“คุณชายรอง นายท่านเรียกให้ไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ”หลังจากเดินเที่ยวกันจนหนำใจ หลานสามคนได้ของกลับขวนเป็นหอบ ๆ ส่วนท่านปู่ท่านย่าก็จ่ายเงินเกือบหมดกระสอบ เช่นกัน แต่ช่างเป็นการเสียเงินที่อิ่มเอมใจนัก ทางเทียนหลงนั้นได้ดาบเล่มใหม่และอุปกรณ์การเรียนและฝึกต่าง ๆ ของเจ้าตัว ดูเหมือนว่าใจจริงแล้วเทียนหลงจะอยากเป็นนักรบมากกว่าบัณฑิตหรือพ่อค้า นางจึงพูดจายุยงท่านปู่ว่าเทียนหลงเหมาะเป็นนักรบ ทั้งน่าสรรเสริญและน่ายำเกรง แน่นอนว่านางทำสำเร็จ ท่านปู่พอเทียนหลงแวะเข้าร้านขายอาวุธต่าง ๆ ทันที
การมาเที่ยวในครั้งนี้ทำให้เทียนหลงสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ เขาชอบใช้กำลัง เขาอยากต่อสู้ แต่ท่านพ่อท่านแม่ แม้แต่แม่ใหญ่นั้นไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาชอบเลยแม้แต่คนเดียว การที่พี่รองและท่านปู่เห็นด้วยกับเขามันทำให้วันนี้เขามีความสุขยิ่งนัก แต่ความสุขนั้นก็กำลังจะจบลงเมื่อกลับมาถึงจวน ยังไม่ทันแยกย้ายกลับเรือนใครเรือนมัน พ่อบ้านก็เดินมาตามเขาไปพบท่านพ่อเสียก่อน คงจะมีท่านแม่ใหญ่อยู่ด้วยกระมัง ไม่เช่นนั้นท่านพ่อหรือจะได้ยินข่าวเร็วถึงเพียงนี้
“ท่านปู่ท่านย่ากลับไปรอที่เรือนก่อนเลยเจ้าค่ะ ข้าจะไปกับน้องชายเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วง”สองผู้เฒ่ามองหลานสาวที่ดูเหมือนจะเติบโตขึ้นมากเมื่อกลับมาครั้งนี้อย่างภูมิใจ ลูกสาวของพวกเขาโตขึ้นแล้วสินะ รู้ปกป้องน้องเช่นนี้ พวกเขาก็ผ่อนใจได้บ้าง
“ดูแลตนเองและน้องให้ดี หากมีสิ่งใดก็รีบให้คนไปแจ้งปู่ เข้าใจหรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
“อาหลงไม่ต้องกลัว พี่สาวบอกว่าจะดูแลเจ้า นางจะไม่ทอดทิ้งเจ้าแน่นอน ไปกันเถอะ ไม่ต้องกลัว...นักรบจะกลัวเรื่องเพียงเท่านี้ไม่ได้นะอาหลงของย่า”
“ขอรับท่านย่า ท่านปู่...”เทียนหลงได้แต่ก้มหน้าลงเพราะกลัวคนอื่น ๆ จะเห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของตน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกว่าตัวเองมีคนคอยอยู่เคียงข้าง เมื่อมองไปยังพี่รอง ใจที่เคยตื่นกลัวการโดนลงโทษของเขาก็เริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง ในครั้งนี้เขามีพี่รองคอยปกป้อง หากโดนลงโทษเขาก็ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกเช่นเคย
“เจ้าก็ตามท่านปู่ท่านย่าไปนะอาเยว่ เดี๋ยวเย็นนี้พวกเราจะรับสำรับร่วมกัน ไปตามแม่สามมาด้วย ดีหรือไม่”
“ดีเจ้าค่ะ นี่เทียนหลง อย่ากลัวไปเลย เจ้าก็รู้ว่าในจวนนี้น่ะ พี่รองใหญ่ที่สุด ข้าจะรออยู่ที่เรือนท่าปู่ท่านย่านะ รีบไปเร็วเข้า”หย่งเยว่และเทียนหลงนั้นเกิดเวลาไล่เลี่ยกัน ด้วยเพราะตอนถูกเสนาบดีซ่งกดดันให้แต่งฮูหยินเข้ามาในจวนนั้น ทางตระกูลซ่งส่งมาถึงสองคนในคราวเดียวกัน เทียนหลงนั้นเป็นพี่หย่งเยว่ไม่ครบเดือนเสียด้วยซ้ำไป ดังนั้นไม่แปลกที่บางครั้งหย่งเยว่จะไม่ได้เคารพเทียนหลงดั่งพี่ชาย แต่เหมือนสหายกันเสียมากกว่า
หลังจากยืนส่งทั้งสามคนลับตา นางหันกลับมาหาพ่อบ้านที่ยืนทำหน้าเครียดรออยู่ พ่อบ้านคนนี้ไม่ใช่คนเก่าคนแก่ พ่อบ้านเก่าแก่นั้นถูกท่านปู่ท่านย่าเรียกตัวไปใช้งานอยู่ที่เรือนของตนตั้งแต่บุตรชายแต่งสตรีไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาแล้ว พ่อบ้านคนนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นญาติของฮูหยิน นางเองก็จำไม่ได้แล้วว่าที่มาของตาเฒ่านี่มาได้อย่างไร นางรู้เพียงแต่ว่าสมบัติที่ท่านตาท่านยายของนางส่งมาทุก ๆ เดือนในตอนที่นางไม่อยู่นั้นถูกยักยอกไปมากทีเดียว กว่านางจะรู้ก็ตอนที่ตระกูลจ้าวถังแตกไปแล้ว แต่ครั้งนี้นางรู้ตัวแล้ว พ่อบ้านจะทำอย่างไรกันนะหากนางเรียกขอตรวจทรัพย์สินของตนและสินเดิมขอมารดา
“นำไปสิ ยืนรอสิ่งใดอยู่”นางไม่มีความเคารพให้พ่อบ้านเลยแม้แต่น้อย ชายผู้นี้เป็นคนของสตรีน่าตายนั่น โง่ไม่พอ ยังเอาปลิงมาคอยดูดเลือดดูดสมบัติตระกูลสามีตนอีก นี่แหละเขาถึงบอกว่าอย่าได้หาภรรยาโง่ ดีที่จวนนี้แม่รองเป็นคนดูแลทั้งหมด ทางเดียวที่พ่อบ้านจะยักยอกได้มีเพียงนางเท่านั้น
“เอ่อ คุณหนูรองขอรับ นายท่านเรียกหาคุณชายรองเท่านั้นนะขอรับ หากคุณหนูจะ..”
“อย่าสู่รู้ มีหน้าที่ทำสิ่งใดก็ทำไป อ้อ ว่าง ๆ ก็ไปตามอาจารย์มาสอนมารยาทของบ่าวให้ตนเองเสียบ้างนะ อย่ามาสอนข้าไม่เข้าเรื่อง ไปได้แล้วเทียนหลง”
“ขอรับพี่รอง”นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพี่รองด่าพ่อบ้านตรง ๆ เช่นนี้ แม้เมื่อก่อนจะไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่เคยต่อว่า พี่รองเพียงชักสีหน้าและน้ำเสียงใส่เท่านั้น ทำเอาเขาแอบเกร็งขึ้นมาด้วยเลย
ภายในห้องหนังสือมีท่านพ่อและเมียรักอยู่ข้างกายอย่างที่นางคิดไว้ไม่มีผิด ท่านพ่อน่ะหรือจะเอาข่าวไร้แก่นสารมาใส่หัวตนเอง หากไม่โดนเป่าหูมาอีกที สตรีน่าตายนี่ น่าตายจริง ๆ
“คารวะท่านพ่อและฮูหยินเจ้าค่ะ/ขอรับ”ทั้งสองทำความเคารพบิดาและภรรยารักของบิดาอย่างงดงามตามฉบับคนที่งดงามทั้งรูปร่างและหน้าตาของตระกูลซ่งและตระกูลจ้าว
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าวันนี้เจ้าทำสิ่งใดลงไป”เป็นฮูหยินใหญ่ที่เอ่ยปากตำหนิเทียนหลงออกมาก่อน แต่ดูเหมือนสายตาของนางจะเผื่อแพร่มายังนางด้วยนี่สิ นางได้แต่เลิกคิ้วเป็นความหมายว่านางกำลังสงสัยไปทางท่านพ่อของตนเอง
“สิ่งใดงั้นหรือเจ้าคะฮูหยิน”คิดว่านางจะให้สตรีโง่นางนี้มาอวดฉลาดต่อหน้างั้นรึ ฝันกลางวันอยู่หรืออย่างไร
“อะ จื่อเว คุณหนูรอง ข้ากำลังพุดกับคุณชายรองอยู่”ดูสิ แม้แต่ชื่อบุตรของสามีตนเองแท้ ๆ นางยังไม่กล้าจะเอ่ยเลยด้วยซ้ำ นี่หรือคนที่ขึ้นปกครอบเรือนหลังของตระกูลจ้าวที่ท่านพ่อเลือกมาด้วยตนเอง และดูเหมือนท่านพ่อจะรู้ว่านางคิดสิ่งใดอยู่ในใจเขาจึงได้หลบสายตาที่นางส่งไปให้ด้วยรอยยิ้มเยาะ
“หึหึหึ ฮูหยินมีสิ่งใดจะเอ่ยก็เอ่ยมาเถิดเจ้าค่ะ วันนี้น้องสี่อไปกับข้าและท่าปู่ท่านย่าทั้งวัน หากมีเรื่องใดไม่ถูกต้องข้าจะได้ช่วยแก้ไขกระจ่าง ไม่ใช่มาเอ่ยลอย ๆ แบบที่ผ่าน ๆ มา ท่านคิดว่าข้าไม่สนใจเช่นนั้นหรือเจ้าคะ ฮูหยินจ้าว”
“พอได้แล้วอาเวย เทียนหลง แม่ใหญ่มาบอกข้าว่าวันนี้เจ้ามีเรื่องกับคุณหนูคุณชายตระกูลขุนนางมางั้นหรือ เรื่องถึงขั้นด่าลามไปยังผู้อาวุโสในตระกูล จริงหรือไม่”คนเป็นบิดาหันไปเอ่ยถามบุตรชาย อย่างที่บอก เขาไม่ค่อยกล้าสู้หน้าบุตรสาวคนนี้นัก ยิ่งนางกลับจากสำนักครั้งนี้ สายตานางช่างเย็นชานัก ที่สำคัญ สายตาของนางนั้นมองมายังพวกเขาเหมือนกับเห็นไปถึงจิตใจที่แท้จริงของคนที่ถูกมอง เขาไม่ชอบมันเลยจริง ๆ
“ขอรับ แต่ข้าไม่ได้ตอบโต”
“นั่นประไร ท่านพี่ เห็นหรือไม่เจ้าคะ น้องบอกแล้วว่าเทียนหลงทำจริง ๆ คราวนี้เรื่องใหญ่ยิ่งนักเลยนะเจ้าคะ หากพวกเขาเอาเรื่อง การค้าเราจะไม่กระทบไปด้วยงั้นหรือเจ้าคะ”
“คิกคิกคิก”
“หัวเราะสิ่งใดของเจ้า เอ่อ...คุณหนูรอง”
“ท่านพ่อ ข้าจำได้ว่าข้าแนะนำให้ท่านไปหาอาจารย์มาสอนมารยาทให้ฮูหยินรักของท่านแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ หรือว่าอาจารย์ที่ท่านพ่อเชิญมาจะสอนไม่ได้เรื่องกัน เหตุใดเรื่องง่าย ๆ เช่นไม่เอ่ยตัดคำผู้อื่น ฮูหยินจ้าวจึงยังกระทำออกมา ราวกับว่าไม่เคยถูกอบอรมสั่งสอนเหมือนกับชนชั้นสูงคนอื่น ๆ ไปได้กัน ให้ข้าติดต่ออาจารย์ฝีมือดีมาให้ดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านพ่อ ฮูหยินจ้าว...”
“เจ้า!!!”
“พอได้แล้วซีอัน จื่อเวย พ่อถามเทียนหลงอยู่เจ้าอย่าพึ่งแย้งเรื่องนี้ขึ้นมา”
“โอ้ นี่ท่านพ่อว่าลูกเอ่ยตัดคำผู้อื่นราวกับสตรีไร้การศึกษา ไร้คนสอนสั่งเช่นนั้นหรือเจ้าคะ ข้าคงต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ เชิญท่านพ่อเอ่ยต่อ”คำพูดเหน็บแนมของนางคงจะทำให้คนเป็นบิดารู้สึกตัวว่ากำลังเริ่มทำให้บุตรสาวไม่พอใจจึงได้เงียบไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก พอเริ่มได้สติว่าตนเองก็เหมือนตอกหน้าบุตรสาวว่าไม่มีผู้ใดสอนสั่งเรื่องมารยาท ใบหน้าของเขาก็อดไม่ได้ที่จะซีดลงเล็กน้อย ผู้ที่ควรสอนสั่งนางก็คือเขาและมารดาของนาง อดีตฮูหยินเอกอย่างไรเล่า แต่เขาทำให้นางตรอมใจตาย ทั้งยังไม่เคยได้เลี้ยงนางเองกับมือ เขามีสิทธิ์อันใดไปว่ากล่าวนางกัน “หากไม่มีสิ่งใดจะเอ่ยแล้วพวกข้าขอตัว อ้อ ข้าจะบอกอะไรให้นะเจ้าคะท่านพ่อ ฮูหยินจ้าว เทียนหลงถูกคนอื่น ๆ รุมต่อว่ากลางตลาดเรื่องพวกท่านอย่างไรเจ้าคะ ดูสิ เป็นอย่างที่คุณหนูคุณชายเหล่านั้นเอ่ยไม่มีผิด บิดาที่ไม่เคยสนใจบุตร และฮูหยินที่...ไม่มีอะไรดีเลย แม้แต่ใบหน้าก็หาได้สู้คุณหนูตระกูลใหญ่ ๆ ได้ หึ แล้วก็ฮูหยินจ้าว หากท่านกลัวเรื่องที่ข้าไปต่อว่าเด็กพวกนั้นจะมากระทบกับการค้าของตระกูลจ้าวแล้วล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไปนะเจ้าคะ ท่านตาของข้าหาใช่ตาสีตาสาที่จะไร้ความสามารถที่จะปกป้องหลานสาวอย่างข้าได้”
“แต่ว่านี่คือตระกูลจ้าว”
“เช่นนั้นข้าจะออกจากตระกูลจ้าวดีหรือไม่เจ้าคะ ว่าอย่างไร ดีหรือไม่เจ้าคะท่านพ่อ ให้ข้าออกจากตระกูลจ้าว ข้าจะกลับคืนสู่ตระกูลซ่งอย่างเปิดเผย ข้ามั่นใจว่าข้าและตระกูลซ่งจะไม่เสียหายสิ่งใดเลยแน่ ๆ แต่ท่านพ่อคงจะต้องคิดให้ดีนะเจ้าคะ ข้าขอตัว ไป เทียนหลง”ว่าจบนางก็จูงมือน้องชายออกจากห้องหนังสือทันที ปล่อยให้สองสามีภรรยานั่นอยู่ในห้องตามลำพัง
เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าแม่ใหญ่อยากให้นางไปให้พ้น ๆ เพราะมีนางอยู่ก็เหมือนมีเสี้ยนตำใจ ทั้งนางยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่บดบังจ้าวอันเหม่ยอยู่ ตั้งแต่ยังเด็กมีคุณชายไม่น้อยเลยที่มายังจวนตระกูลจ้าว ทั้งท่านพ่อก็มักจะพาอันเหม่ยไปงานเลี้ยงต่าง ๆ ด้วยกัน มีคุณชายไม่น้อยที่ถูกใจอันเหม่ย แต่ส่วนมากก็มักจะชมชอบในใบหน้าอันงดงามที่พ่วงมาด้วยคำว่าคหบดีใหญ่ผู้ร่ำรวย แต่อันเหม่ยก็จะมีตัวเปรียบเทียบอย่างนางอยู่ข้าง ๆ เสมอ แม้นางจะออกงานน้อย แต่ว่าแต่ละครั้งที่นางออกงานนั้นนางจะออกงานในฐานะหลานสาวตระกูลซ่ง ทั้งยังใบหน้าและรูปร่างของนางที่ได้เชื้อมาจากบรรพบุรุษรูปงาม เมื่อเทียบกับความงามแบบชาวบ้านของอันเหม่ย แน่นอนว่านางย่อมเหนือกว่าเสมอ
ที่ผ่านมามีเพียงองค์ชายสามเท่านั้นที่ไม่ตกหลุมรักนาง แต่เป็นชมชอบอันเหม่ยแทน แต่คราวนี้นางรู้แล้วว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น นางไม่มีทางออกจากตระกูลจ้าว นี่คือสิ่งที่เจริญเติบโตมาจากการสังเวยชีวิตของท่านแม่ นางจะต้องเป็นผู้ครอบครองมันไว้ด้วยตนเอง หากจะมอบให้ใคร นางจะตัดสินใจด้วยตนเอง
นางรู้ว่าท่านพ่อไม่มีทางยอมให้นางออกจากตระกูลจ้าว หนึ่งรู้สึกผิด สองนางคือบุตรสาวที่ดีเลิศในทุกด้าน สามคือหากตัดขาดกันแล้ว การสนับสนุนจากตระกูลซ่งอาจจะหายไป ไม่เพียงการสนับสนุน แม้แต่เส้นสายเองก็ด้วย เพราะงั้นที่นางเอ่ยไปเป็นเพียงการสร้างเรื่องทะเลาะให้สองสามีภรรยาเท่านั้น ดูซิ ว่าหากภรรยารักงี่เง่าไม่ยอมรับฟัง ทั้งสองจะยังรักกันยืนยาวหรือไม่ แต่ก่อนอื่นต้องรีบตามจับโจรเฒ่าขโมยสมบัติของนางให้คนหนังคาเขาเสียก่อน หากจับได้ย่อมต้องเสียไปถึงฮูหยินใหญ่ มันจะยิ่งตอกย้ำความไร้ความสามารถในการเป็นฮูหยิน...