ปึก!!
“โอ๊ยยย!!” มันโยนตัวฉันลงไปกองที่พื้นทำให้เข่าของฉันกระแทกพื้นอย่างแรงและมันก็เดินออกไปทันทีคิดว่าตัวเองเท่นักหรือไงวะ?!!!
“กูไม่มียอมอภัยให้มึง ฮึก!!มึงต้องตายเหมือนกับพ่อของกู!!” ฉันกลืนน้ำตาลงคอพยายามไม่ร้องไห้ออกมาก่อนจะปาดน้ำตาและคิดแผนต่อไป ในเมื่อมีเรื่องให้เล่นแล้วฉันจะปล่อยไปง่าย ๆ ได้ยังไงล่ะ?
พรึ่บ!!
“เซย์...” อยู่ ๆ ก็มีเสื้อคุมแขนยาวมาคุมตัวของฉันเอาไว้และเมื่อเงยหน้ามองก็พบกับเซย์ เขานั่งย่อง ๆ ตรงหน้าของฉัน
“จะพาไปทำแผล” หมับ!! เขาไม่ได้ถามอะไรแค่พูดแค่นั้นก่อนจะอุ้มฉันขึ้นมาเพราะเข่าทั้งสองข้างมีแต่แผลและเลือกกำลังไหลอยู่
“....” ฉันมองเขาไม่รู้ว่าเขามานานแค่ไหนแล้ว
“เจ็บไหม?” เขาถามโดยไม่มองหน้าของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไรแต่ฉันเลือกจะคิดว่าเขาถามเรื่องบาดเจ็บทางร่างกายของฉัน
“แผลแค่นี้...กระจอก” ฉันบอกไปแค่นั้นและปล่อยให้เขาอุ้มฉันไป
ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วไม่มีนักศึกษาเท่าไหร่นัก ฉันเลยยอมให้เขาอุ้มฉันไปง่าย ๆ แบบนี้ไง ฉันมันดื้อด้านจะตายและไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวเท่าไหร่แต่ตอนนี้แผลที่ขาเริ่มตึงแล้ว
พรึ่บ!!
“รถอยู่เฉย ๆ นะเดี๋ยวฉันไปเอาที่ทำแผลก่อน” เขาบอกกับฉันก่อนจะเดินไปที่รถของเขาเพื่อจับกล่องพยาบาลเป็นหมอเลยต้องพกกล่องปฐมพยายาบไปไหนมาไหนด้วยสินะ เซย์พาฉันมานั่งที่โต๊ะหินอ่อนซึ่งมันอยู่ใกล้กับที่จอดรถของเขา
หมับ!!
“...” เขาเดินกลับมาก่อนจะนั่งย่องที่พื้นและจับขาของฉันไปวางที่หน้าขาของเขาอย่างเบามือ
“เจ็บก็บอกไม่ต้องอดทน”
“....” ฉันแค่มองเขาเท่านั้นไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไรกันแน่บาดแผลทางกายหือทางใจ
“ฉันจะช่วยรักษาเอง...” เขาเงยหน้ามองหน้าของฉันที่กำลังมองเขาอยู่เหมือนกันก่อนจะคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้ ฉันรู้ว่ามันอาจจะดูใจร้ายสำหรับเขาแต่ตอนนี้มันได้เวลาใช้เครื่องมืออย่าเขาแล้ว
Rrrrr
ติ๊ด! ฉันกดตัดสายขอเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นอาโปนั่นแหละ อาจจะรู้เรื่องของพ่อเขาแล้วก็ได้
Rrrr
ติ๊ด!!
“ทำไมไม่รับล่ะ?” เซย์ถามฉัน
“เดี๋ยวรับแต่แต่ตอนนี้ได้เวลาเครื่องมืออย่างนายแล้วนะพร้อมหรือเปล่า?” ฉันถามกลับ
“หึ จะใช้ก็ใช้สิฉันบอกแล้วไงว่าอยากเมื่อไหร่ก็ใช้ อยากทำอะไรก็ทำ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะก้มหน้าทำแผลให้ฉันต่อ
“....”
Rrrr
ติ๊ด! ครั้งนี้ฉันรับสายก่อนจะเอาโทรศัพท์แนบหูแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
(ทำไมไม่รับสายเราเยลลี่!!) เขาตะโกนถาม
“ฮึก!!!” ฉันแกล้งบีบน้ำตาทันทีส่วนเซย์เงยหน้ามองนิดหน่อยก่อนจะทำแผลต่อแต่ยิ้มนิด ๆ เหมือนกำลังล้อเลียนฉันอยู่
(เป็นอะไรร้องไห้ทำไม?)
“ฉันว่าเรา...ฮึก! เลิกคุยกันเถอะ”
(ทำไมพ่อเราพูดอะไร?) เขารู้เรื่องแล้วจริง ๆ สินะ
“เราไม่คู่ควรกับเธออย่างที่พ่ออาโปพูดมามันก็ถูดต้องแล้ว เราไม่มีอะไรคู่ควรกับเธอ..” ฉันพูดออกไป
(อย่าไปฟังเขาเลยเราไม่ได้มองที่ฐานะของเธอนะเยลลี่ เราชอบเธอเพราะตัวเธอเองไม่เกี่ยวกับสมบัติหรือคุณสมบัติอะไรทั้งนั้นแหละ)
“แต่ว่า...”
(ตอนนี้อยู่ไหนเราจะไปหา)
“มะไม่ได้อยู่กับพ่อเหรอ?”
(เขากลับไปแล้วเพราะงั้นบอกมาว่าตอนนี้เยลลี่อยู่ไหน เราจะไปหา...) ปลายเสียงฟังดูอ่อนโยนจนเกือบเชื่อแล้วเชียว หึ
“ก็ได้เราอยู่...”
“เสร็จแล้ว” เสียงของเซย์พูดแทรกเข้ามา
(อยู่กับใครไอ้เซย์เหรอ?) เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่นักซึ่งนั่นเป็นผลลัพธ์ที่ดีมากเลยล่ะ
“อืม เซย์มาช่วยทำแผลให้เราอ่ะ”
(พ่อเราทำอะไรเธอจะไปหาตอนนี้อยู่ไหน?!)
“มหาวิทยาลัย” ฉันบอกไปแล้ว
(กำลังไปอย่าไปไหนกับมันนะ เข้าใจไหมเยลลี่?) กับมันหมายถึงเซย์สินะ
“เข้าใจแล้ว” ฉันวางสายจากอาโปและก้มมองเซย์ที่ยังไม่ลุกขึ้นมาจากพื้น
“มันกำลังมาสินะ”
“อืม” ฉันตอบกลับไปทันที
“แล้วฉันต้องแสดงแบบไหนล่ะถ้ามันมาแล้ว” เขาถามเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรแต่สายตาของเขากับแฝงบางอย่างอยู่ ฉันเลือกจะมองข้ามมันไปและใส่ความใจร้ายลงไป
“แค่ฉันไปกับเขาก็พอ”
“เข้าใจแล้วฉันจะเป็นเครื่องมือที่ดีของเธอเอง” หมับ! เขาลุกขึ้นมาและยื่นมือมาจับหัวของฉัน
“....”
“แต่ฉันขออะไรหน่อยสิเยลลี่” เขาเอ่ยขึ้น
“...?” ฉันเอียงด้วยความสงสัยนิดหน่อย
“อย่ารักมันจริง ๆ นะ”
“....” ฉันจะไปรักเขาจริง ๆ ได้ยังไงไร้สาระพ่อของเขาเลวแค่ไหน ๆ จะตัวตนที่แท้จริงของเขาที่ทำเอารักไม่ลง ที่จริงถ้าเขาเป็นคนดีและไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพ่อของเขาฉันอาจจะเลือกวิธีแก้แค้นอย่างอื่นก็ได้ แต่เพราะเขาเองก็ควรได้รับการชดใช้เหมือนกันก็เท่านั้นเอง อาโปเลยตกเป็นเป้าหมายของฉัน
“เพราะฉันกำลังรอเธออยู่” กึก!
“รอทำไม?” ฉันยังไม่รู้ตัวเองในอนาคตเลยถ้าฉันแก้แค้นไม่สำเร็จฉันนี่แหละอาจจะตาย
“อยากรอเธอจะทำไมเหรอ?” กวน
“เฮ้อออ ตามใจแต่ฉันบอกไว้ก่อนว่าการรอของนายอาจจะศูนย์เปล่า”
“จะศูนย์เปล่าไหมนั้นมันความรู้สึกของฉันเองเธอไม่ต้องใส่ใจหรอก” เขาเป็นมาโรคจิตชอบความเจ็บปวดหรือไงกันนะ?
“....” แต่ในเมื่อเขาเลือกแบบนั้นฉันจะบังคับอะไรได้ละ
“เยลลี่!!” รอไม่นานอาโปก็มาตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
หมับ!!
“เจ็บตรงไหนพ่อฉันทำเหรอ?” เขาจับตัวของฉันหมุนไปมาแววตาของเขาดูเป็นห่วงฉันมากเลย
“มะไม่เป็นไรหรอกก็เราไปยุ่งกับเธอเองนิ...” ฉันก้มหน้ามองพื้น
“เยลลี่เธอไม่ผิดนะ” หมับ!! เขาดึงฉันไปกอดเอาไว้เขาไม่สนใจว่าเซย์จะยืนอยู่ตรงนี้ด้วย
“แต่เรา...”
“เดี๋ยวไปส่งนะ...” กึก!!! เขาจับมือของฉันแต่ฉันขัดขืนเอาไว้ก่อนและหันไปมองเซย์ที่กำลังมองฉันอยู่พอดี
“เซย์...ขอบคุณนะที่ทำแผลให้ ^^” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้กับเขา
“เยลลี่!!กลับ!!” แต่อาโปกลับกระชากแขนของฉันให้เดินตามเขาไปแต่เขาลืมไปหรือเปล่าฉันขาเจ็บอยู่
“โอ๊ยยย!!” ตุบ!! ฉันสามารถอดความเจ็บได้แต่ฉันเลือกที่จะไม่ทนและตัวลงไปกองที่พื้นแสร้งว่าเจ็บหนักหนาเหลือเกิน
“เยลลี่!!” / “เยลลี่!!” ผู้ชายสองคนเข้ามาช่วยฉันโดยพร้อมเพียงกัน
“เราขอโทษนะ” นี่แหละธาตุแท้ของเขาชอบใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงหรือคนที่อ่อนแอกว่าหน้ากากเกือบหลุดออกมาแล้วนะ
“ไม่เป็นไรหรอกเราเข้าใจ”
“เยลลี่กลับกับฉันนะ” เซย์พูดขึ้นมาและไม่ปล่อยมือของฉัน
“ไอ้เซย์เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกูกับเยลลี่เพราะงั้นมึงไม่ต้องเสือก” อาโปพูดกับเซย์
“กูจะไม่เสือกได้ยังไงในเมื่อมึงรุนแรงกับเธอ!!”
“กูไม่ได้ตั้งใจ...”
“แล้วไงวะ?!”
“เซย์!!ฉันจะไปกับอาโปเพราะงั้นปล่อยมือของฉันเถอะนะ” ตอนนี้ฉันต้องทำให้อาโปพราวในตัวเองให้มากที่สุดให้เขารู้สึกว่าฉันให้ความสำคัญกับเขา เลือกเขาเป็นคนแรกฉันต้องทำให้เขาคิดว่าฉันไม่สามารถไปไหนจากเขาพ้น
“มึงได้ยินแล้วเนอะ?” พรึ่บ!! อาโปพูดก่อนจะผลักเซย์ให้ถอยออกไป
“....” ฉันแค่มองเท่านั้นไม่ได้พูดอะไรออกไป
“เรากลับกันเถอะ”
“อืม”ฉันยอมเดินตามอาโปไปง่าย ๆ โดยไม่หันกลับไปมองเซย์แต่อย่างใด
ปึก!!และขณะที่กำลังเดินอาโปก็หยุดเดินทันทีทำให้หน้าของฉันชนที่แผ่นหลังของเขา
“อ๊ะ!”
“ทีหลังถ้ามีปัญหาให้โทรหาเราไม่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากมัน...” เขาพูดขึ้นและมันที่เขาเอ่ยถึงก็คือเซย์นั่นเอง
“นั่นเพราะเขาอยู่แถวนั้นพอดีเลยช่วยไว้...”
“ต่อให้มันอยู่ตรงหน้าก็ปฏิเสธไปสิอย่าไปยุ่งกับมันเข้าใจไหม...?” หมับ!!กระชากฉันไปกอดไว้แน่น
โรคจิต...