“คุณควรควบคุมอารมณ์ของเธอให้ดีนะคะ นี่มันที่สาธารณะนะ” เกวลินหันไปหาพยัคฆ์ ไม่สนใจว่าเขากำลังโกรธอยู่เลยสักนิด เธอหันไปหาแคชเชียร์ “คิดเงินค่าชุดเลยค่ะ เราจะได้ออกไปสักที”
แคชเชียร์สาวหันไปมองผู้จัดการด้วยความกังวลใจ แต่ผู้จัดการก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะทำอย่างไรดี เธอหันไปมองหน้าพยัคฆ์แล้วสแกนบาร์โคดอย่างกลัว ๆ จากนั้นยื่นถุงกระดาษให้ปานวาดด้วยมือสั่นเทา
“ไปกันเถอะ” เกวลินเป็นคนรับถุงกระดาษมาแล้วจับมือปานวาดไว้ ก่อนลากเธอออกไปพร้อมกับเจได
ความเงียบอันน่าขนลุกครอบงำภายในร้านหลังจากที่เกวลินและเพื่อนเดินออกไปทันที ใบหน้าคมของพยัคฆ์เรียบนิ่งไร้อารมณ์บ่งบอกถึงความเย็นชา แม้แต่จินนี่ยังกลัวที่จะบ่นเรื่องชุดอีกต่อไป
“นักศึกษาคนนั้นเป็นใคร” พยัคฆ์พึมพำ หรี่ตาลงมองร่างระหงที่จากไป
“คุณพยัคฆ์คะ... เธอคือ... เอ่อ...” ผู้จัดการร้านพูดตะกุกตะกัก
“ฉันอยากรู้จักเธอ รวมถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือใครก็ตามที่สนับสนุนเธอ... ทุกอย่าง” ชายหนุ่มกัดกรามแน่น ความเย่อหยิ่งของเกวลินเป็นสิ่งที่ทำให้เขาสนใจ รวมถึงแบล็กการ์ดนั่นด้วย
“ครับท่าน” ปราโมทย์ผู้ช่วยส่วนตัวค้อมศีรษะรับคำสั่ง
“ปืนใจเย็น ๆ เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นะ” เสียงผู้ชายอีกคนดังขัดจังหวะ
“ไม่เคยมีใครดูถูกฉันเหมือนผู้หญิงคนนั้น นาวิน ฉันอยากรู้ประวัติของเธอ ฉันจะสอนบทเรียนให้เธอรู้ว่าไม่ควรมายุ่งกับฉัน” พยัคฆ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เกว ช้าลงหน่อย” ปานวาดพยายามทำให้เพื่อนสงบลง ทันใดนั้นเกวลินก็หยุดเดิน “เกว...”
“เขามันเลวจริง ๆ” เธอพึมพำอย่างโมโห
“เกว นั่นคุณพยัคฆ์นะ ถ้าเราไปยุ่งกับเขา เราจะต้องตายแน่ ๆ” เจไดเตือน
“ฉันไม่สนหรอก เขามันเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดี” เกวลินยังคงแสดงท่าทีโกรธเคืองจนเพื่อนทั้งสองมองหน้ากันอย่างหนักใจ
“ไม่เป็นไรแล้วเกว ตอนนี้ฉันได้ชุดมาแล้ว ใจเย็น ๆ นะ”
“ถึงเขาจะมีอำนาจล้นเหลือ แต่เขาก็ไม่ควรทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจแบบแฟนเขานะ” เกวลินพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“เลิกคิดเรื่องเขาเถอะน่า นี่พวกเรามาเที่ยวพักผ่อนกันนะ” เจไดพูดแทรก
“เจไดพูดถูก วันนี้เพิ่งเริ่มต้นเอง มาสนุกกันดีกว่า” ปานวาดทำตัวร่าเริงขณะกอดแขนเพื่อนสาวแน่น
“หวังว่าเราจะไม่เจอคนใจแคบแบบนั้นอีกนะ” เกวลินถอนหายใจเพื่อให้ใจสงบลง จากนั้นรอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าสวย เจไดหัวเราะก่อนจะโอบแขนรอบไหล่ของเธอ
“ฉันอุตส่าห์วางแผนจะแนะนำเธอให้รู้จักกับเขาแท้ ๆ แต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เฮ้อ” ปานวาดกระซิบด้วยความหงุดหงิด ทำเอาเพื่อนทั้งสองเบิกตาโต
“นี่ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ” เกวลินถาม
“คุณพยัคฆ์หล่อมากเลยเนอะ คนอะไรก็ไม่รู้ ทั้งหล่อ ทั้งมีรังสีอันตราย แล้วแบบนี้ฉันจะยอมให้เขาอยู่กับผู้หญิงเอาแต่ใจคนนั้นได้ยังไง เธอควรจะจับเขาไว้นะเกว” ปานวาดพูดอย่างดื้อรั้น
“ไม่มีทาง เลิกคิดเรื่องนี้ไปได้เลย แค่เริ่มต้นก็ไม่น่าประทับใจแล้ว” เกวลินกลอกตา
“ให้เวลาเขาหน่อยสิ คนเราต้องมีมุมดี ๆ บ้างแหละ” ปานวาดยืนกราน
“ฉันไม่อยากคิดเรื่องนี้แล้ว” เกวลินโต้กลับ จากนั้นทั้งสามก็เดินเที่ยวเล่นกันอย่างสบายใจตลอดวันโดยไม่มีเรื่องกวนใจอีก
“นายท่านครับ” ลูกน้องพยัคฆ์เอ่ยเรียกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มไม่สนใจในสิ่งที่ตนพูด
“พยัคฆ์” นาวินเรียกอีกคน รู้ดีว่าอะไรคือสาเหตุที่พยัคฆ์เหม่อลอย
“ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ แล้วค่อยกลับไปทำงานต่อ” พยัคฆ์ว่า นาวินเดินตามหลังเขาไปด้วยสายตาสงบนิ่งพร้อมผู้ช่วยส่วนตัวกับเลขา “ฉันต้องการภูมิหลังของผู้หญิงคนนั้นโดยเร็วที่สุดนาวิน”
นาวินมองหน้าอีกฝ่าย พลางพึมพำอย่างไม่อยากเชื่อ
“พยัคฆ์ นี่มันมากเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรมากเกินไปสำหรับฉันทั้งนั้น ฉันอยากรู้ภูมิหลังของเธอ ไม่เคยมีใครเย่อหยิ่งจองหองใส่ฉันแบบนี้ ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร” เขาจ้องหน้านาวิน
“ใจเย็น ๆ และคิดใหม่เถอะ เธอเป็นแค่นักศึกษานะ แล้วก็ยังไม่ได้ทำอะไรนายเลยด้วย อย่าทำตัวไร้เหตุผลสิ นายอาจจะเสียใจทีหลังก็ได้” นาวินเตือนสติ ส่วนพยัคฆ์บดกรามแน่น รู้ดีว่าตัวเองกำลังทำตัวไร้เหตุผลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับนายหญิง” โอเดนทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ขอบคุณค่ะโอเดน” เกวลินยิ้มและขอบคุณอย่างสุภาพ
“วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ” โอเดนถามพลางเดินตามเธอไปจนถึงโซฟาห้องรับแขก
“ปกติดีค่ะ โอเดนคะ คืนนี้ฉันจะออกไปเจอเพื่อนข้างนอกสักหน่อย รับรองว่าจะไม่สร้างปัญหาค่ะ”
“รับทราบครับนายหญิง ระวังตัวด้วย โทรหาผมได้เสมอเลยนะครับ” พ่อบ้านหนุ่มยิ้มอ่อนโยน
หลังจากที่เกวลินขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เธอก็กลับลงมาด้วยชุดเดรสสวยเข้ารูป หญิงสาวเลือกรถยนต์คันหรูคู่ใจก่อนจะขับออกไปท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน
ระหว่างนั้นโดเอนกดรับสายที่โทรเข้ามาพอดี
“สวัสดีครับนายท่าน… นายหญิงทำตัวดี และก็ตั้งใจเรียนมากครับ” เขารายงานด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “คืนนี้เธอออกไปข้างนอก แต่นายท่านไม่ต้องกังวล ไม่มีอันตรายแน่นอนครับ ครับ ๆ ราตรีสวัสดิ์ครับนายท่าน ไม่ต้องห่วง นายหญิง เป็นคนเก่งและเชื่อฟังดีมาก ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยครับ…”