บทที่ 3

1020 คำ
"เมื่อวานค่ะ" "ยายหมวยคะยั้นคะยอให้เมย์พามาหาชุณแต่เช้า เนี่ยเมย์เลยพามา" ที่ไหนกัน เธอไม่เคยทำอย่างที่พัชรีว่า พี่สาวต่างหากที่ลากเธอมา รู้อยู่ว่าอยากหาเรื่องมาเจอจิรัสย์ "พี่ชุณสบายดีนะคะ" "อาฮะ แล้วหมวยล่ะ ย้ายกลับมาอยู่ไทยเลยไหม" "ไม่ค่ะ หมวยเสร็จธุระแล้วคงกลับอังกฤษเลย ไม่อยู่นาน" ความจริงเธอไม่อยากกลับเมืองไทยด้วยซ้ำ แต่จำเป็นต้องมาด้วยแม่บอกว่าคุณตาที่ป่วยติดเตียงมานาน อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ กลัวว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน แม่จึงเรียกลูกหลานญาติพี่น้องทั้งใกล้และไกลให้มาหาคุณตาเพื่อร่ำลากันครั้งสุดท้าย "อย่างนั้นเหรอครับ" ปากพูดกับพรพรรณ แต่ใจกลับนึกถึงใครอีกคน เด็กคนนั้น เด็กที่ชื่อ.. "ชุณคิดอะไรอยู่คะ" เสียงหวานแหลมของพัชรีฉุดเขาให้หลุดจากภวังค์ พลันภาพใบหน้าเปรอะเปื้อนน้ำตาก็หายวับไป เหลือเพียงผู้หญิงสวยเฉี่ยวตรงหน้าที่กำลังส่งยิ้มหวานให้ ที่ดึงเขาให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่วันนั้นเมื่อสามปีก่อน "เปล่าครับ แล้วนี่สองพี่น้องทานอะไรกันยังไง ถ้ายังเดี๋ยวผมเป็นเจ้ามือเอาไหม" "ไปสิคะ เมย์กำลังหิวพอดีเลย" พัชรีกระดี๊กระด๊า หล่อนควงแขนจิรัสย์อย่างถือวิสาสะ ชายหนุ่มปรายตามองเล็กน้อยพร้อมอมยิ้ม "เกาะแขนผมไว้ดีๆ นะคะคนสวย เดี๋ยวล้ม" คนชอบหว่านเสน่ห์ขยิบตาใส่คนเคยเคยเมื่อครั้งสมัยเรียนเมืองนอก แต่พอกลับไทยระหว่างเราก็เหลือเพียงความเป็นเพื่อน และมิตรภาพระหว่างสองตระกูล ไม่ได้สานต่อจนลึกซึ้งถึงขนาดเรียกว่าคนรักอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของอื่นๆ ในบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเธอ มัทนาจัดการขายทุกอย่าง ทั้งลด ทั้งแจก ทั้งแถม ให้คนในหมู่บ้านที่นำเงินมาแลก ไม่ได้ยกให้ใครฟรี แม้กระทั่งญาติบ้านใกล้เรือนเคียงที่แวะเวียนมาถามหลายรอบว่าป้าของได้ไหม ลุงอยากได้อันนั้นหลานให้หรือเปล่า ทั้งที่ตลอดมาหลังพ่อแม่จากไป แม้แต่หน้าเธอ ญาติพี่น้องยังไม่อยากมอง คงกลัวว่าหากเผลอสบตาเธอเข้าอาจต้องรับเด็กกำพร้าคนนี้ไปเป็นภาระกระมัง "จะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ จริงๆ เหรอผักกาด" ชนาที่มาช่วยเพื่อนเก็บของถามขึ้นหลังนั่งเงียบมาสักพัก "อือ เราตั้งใจไว้อย่างนั้น แต่ไม่แน่หรอก ถ้าเรียนจบแล้วการอยู่กรุงเทพฯ ไม่เวิร์ก เราอาจหาที่อยู่ใหม่ ย้ายไปอยู่จังหวัดที่อากาศดีๆ ก็ได้" แต่ไม่ใช่บ้านเกิดตัวเองแน่นอน แววตาเด็ดเดี่ยวไม่ต่างจากใบมีดคมกริบกรีดหัวใจชนา เด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่แอบชอบมัทนามาหลายปี แต่ไม่กล้าสารภาพความในใจออกไป ทำได้แค่คอยช่วยเหลืออย่างเพื่อนคนหนึ่ง "เสียดาย เราน่าจะตามผักกาดเข้าไปเรียนกรุงเทพฯ" ชนาสอบติดคณะแพทยศาสตร์รอบโควตาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ช่วงเปิดสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยแรกๆ เลยมั้ง ส่วนเธอพึ่งทราบประกาศผลสอบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา "เอาน่าคุณหมอ อยู่ใกล้บ้านก็ดีนะ จะได้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ได้บ่อยๆ ไง" "แล้ว.. ผักกาดล่ะ" "เรา เราทำไมเหรอ" ดวงตาสองคู่สบประสานกัน แม้ไม่เคยมีคนรัก แต่มัทนาคิดว่าตัวเองรู้ว่าชนารู้สึกยังไง แต่สำหรับเธอ ผู้ชายตรงหน้าคือเพื่อนที่ดีที่สุดเสมอมา "ก็เรายังจะได้เจอกันอยู่ใช่ไหม" เรียวปากอิ่มแย้มยิ้มให้ 'เพื่อน' เป็นยิ้มที่กว้างจนส่งไปถึงดวงตา รอยยิ้มที่ไม่ได้เคลือบแฝงไว้ด้วยความพิเศษอื่นใดนอกจากความบริสุทธิ์ใจอย่างที่เพื่อนมีให้กัน "นี่ซัน กรุงเทพฯ กับขอนแก่น ไม่ได้ไกลกันเลยนะ นั่งเครื่องแป๊บเดียวก็ถึงแล้วไหม ถ้าซันอยากเจอเราก็แค่นัดมา ยังไงเราสองคนก็ต้องได้เจอกันอีกอยู่แล้ว พูดอย่างกับว่าเราจะไปเมืองนอกงั้นแหละ" "ก็จริง" เด็กหนุ่มหัวเราะกลบเกลื่อนความเขินที่ตัวเองเว่อร์เกินเหตุ "ใช่ไหมล่ะ ถ้าซันอยากไปเที่ยวกรุงเทพฯ หรืออยากเจอเราก็แค่นัดมา" หญิงสาวพูดพร้อมส่งยิ้มให้ชนาอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองใจสั่นจนวูบหนึ่งของความคิด ชนาอยากสารภาพทุกอย่างออกไปให้จบๆ ซะ ทว่าความกล้าที่รวบรวมมาตลอดหลายปียังมีไม่มากพอ อีกทั้งหวั่นกลัวว่าถ้าหากมัทนาไม่ได้คิดตรงกัน ความเป็นเพื่อนระหว่างเราอาจไม่เหมือนเดิม จึงเลือกเก็บงำความรู้สึกไว้ รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม รอให้เราสองคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก้าวพ้นช่วงวัยนักศึกษาเข้าสู่วัยทำงาน เมื่อนั้นเขาจะสารภาพกับมัทนาถึงความรู้สึกที่อยู่ข้างใน "นี่ผักกาด ไปอยู่ที่นู่นต้องระวังตัวให้มากๆ รู้ไหม เราเคยได้ยินมาว่าคนกรุงเทพฯ ไว้ใจไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะผู้ชาย ผักกาดต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ เราเป็นห่วง" และหวงมากถึงมากที่สุด "อือ เราจะระวังตัวนะ" คำเตือนที่หวังดีจากผู้ที่หวังดีกับเธออย่างแท้จริง ทำไมเธอจะไม่รับไว้และใส่ใจ ใช่ว่าจะมีแค่ชนาที่ได้รู้ว่าคนเมืองกรุงน่ากลัว เธอเองก็ได้ยินผ่านหูมาบ่อยครั้ง ทั้งยังเห็นผ่านข่าวอาชญากรรมและกรณีศึกษาอื่นผ่านโซเชียลอยู่บ่อยๆ เช่นผู้ชายหลอกผู้หญิงไปข่มขืน หรือข่าวที่ว่าผู้หญิงไปเที่ยวในสถานที่อโคจรแล้วถูกวางยาเสียสาวก็มีให้เห็นผ่านตาไม่ใช่น้อย เธอจึงให้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีทางก้าวย่างเข้าไปในสถานที่เสี่ยงอันตรายเด็ดขาด ไม่ว่าจะเพื่อนชวน รุ่นพี่ชวน หรือใครชวนก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม