บทที่ 5 ทวงไก่คืน

1525 คำ
ตงซีเฉินทั้งโกรธทั้งอายที่ผู้หญิงคนนี้อุ้มเขาออกมาจากห้อง ทำเหมือนเขาคือลูกชายตัวน้อย แต่พอมานั่งเธอจึงยื่นโจ๊กที่ข้นบวกกับมีเนื้อแห้งใส่มายังมีไข่ต้มที่ไม่สุกมาอีกหนึ่งฟอง ทำให้เขาหันไปมองหน้าเธออีกครั้งด้วยความแปลกใจ "ไม่ต้องมองค่ะ สองพ่อลูกกินกันไปก่อน ฉันจะเข้าไปเก็บห้องของพี่ อยู่ได้ยังไง ห้องอับแบบนั้นดีแค่ไหนที่หนอนไม่ขึ้น" หนิงเหมยจูบ่นตามประสาของเธอ แต่ตงซีเฉินลืมตัวมองค้อนเธอด้วยความไม่พอใจ "ฉันจะเอาแรงที่ไหนไปเก็บกวาดแค่เดินยังไม่ได้ มีแต่เสี่ยวลู่ที่ช่วยทำความสะอาดให้เท่านั้นเอง" "พี่อย่ามางอน ฉันก็พูดไปตามประสานั่นแหละ แต่ถามอะไรหน่อยได้ไหม ฉันจำได้ว่าบ้านเราเลี้ยงไก่ไว้สองตัว ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยทำอาหาร และฉันก็ไม่ได้เอาไปขาย แต่ทำไมวันนี้ฉันถึงไม่เห็นไก่อยู่ในเล้าล่ะ" เท่าที่เธอจำได้ บ้านนี้มีไก่เลี้ยงไว้สองตัวเพื่อเก็บไข่ไว้กิน แต่วันนี้กลับไม่มีไก่อยู่ หรือว่ามีขโมย แต่สภาพแบบนี้เนี่ยนะยังมีคนคิดที่จะเข้ามาขโมยของ "ป้าสะใภ้ใหญ่กับป้าสะใภ้รองมาเอาไปค่ะ ย่าก็มาด้วย ตอนที่แม่นอนสลบอยู่" เสี่ยวลู่ก้มหน้าบอกเสียงเบา เธอห้ามแล้ว แต่เธอเป็นเด็ก สู้แรงทั้งสามคนไม่ไหว "คนพวกนั้นทำอะไรเสี่ยวลู่หรือเปล่าลูก" หนิงเหมยจูสูดลมหายใจเข้าปอดข่มความไม่พอใจไว้ เสี่ยวลู่ส่ายหน้าไม่กล้าบอกว่าเธอนั้นล้มมีแผลที่เข่า แม้แต่พ่อเธอก็ไม่บอกเหมือนกัน กลัวว่าพ่อจะไม่สบายใจแล้วพ่อจะโทษตัวเองอีก แต่มีเหรอที่หนิงเหมยจูจะไม่รู้ จากความทรงจำที่มีและสิ่งที่เธอฝันเห็นมาตลอด บ้านนั้นเห็นแก่ตัวที่สุด เธอจึงเดินไปสำรวจร่างกายของลูกสาว เมื่อเห็นว่ามีแผลที่เข่าและแขนจริงๆ หนิงเหมยจูจึงบอกทั้งลูกและสามีว่า "เสี่ยวลู่ดูแลพ่อให้ดีนะเดี๋ยวแม่กลับมา แม่จะไปยกอาหารมาไว้ที่โต๊ะ หากไม่อิ่มก็ตักกินเพิ่มได้เลย แม่ไปไม่นาน" หนิงเหมยจูเดินไปยกหม้อโจ๊ก และถ้วยข้าวผัด มาตั้งไว้ที่โต๊ะก่อนจะรีบเดินออกจากบ้าน ตงซีเฉินจึงเรียกถามว่าจะไปไหน "จะไปไหน" "ไปทวงไก่คืน นั่นมันของบ้านเรา พวกนั้นจะหน้าด้านมาขโมยแบบนี้ไม่ได้" "แต่เธอไปคนเดียว บ้านนั้นมีคนตั้งหลายคน" "แล้วยังไง คนเดียวก็สู้ได้ อีกอย่างพี่แยกบ้านออกมาแล้ว บ้านนั้นไม่ควรวุ่นวาย ฉันรู้เพียงว่านั่นมันบ้านพี่ไม่ใช่บ้านฉัน ขนาดบ้านพ่อฉันยังไม่สนใจ แล้วเป็นแค่แม่สามีทำไมฉันต้องสน พี่กับลูกรออยู่ที่นี่แหละ เสี่ยวลู่เดินมาปิดประตูบ้านด้วย ถ้าไม่ใช่เสียงแม่หนูห้ามเปิดให้ใครเข้ามาเด็ดขาดเข้าใจไหม" หนิงเหมยจูพูดจบก็รีบเดินออกจากบ้าน เธอเดินมาตามเส้นทางที่เธอจำได้ว่าบ้านแม่สามีนั้นไปทางไหน เมื่อมาถึงบ้านตงเธอจึงเปิดประตูรั้วเดินเข้าไปและไม่สนใจว่าคนในบ้านนั้นจะหน้าตาตื่นกันขนาดไหน ชาวบ้านที่เห็นหนิงเหมยจูสะใภ้สี่ของบ้านตงเดินมาด้วยความเร็ว ต่างก็สงสัย จึงเลือกที่จะเดินตามเผื่อว่ามีเรื่องสนุกให้แต่ละคนไปพูดคุยกันในวงน้ำชาที่ศาลาใต้ต้นไม้ใหญ่ประจำหมู่บ้าน "เธอมาทำไมสะใภ้สี่" สะใภ้ใหญ่ร้องถามเสียงดัง "มาเอาไก่คืน" หนิงเหมยจูไม่พูดมากเดินไปทางเล้าไก่ข้างบ้านก่อนจะแอบหยิบเชือกที่อยู่ในมิติออกมา เมื่อเจอในสิ่งที่ต้องการเธอจึงจับไก่ขึ้นมาก่อนจะเอาเชือกผูกขาด้วยความชำนาญ "เธอจะเอาไปได้ยังไง นี่มันไก่ของบ้านนี้ แม่สามี แม่ออกมานี่หน่อยสะใภ้สี่นังเหมยจูมันมาขโมยไก่บ้านเราแล้ว" สะใภ้ใหญ่บ้านตงร้องเรียกแม่สามีให้ออกมา เธอไม่กล้าที่จะสู้กับหนิงเหมยจูคนเดียว เพราะเคยโดนสะใภ้สี่ของบ้านตงตบมาแล้ว "อะไรสะใภ้ใหญ่ ร้องโหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่นบ้านไปหมด แล้วใครจะมาเองไก่บ้านเรา ใครมันกล้า" แม่เฒ่าตงรีบเดินออกมาจากบ้านแล้วด่าสะใภ้ใหญ่เสียงดังลั่น "ฉันเอง แม่สามีมีปัญหาอะไรไหม" หนิงเหมยจูมองคนได้ชื่อว่าเป็นแม่สามีไม่วางตา แม่เฒ่าตงได้ยินเสียงลูกสะใภ้ก็ผละไปเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นไก่สองตัวที่โดนมัดขาและอยู่ในมือของลูกสะใภ้คนที่สี่เธอจะด่าออกมาด้วยความโกรธ "นังเหมยจูแกกล้ามาขโมยไก่บ้านฉันหรือ อย่าลืมสิว่าเจ้าสี่มันแยกบ้านออกไปแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเอาอะไรจากที่นี่" "แม่สามีรู้ด้วยเหรอว่าแยกบ้านแล้ว ไม่ควรจะเข้าไปขโมยของบ้านคนอื่น แต่การกระทำเมื่อสามวันก่อนมันไม่ใช่เลยนะ ฉันป่วยไม่สบายนอนอยู่ในบ้าน พี่ซีเฉินขาหักอยู่ในบ้าน มีเพียงแค่เด็กสี่ขวบอย่างเสี่ยวลู่ แต่กลับกลายเป็นแม่สามีและบรรดาสะใภ้เดินทั้งหลายเข้าไปขโมยไก่ในบ้านของฉันทั้งสองตัว และยังมีหน้าทำร้ายลูกสาวของฉันอีก มันน่ารังเกียจเกินไปไหม" หนิงเหมยจูไม่จำเป็นต้องอาย ยิ่งมีชาวบ้านคอยมองดูแบบนี้เธอยิ่งชอบ แล้วยังไงในเมื่อชื่อเสียงของเธอไม่ได้ดีไปกว่านี้อยู่แล้ว "แก แกเอาอะไรมาพูด ฉันขโมยไก่บ้านแกไปตอนไหน" แม่เฒ่าตงเริ่มหน้าเสียไม่คิดว่านังสะใภ้สี่กล้าประจานเธอต่อหน้าคนมากมาย "ขโมยหรือไม่แม่สามีรู้ดีอยู่แก่ใจ ต้องให้ฉันพูดอีกเหรอ เรื่องไก่ฉันยังไม่โกรธมาก แต่สิ่งที่ฉันโกรธที่สุดคือแม่สามีและบรรดาสะใภ้สุดที่รักกล้าที่จะทำร้ายเสี่ยวลู่" หนิงเหมยจูตอกกลับ "เธอสมองกระทบกระเทือนเหรอสะใภ้สี่ เธอกล้าดียังไงจึงมาด่าแม่สามีแบบนี้ แล้วที่สำคัญนังเด็กเสี่ยวลู่เธอเองก็ไม่เคยสนใจไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้นึกจะเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีคอยปกป้องลูกเลี้ยงแบบนี้ล่ะ" สะใภ้ใหญ่จีบปากจีบคอพูดอยู่ข้างๆ แม่เฒ่าตง "ฉันจะสมองกลับหรือสมองกระทบกระเทือน มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอหรือว่าหนักส่วนไหนของใคร ฉันอยากรู้เพียงว่าใครกล้าทำร้ายเสี่ยวลู่ ตอบมา!" หนิงเหมยจูใช้สายตากวาดมองแม่สามีและบรรดาสะใภ้บ้านตงด้วยสายตาที่ดุดัน เมื่อไม่เห็นใครตอบเธอจึงย้ำอีกครั้ง "อย่าให้ฉันต้องโกรธไปมากกว่านี้ ลูกใครๆ ก็รัก และเสี่ยวลู่เป็นลูกสาวของฉัน ใครหน้าไหมมันกล้า ถ้าไม่มีใครพูดจะได้เจอกับฉันเป็นรายคน" "ฉันเป็นแม่สามีแกนะนังเหมยจู" แม่เฒ่าตงรู้สึกว่าวันนี้นังสะใภ้สี่ไม่ปกติ มันเกิดบ้าอะไรลุกขึ้นมาปกป้องลูกเลี้ยงอย่างนังเด็กเสี่ยวลู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจ อีกทั้งเธอยังได้ข่าวว่าสะใภ้สี่แอบนัดพบกับชายหนุ่มคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง แล้ววันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา "รู้ตัวด้วยเหรอว่าเป็นแม่สามีของฉัน ตั้งแต่พี่ซีเฉินตกเขา ขาหักต้องนอนติดเตียง แม่สามีเคยไปดูสักครั้งไหม เคยตามหมอมารักษาบ้างหรือเปล่า มีแต่คอยจะพาบรรดาสะใภ้สุดที่รักไปขนเอาอาหารจากที่บ้านของเรามา จนตอนนี้แทบจะไม่เหลืออะไรให้กิน มีไก่ที่พอจะเก็บไข่ไว้บำรุงพี่ซีเฉินแต่กลับมีคนหน้าไม่อายไปขโมยมาอีก ถ้าไม่บอกว่าเป็นบ้านเดิมของสามี ฉันคงคิดว่าเป็นเจ้าหนี้ที่ตามทวงเงิน ตกลงจะไม่บอกใช่ไหมว่าใครทำร้ายเสี่ยวลู่" หนิงเหมยจูยังคงมองไม่วางตา ในเมื่อคิดที่จะมีเรื่องแล้วก็มีมันเลยแล้วกัน ชาวบ้านที่ได้ยินต่างยืนซุบซิบกันเสียงเบา บางคนก็เห็นเหตุการณ์ที่บ้านตงพากันไปเอาไก่วันนั้น แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะต่างก็รู้ว่าบ้านตงแต่ละคนนั้นปากร้ายขนาดไหน ********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม