ตอนที่ 5

1353 คำ
บทที่ 5 จังหวะที่วินซ์พูดโทรศัพท์สายสุดท้ายเสร็จสิ้นก็พอดีกับประตูห้องทำงานถูกเคาะเบาๆ ดวงตาสีน้ำเงินอมดำดุดันไม่ผิดจากคมดาบตวัดจ้องไปที่บานประตู ก่อนที่เสียงกระด้างแต่ทรงอำนาจนักหนาจะกระหึ่มขึ้น “ใคร?” “ไรอันครับ” เสียงของคนสนิทดังขึ้นแผ่วเบาที่หน้าประตูห้อง “เข้ามา” บานประตูห้องทำงานกว้างขวางภายในคฤหาสน์หลังงามของตระกูลเอเมอร์ตันที่ตั้งอยู่กลางเมืองมอสโกถูกเปิดกว้างออก ร่างสูงใหญ่ของไรอัน ฟลาวเลอร์ มือขวาคนสนิท ก้าวเข้ามาหยุดค้อมศีรษะตรงหน้า รอยยิ้มบางๆ แต้มใบหน้าหล่อลากไส้ของวินซ์ “เรื่องที่ให้ไปทำ สำเร็จหรือเปล่า” “สำเร็จครับ ตอนนี้ผู้พิพากษารับเงินของคุณชายไปแล้ว นายอังเดร ซีร์ยานอฟจะไม่มีทางได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลยตลอดชีวิตนี้” คนถูกถามตอบออกมาเสียงแผ่วเบาแต่ชัดเจน เรียกรอยยิ้มสะใจบนใบหน้าของวินซ์ เอเมอร์ตันได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว “ดีมาก พวกซีร์ยานอฟมันจะต้องพินาศ” “แล้วคุณชายจะให้ผมจัดการยังไงกับซีร์ยานอฟที่เหลือครับ” ดวงตาคมกริบสีน้ำเงินอมดำที่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ของห้องทำงานถูกดึงกลับมามองใบหน้าของคู่สนทนาอีกครั้ง รอยยิ้มหยันเยาะผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้าหล่อเหลามหาศาล “ตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกมันเอาไว้ก่อน” “ครับคุณชาย เอ่อ...แล้วพวกเซอร์คอฟล่ะครับ จะให้พวกเราลงมือยังไง” คำถามที่ดังขึ้นทำให้วินซ์แสยะยิ้มอีกครั้ง “อย่าใจร้อนไรอัน รอทิมเดินทางมาสมทบกับเราเสียก่อน จากนั้นพวกเราจะลงมือทำให้มาเฟียบ้าเลือดพวกนี้ฆ่ากันเอง” “ครับคุณชาย” ไรอันระบายยิ้มสะใจออกมาเช่นกัน เพราะเขาเองก็คั่งแค้นพวกมาเฟียเหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากวินซ์เลยแม้แต่น้อย พวกมันทำให้แซนด์ เอเมอร์ตัน เจ้านายที่แสนดีของเขา ต้องจบชีวิตลง และแน่นอนว่าสิ่งที่พวกมันกำลังจะได้รับนั้นมันสมควรที่สุดแล้ว “ออกไปได้แล้ว มีอะไรคืบหน้าให้โทรมารายงานฉันทันที” “ครับคุณชาย” ร่างสูงใหญ่ของไรอันมือขวาคนสนิทที่วินซ์ไว้ใจที่สุดค่อยๆ ถอยห่างออกไปช้าๆ ไม่นานก็หายออกไปจากห้องทำงานกว้าง เมื่ออยู่ลำพังคนเดียว วินซ์ก็ค่อยๆ ปล่อยลมหายใจที่เต็มไปด้วยความเจ็บแค้นออกมาจากริมฝีปากหยักสวยสีสดของตัวเองช้าๆ ดวงตาคมกริบอัดแน่นไปด้วยกองเพลิงกัลป์ที่กำลังลุกไหม้อย่างบ้าคลั่ง ภาพในอดีตที่พยายามจะลืมผุดพรายขึ้นมาในสมองอีกครั้ง แถมยังชัดเจนมากกว่าครั้งไหนๆ เสียอีก สภาพร่างไร้วิญญาณของแซนด์ เอเมอร์ตัน น้องชายเพียงคนเดียวที่เขารักยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกเป็นยิ่งกว่าคมมีดที่กรีดลงบนเนื้อหัวใจของเขา มันตอกย้ำซ้ำเติมให้ความคั่งแค้นที่อัดแน่นอยู่ในอกระเบิดเพิ่มทวีขึ้นอย่างบ้าคลั่ง แซนด์เป็นคนดี เป็นนายตำรวจที่ซื่อสัตย์และช่วยเหลือผู้คนมากมาย แต่เขา...เขาต้องมาตาย ตายอย่างไร้ค่าไม่ผิดจากสุนัขเพียงเพราะไอ้พวกมาเฟียบ้าเลือดอย่างซีร์ยานอฟและเซอร์คอฟ กำปั้นหนาหนักถูกกระแทกลงบนโต๊ะไม้กว้างขวางซ้ำๆ กันหลายต่อหลายครั้งด้วยความเดือดดาลที่แล่นพล่านอยู่ภายในอก กรามแกร่งขบกันแน่นจนเนื้อข้างแก้มนูนเป่งเป็นสัน เขาจะไม่มีวันให้อภัยไอ้พวกมาเฟียบ้าเลือดนี้อย่างเด็ดขาด เขาจะต้องส่งมันไปกราบเท้าขอโทษน้องชายของเขาในนรกให้จงได้ พวกมันจะต้องเจ็บปวด พวกมันจะต้องทรมาน จะอยู่ก็เหมือนตาย และจะตายก็ตายไม่ได้ เสียงหัวเราะสะใจดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักลึกของวินซ์ เอเมอร์ตัน ความสะใจที่เห็นศัตรูกำลังจะพังพินาศทำให้เขายิ่งกว่าสุขใจเสียอีก ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปได้ยังไง แต่พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกที แสงตะวันที่เคยเจิดจ้าเต็มท้องนภาก็จางหายไปจนหมดสิ้น หลงเหลือไว้แค่เพียงแสงสีส้ม ณ ปลายขอบฟ้ารำไรเพียงเท่านั้น ร่างบอบบางดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนที่ทั้งกว้างและนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อสัญชาตญาณร้องบอกว่าตอนนี้หล่อนไม่ได้อยู่ภายในห้องนอนแห่งนี้เพียงลำพัง และมันก็จริงอย่างที่สัญชาตญาณเตือน เมื่อสายตารับภาพของผู้ชายร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองแสนสบายยืนทอดสายตามองมาอย่างไม่คิดเกรงอกเกรงใจ แก้มนวลแดงระเรื่อขึ้นโดยอัตโนมัติ กับสายตาที่เต็มไปด้วยความหยาบคายนั้น “คุณวินซ์...” ริมฝีปากสุดเซ็กซี่ของคนตัวโตคลี่ออกจากกันน้อยๆ แต่มันไม่ใช่รอยยิ้ม มันเป็นการเหยียดหยามเย้ยหยันและดูแคลนต่างหาก จากที่เคยแก้มแดงเพราะความเขินอาย บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นอับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีแทน เขาขยับกายสมบูรณ์แบบเข้ามาใกล้ ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่ขอบเตียงของหล่อน กลิ่นกายที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาฟุ้งเข้ามาในจมูกของหล่อนอย่างรุนแรง และมันก็มีผลต่ออวัยวะแทบทุกส่วนของกายสาวในทันที ‘รุ่มร้อน โหยหา และอยาก...’ ศีรษะทุยสวยที่ตอนนี้เส้นผมสีดำขลับไม่ผิดจากขนของนกเป็ดน้ำยุ่งเหยิงสะบัดซ้ำๆ กันหลายต่อหลายครั้ง ราวกับต้องการให้ไอ้ความคิดอันน่าละอายนั้นมันล่อนหลุดออกไปจากสมอง แต่ไม่ว่าจะสลัดสะบัดยังไง ไอ้ความรู้สึกน่าละอายมันก็ไม่ยอมกระเด็นออกไปจากสมองเลยสักนิด แถมมันยังเพิ่มขึ้นในทุกเสี้ยววินาทีจนน่าตกใจอีกต่างหาก “คุณ...เข้ามาทำไม” ขวัญชีวาถามออกไปเสียงสั่นสะท้าน แต่ให้ตายเถอะ ใครจะรู้บ้างนะว่าหัวใจของหล่อนน่ะสะท้านสะเทือนรุนแรงยิ่งกว่าน้ำเสียงเสียอีก มันสั่น มันสะเทือน จนแทบจะหลุดออกมาทั้งยวงทั้งดวงอยู่แล้ว ก็พ่อเจ้าประคุณเล่นหล่อลากไส้ลากตับแบบนี้นี่นา คนตัวโตระบายยิ้มทรงเสน่ห์ออกมา และมันก็ทำให้ผู้หญิงหัวใจไม่แข็งแรงอย่างขวัญชีวาระทดระทวยลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขามีเสน่ห์ มีอำนาจ และมีพลังอะไรบางอย่างที่สามารถสยบผู้หญิงทุกคนให้ทรุดลงกองแทบเท้า ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่ตั้งมั่นว่าจะไม่สะทกสะท้านต่อเสน่ห์ของเขาอย่างหล่อน ขวัญชีวาถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อค้นพบว่าตัวเองนั้นตกลงไปในหลุมพรางเสน่หาของวินซ์ เอเมอร์ตันลึกกว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้เสียอีก แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะปีนขึ้นมาได้ง่ายๆ อีกต่างหาก “ที่นี่มันบ้านของผม” คนตัวโตพูดอย่างอหังการ จนคนฟังอย่างขวัญชีวาอดหมั่นไส้ไม่ได้ “ใช่ค่ะ ฉันรู้ว่าที่นี่คือบ้านของคุณ แต่คุณควรจะมีมารยาทในการเข้าออกห้องของคนอื่นบ้าง และอย่าบอกเชียวนะว่าคุณไม่ได้ถูกสั่งสอนมา” หญิงสาวตอกกลับเขาไปอย่างเจ็บแสบ แต่ก็สะใจได้เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะอึดใจต่อมาหัวไหล่ของหล่อนทั้งสองข้างก็ถูกอุ้งเล็บของมัจจุราชขยุ้มลงมาเต็มแรง แถมยังก้มหน้าลงมาหาอย่างคุกคามอีกต่างหาก “อย่าปากดี!” เขาเค้นเสียงลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา ดวงตาคมกริบที่ไม่เคยเลยสักครั้งที่หล่อนจะอ่านความหมายของมันออกเต็มไปด้วยกองไฟ “เพราะผมไม่ใช่เพื่อนเล่น” “แน่นอนค่ะว่าคุณไม่ใช่เพื่อนเล่น...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม