“ไม่ให้พี่ไปอยู่กรุงเทพฯ เป็นเพื่อนจริงๆ เหรอพาย~”
ฉันยืนเกาะรั้วทำตาปิ๊งๆ ให้แผ่นหลังของน้องชายที่กำลังลำเลียงประดาสัมภาระใส่เบาะหลังรถเมอร์เซเดสเบนซ์เปิดประทุนสุดรักสุดหวงของเฮียพลัส ลูกพี่ลูกน้องที่แอบมีเชื้อสายจีนของฉัน (และแน่นอนว่าฉันกับพายไม่มี) ตอนนี้เฮียกลายเป็นหนุ่มกรุงเทพฯ เต็มตัวไปแล้วเพราะย้ายไปอยู่ที่โน่นตั้งแต่ฉันยังตัวกะเปี๊ยก
แต่นอกจากคนถูกถามจะไม่หันมาตอบว่าทำไมมันเลือกการเรียนกวดวิชามากกว่าอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวคนงาม T^To หนุ่มหล่อเฟี้ยวแห่ง กทม. ก็กลับขมวดคิ้วมองมาดุๆ แทนซะงั้น
“ไม่ต้องเลยพิ้งค์ ที่ไม่พอโว้ย! แกจะนั่งตักไอ้พายมันไปรึไง”
“แหม เฮียก็...” ฉันหันไปย่นจมูกให้เฮียพลัสอย่างมันเขี้ยว พร้อมกับถือโอกาสนั้นลอบมองสาวสวยเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันที่นั่งอยู่เบาะหน้าและกำลังออดอ้อนจ๊ะจ๋ากับเฮียโดยไม่สนใจฉันกับพายเลยแม้แต่น้อย ชิๆ ไม่มีที่ให้น้องนั่งเพราะกำลังป้อผู้สาวละสิ
“พาย~ มาให้พี่พิ้งค์กอดลาทีนึงก่อนเร้ว”
ฉันเปิดประตูรั้ว อ้าแขนรอรับ แต่ไอ้พายกลับทำหน้าตาสยดสยอง ก่อนรีบขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังฝังตัวเองกับสัมภาระไปซะงั้น =_= ได้ข่าวว่าแม่ไหว้วานให้เฮียพลัสมารับน้องชายฉันไปอยู่บ้านป้า (แม่เฮียพลัสนั่นแหละ) ช่วงเรียนพิเศษตอนปิดเทอมที่กรุงเทพฯ ไม่ใช่รึไง? แล้วป้าก็บอกแม่ว่าจะดูแลพายอย่างดี แต่ทำไมตอนนี้น้องชายฉันต้องนั่งรวมกับสัมภาระ T^T!
“เฮีย! ทำไมไม่เปิดหลังรถให้พายมันเอาของเก็บล่ะ นั่งไปแบบนี้กว่าจะถึงก็อึดอัดแย่”
“แค่กระเป๋าเสื้อผ้าของพลอย(เด็กเฮีย)ก็เต็มแล้ว กระเป๋าเฮียก็วางหลังรถเหมือนกันไม่เห็นเหรอ T-T”
แม่เจ้า... แค่นั่งรถเป็นเพื่อนเฮียมารับน้องชายฉันไปกรุงเทพฯ เนี่ยนะ ขนอะไรมาเยอะแยะขนาดน้าน!
“ช่างเหอะพี่ ว่าแต่พายไม่อยู่ก็อย่ากินแต่บะหมี่สำเร็จรูปละ”
อ๊าย มันห่วงฉันๆ >_///<