บทที่ 10 ไม่ได้ชอบ

1934 คำ
เฮียมังกรพามากินข้าวที่ร้านอาหารข้าง ๆ มหา’ลัย ร้านอาหารรอบมหา’ลัยเยอะมาก ตั้งเรียงรายละลานตาจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี “เลือกสิ” เขาหันมาพูดรอบที่สามแล้ว ฉันว่าถ้ามีอีกรอบเฮียมังกรกินหัวฉันแน่ ๆ “เอา...ก๋วยเตี๋ยวก็ได้ค่ะ” ฉันชี้นิ้วไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งไม่ไกลจากตำแหน่งที่เรายืนอยู่ “ไม่อร่อย” “แล้วมีร้านอื่นอีกไหมคะ” “มี แต่ไกล” “อ้อ คงไกลน่าดู พี่ไวเปอร์บอกว่าประตูทางเข้าแต่ละประตูก็ไกลกันมาก ร้านอาหารรอบม.ก็น่าจะไกลกันด้วย” ฉันเอ่ยพูดน้ำเสียงสดใส โกรธง่ายหายไวนี่ตัวฉันเลย เฮียมังกรยังไม่ทันได้ง้อสักคำแต่ฉันก็หายโกรธแล้ว “โดนมันหลอกแล้วจะพูดไม่ออก” “หือ พี่เขาหลอกเหรอ” ฉันว่าพร้อมกับเดินเคียงข้างเฮียมังกรไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านที่เฮียรู้ว่าอร่อย คราวนี้เฮียมังกรไม่ได้ตอบอะไร ทำให้ฉันคิดอยากพูดอะไรบางอย่าง “ไว้ฉันให้พี่ไวเปอร์ขับรถพาทัวร์มหา’ลัยดีกว่า” กึก! เฮียมังกรหยุดเดินทันที “รถฉันก็มี” เขาตอบเสียงเรียบ แต่ฉันกลับตกใจ เขาพูดอย่างนี้ก็หมายความว่า... “เฮียจะพาฉันทัวร์มหา’ลัยเหรอ” เฮียมังกรไม่ได้ตอบในทันที เขานิ่งคิดอะไรบางอย่าง “ก็ถ้าไม่ไป...เดี๋ยวเตี่ยก็คิดว่าฉันดูแลเธอไม่ดีอีก” คำตอบของเขาก็ทำเอาฉันดีใจสุด ๆ ไปเลย รีบยื่นแขนไปคล้องแขนพี่เขาด้วยความดีใจ และลืมตัวไปชั่วขณะ ก่อนที่เฮียมังกรจะดึงแขนของตัวเองออก “อย่าทำแบบนี้ คนจะเข้าใจผิด” ฉันเม้มริมฝีปากไว้ คนจะเข้าใจผิดคงหมายถึงเดี๋ยวจะมีคนคิดว่าเราเป็นแฟนกัน ซึ่งตอนนี้ก็มีคนมองมาที่พี่เขาเยอะมากเช่นเคย ...หลังจากนั้นฉันก็เงียบ ไม่นานก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวที่เฮียว่าอร่อย มาถึงเขาก็สั่งก่อนจะเงยหน้าจากเมนูมามองหน้าฉัน “เอาเหมือนกันค่ะ” เขามองฉันนิ่งเลย หลังจากที่ฉันลอกเมนูของเขา แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้ขัดอะไร “เสร็จแล้วเราไปซื้อของมาไว้ในห้องกันนะคะ” เฮียมังกรไม่ตอบแสดงว่าตกลง เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาเขี่ยเล่นโดยที่ได้สนใจฉันอีกเลย ฉันก็เลยลุกไปตักเอาน้ำแข็งใส่แก้วมาให้เขาและก็ฉันด้วย เพราะเห็นเขียนว่า ‘น้ำฟรีบริการตัวเอง’ อยากรู้จังแฮะว่าเฮียคุยกับใครในโทรศัพท์ มีหลายครั้งที่ฉันอยากแอบดูโทรศัพท์ของเขา แต่ก็กลัวว่าเฮียจะดุ ก็เลยล้มเลิกความคิดนั้นไป “วันนี้สนุกมากเลยค่ะ ฉันชอบกิจกรรมแบบนี้” ฉันเอ่ยพูดไปเรื่อย ถึงแม้นว่าเขาจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นฟังสิ่งที่ฉันพูด “มีคนมาติดต่อให้ฉันไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เขาให้นามบัตรมา...เฮียว่าดีไหม” คราวนี้เฮียมังกรเงยหน้าขึ้นมองฉัน “_” “เขาไม่ได้ชวนทุกคนนะ เขาชวนฉันเพราะเห็นฉันเหมาะสมแน่ ๆ เลย” ฉันว่าด้วยความภูมิใจ “_” เฮียมังกรมองหน้าฉันนิ่ง ฉันอยากหายเข้าไปในหัวของเขาเผื่อจะได้รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ถ้าเฮียอนุญาตฉันจะลงชื่อค่ะ” “ตามใจ” “โอ๊ะ...ดีจัง” ไม่คิดว่าเขาจะอนุญาตเสียด้วยซ้ำ “ถ้าเหนื่อยเดี๋ยวก็ลาออกเอง” “อ้าว...” “หึ ลูกแหง่เอาแต่ใจอย่างเธอจะทนกับระเบียบของกิจกรรมพวกนั้นได้นานแค่ไหนกันเชียว” ว่าอย่างดูถูก ทำให้ฉันย่นจมูกใส่เขา “ฉันไม่ใช่ลูกแหง่สักหน่อย” ฉันว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไรนัก ทว่า “ลูกรักเตี่ยไง” เขาก็สวนกลับทันควัน เฮียมังกรคงน้อยใจเตี่ยอยู่ไม่น้อย ฉันเองก็รู้สึกว่าเตี่ยรักฉันมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ส่วนเฮียมังกรเตี่ยก็รัก แต่ปฏิบัติตัวด้วยต่างกัน เตี่ยชอบบังคับเฮียมากกว่า ...พอคุยเรื่องครอบครัวทีไรบรรยากาศก็ชวนให้อึดอัด กระทั่งมีพนักงานมาเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยว ซึ่งกลิ่นของเลือดน้ำตกนี้ก็ทำให้น้ำลายสอ ฉันจัดการปรุงก๋วยเตี๋ยวนี้ ก่อนจะชดน้ำซุปร้อน ๆ นี้อย่างแรง “อ่า~ ร้อน” โดนน้ำร้อนลวกปากจนได้ เฮียมังกรยื่นแก้วน้ำให้ฉันอย่างอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องขอ “ยัยบื้อเอ้ย! ควันมันลอยขนาดนี้ไม่รู้หรือไงว่ามันร้อน” กระนั้นเขาก็ช่วยไปบ่นไปอีกตามเคย “อึก...” ฉันรับน้ำมาดื่ม “ก็มันหิวนี่นา” “หึ...” เฮียมังกรหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้า ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะหิวอะไรขนาดนี้ ก่อนที่เฮียเฮียมังกรจะเป็นฝ่ายกินก๋วยเตี๋ยวในชามของตัวเองบ้าง “อ๊ะ....” “ร้อนเหรอคะ” เขากลับอุทานออกมาเบา ๆ ทำให้ฉันกลั้นขำไว้ในใจ แต่ว่ามันคงออกมาทางสีหน้าแล้วเมื่อเฮียมองฉันด้วยสายตาแบบข่ม ๆ และเขาก็ทำเก๊กไม่เป่าปากไม่กินน้ำซะด้วย ทำเอาฉันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ เฮียเองก็หิว” “ขำอะไรของเธอ ตลกนักหรือไง” “ร้อนใช่ไหมคะ” “ไม่” “ระวังลิ้นพองนะ ฉันเป่าให้ไหม” “ทะลึ่ง เลิกพูดแล้วก็กินไป หิวไม่ใช่หรือไง” เฮียมังกรพูดเสียงเข้ม ทำให้ฉันตั้งหน้าตั้งตากินก๋วยเตี๋ยวที่ว่านี้ และมันก็อร่อยมาก ๆ จนฉันซดหมดถ้วยเลย “อร่อยจริงด้วยค่ะ” “ทำอะไร” เฮียมังกรมองฉันด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ “ก็ยกถ้วยซดไงคะ อร่อยจนยกถ้วยซด” ยิ่งฉันตอบเขาก็ยิ่งมองด้วยสายตาเหลือจะเชื่อ ก่อนที่เฮียมังกรจะส่ายหน้าเบา ๆ คราวนี้เองที่ฉันมองเห็นคนรอบกายที่มองมาที่เรา และน่าจะเห็นว่าฉันยกถ้วยก๋วยเตี๋ยวซดไปหยก ๆ นี้ น่าอายจัง... “เราไปซื้อของที่ไหนคะ” เฮียไม่ตอบในทันที เขาลุกขึ้นแล้วควักเอากระเป๋าตังค์ออกมาจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวให้ “โอ๊ะ! เตี่ยให้เงินฉันด้วยค่ะ เดี๋ยวฉันจ่ายเอง” ว่าแล้วก็รีบเปิดกระเป๋าออกเพื่อจะได้จ่ายเงิน แต่เฮียก็จ่ายไปแล้วฉันก็เลยยื่นให้เฮียต่อ “นี่ค่ะ ค่าก๋วยเตี๋ยว” “เก็บไว้เถอะ ยังไงก็เป็นเงินเตี่ย...” ว่าเสร็จเขาก็เก็บกระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋ากางเกงยีน ก่อนจะเดินออกจากร้านไป ทว่าพอฉันเดินตามออกไปเท่านั้นแหละ “อ้าว! แก้มใส” เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น ทำให้ฉันหันขวับไปมองในทันที “อ้าว...ฟ้าใส” พอฉันหยุดเดินก็ทำให้เฮียมังกรหยุดเดินตามไปด้วย ฉันกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบากใจ “เธอมาทำไรเหรอ...กินข้าวเหรอ ไหนบอกว่ากินแล้ว” ฟ้าใสว่าเสียงสดใส แต่ฉันก็รับรู้ว่าเธอกำลังกระแนะกระแหนฉันอยู่ เพราะจับได้ว่าฉันโกหก ที่ไม่อยากให้เธอมาด้วย “อ้อ พอดีว่ากำลังจะออกมากินกับเฮียเลยตอบไปแบบนั้นน่ะ” ฟ้าใสจ้องฉันนิ่งเลย พอฉันตอบแบบนี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าฉันไม่ได้อยากให้มาด้วย แม้นจะดูแล้งน้ำใจแต่มันเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม “ว่าแต่แล้วจะไปไหนกันเหรอ” เธอหันไปมองเฮียมังกร ฟ้าใสยิ้มสดใสให้กับเขา “เอ่อ กำลังจะไปซื้อของน่ะ” ฉันตอบพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ฟ้าใสเลยเดินมาคล้องแขนของฉัน “ซื้อของเหรอ ที่ไหนอะ ไปด้วยได้ไหม” ฟ้าใสว่าเสียงอย่างเป็นมิตร แต่ฉันลำบากใจมาก และดูเหมือนเฮียมังกรจะรู้ “รถฉันนั่งได้สองคน” เขาเอ่ยพูดออกมาลอย ๆ โดยที่ไม่ต้องถาม เล่นเอาฟ้าใสหน้าแห้งเลยทีเดียว “อ้อ อย่างนั้นเหรอคะ งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉัน...” “เดี๋ยวเราไปกันเลยใช่ไหมคะเฮีย รถมันจะติดเนอะ” ฉันเอ่ยตัดบท ไม่รู้ว่าจะพูดคำไหนแล้ว ฟ้าใสเซ้าซี้ไม่เลิกเลยจริง ๆ “อ้อ...” เธอยอมปล่อยแขนของฉัน ฉันก็เลยยิ้มให้เธอบาง ๆ ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับยื่นมือไปคว้าข้อมือของเฮียมังกรให้เดินตามหลังมาด้วย ทว่า “ฉันเดินเองได้” เขาก็ดึงแขนออก เฮียมังกรมองหน้าฉันด้วยแววตามีคำถาม เขาคงสงสัยความสัมพันธ์ของฉันกับฟ้าใส บอกตรง ๆ ว่าฉันไม่นับฟ้าใสเป็นเพื่อน รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ...เฮียมังกรเดินไปขึ้นรถของเขาด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ก่อนที่ฉันจะรีบวิ่งอ้อมไปขึ้นรถอีกฝั่งหนึ่ง “ฟ้าใสบอกว่า...เธอแอบชอบพี่อยู่ค่ะ” พอบรรยากาศเงียบฉันก็เอ่ยพูดขึ้น ซึ่งเฮียมังกรก็เพียงแค่ชำเลืองสายตาของมาที่ฉัน “_” “พี่ชอบเธอหรือเปล่า” ฉันเลือกที่จะถามออกมาตรง ๆ หากว่าเฮียสนใจเธออยู่ ทว่า “ไม่...” เขาตอบออกมาเพียงแค่นี้ แต่ก็ทำให้ก้อนเนื้อในอกของฉันเต้นระส่ำ อย่างน้อยเฮียก็ไม่ได้เป็นฝ่ายชอบฟ้าใส ก็ถือว่าเบาใจลง เฮียคงไม่เล่นด้วยแม้นว่าเธอจะชอบเขาก็ตามที... หลายวันต่อมา... ฉันตื่นแต่เช้ามาปิ้งขนมปังให้กับเฮียมังกร ซึ่งเขาไม่ได้มีเรียนเยอะ แต่ว่ามีวิจัยและก็โปรเจกต์ที่ต้องทำค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ปิดเทอมเดือนที่แล้วเฮียก็ไม่ได้หยุดเพราะต้องไปฝึกงาน หลายวันมานี้ฉันเข้าร่วมกิจกรรมของมหา’ลัยหลายอย่าง แน่นอนว่าเฮียมังกรก็ตามเฝ้าฉันไม่ห่าง เรียกได้ว่าไม่ให้ฉันกระดิกตัวเลย และเขาก็พาทัวร์มหา'ลัยด้วย แม้นจะดูไม่เต็มใจก็เหอะ ในบางวันฉันก็ต้องนั่งวินไปที่มหา’ลัยเองเพราะว่าเฮียยังไม่ตื่น ฉันก็เลยต้องตื่นเผื่อเวลาไว้ด้วย แต่แล้ว ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนไลน์โทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น เป็นกอหญ้าที่ส่งข้อความมาหา [อาจจะไปเลตหน่อยนะ] “โอเค...เดี๋ยวจองโต๊ะให้” ฉันพิมพ์ตอบกลับ กิจกรรมรับน้องจบลงแล้ว สนุกสุด ๆ และฉันก็สนิทกับกอหญ้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนฟ้าใสก็ยังคุยเหมือนเดิม แต่ไม่ได้สนิทด้วยมาก พยายามเลี่ยงสุด ๆ จนกอหญ้าดูออก [ขอบใจมากนะ] กอหญ้าส่งข้อความมาแค่นี้ ฉันรู้สึกแปลก ๆ เลยพิมพ์ข้อความกลับไปหาอีก “เป็นไรหรือเปล่า” ติ้ง! [เปล่า เจอกัน] พอกอหญ้าตอบมาแบบนี้ฉันก็เลยไม่รู้ว่าจะถามอะไรต่อดี เพราะมันเป็นข้อความตัดบท ทว่า “ขนมปังไหม้ ไม่ได้กลิ่นหรือไง” “อ๊ะ! ตกใจหมด” อยู่ ๆ เสียงเฮียมังกรก็ดังขึ้นทางด้านหลัง เล่นเอาฉันสะดุ้งอย่างแรง โทรศัพท์ในมือแทบร่วงลงแต่โชคดีที่คว้าไว้ได้ทัน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม