างนึกอับอาย "อย่ามองสิคะ บางทีไหมก็อายเหมือนกันนะ" คนเขินอายหลุบตาหนีแววตาซ่อนความหมาย ยิ่งเขาขยับมานั่งใกล้ๆ แล้วช่วยจับร่างในอ้อมกอดของหล่อนเพื่อให้นอนในท่าถนัด เมื่อต้องเผยอกอิ่มคัดตึงเพื่อให้อุ้งปากเล็กได้ดื่มกินเลือดในอก นั่นยิ่งทำให้เกิดความประหม่าจนมือไม้เงอะงะ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องให้นมต่อหน้าแล้วเขามานั่งมองด้วยแววตาที่ชวนให้ใจสั่นเช่นนี้ ยามที่เขาเผลอแสดงความอ่อนโยนออกมา ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจแสนอ่อนไหว แค่เขาทำดีใส่ความขุ่นเคืองใจก็ถูกลืมมันไปชั่วคราว "น่าตีก้นจริงๆ เลยเชียว คุณพ่อโอ๋แทบตายแต่กลับยิ่งพยศ ทีอย่างนี้ล่ะเงียบเลยนะครับ" ชายหนุ่มต้องยิ้มให้กับภาพตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบแก้มซาลาเปาที่เจ้าตัวกำลังดูดนมเพราะความหิวจนแทบลืมหายใจ ใบหน้าคมคร้ามที่คลอเคลียอยู่ข้างอกอิ่ม แววตาคมซ่อนความหมายที่เหลือบมอง ทำให้ม่านไหมรีบดันใบหน้าของเขาให้ถอยห่างออกไป "อย่ากวนสิคะ คนกำลังกินนมอยู่เห็นไหม เดี๋ยวก็โกงขึ้นมาอีกหรอก" แม้จะทรมานจากอาการเวียนศีรษะแต่หล่อนก็กัดฟันทนเพราะความสงสาร แววตาที่เต็มไปด้วยความรักหลุบมองอุ้งปากเล็กที่กำลังดูดกลืนน้ำนมอย่างหิวกระหาย อ้อมแขนอบอุ่นกระชับโอบกอดร่างนิ่มๆ เพื่อสร้างสายใยแห่งรัก ทารกน้อยสัมผัสได้ถึงสายใยนั้น ความรู้สึกปลอดภัยในอ้อมอกอุ่นทำให้มือน้อยๆ วางทาบลงบนอกอิ่ม ใช้สัมผัสทางกายสื่อแทนความรู้สึกของกันและกัน คือความผูกพันระหว่างแม่และลูกที่ไม่มีสิ่งใดมาทำลายสายใยแห่งรักนี้ได้เลย ยามนี้ความห่วงหาอาทรทำให้เตชินทร์ลืมสิ้นในทุกเหตุผล กระโดดข้ามเส้นศีลธรรมที่เป็นตัวขัดขวางให้เขาต้องซ่อนเร้นรักเอาไว้ใต้ก้นบึ้ง ชายหนุ่มขึ้นมานอนบนเตียงข้างที่ยังว่าง ขยับกายเข้าไปใกล้คนที่นอนตะแคงหันหลังกำลังให้นมลูกของเขาแม้ร่างกายจะไม่พร้อม ความสงสารและเห็นใจทำให้เขาวางทุกอย่างทิ้งไป ปลายนิ้วแกร่งไล้ไปตามกลุ่มผมอ่อนนุ่มด้วยใจที่อาทร ก้มลงฝากรอยรักลงบนขมับผ่านจูบอุ่นซ่าน...จูบอ่อนละมุนซึมลึกลงในหัวใจแสนอ่อนไหว สัมผัสที่ทำให้ความผูกพันยิ่งเพิ่มพูน "ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง หายเวียนหัวหรือยัง" เสียงกระซิบถามมาพร้อมกับท่อนแขนแกร่งที่โอบรั้งกอดเกี่ยว มือน้อยๆ ที่วางพาดอยู่บนอกอิ่มถูกเขาคว้าไปบีบเบาๆ เพื่อสื่อผ่านความรักให้ซึมลึก...แม้จะยังรู้สึกไม่ปกติแต่ก็ไม่อยากให้เขากังวลใจ ม่านไหมจึงเลี่ยงที่จะบอกเขาไปตรงๆ "ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ เดี๋ยวถ้าม่านมุกหลับแล้ว ได้นอนพักก็คงจะดีขึ้น" หล่อนคิดว่าคงเป็นอย่างนั้น อาการแพ้ท้องมักเป็นแค่ช่วง หัวค่ำกับเช้ามืด มาเป็นพักๆ แล้วมักจะหายไปเอง เพียงแต่วันนี้หล่อนรู้สึกว่าอาการจะหนักกว่าที่เคย มาเยือนกันชนิดที่ว่าทำอะไรไม่ได้เลยทีเดียว "เธอจะหลับไปเลยก็ได้นะ เดี๋ยวอาจะช่วยดูให้ว่าเขากินนมอิ่มหรือยัง" แววตาซ่อนรักจับจ้องคนที่นอนหลับตานิ่งทั้งที่ยังให้นม...ท่ามกลางความเงียบงัน ในหัวของเขาก็มีความรู้สึกหลายอย่างประเดประดังเข้ามา ความกลัวในหลายๆ อย่างแล่นเข้ามาสิงใจอีกครั้ง หากเขายกย่องม่านไหมให้มาแทนที่มุกประดับ นั่นเท่ากับว่าเขาจะทำให้หล่อนถูกซุบซิบนินทา เขากลัวม่านไหมจะกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคนนอก อีกทั้งความรู้สึกผิดที่เป็นเงาตามติด สิ่งเหล่านี้คือความเจ็บปวดเมื่อยามที่เขาและหล่อนอยู่ใกล้ชิดกัน…และคืนนี้เขาได้ฝากร่างหลับนอนบนเตียงนอนของม่านไหม ดำดิ่งลึกสู่ห้วงฝัน กับเรื่องในอดีตที่แสนฝังใจ…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม