เธอดำน้ำเล่นกับเพื่อนของเธอไปมาดูสนุกสนาน โดยมีผู้ชายคนนั้นอยู่ข้างๆตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะหยิบจับอะไรหรือจะเดินไปไหนผู้ชายคนนั่นก็เดินเป็นเงาตามตัวเธอไม่ห่าง
“วีครับ..ผมว่าเราไปดำน้ำตรงนู้นกันดีไหม..?”
ผมหันมามองหน้าเป้แล้วก็มองไปตามนิ้วที่เขาชี้
“ก็ดีเหมือนกันนะ วีก็ไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้นานๆเหมือนกัน..”
“ไปครับ..”
เป้ยืนขึ้นแล้วยื่นมือมาให้ผมจับ ผมยิ้มให้เป้เล็กน้อยแล้วยื่นมือไปจับมือเขา แล้วก็เรา 2 คนก็เดินไปด้วยกันเพื่อไปดำน้ำจุดที่ห่างจากพวกยัยนั่น
เวลาผ่านไป 15 นาที
ฉันเดินขึ้นมาจากทะเลก็มองซ้ายมองขวาเพื่อหาเพื่อนสาวของฉัน หายไปไหนของเขานะสงสัยจะหนีไปสวีทกับแฟนกัน 2 คน
“เพื่อนสาวแกหายไปไหนแล้ววะ..?”
“ไปจู๋จี๋กับแฟนที่ข้างโขดหินตรงไหนสักที่ละมั้ง..”
“หืม..เจ็บเข่าแย่..”
ฉันหันมามองหน้าอีบ้าจอยอย่างขำๆ
“อีทะลึ่ง..”
“หรือแกไม่คิด..?”
ฉันมองหน้ามันก็ยิ้มขำๆ แล้วก็เดินหนีเพราะรู้สึกอายที่ฉันเองก็คิดเหมือนกับมัน
“น้ำมะพร้าวครับคุณฝัน..?”
“ขอบคุณค่ะ..”
คุณวินยื่นน้ำมะพร้าวมาให้ฉันแล้วก็ยังจอยคนละลูก เขาดูแลฉันดีมากๆเลยนะประทับใจเหมือนกันนะเนี้ย
“ดำน้ำสนุกไหมครับ..?”
“สนุกค่ะ..ฝันไม่ค่อยได้มาดำน้ำแลบนี้นานแล้ว ส่วนใหญ่มาถ่ายแบบเสร็จก็ไปนั่งร้านชิลๆแล้วก็กลับบ้านเลย..”
“ผมชอบดำน้ำนะครับ ผมดำมันทุกเกาะแล้วแต่ที่นี่สวยสุด เอาไว้ถ้าคุณฝันมาภูเก็ตอีกผมจะพาไปดำน้ำเกาะอื่นๆในภูเก็ตอีกนะครับ..?”
“ขอบคุณคุณวินมากนะคะ..”
“ชวนแต่ยัยฝันแล้วจอยละคะ..จอยน้อยใจคุณวินจริงๆเลย..”
“คุณจอยด้วยนะครับ ไปดำน้ำด้วยกันหลายๆคนสนุกดีครับ..”
“คุณวินนี่น่ารักจริงๆเลยนะคะ แต่แปลกจังทำไมถึงยังโสดอยู่ละคะ..?”
“ยัยจอย..ถามคุณวินน่าเกียจไปไหม..?”
“ไม่หรอกครับ..ถามได้ผมไม่ถือครับ จริงๆผมเคยแต่งงานมาแล้วครับ แต่ผมเพิ่งหย่ากับภรรยาไปเมื่อปีที่แล้วนะครับ...เธอมีคนอื่นนะครับ..”
“...”
“ผมผิดเองแหละครับที่ดูแลเธอไม่ดีผมไม่ใส่ใจเธอและไม่อยู่ในเวลาที่เธอลำบาก เธอเลยไปหาจากคนอื่นที่มีให้เธอได้อย่างที่เธอต้องการ...”
“จอยขอโทษนะคะที่ถามคุณวินเรื่องนี้..?”
“ไม่เป็นไปไรครับ ผมโอเค..”
ฉันมองหน้าคุณวินแล้วก็ยิ้มให้กำลังใจเขา
“ฝันเชื่อนะคะว่าคุณวินจะต้องได้เจอคนที่เหมาะสมแล้วก็เข้าใจในสิ่งที่คุณวินเป็นค่ะ..”
เขาหันมามองหน้าฉันแล้วก็ส่งยิ้มมาให้
“ผมว่าผมเจอแล้วนะครับ..”
เขาจ้องตาฉันหวานเยิ้มเลย ฉันรู้สึกอายจนต้องหันหน้าหนี
“เอ่อ...ฝันว่าฝันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่าค่ะ..ฉันไปห้องน้ำแปปนะ..?”
“เดี๋ยวสิ..ฝัน ฝัน..”
ฉันพูดจบก็เดินออกมาเลย ถ้าขืนยืนนานกว่านี้ได้ละลายแน่ๆ สายตาเขาที่มองมามันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ทำให้ฉันเขินเอามากๆเลย
“เหนื่อยไหมครับวี..?”
ฉันได้ยินเหมือนเสียงใครคนหนึ่ง จึงเดินเข้าไปใกล้ๆแอบฟัง
“ก็นิดหน่อยครับ แต่คุ้มนะที่ได้เห็นอะไรสวยๆแบบนี้”
“ผมก็เหมือนกัน คุ้มมากๆที่ได้มาที่นี่และยังได้มากับคุณอีก...”
ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆแอบมองพวกเขา 2 คนยืนคุยกัน
“พูดหวานอีกแล้วนะ..”
“ผมเป็นแบบนี้วียังจะไม่ใจอ่อนให้ผมอีกหรอ..?”
คุณเป้เดินเข้าไปใกล้ๆเขาจนหลังเขาไปชิดกับหินก้อนใหญ่ ฉันนี่นึกถึงคำพูดที่ยัยจอยมันพูดเมื่อกี้เลย พอนึกได้ก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา แล้วก็ตั้งใจเพ่งมองไปที่ทั้ง 2 คนว่าจะทำอะไรกันต่อ
“เป้..”
“ผมรักคุณนะครับวี..คุณรู้ใช่ไหม..?”
ทำไมผมถึงไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือดีใจเลยที่เป้บอกรักผมนะ
“รู้ครับ..แต่ขอเวลากับวีหน่อยนะ..?”
“ผมเริ่มจะทนรอไม่ไหวแล้วนะ ผมอยากอยู่กับคุณ อยากอยู่ใกล้ๆคุณตลอดเวลา..”
“อีกไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว..”
“แต่ผมอยากกอดคุณ หอมแก้มคุณ จูบคุณ แล้วก็...”
เขายกมือขึ้นปิดปากคุณเป้ไว้ไม่ให้พูดประโยคที่ฉันก็รู้แหละว่าคืออะไร
“วันนี้ให้จูบก่อน โอเคไหม..?”
ฉันตาโตขึ้นมาทันทีกับประโยคที่เขาพูดกับเพื่อนชายของเขา
“ครับ..”
คุณเป้จับมือเขาออกจากริมฝีปากตัวเอง แล้วขยับตัวเดินเข้าไปใกล้ๆเขามากขึ้น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆแล้วพวกเขาก็
“กรี๊ดดด”
ผมสะดุ้งตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงคนกรี๊ด ก่อนที่เรา 2คนจะจูบกัน ผมก็ดันตัวเป้ให้ออกห่างก่อนแล้วรีบวิ่งไปตามเสียงกรี๊ด
“ฝัน..”
“คุณ ฉันโดนแมงกระพรุน...”
ผมตกใจมากรีบเข้าไปอุ้มช้อนตัวเธอขึ้นมาบนหาดทันที แล้วหันไปหาน้ำเปล่าที่เป็นขวดสะอาดๆมาราดบนขาเธอ
“เป้คุณวิ่งไปขอน้ำส้มสายชู ที่ร้านอาหารใกล้ๆหรือไม่ก็น้ำร้อนให้ผมหน่อยนะ..?”
“ได้ครับ..”
“ฉันเจ็บอะคุณ..แสบด้วย ฮือออ...”
“คุณอย่าไปโดนมันนะ อยู่เฉยๆก่อน..”
เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บความแสบ ผมจึงวิ่งไปเอาน้ำทะเลมาล้างแผลให้เธอก่อน
“เกิดอะไรขึ้นกับยัยฝันคะ..?”
“เธอโดนแมงกระพรุนครับ..”
“จอย..ฉันเจ็บอะแก..”
“เดี๋ยวผมไปบอกให้เรือเก็บของแล้วออกเรือเลยนะครับ จะได้รีบพาคุณฝันไปหาหมอที่ฝั่งกัน..”
ผู้ชายคนนั้นพูดจบก็รีบวิ่งไปบอกคนขับเรือทันที
“แกเดินไหวไหม..?”
“ไม่ไหว..”
“ฉันอุ้มเอง..”
ผมตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นมาทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบใคร
“วีครับ ผมได้น้ำร้อนกับน้ำส้มสายชูมาแล้วครับ..”
“ไปที่เรือเลยเราจะกลับฝั่งกัน..”
ทุกคนวิ่งไปที่เรือทันทีผมวิ่งอุ้มเธอไปที่เรืออย่างเหนื่อยหอบ ผู้ชายคนนั้นที่รออยู่ก็จะมารับอุ้มช้อนตัวเธอแต่ผมจับตัวเธอหลบได้ก่อน
“ไม่ต้องผมจัดการเอง..”
ผมพาเธอขึ้นเรือได้ก็รีบเอาของในมือเป้มาจัดการทำแผลให้เธอ ราดน้ำอุ่นลงบนขาเธอแล้วตามด้วยน้ำส้มสายชู เพื่อลดความเจ็บความแสบลงแต่เธอก็ร้องโวยวายออกมาด้วยความเจ็บ
“ฉันเจ็บ..ฮือออ จอยฉันไม่ไหวแล้ว..”
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บ ผมเงยหน้ามองเธอเริ่มมีเหงื่อออกเต็มหน้า ปากเธอก็เริ่มซีด
“คุณหายใจเข้าลึกๆนะ เราใกล้จะถึงฝั่งแล้ว..”
“ฉันหายใจไม่ออกแล้ว..”
“ฝัน..แกอย่าเป็นอะไรนะ..?”
ผมจับมือเธอขึ้นมากุมไว้ ร้อนใจว่าเมื่อไหร่จะถึงฝั่งสักที
“ถึงแล้วครับ..”
ผมได้ยินแล้วจึงรีบหันไปอุ้มช้อนตัวเธอขึ้นมาพาไปขึ้นรถที่จอดไว้อย่างเร่งรีบ เธอที่ซบอยู่บนอกผมสีหน้าซีดเซียว
“คุณ..ฉันจะตายไหม..?”
“ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอตายหรอกนะ..”
....
โรงพยาบาล
“ใครเป็นญาติคนไข้ค่ะ..?”
“ผมครับ..ผมเป็นสามีเธอ..”