บทที่ ๑ คืนฝนพรำ(๑)

1035 คำ
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นในยามตีหนึ่งของคืนฝนตกแรง ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่อยู่อาศัยในละแวกนั้นรู้สึกตัวตื่นเลยสักนิด ทุกๆ ชีวิตยังคงหลับใหลต่อไป ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของไร่ที่ยังคงก่ายกอดหมอนข้างและซุกหน้าเข้ากับหมอน ชายหนุ่มนอนอุ่นอยู่ภายในกระท่อมท้ายไร่ แถมยังดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดลำคออีก         ขณะที่ใครบางคนหลับสนิท อีกหนึ่งคนกำลังวิ่งลนลานไปตามทางมืดมิดอย่างไม่คิดชีวิต ปลายเท้าเปลือยเปล่าไร้รองเท้าห่อหุ้มวิ่งฝ่าเข้าไปในพงป่า มือเรียวบางแหวกต้นหญ้าที่ขวางกั้นเพื่อส่งตัวเองไปให้ไกลมากที่สุด ตาลหวาน ใจเสมอรัก ไม่คิดมาก่อนเลยว่าชีวิตวัยยี่สิบต้นๆ ของเธอจะซวนเซขนาดนี้ เธอไม่น่าเชื่อใจแฟนหนุ่มอย่างภาษิตเลยสักนิด เพราะการที่ไว้ใจเขาทำให้เธอต้องดิ้นรนหนีแทบเอาชีวิตไม่รอด         เสียงแฟนหนุ่มแว่วตามหลังมา ทำให้คนที่เจ็บจากการโดนกิ่งไม้ขีดข่วนได้แต่กัดฟันแน่น เธอจะไม่มีวันหันหลังกลับไปให้ผู้ชายคนนั้นย่ำยีเด็ดขาด ต่อให้ต้องตายก็จะดิ้นรนหนีจนสุดกำลัง         เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาทำให้ตาลหวานเผลอตัวกรีดร้อง และดูเหมือนเสียงของเธอจะทำให้คนไล่ล่ารู้ทิศทาง ตอนนี้จึงเอาแต่ดิ้นรนหนีเสียจนเสื้อผ้าถูกขีดข่วนจนขาดวิ่น เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลเคลียข้างแก้มลงมาอยู่ไม่หยุด แต่พอฝนเทกระหน่ำลงมากลับทำให้เจ้าของใบหน้าซีดเผือดดูมีความหวังขึ้น อย่างน้อยๆ เธอก็หวังว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งจะสามารถลบร่องรอยของเธอจากผู้ชายระยำคนนั้นได้บ้าง และดูเหมือนมันจะได้ผลเพราะเสียงตะโกนชื่อของเธอค่อยๆ หายไปจนไม่ได้ยินอีกเลย         พอวิ่งจนเหนื่อยล้า หญิงสาวก็ยืนขาสั่นอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ดวงตาแดงก่ำเหลียวมองไปรอบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองยืนอยู่ตรงหน้าผา หันหลังกลับก็คงจะเจออันตรายจากผู้ชายคนนั้น เดินไปข้างหน้าก็คงจะตายเพราะตกลงไปในเหวลึก แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังคงออกแรงเดินต่อไป จนกระทั่งมองเห็นพืชพันธุ์ของชาวบ้านที่ปลูกไว้เรียงราย กับการถางหญ้าจนโล่งเตียนนั่นแหละถึงได้ใจชื้นขึ้น         ท่ามกลางความมืด ตาลหวานกำลังฉีกยิ้มทั้งน้ำตา เธอรู้สึกถึงการมีชีวิตรอด         ดังนั้นดวงตากลมโตจึงมองหาแสงไฟ เธอหวังเหลือเกินว่าจะพบกับแสงสว่างจากบ้านเรือนบ้างสักหลัง และดูเหมือนไกลสุดสายตานั้นจะมีแสงวิบวับจากตะเกียงสีเหลือง แม้มันจะเลือนรางและดูห่างไกลแต่เธอก็กัดฟันจนในที่สุดก็มาถึง         เสียงฟ้าสลับกับเสียงฝนยังคงดังต่อเนื่อง ถึงมันจะชวนให้หนาวเหน็บและตกใจกับฟ้าผ่าเปรี้ยงทว่ามันกลับทำให้ใบหน้าของตาลหวานแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม เธอมองทางรอดข้างหน้าอย่างมีความหวัง ก่อนจะตัดสินใจตะโกนเรียก         “ช่วยด้วยค่ะ มีใครอยู่ไหมคะ” ถึงแม้จะไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ทว่าเธอก็ยังคงร้องเรียกต่อไป “มีใครอยู่บ้างไหมคะ”         พอไร้เสียงตอบรับจริงๆ ใบหน้าของเธอจึงกลับมาเผือดสียิ่งกว่าเดิม ดูเหมือนความหวังของเธอจะริบหรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงแม้จะถูกไล่เธอก็จะพยายามขอเข้าไปหลบฝนด้านในให้ได้ ดังนั้นจึงเดินเท้าเปล่าขึ้นบันไดไปช้าๆ ทว่าเพียงขึ้นไปถึงขั้นที่สามเธอก็ต้องกรีดร้องดังลั่น เพราะจู่ๆ ประตูไม้ไผ่ที่ปิดตายเมื่อครู่มันก็เปิดผลัวะเผยให้เห็นใบหน้าของใครบางคน         เขาเหมือนคนที่เพิ่งหลุดออกมาจากถ้ำ หนวดเครายาวเฟื้อย ใบหน้ามีสีดำแต้มแต่ง เสื้อไม่ใส่แถมยังสวมกางเกงยีนขาดๆ พอเห็นเจ้าของกระท่อมเธอจึงรีบร้อนถอยลงบันไดจนตกลงมาก้นกระแทก         “โอ๊ย!”         เสียงร้องเหมือนหมาโดนเตะก้นแรงๆ นั้นทำให้เจ้าของกระท่อมได้แต่เพ่งมอง เธอเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่เปียกปอนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แถมเนื้อตัวยังมอมแมมคล้ายเพิ่งไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ท่าทางของเธอดูน่าสงสารก็จริงแต่เห็นแล้ว ดิน ภูพนาไพร ก็ถึงกับเหยียดปากใส่         “กลับไปซะ! ตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการผู้หญิง ฉันเหนื่อย อยากนอน”         คนล้มเจ็บจนต้องส่งเสียงครางได้แต่จ้องมองคนอยู่บนกระท่อมตาปริบๆ         “ไปๆ เชิญไปขายให้คนอื่น ทำหน้าทำตาเวทนาแบบนั้นฉันว่าเธอขายได้ไม่ยากหรอก”         ตาลหวานกำลังคิดว่าคนตัวยักษ์ผู้พกใบหน้าเถื่อนๆ นั่น พูดอะไรกันแน่ ทว่าเขาก็ทำให้เธออ้าปากค้างขึ้นจนได้         “บอกว่ายังไม่อยากไง ไปขายตัวไกลๆ เลยไป๊”         จากที่หน้าซีดตัวสั่นด้วยความเจ็บปนหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว เธอค่อยๆ ตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนทั้งๆ ที่เจ็บจนร้าวระบม พอยืนหยัดได้ก็ตวัดนัยน์ตาดำขลับมองเขาชนิดกินเลือดกินเนื้อ         “หยุดความคิดต่ำๆ ของคุณเดี๋ยวนี้นะ!”         เสียงแหวแว้ดที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของกระท่อมถึงกับหรี่ตาแคบลง ดวงตาเข้มจัดนั้นกำลังเพ่งมองผู้หญิงตัวเปียกที่หาญกล้าลุกมาเอาเรื่องตัวเองด้วยความขบขัน เธอช่างหาญกล้าพูดเช่นนั้นในเมื่อสภาพไม่ได้ต่างจากโสเภณีที่เขาเคยเห็นเลย เสื้อผ้าขาดวิ่นแนบเนื้อเพราะเปียกฝนกับส่วนสัดอัดแน่นที่เห็นนั้น มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอพยายามตะเกียกตะกายมาถึงที่นี่เพราะอะไร         “สงสัยเห็นหน้าฉันแล้วไม่อยากขายขึ้นมาสินะ แต่เสียใจด้วยเพราะว่าในพื้นที่ร้อยไร่นี้มีฉันเพียงคนเดียว”         “ต่อให้โลกทั้งใบมีแค่คุณเพียงคนเดียว ฉันก็จะไม่มีวันขายให้คุณ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม