SAY - JELLY 13 จูบ

1500 คำ
“ก็ตามใจสิฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยแค่บอกเอาไว้เฉย ๆ ^^” เขาส่งยิ้มให้ฉันหน้ามึนที่สุด “-_-” ฉันเลยได้แต่เงียบใส่เขาเพราะพูดอะไรไม่ออกไป เฮ้ออออ “กินต่อเถอะยังเหลืออีกเยอะ” หลังจากนั้นเขาก็เอานั่นเอานี่ให้ฉันกินมากมายเต็มไปหมด แต่ดีที่ฉันออกกำลังกายทุกวันไม่อย่างงั้นฉันคงได้แปลงร่างจากคนกลายเป็นหมูแน่ ๆ ความจริงแล้วเรื่องกินเยอะก็ใช่ว่าจะกินบ่อยหรือกินทุกวันหรอก วันไหนเครียดก็กินเท่านั้นเองวันอื่น ๆ ก็สามารถกินได้ปกติแต่ก็สองสามจานอยู่ดี ปกติแหละมั้ง =_= 1 ชั่วโมงต่อมา “อิ่ม” ฉันบอกเมื่อกินทุกอย่างเสร็จแล้วในหนึ่งชั่วโมงฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะกินได้ขนาดนี้เหมือนกัน “ท่าทางวันนี้จะเครียดมากนะ” เขาพูดขณะที่กำลังเก็บจานอยู่ “อืม” ฉันเลยตอบออกไปได้แค่นั้น เพราะโกหกไปก็ไม่มีประโยชน์ดีอยู่เพราะว่าเขาคงจะรู้เรื่องโรคของฉันแล้วและที่สำคัญเขาก็เป็นว่าที่คุณหมอด้วย “อิ่มแล้วก็นั่งย่อยไปก่อนยังไม่ต้องไปทำอะไรที่หนัก ๆ หรือเดินเยอะเดี๋ยวจุก” “...”ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย “เดี๋ยวฉันเอาจานไปล้างก่อน” “ไม่ต้อง” จานฉันจานกินทำเองได้ “บอกให้นั่งนิ่ง ๆ” เขาทำเสียงดุนิดหน่อยก่อนจะเอาจานไปล้างที่ซิงเขาเป็นพวกไม่ฟังอะไรเลยสินะ ส่วนฉันที่ไม่ได้มีอะไรต้องทำเพราะว่าเขาทำอยู่ฉันเลยเดินมาเปิดเกมเล่นแทนมันเป็นเกมเพลย์สเตชันที่หยินซื้อเอาไว้ พรึ่บ!! ไม่นานเซย์ก็เดินตามมาและนั่งข้างฉัน “เล่มด้วย” หมับ! เขาพูดก่อนจะหยิบจอยเกมขึ้นมากดบ้างฉันยังไม่ทันอนุญาตเลยนะ “....” “ไม่เห็นต้องมองอย่างนั้นเลยหวงหรือไง?” ก็มันของฉันไหมละแม้จะไม่ใช่เงินฉันแต่มันอยู่ห้องของฉันเพราะงั้นมันก็ต้องเป็นฉันและฉันมีสิทธิหวงมัน “ของฉันก็ต้องหวงสิ” “อยากเป็นของเธอขึ้นมาเลย เพราะจะได้โดนเธอหวง” “ปัญญาอ่อน” ฉันว่าเขาก่อนจะหันกลับสนใจเกมตรงหน้าต่อแต่ว่าฉันไม่มีสมาธิเลยแหะ แค่โดนหยอดนิดหน่อยทำต้องใจเต้นแรงด้วยล่ะ??? “หึ เขินเหรอ?” เขาถามพร้อมยื่นเข้ามาหาใกล้ฉัน “ไร้สาระ” “อืม ๆ ฉันจะเชื่อว่าไรร้สาระก็ได้ถ้าเธอไม่...หน้าแดง” “...!!!” ฉันไม่ได้หน้าแดงสักหน่อยเขามันมัว!! ขวับ!! ฉันเลยหันไปมองกระจกบานยาวที่ซื้อแต่งห้องปรากฏว่าหน้าของฉันมันเป็นสีแดงจริง ๆ -////- บ้าไปแล้วฉันหน้าแดงเพราะคำพูดหยอด ๆ แสนปัญญาอ่อนของอะนะ??? “หึหึหึ” “อย่าขำ” ฉันบอกกับเขาที่ขำในลำคอใส่ฉัน “หึ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ” แต่เขาไม่ฟังและยังหัวเราะออกมาเสียงดังอีกอะไรกัน?!! ไม่เข้าใจคำว่าอย่าขำหรือไง?!!! “เงียบ!” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ แค่หน้าแดงไม่ต้องดุเลยนิใคร ๆ ก็เขินได้ทั้งนั้นแหละ ฮ่า ๆ ๆ” “หุบปาก” “ไม่หุบ...เธอจะทำไมฉันเหรอหืม?” ลอยหน้าลอยตาสุด ๆ ไปเลยแต่ท้าทายแบบนี้ฉันชอบนะเวลาต่อยปากมันซะใจดี “....” หมับ!! ฉันส่งหมัดออกไปจะต่อยหน้าเขาแต่ว่าเขากลับรับมันได้ทัน “หึ คิดว่าฉันจะปล่อยเธอต่อยฉันได้บ่อย ๆ หรือไง?” พลั๊ว!! เพราะเขามัวแต่พูดมากฉันเลยใช้มืออีกปล่อยหมัดออกไป “โอ๊ยยยย!!!เยลลี่!!!ยัยตัวแสบ” “หึ” ฉันเลยยิ้มมุมปากออกมาบ้าง “ได้!!!เดี๋ยวเจอดีแน่” หมับ!!และเขาก็มือของฉันเอาไว้ทั้งสองข้างฉันเลยพยายามสะบัดออก “นี่!!!” แต่นี่มือคนหรือคีมล็อกทำไมมันแน่นขนาดนี้เนี่ย?! “เอาแล้วทีนี้จะเอาอะไรทำร้ายร่ายกายฉันอีก” “ตีน” พอพูดจบฉันก็เตรียมจะยกเท้าขึ้นมาแต่ว่าเขามันเร็วกว่าฉันไงยกแขนของฉันขึ้นและดันให้ฉันนอนราบไปกับพื้นห้อง ตุบ!! ก่อนที่เขาจะขึ้นคร่อมฉันเอาไว้และโน้นตัวลงมาใกล้ ๆ ปัก!! แต่ฉันไม่ยอมแพ้ยกขาเตะของเขาจนล้มลง... จุ๊บ!! แต่มันไม่ใช่แค่ขาที่ร่วงลงไปตัวเขาเองก็ล้มลงมาจนปากของเราประกบกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ “เอ่อ..” เขาผละออกจากหน้าของฉันนิดหน่อย เรามองหน้ากันเหมือนเวลามันหยุดหมุน เราสามารถรับรู้ลมหายใจของกันและกันได้ ได้เสียงยินเสียงหัวใจของกันและกัน และที่สำคัญเหมือนว่าร่างกายของเราจะเริ่มขยับเข้าหากันเรื่อย ๆ ไม่สิ เซย์ต่างหากที่พยายามเรื่อยหน้าลงมาใกล้หน้าของฉันนี่เขากำลังจะจูบฉันเหรอ??? “ทำอะ..อุ๊บ!” ยังไม่ทันได้ถามเลยเขาก็ประกบปากลงบดจูบของฉันซึ่งต่างหากจากครั้งเมื่อกี้นี้ รอบแรกมันเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้นแต่ครั้งนี้นั้นมันไม่ใช่เขากำลังจูบฉันอย่างตั้งใจ เขาใส่มือมาจับหน้าของฉันเอาไว้อย่างเบามือปากเขาพยายามขยับเพื่อหาช่องว่างในการสอดลิ้นเข้ามา ฉันรู้สึกว่าเขากำลังจะส่งมันเข้ามาแล้ว “อ๊ะ อื้อออ” และแล้วเขาก็ทำได้สำเร็จเป็นเพราะฉันนั้นเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาเองไง จ๊วบบบ!!! เมื่อลิ้นของเขาสอดเข้ามาแล้วเหมือนว่าเขาจะได้ใจนะ พยายามดูดลิ้นและเลียไปในปากของฉัน กวาดลิ้นไปทั่วและดูดลิ้นของฉันอย่างแรงจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังไปทั่วห้อง “อ่าส์” ฉันเองก็ไม่ยอมเหมือนกันกอดคอของเขาเอาไว้และเปิดโอกาสให้เขาได้ชิมความหวานจากปากของฉัน “อื้อออออ” เราจูบกันอยู่นาน...นานเท่าไหร่ไม่รู้แต่ฉันเริ่มง่วงขึ้นมากจูบไปนาน ๆ ก็เพลินเหมือนกันนั่นแหละ “อื้อออ” จุ๊บ! “เยลจะหลับเหรอ?” เขาถอนจูบออกไปและถามฉันอย่างอ่อนโยน “อือ” ฉันตอบแค่นั้นก่อนตาจะค่อย ๆ หลับลงเวลาจูบกันมันง่วงแบบนี้เหรอ? หรือเป็นแค่ฉันนะหรือเป็นเพราะฉันกินอิ่มมากเกินไปพอได้นอนราบกับพื้นและเจอแอร์เย็น ๆ เลยง่วงนอนแต่ง่วงตอนที่เราจูบกันเนี่ยนะ เยลลี่...อย่าแปลกประหลาดไปมากกว่านี้เลย “ง่วงก็นอนนะ” เขาบอกแบบนั้นก่อนจะกอดฉันเอาไว้ในอ้อมแขนฉันเลยทิ้งตัวหลับลงไปทันที นี่ฉัน...ไว้ใจเขามากเกินไปหรือเปล่านะ?? วันต่อมา... แตะ... ฉันกำลังยืนมองตัวเองหน้ากระจกมือจับที่ปากของตัวเองและมองอย่างไม่ละสายตาเพราะปากมันบวมและแดง ๆ น่ะสิ เมื่อวานนี้เขาจูบฉันขนาดไหนนะ? ฉันตื่นขึ้นในตอนเช้าพบว่าตัวเองนอนหลับสนิทอยู่ที่คงเป็นเซย์ที่อุ้มฉันมานอนนั่นแหละ พอตื่นขึ้นมาฉันก็พบว่าปากมันแดงและบวมนิด ๆ น่ะสิ “จูบแรกแท้ ๆ ไม่ถนอมกันเลยนะ” ฉันบ่นกับตัวเองนิดหน่อยก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเพราะวันนี้ฉันต้องไปเรียน ฉันมองตัวสำรวจตัวเองนิดหน่อยก่อนจะเดินออกมาจากห้องและเดินลงไปที่ชั้นล่าง วันนี้อาโปเองก็คงมารับเหมือนเดิมนั่นแหละ ถ้าเขาเห็นว่าปากของฉันมันแดงแบบนี้เขาจะเป็นยังไงนะ? อาโปเป็นโรค... โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว หรือโรคไบโพลาร์นั่นเอง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นยกเว้นในคนครอบครัวแต่ตอนนี้มีฉันที่รู้ หยิน หยาง และพ่อที่รู้และเผลอ ๆ เซย์ก็รู้ด้วยเหมือนกันเขาดูเหมือนจะเชื่อฟังและแต่อารมณ์เก่งพอลับหลังก็กลายเป็นอีกคน ความจริงมันปกปิดได้ยากแต่เขากับมีโรคอีกอย่างนั่นคือสองบุคลิกนั่นเองตัวตนอีกตัวตนของเขาจะปกปิดอารมณ์นั้นเอาไว้ เพราะงั้นบางครั้งเขาเลยเกือบแสดงท่าทางรุนแรงออกมานั่นเอง “เยลลี่...!!!” เขาเรียกชื่อของฉันเมื่อฉันขึ้นมาบนรถของเขาแต่ก็ต้องนิ่งเพราะว่าเห็นปากของฉัน จะว่าฉันโรคจิตก็ได้นะแต่ฉันชอบเวลาเขาแสดงตัวตนอีกคนออกมา มันดูสะใจเวลาจัดการเขา หมับ!!!!ปึก!!!! “อ๊ะ!!!!” เขาพุ่งตัวเขาบีบแก้มของฉันอย่างแรง “ปากมึงไปโดนอะไรมา?!!!!!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม