ฟ้ามณี อาศัยช่วงที่ปิดภาคเรียนพอดี บวชชีพราหมณ์แบบไม่ปลงผมที่สำนักแม่ชีภายในวัดใกล้บ้านของน้ำมนต์ เป็นระยะเวลา 7 วัน
วันนี้ก็ครบวันที่ 7 แล้ว ฟ้ามณีก็ปฏิบัติครองตน ภายใต้ชุดขาวที่บวชชีอย่างงดงามไม่มีจุดบกพร่อง ตั้งใจปฏิบัติกิจวัตรในแต่ละวันด้วยความตั้งใจ ตั้งใจศึกษาพระธรรมและฝึกปฏิบัติอย่างเข้าใจ ฝึกจิตร ฝึกสมาธิ ฝึกในการเรียนรู้ธรรมชาติ ฝึกที่จะเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง
"ดวงมณี เรามารับ"เสียงของน้ำมนต์ดังขึ้น ฟ้ามณีหันมามอง
"อนุโมทนาบุญนะจ๊ะ" เนยกรอบก็มารับเพื่อนด้วย
ฟ้ามณีถือกระเป๋าของเธอเดินมาหาเพื่อน
"ขอบใจพวกแกมากนะที่มารับ" ฟ้ามณีบอกเพื่อนรักทั้งสอง
"เป็นยังไง ดีขึ้นบ้างมั้ย" น้ำมนต์ถามเพื่อนรัก
"เราก็สงบและเข้าใจสรรพสิ่งที่เป็นไปมากขึ้นนะน้ำมนต์"ฟ้ามณีตอบออกไปตามตรง
"แกดูนิ่งขึ้นเยอะเลยฟ้า หน้าตาก็ดูผ่องกว่าเดิมมากๆ จากที่ผ่องอยู่แล้ว"เนยกรอบชมเพื่อน
"ไป ขึ้นรถกันก่อน เดี๋ยวค่อยเมาส์ " น้ำมนต์ ชวนเพื่อนขึ้นรถ
ทั้ง 3 คน ขึ้นมาบนรถ แล้วน้ำมนต์ก็เคลื่อนรถออกจากวัด
"แล้วติดต่อองค์นคราได้หรือยังอะฟ้า" เนยกรอบถามอย่างเป็นห่วง
"เรามาบวช เราต้องตัดทุกอย่างแหละ ได้แต่อธิฐานจิตว่าให้ท่านได้กุศลเฉกเช่น เสมอเรา ในการทำกุศลในครั้งนี้"ฟ้ามณีอธิบายเพื่อนน้ำเสียงเรียบเฉย
"แกบวชได้กุศลจริงๆดวงมณี แกคิดแบบนี้ถูกแล้ว" น้ำมนต์บอกเพื่อน
"แล้วถ้าปู่ท่านไม่กลับมา หรือกลับมาไม่ได้แกจะทำยังไงยัยฟ้า"เนยกรอบถามเพื่อนอย่างร้อนรนใจแทน
"ทุกอย่างมีเวลาและวาระของมัน หากยังมีบุญวาสนาต่อกัน ต่อให้ห่างกันเพียงใดก็ต้องกลับมาเจอกันอีก หากไม่มีบุญวาสนาต่อกันแล้ว ต่อให้อยู่ใกล้กันเพียงไหน ก็มองกันไม่เห็นหากันไม่เจอ"ฟ้ามณีตอบเพื่อนรักอย่างเข้าใจในสัจธรรมของโลกใบนี้
"ดวงมณี เธอเปลี่ยนไปมาก เราดีใจกับบารมีอีกขั้นของเธอที่บรรลุนะ" น้ำมนต์กล่าวยินดีกับเพื่อน
"ขอบใจนะน้ำมนต์ เราว่าเราเข้าใจทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นได้เยอะเลยหลังจากที่บวช ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจได้ทั้งหมดก็เถอะ"ฟ้ามณีกล่าวออกมา
"เราไปหาข้าวกินที่บ้านน้ำมนต์กันนะฟ้า ได้ไปกราบพ่อครูกันด้วย" เนยกรอบเอ่ยชวนเพื่อน
"ได้สิ ได้ไปกราบพ่อครูกับแม่ของน้ำมนต์ด้วย" ฟ้ามณีตอบตกลงเพื่อน
บ้านของน้ำมนต์
"สวัสดีจ๊ะพ่อครู สวัสดีจ๊ะแม่" ฟ้ามณีทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสอง
"ไหว้พระเถอะนะนั่งหนู" พ่อครูรับไหว้อย่างใจดี
"อยู่กินข้าวกันก่อนนะลูก เดี๋ยวให้น้ำมนต์ไปส่ง"แม่ของน้ำมนต์ชวนฟ้ามณีและเนยกรอบอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่
"ฝากท้องด้วยนะคะแม่" เนยกรอบอ้อนแม่ของเพื่อนสนิท
"ได้จ๊ะแม่ รบกวนด้วนนะจ๊ะ" ฟ้ามณีตอบกลับอย่างเกรงใจ
"ไปๆน้ำมนต์ ไปยกอาหารช่วยแม่กันลูก แม่ทำไว้แล้ว พ่อครูบอก วันนี้จะมีแขกมากินข้าว แม่ก็นึกว่าใคร ที่แท้เพื่อนลูกนี่เอง" แม่ของน้ำมนต์พูดกับน้ำมนต์
"เป็นยังไงบ้างนั่งหนู สบายใจขึ้นบ้างมั้ย" พ่อของน้ำมนต์ถามฟ้ามณี
"ดีขึ้นมากจ๊ะพ่อครู ตอนนี้มีแต่ความเข้าใจเต็มไปหมด ไม่มีคำถามอะไรในหัวเลย มีแต่คำว่าเข้าใจและเข้าใจเพียงแค่นั้นจ๊ะ"ฟ้ามณีบอกพ่อครูอย่างไม่ปกปิด เธอเข้าใจโลกใบนี้และทุกสรรพสิ่งขึ้นมาก ไม่ใช่เรื่องที่แสร้งพูด แต่เธอเข้าใจมันจริงๆกับคำว่า ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ทุกอย่างหมุนเวียนและเปลี่ยนไปได้เสมอ
"ทุกอย่างมีกำหนดเวลาของมัน เจ้าผ่านบททดสอบแล้ว รอเวลาอีกไม่นาน เจ้าจะได้คำตอบทุกอย่าง สิ่งที่ยากที่สุด เจ้าได้ผ่านมันมาแล้วทั้งสองภพสองชาติ นั่นคือการผลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก แล้วเจ้ายังครองสติตนได้ ต่อแต่นี้ไปเจ้าไม่อะไรที่ต้องกลัวอีกแล้ว เพราะทุกข์ที่สุด เจ้าก็ได้ทุกข์ไปแล้ว กลัวที่สุด เจ้าก็ได้ผ่านมันมาแล้ว มันไม่มีความเสียใจไหน จะทำอะไรจิตใจของเจ้าได้อีกแล้วแหละนั่งหนูเอ่ย"พ่อครูกับฟ้ามณีพูดอย่างเข้าใจกันอยู่า 2 คน ส่วนเนยกรอบก็นั่งงง กับบทสนทนานี้
"กราบขอบพระคุณพ่อครูมากนะจ๊ะที่ชี้แนะทางให้หนูเสมอมา" ฟ้ามณีเอ่ยออกมาอย่างซึ้งใจ
"5555 ข้ามีหน้าที่ชี้แนวทางหากเอ็งไม่ทำก็ไม่เป็นผล อย่าลืมขอบคุณตัวเองด้วยที่อดทนทำจนเข้าใจในทุกสิ่งได้ขนาดนี้"พ่อครูเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี
"กินข้าวกันจ้า เรียบร้อยแล้ว"น้ำมนต์เดินมาเรียกทุกคนไปกินข้าว
ทุกคนมานั่งพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร
"น่ากินทั้งนั้นเลยจ๊ะแม่" ฟ้ามณีเอ่ยชม
"กินกันเยอะๆนะลูก แม่ทำไว้เยอะเลย" แม่น้ำมนต์พูดออกมาอย่างใจดี
"จัดไปตามคำร้องขอค่ะคุณแม่" เนยกรอบพูดออกมาเล่นเอาทุกคนบนโต๊ะอาหาร หัวเราะออกมาพร้อมกัน
"ดวงมณีกินข้าวให้หมดนะ เราว่าเธอผอมเกินไปช่วงนี้ " น้ำมนต์ตักข้าวส่งให้เพื่อน
"ขอบใจจ๊ะ เราสัญญาว่าจะกินข้าวจานนี้ให้หมดเลยนะ" ฟ้ามณีบอกเพื่อนทั้งสองแล้วยิ้มออกมา
ทุกคนตั้งใจตักกับข้าวใส่จานฟ้ามณีพร้อมกัน ทำเอาฟ้ามณีต้องถือจานมารับจากทุกคน
"ใจตรงกันหมดเลย นั่งหนูเอ็งต้องกินเยอะๆนะ แม่เค้าทำสุดฝีมือเลย" พ่อครูเอ่ยออกมาอย่างเอ็นดูเพื่อนสนิทของลูกชาย
"จ๊ะพ่อครู" ฟ้ามณีรับคำ
และการกินข้าวด้วยกันของทุกคนในมื้อนี้ก็มีแต่เสียงหัวเราะเต็มไปหมด