ฉันเข้าบ้าน ปิดประตูล็อกกลอนแน่นหนา และตรงขึ้นชั้นสองสู่ห้องนอนส่วนตัวทันที โดยไม่ทันเห็นสีหน้าบลูหลังจากนั้น ไม่ทันเห็นว่าเขายกมือขึ้นแตะแก้ม ไม่ทันได้ยินเสียงทุ้มสั่นที่เอ่ยบอกไปกับสายลมของฤดูกาลแห่งความรื่นเริง
“แต่ฉัน...ไม่มีวันเกลียดเธอ...”
“ไอ้หมาบลูบ้า! บ้า! บ้า! บ้า! บ้า!”
ฉันหอบแฮ่ก หยุดมือที่กำลังจับตุ๊กตาหมูสีชมพูฟาดกับกำแพงห้องด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนทิ้งกายลงนั่งกับพื้นพรม และแหกปากร้องไห้ระบายความอัดอั้นดังลั่นห้อง อ๊าก!! สักวันฉันจะฆ่ามัน เอามีดสับๆๆ จับยัดไหปลาร้า แล้วปิดฝาถ่วงน้ำ!
โฮๆๆ ทำไมฉันต้องถูกเก้งสลัดรักด้วยฟะ เสียชาติเกิดจริงๆ เลยปพิชญา T^To
เสียงโทรศัพท์บ้านดังกังวานกลบเสียงสะอึกสะอื้นของฉันจนต้องลุกขึ้นไปยกขึ้นแนบหู แล้วกรอกเสียงลงไปพร้อมทิ้งตัวลงนั่งพิงเตียงอย่างอ่อนล้า
“ฮัลโหล...”
((นอนกลางวันอีกแล้วเหรอพิ้งค์ เสียงแหบเชียว เดี๋ยวก็อ้วนเป็นหมูหรอกลูก))
“...ค่ะ แม่”
((อ้าว ตื่นรึยังเนี่ย ลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป แม่จะรอ))
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันบอกเสียงอ่อย พร้อมยกมือขึ้นลูบหน้า เช็ดน้ำตา “แม่มีอะไรเหรอ อ๊ะ! แม่คะ! ช่วงหลังๆ นี่หนูได้ยินเสียงแปลกๆ มาจากหลังคาครัวอีกแล้วละ”
((เสียงหนูวิ่งรึเปล่า เก็บกวาดบ้านบ้างนะเรา))
“ไม่ใช่ค่ะ มันเป็นเสียง กึกกึก... กึกกึก...”
กึกกึก...
“อ๊ะ เนี่ย! พอพูดถึงก็มาเลย แม่ขา~ จะว่าไปหลังคาที่ยื่นไปหลังครัวมันเก๊าเก่าอะ หนูละกลัวว่ามันจะพังลงมาซัก--“
โครม! โครม! โครม!!!!
แว้ก! ฉันสะดุ้งสุดตัวกับเสียงดังราวแผ่นดินไหว! ภูเขาไฟระเบิด! แถมพื้นยังสะเทือนกึกๆ จนต้องโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วกระโดดลงบนพื้นกลิ้งๆๆ เข้าไปหลบใต้เตียง ท่องพุทธหนอ โธหนอ แคล้วคลาดหนอ T^T อยู่ในใจพลางพนมมือขึ้นเหนือหัวภาวนาให้พระถังซัมจั๋ง ซือหงอคง ตือป๋วยก่าย มาช่วยชีวิตลูกช้างตาดำๆ ด้วยเถิ้ด!
แต่ยังไม่ทันมีใครมา เสียงนั้นก็สงบลงเหลือเพียงเสียง ครึ่กๆ เหมือนของแข็งๆ มันกลิ้งจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ
พอเหตุการณ์สงบ ฉันก็คืบคลานออกมาจากใต้เตียงแล้วพุ่งตัวออกไปเลื่อนเปิดกระจกหน้าต่างด้วยลางสังหรณ์ที่แผ่วาบในใจ ชัดเจน! โซนห้องครัวที่ยื่นออกไปหลังบ้านของฉันที่มีเสียงกึกๆ เป็นสัญญาณอันตรายมาได้ไม่กี่วัน ตอนนี้หลังคามันถล่มลงไปจนครัวพังยับแล้วค่ะพี่น้อง!!! T0T
พอเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาละล่ำละลักบอกแม่ว่าแหล่งเก็บกักอาหารชั้นเยี่ยมของครอบครัวเราเพิ่งถล่มทลายเหมือนโดนลอบยิงอาก้าใส่ (ที่จริงเพราะหลังคามันเก่าจนผุ โฮกก) แม่ก็บอกให้ฉันใจเย็นแล้วไล่ให้ไปพักบ้านบลูซักพัก แม่จะฝากม๊าบลูหาช่างมาซ่อมบ้านเอง
แต่ฉันไม่ไปเด็ดขาด! ก็เพิ่งถูกมันสลัดรักมานี่! T^T แต่บอกเหตุผลจริงๆ กับแม่ไม่ได้เลยอ้างว่าบ้านบลูญาติเยอะจนต้องนอนเรียงกันเป็นตับขนาดนั้น ดูแค่ห้องที่บลูนอนก็มีเตียงสองชั้นวางอยู่ตั้งสามหลัง เด็กๆ นอนกันตั้งหกคน! จะไปรบกวนเขาได้ไง?
แม่เลยให้ไปนอนเรือนเล็กที่เป็นเพิงหมาแหงนข้างบ้านเรา เมื่อก่อนมันเคยเป็นกรุสมบัติของฉัน พาย บลู ไว้ไปสุมหัวเล่นกันตอนเป็นเด็ก มีห้องน้ำเล็กๆ อยู่ห้องหนึ่ง
แต่ตอนมันกลายสภาพเป็นห้องเก็บของเหลือใช้ไปหลายปีแล้วนะ! อาจจะเป็นรังรักของบรรดาปีเตอร์ (แมลงสาบ) ด้วยละ T^T!
แม่บ่นฉันใหญ่ว่าอะไรก็ไม่เอาๆ แต่จะให้ฉันอยู่บ้านหลังนี้ที่จะมีพนักงานก่อนสร้างเข้าๆ ออกๆ ก็ดูจะไม่ปลอดภัย แม่กลัวคนงานหนุ่มๆ จะตกอยู่ในอันตราย (อ้าว? -0-) เลยตัดบทให้ฉันรอแล้ววางสายไปสิบห้านาทีก็โทรกลับมาบอกว่า...
‘((งั้นไปอยู่บ้านเพื่อนแม่แถวบึงก็แล้วกัน))’