“เชี่ย!!”
เพียงแค่ประตูลิฟต์เปิดออกไทน์ก็ถึงกับร้องอุทานออกมา เพราะตอนนี้มีสายตาของคุณพ่อและคุณแม่กำลังมองการหยอกล้อของลูกชายและหลานสาวอยู่
“คุณลุงขา คุณอาขาสวัสดีค่ะ”
“ค่ะ ไปเที่ยวกันมาสนุกไหมลูก” ขนมรีบเอ่ยถามเพราะเห็นลูกชายทำหน้าตาเคอะเขินสาวข้างกาย
“สนุกค่ะ ถ้างั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ” ปลาวาฬรีบเดินกลับเข้าห้องแต่แทนคุณกับจับไหล่ของลูกชายเอาไว้เสียก่อน ขนมเลยชิ่งลงลิฟต์มาก่อนเพื่อปล่อยให้พ่อลูกได้คุยกัน
“อะไรครับพ่อผมจะไปอ่านหนังสือแล้วววว”
“ไอ้เสือน้อย ร้ายนักนะไปถามวิธีจีบสาวจากพ่อเขาแล้วมาจีบลูกสาวเค้า จิตใจเองนี่อำมหิตเหมือนคุณย่าจริงๆ”
“ไร้สาระน่ะพ่อ ผมจะไปอ่านหนังสือแล้ว” ไทน์พยายามหนีแต่ถูกล็อคคอเอาไว้เลยต้องยืนเป็นนักโทษให้แทนคุณสอบสวน
“ไปถึงไหนแล้วบอกพ่อมาจิ้มหรือยัง”
“ยังงงงง พ่อผมพึ่งจะเริ่มจีบเค้าเอง เค้ายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมจีบอะ” ผมบอกพ่อไปตามตรงเพราะคนๆนี้ปิดบังอะไรไม่ได้ เป็นหมอศัลยแพทย์ด้านหัวใจแต่ชอบสะกดจิตชาวบ้าน
“อย่าลืมที่พ่อสอนนะไทน์เลี่ยงได้เลี่ยงถ้ามันไม่ไหวต้องป้องกันนะ รักลูกเขาแกต้องรักอนาคตเขาและอนาคตแกด้วย พ่อยังไม่อยากเป็นคุณปู่ตอนนี้รู้ไหม”
“รู้แล้วครับรีบไปเถอะป่านนี้คุณย่ารอพ่อแย่แล้ว ฝากความคิดถึงไปให้ด้วยนะครับ”
“อืม พ่อไปแล้วคืนนี้นอนคนเดียว อย่าลืมปิดไฟให้เรียบร้อยนะ”
“ครับ”
หลังจากที่พ่อไปแล้วผมก็รีบกลับเข้าห้องเพื่อเตรียมอ่านหนังสือและทำงานต่ออีกหน่อย ด้วยความที่ผมชอบไหลเวลาอ่านหนังสือร่างกายของผมมันเลยบ่งบอกว่าตอนนี้เค้กที่ทานไปเมื่อเย็นย่อยไปหมดแล้ว ที่ห้องตอนนี้ก็คงมีแค่มาม่าที่พอประทังชีวิตให้ผมได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงประตูห้องถูกใครบางคนเคาะผมเลยต้องเดินไปเปิดประตูแต่คนที่มาเคาะดันเป็นพี่สาวต่างสายเลือดที่ถือถ้วยข้าวต้มมาด้วย ผมเลยต้องขยับเพื่อให้เธอได้เดินเข้ามา
“ไอ้เวลมันบังคับให้พี่ทำ พี่เลยตักมาเผื่อน่ะ” ปลาวาฬวางถ้วยลงบนโต๊ะจากนั้นก็เดินก้าวช้าๆไปแอบดูงานของไทน์ที่วางเอาไว้
“ไทน์นี่ทำงานเรียบร้อยกว่าไอ้เวลเยอะเลยนะ”
“พ่อผมเข้มงวดจะตายเจ้ก็รู้ไม่ใช่หรือไง” กว่าจะเป็นคนเรียบร้อยขนาดนี้ผมโดนพ่อตีจนขยาดเลย ผิดครั้งแรกตักเตือน ครั้งที่สองตีเลยไม่มีครั้งที่สามแล้ว
“กินข้าวก่อนไหมไทน์ค่อยทำงานต่อ”
“มือผมเปื้อนอะป้อนหน่อยได้ไหม” ผมชูสองมือที่เปื้อนหมึกให้เจ้ดู
“มาๆถือเป็นการตอบแทนที่พาไปเที่ยวแล้วกัน”
ปลาวาฬยอมป้อนข้าวต้มให้น้องชายต่างสายเลือด เธอไม่ลืมที่จะเป่าเบาๆก่อนจะส่งเข้าปากหนุ่มน้อยที่ส่งสายตาออดอ้อนมาที่เธอ
“อ้ามมมม น่ารักจังผมต้องหอมแก้มเป็นคำขอบคุณไหมเจ้”
“บ้า!!” ปลาวาฬจะลุกหนีแต่ดันสะดุดขาโต๊ะทำให้ร่างบอบบางของเธอล้มทับไทน์ที่ต้องทิ้งงานแล้วรับตัวเธอไว้ ด้วยน้ำหนักตัวของปลาวาฬทำให้เธอโถมตัวเข้าใส่ไทน์จนเอนตัวไปกับโซฟา ริมฝีปากของทั้งสองประกบจูบกัน ต่างคนต่างอึ้งหัวใจเต้นแรงแข่งกันราวกับมีการประชันเสียงกลอง
ไทน์ขยับปากเบาๆเพื่อดูท่าทีของพี่สาวต่างสายเลือด ซึ่งเธอเองก็ค่อยๆขยับตาม กลิ่นลมหายใจที่ผสานกันมันทำให้ไทน์เคลิ้มไปกับรสจูบครั้งแรกที่ตนกำลังส่งให้ปลาวาฬ
เรียวลิ้นที่เริ่มดุนเข้าไปในปากเล็กค่อยๆกวาดไปตามรอยริมฝีปากบางๆ ปลาวาฬเองก็ปล่อยไปตามอารมณ์ที่เธอเผลอตัว เมื่อลิ้นของไทน์เข้าไปสู่โพรงปากของเธอแล้วความรุนแรงก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น ปลาวาฬขยับขาขึ้นมาคร่อมร่างของไทน์หนุ่มน้อยที่ไม่มีประสบการณ์โดยที่ปากของทั้งสองยังเชื่อมติดกันอยู่
ครืดดด ครืดดดด
เสียงโทรศัพท์ของไทน์สั่นอยู่บนโต๊ะแน่นอนว่าไทน์ปิดเสียงเอาไว้ตั้งแต่เข้าเรียนไทน์จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพอเห็นเป็นสายของพ่อก็เลยตัดสายทิ้งและเหวี่ยงไปที่โซฟาอีกตัว
“อ๊ะ!!”
ปลาวาฬร้องอุทานออกมาเมื่อความแข็งภายใต้กางเกงของไทน์ดันหว่างขาของเธอมันเลยทำให้เธอได้สติแล้วรีบสปริงตัวขึ้น สายตาที่ดูตกใจทำให้ปลาวาฬรีบวิ่งจู๊ดออกมาจากห้องทิ้งให้ไทน์นั่งมองอย่างเสียดาย แต่สายตาของไทน์กับมองไปที่กล้องวงจรปิดจากนั้นก็ดึงปลั๊กออกด้วยความหงุดหงิด
ความปึ๋งปั๋งที่กำลังแข็งโด่ยังไม่มีท่าทีว่ามันจะสงบลงง่ายๆ ครั้งนี้ปลาวาฬมีสติครบทุกอย่างแถมยังขยับสะโพกบดกับความเป็นชายภายใต้กางเกง ยิ่งคิดอารมณ์ก็ยิ่งมาจนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
ไทน์เดินกลับมาที่โซฟาเพื่อหยิบโทรศัพท์เข้าห้องนอน สองมือรีบปลดกางเกงลงเพื่อให้ลูกชายได้ออกมาสูดอากาศหายใจด้านนอก มือหนาชัดรูดเพื่อคลายความตึงจนน้ำใสๆไหลเยิ้มออกมาจากส่วนหัว ในหัวกำลังจินตาการถ้าเกิดมีใบหน้าหวานๆของปลาวาฬมาละเลงริ้นรัวๆที่ส่วนหัวคงจะฟินหน้าดู
“ซี้ดดด....” ลำเขื่องกำลังถูกชักด้วยความเร็วเพื่อเร่งระบายน้ำออกแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่ามันจะออกมาง่ายๆ
“อื้อ...อือ...อึก!...อ่า....” น้ำขาวขุ่นจำนวนมากพุ่งกระฉูดออกมาใบหน้าของเด็กหนุ่มที่หล่อเหลากำลังผุดไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆจนต้องรีบจัดการทำความสะอาดและเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระคาบไคล
“อีเจ้ครั้งหน้าไม่รอดแน่!”