ตอนที่ 10

2888 คำ
“ให้ค่ะ” ไม่เอาฟังดูทื่อไป “ของขวัญค่ะ” “สุขสันต์วันเกิดค่ะ” โอ้ย แค่จะให้ของขวัญวันเกิดเจ้านายยังต้องซ้อมขนาดนี้ นิลลดาบ่นอุบหน้ากระจก หลังจากป้ามณีมาชวนแกมบังคับเธอแต่เช้าเพื่อไปร่วมปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ที่จัดให้อันชิตา ซึ่งวันทั้งวันวันนี้เธอก็ออกจากที่พักเพื่อหาซื้อของขวัญให้หล่อนจนตอนนี้ก็ใกล้เวลานัดแต่เธอยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าหล่อนหลังจากวันนั้นต่างคนก็ต่างอยู่ไม่ได้เจอกันอีกเลย สงสัยจะต้องงัดวิชามารมาใช้แกล้งป่วยเสียเลยส่วนของขวัญที่ตั้งใจว่าจะเอาติดไปให้หล่อนในทีแรกก็ค่อยเอาไปฝากไว้ที่ป้ามณีแล้วกัน “คุณนิลขา คุณนิล” เสียงพนักงานที่รีสอร์ทตะโกนเรียกเธออยู่หน้าบ้าน “จ้า พี่เล็ก” “คุณนายให้มารับคุณนิลไปที่บ้านค่ะ กลัวว่าจะมืดแล้วคุณนิลจะไม่กล้าเดินไปคนเดียว” “ค่ะ นิลกำลังจะไปพอดีเลย” เธอยืนเกาหัวแกรกๆ และเดินตามพนักงานไปอย่างไม่รีบร้อน แสบจริงป้ามณีไม่มาเองก็ส่งลูกน้องมารับถึงที่ เสียงเพลงอะคูสติกแว่วมาแต่ไกลจนเดินมาถึงงานที่จัดในสวนประดับประดาด้วยไฟสีสวยมีเวทีเล็กๆ โดยมีพนักงานในรีสอร์ทคอยบรรเลงเพลงจังหวะเบาๆ ราวกับเป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ของพนักงานมากกว่างานวันเกิด “อ้าว เจ๊ยังอยู่เหรอ” เจ้าหุยละจากเตาปิ้งเข้ามาทักนิลลดาที่กำลังชะเง้อหาป้ามณีแม้บรรยากาศจะดูอบอุ่นและอาหารช่างละลานตาพร้อมจะลงนั่งตลอดเวลาแต่ขอเข้าไปทักทายแม่งานอย่างป้ามณีเสียหน่อย “อืม มากับเขาด้วยเหรอ” เธอตอบโดยไม่ได้มองหน้าคนที่เดินตาม “มาสิของกินเพียบแบบนี้จะพลาดได้ไง แล้วมองหาใครอะ” “เจ้าของงาน” “ออ อยู่ในครัวมั้ง” “ขอบใจ” เธอหันไปตอบก่อนจะเดินลิ่วๆ เข้าครัว ฝากของขวัญแล้วขอตัวกลับเลยดีกว่า เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนนอกแม้คนในงานจะมีไม่ถึงยี่สิบคนก็ตาม “หนูนิล นึกว่าจะไม่มาแล้วเชียวกำลังรออยู่เลยลูกแล้วดูซิป้าบอกแล้วไงว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา” ป้าเล่นพูดเสียยืดยาวไม่เปิดโอกาสให้เธอได้แทรก “มานี่เลยมานั่งตรงนี้นั่งข้างยายอัน” ป้าจูงนิลลดาจากในครัวพาให้มานั่งข้างอันชิตา “ตามสบายนะลูก ขาดเหลืออะไรเรียกเจ้าหุยได้เลยแล้วก็ยายอันดูแลน้องด้วย เดี๋ยวป้าขอเข้าไปตามลุงก่อนเดี๋ยวมานะลูก” โต๊ะที่ป้ามณีพาเธอออกมานั่งค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวเพราะพนักงานนั่งปะปนด้วย ส่วนอันชิตาหล่อนเพียงแค่มองนิลลดาด้วยหางตาโดยไม่ได้พูดอะไร จากที่เล็งอาหารที่อยากจะทานอยู่ทีแรกตอนนี้เริ่มรู้สึกกินอะไรไม่ลงเพราะคนข้างๆ จนกระทั่ง “นั่นของฉันใช่มั้ยเอามาสิ” หล่อนหมายถึงกล่องของขวัญในมือ นิลลดาจึงยื่นให้ “ฉันหาซื้อทั้งวันเลย” “ไม่เห็นต้องลำบาก” นิลลดามองไปรอบๆ ไม่เห็นแม้กล่องของขวัญสักกล่องเดียว “จริงๆ แม่คุณก็บอกแหละว่าไม่ต้องเอาอะไรมาแต่ก็ซื้อมาให้ตามมารยาท” ได้ยินแค่นั้นหล่อนก็กระแทกกล่องของขวัญวางบนโต๊ะ “กินเหล้ามั้ยเดี๋ยวเอามาให้” นิลลดาเปลี่ยนเรื่องแล้วลุกไปมุมเครื่องดื่มทันที แล้วกลับมาโดยเปลี่ยนที่นั่งเป็นนั่งตรงข้ามแทนพร้อมกับรินเหล้าเพียวใส่แก้วช็อตแล้วกระดกดื่มจนหมดแก้วราวกับน้ำเปล่าและกระแทกลงบนโต๊ะและยักคิ้วให้หล่อน จนหล่อนส่ายหัวแต่เธอก็ไม่หยุดแถมยังรินให้หล่อนหนึ่งแก้วและรินให้ตัวเองอีกพร้อมกับกระดกดื่มอีกเรื่อยๆ ราวกับคนติดเหล้าเพราะเล่นกระดกไม่พัก “พอแล้ว” หล่อนพูดขึ้น “คุณอยากฟังเพลงมั้ยฉันร้องเก่งนะ” นิลลดาเสนอด้วยรอยยิ้มเริงร่า “เมาแล้วเหรอ” เพียงไม่กี่นาทีที่หล่อนเอาแต่กระดกแก้วเหล้าก็ดูเปลี่ยนไปจนอันชิตาต้องเอ่ยถาม “คุณไม่ดื่มเหรอ สักแก้วก็ไม่เลยเหรอ” “ไม่อยาก แล้วก็ไม่เห็นถึงประโยชน์” หล่อนเริ่มคุยบ้างแล้วแม้จะไม่ได้ดูเป็นมิตรมากเท่าไหร่พร้อมเสียงเพลงเริ่มสร้างบรรยากาศ “งั้นเดี๋ยวฉันทำให้รับรองคุณต้องชอบ” หรือเหล้าเพียวอาจจะแรงไปสำหรับหล่อน นิลลดาจึงเดินกลับไปโซนเครื่องดื่มอีกรอบปรุงค็อกเทลด้วยความชำนาญพร้อมกับเพียรส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้หล่อนและเดินกลับมาพร้อมกับแก้วเล็กๆ สามแก้ว วางให้หล่อนโดนยืนอยู่ตรงหน้ามือไพ่หลังและโค้งให้ราวกับพนักงานเสิร์ฟ “จะมอมฉันเหรอ” หล่อนเอียงคอถามท่าทางสบายๆ เมื่อเห็นสิ่งที่วางตรงหน้า “ใจเย็นค่ะคุณผู้หญิง แก้วนี้ดิฉันขอนำเสนอ บี-ฟิฟตี้ทู (B-52) หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า เหล้าไฟลุก รสชาติร้อนแรงดั่งไฟ เป็นค็อกเทลร้อนแรงในแก้วช็อตเล็กๆ” เธอกดจุดไฟบนผิวหน้า หล่อนดูตาลุกวาวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าขอบแก้วมีไฟลุก คงไม่คิดว่านิลลดาจะเล่นใหญ่ “วิธีทานต้องดูดรวดเดียวหมดค่ะ” นิลลดาปักหลอดลงไปที่แก้วและทำท่าเชื้อเชิญ ทีแรกอันชิตาดูลังเลแต่พอเห็นสีสันและความแปลกตาของแก้วตรงหน้าจึงอยากจะลิ้มลองโดยดูดรวดเดียวหมดตามที่นิลลดาบอก “ก็ไม่เห็นจะร้อนแรงเหมือนที่เธอบอก” คงเพราะความหวานคงทำให้หล่อนดูไม่ทะทกสะท้านหรือลืมไปว่าที่ดูดเข้าไปนั้นคือเหล้า “เดี๋ยวค่ะ แก้วเดียวคงยังไม่รู้รส” เมื่อแก้วแรกหมดไปแก้วสองแก้วสามก็ตามมาจนคนเสิร์ฟต้องส่งน้ำเปล่าให้หล่อนเพื่อเป็นการล้างปาก “รู้สึกยังไงบ้าง” “รสชาติก็อร่อยดี เอากุ้งให้กินหน่อยสิ” หล่อนถือโอกาสใช้พร้อมกับส่งยิ้มให้ นี่สินะเหล้าเปลี่ยนนิสัยส่วนนิลลดาก็ทำตามอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นป้ามณีและลุงก็มานั่งที่โต๊ะพูดคุยอย่างสนุกสนานกับพนักงงานทุกคนราวกับเป็นญาติมากกว่าลูกน้องพร้อมกับเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนเวทีที่พนักงานพากันสับเปลี่ยนกันให้ความสนุกด้วยเสียงเพลง ส่วนนิลลดาก็พลอยสนุกสนานไปด้วยแถมยังอิ่มหนำสำราญด้วยข้าวปลาอาหารและแอลกอฮอล์ตรงหน้ารวมถึงอันชิตาที่ตอนนี้กำลังละเมียดไวน์แดงท่าทางราคาแพงที่ลุงลูคัสนำติดมือออกมา แม้หล่อนจะไม่ค่อยได้พูดคุยกับใครๆ เท่าคุณนายใหญ่อย่างป้ามณีและลุงลูคัส แต่ท่าทางที่ดูสบายๆ แถมกับการโปรยยิ้มแสนหวานให้กับทุกคนรวมถึงนิลลดาด้วยราวกับก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องบาดหมางใจก็ทำให้บรรยากาศในงานดูเป็นกันเองมากขึ้น ส่วนนิลลดาก็เดินจนทั่วงานด้วยเหตุผลมาของของกินที่วางรายล้อมและฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ทำให้เธอกล้ามากขึ้นจนเกือบจะคุ้นเคยกับพนักงานทุกคน จนมีเสียงเรียกนิลลดาจากบนเวทีโดยเจ้าหุยที่หวังจะแกล้งและท้าทายให้เธอขึ้นมาร้องเพลงแต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะยอม รีบวิ่งขึ้นบนเวทีไปอย่างไม่อิดออดพร้อมกับเสียงเฮจากทุกคน “นิลต้องขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกคนนะคะที่มาร่วมในงานฉลองวันเกิดของนิลวันนี้” “ไม่ใช่” ทุกคนในงานต่างพากันร้องเป็นเสียงเดียว “อ้าว นี่ไม่ได้มางานวันเกิดหนูเหรอคะ” พร้อมกับทำหน้าเศร้าสลด เมื่อได้จับไมค์เธอก็เริ่มออกลวดลายพร้อมงัดมุกตลกมาสร้างเสียงหัวเราะ “งั้นหนูขออนุญาติร้องสักเพลงนะคะ เอาเป็นเพลงเบาๆ สบายๆ ใครมีหมอนมีผ้าห่มเอามานอนฟังแล้วหลับไปได้เลยค่ะ” “ขอมอบบทเพลงนี้ให้ทุกท่านเลยนะคะที่มีเมตตาให้น้องนิลคนสวยคนดีนี้ รักน้องน้อยๆ แต่รักนานๆ นะจ๊ะ” นิลลดาพูดเมื่อดนตรีเริ่มบรรเลง โดยเพลงแรกที่นำมาร้องคือเพลง ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ ของ พี่ดา เอ็นโดรฟิน เนื่องจากเป็นเพลงฮิตที่ใครๆ ต่างรู้จักรวมไปถึงป้ามณีทุกคนจึงพากันร้องตามบางคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานโดยมีเสียงใสๆ ของเด็กสาวบนเวทีขับกล่อมช่วยเพิ่มอรรถรสในค่ำคืนนี้ เมื่อเพลงจบก็มีเสียงตบมือให้พร้อมกับป้ามณีที่เดินมาหน้าเวทีและส่งแบงค์มีแดงห้าใบให้เธอ จนก้มลงไหว้รับเงินอัดฉีดหัวเข่าแทบจะติดพื้นและสามารถเรียกเสียงเฮจากผู้ร่วมงานด้วยความใจป๋าของป้ามณี “ขอบพระคุณแม่ยกสำหรับเงินจำนวนห้าร้อยบาทน้องนิลจะนำไปใช้เพื่อการศึกษาและก็เมื่อเรียนจบหนูรีบจะกลับมาพัฒนาหมู่บ้านของเราค่ะ” “เอาอีก เอาอีก เอาอีก” เมื่อเธอทำท่าจะลงเวทีก็มีเสียงร้องขอจากคนฟังจนต้องหยิบไมค์มาอีกรอบ “อ้าว เมื่อกี้ไม่ได้จ้างให้หนูเลิกร้องเหรอคะ” “เอาอีก เอาอีก เอาอีก” “ได้ค่ะได้ งั้นเพลงนี้นิลขอมอบให้เจ้าของวันเกิดตัวจริงนะคะ หวังว่าจะทำให้ยิ้มได้บ้างนะคะ” พร้อมกับส่งยิ้มไปให้กับเจ้านายคนสวยที่ทำสายตาคาดโทษมาที่เธอแต่ก็เพียงแค่แว้บเดียว คำร้อง/ทำนอง หนามเตย เรียบเรียง ภาคิน DL Studio สังกัด สะแบงบิน สตูดิโอ เวลาที่เธอยิ้ม มันช่างสดใส โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู เพียงแค่เธอยิ้มมา ใจมันสั่นยังไงไม่รู้ ทุกอย่างกลายเป็นสีชมพูทันใด เธอ โอ้เธอ เธอรู้ไหมใจฉันไหวหวั่น เวลาที่ได้ใกล้กัน หัวใจฉันก็แทบจะวาย ตอนที่เธอสบตา ฉันก็แทบจะเป็นบ้าตาย รู้ไหมว่าฉันจะละลาย แล้ว ชอบแบบนี้ ก็ชอบที่เป็นแบบนี้ ชอบแววตาแบบนี้ ชอบรอยยิ้มแบบนี้ ก็ชอบคนนี้ โฮ้ว จะเอาแบบนี้ จะเอาที่เป็นแบบนี้ จะเอาแววตาแบบนี้ จะเอารอยยิ้มแบบนี้ จะเอาคนนี้ ฮู้ว เบบี้ ก็ชอบที่เป็นแบบเธอ ...อ้างอิง https://www.siamzone.com/music/thailyric/16113 และอีกมากมายหลายเพลงทั้งจังหวะสบายๆ และสนุกสาน ที่ถูกเรียกร้องให้เธอขับกล่อมจนเวลาล่วงเลยไปเกือบจะห้าทุ่ม หากอันชิตาไม่แอบบอกให้เจ้าหุยกระซิบเรียกเธอลงเวทีคงจะไม่ยอมลงง่ายๆ และเมื่อนิลลดาลงมาก็เดินตรงมาที่หล่อนพร้อมกับกระดกน้ำเปล่าจากขวดด้วยความกระหาย “ฉันร้องเพลงเพราะมั้ย ชอบหรือเปล่า” “เพลงไหนล่ะ ไม่ได้ฟัง” อันชิตาทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ “ก็เพลง เวลาที่เธอยิ้ม มันช่างสดใส โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู เพียงแค่เธอยิ้มมา ใจมันสั่นยังไงไม่รู้ ทุกอย่างกลายเป็นสีชมพูทันใด ทีนี้ได้ฟังหรือยัง” นิลลดาจงใจร้องให้คนตรงหน้าฟัง จนหล่อนหน้าเริ่มแดงขึ้นกว่าเดิมจากที่แดงอยู่แล้วด้วยฤทธิ์ไวน์ในแก้วที่เพียรกระดกดื่มด้วยบรรยากาศพาไป และเมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองเริ่มจะเสียอาการจึงคว้าแก้วทรงสูงข้างตัวยกดื่มจนหมดอีกที “กินข้าวกินปลาบ้างหรือยัง เอาแต่ดื่มเหล้าแล้วก็ร้องเพลง” หล่อนปรามด้วยความเป็นห่วงแทน “เป็นห่วงเหรอคะ” “ใช่สิ เธอเป็นลูกน้องฉันเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาฉันจะดูไม่ดีคนอื่นจะหาว่าใช้งานเธอหนัก” “นิลเต็มใจค่ะ เพื่อคุณ” ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้นิลลดากล้าเอ่ยไปแบบนั้นรู้เพียงมันออกมาจากความรู้สึกจริงๆ แค่อยากให้เจ้าของวันเกิดได้ยิ้มและผ่อนคลาย หวังว่าการได้เอ็นเตอร์เทนผู้ร่วมงานจะทำให้ค่ำคืนนี้สร้างความประทับใจให้กับคนตรงหน้าบ้าง “ทำเพื่อตัวเองก่อนเถอะตอนนี้” อันชิตาพูดพร้อมกับใช้สายตาบังคับให้นิลลดากินข้าวตรงหน้าที่สั่งให้เจ้าหุยจัดหามาให้เธอ ส่วนนิลลดาก็ก้มลงกินอย่างว่าง่ายพร้อมกับความสุขใจแม้จะไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากเธอทั้งคู่เลยสักนิดเลยก็ตาม เวลาล่วงเลยเข้าถึงวันใหม่อันชิตาขอตัวไปอาบน้ำนอนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองควรได้รับการพักผ่อนพร้อมกับแอลกอฮอลล์ในร่างกายที่นั่งสะสมไว้ตั้งแต่หัวค่ำเริ่มทำงานวันนี้ตัวเธอคงหลับเป็นตาย “หนูนิลนี่คอแข็งเหมือนกันนะเนี่ย” คนพูดคือลูคัส ที่ตอนนี้พนักงานต่างพากันทยอยกลับและบางส่วนกำลังจัดเก็บสถานที่ตอนนี้ผู้คนจึงดูเบาบาง เขารินเบียร์ใส่แก้วของตัวเองและนิลลดาและค่อยๆ ละเมียด “หนูมีความลับจะบอกค่ะ” เธอเริ่มร่อแร่อยู่เหมือนกัน แต่มือก็ไม่หยุดยกดื่มส่วนปากก็ไม่หยุดพูด “บอกมา บอกมา” ลูคัสเสริม ซึ่งสภาพก็ไม่ต่างกัน “ลุงเคยเดินเข้าป่ามั้ย วันหนึ่งฉันเดินเข้าป้าเงี้ย” “ป่าแบบไหนล่ะ นี่เมาหรือเปล่า” เขาเริ่มสงสัยเด็กสาวจนเอ่ยถามอย่างไม่จริงจัง “ไม่เมา ไม่เมา ป่าแบบมี ทั้งน้ำและก็ต้นไม้ ตอนเด็กมีลุงคนนึงพาหนูเข้าป่าแล้วให้หนูลองกินดินที่ก้อนมันแข็ง แล้วแบบโลกหนูก็หมุนติ้ว ติ้ว ติ้ว หลับไปสามวัน นั่นเมาสุดแล้ว ตอนนี้เลยไม่เมากินหมดนี่ก็ไม่เมานะ” นิลลดาเริ่มพูดไปเรื่อย “งั้นเดี๋ยวลุงลองบ้าง” ลูคัสลุกจากเก้าอี้ด้วยอาการโซเซเดินได้สองก้าวก็หยุดก้มลงและนั่งลงกับพื้น ใช้สองมือถอนหญ้าและเริ่มคุ้ยดินหยิบขึ้นมาหนึ่งกำ และชูให้นิลลดาดู “แบบนี้หรือเปล่า” นิลลดาทำตาหรี่ด้วยตอนนี้สายตาเริ่มฟ่าฟางมองอะไรก็ไม่ค่อยชัดจนต้องลุกจากเก้าอี้และลงนั่งข้างลูคัสพร้อมกับคว้ามือเขาเข้ามาดูใกล้ๆ ด้วยอาการเมาไม่ต่างกัน “ใช่ๆ กินเลย กินเลย ว่าแต่ลุงคนที่พาเดินเข้าป่าก็หน้าเหมือนลุงเหมือนกันนะ” นอกจากจะเอ่ยบอกด้วยท่าทีดีใจที่เจอสิ่งที่ตัวเองพูดถึงยังปรบมือแปะๆ เชียร์ให้คนอายุกินสิ่งที่อยู่ในมือ “โอ้ย อะไรกันเนี่ยทั้งสองคนเมาจนจะพากันกินดินเลยเหรอ หมดกันสภาพเจ้าของรีสอร์ท นี่ก็ยังไม่เลิกตบมืออีกดีดอะไรนักหนา” ดีที่เจ้าหุยปรี่เข้ามาทันและยึดมือเขาไว้ เขาเห็นตั้งแต่ทั้งคู่พากันลงนั่งที่พื้นแต่ก็คอยดูอยู่ห่างๆ “เฮ้ย! ไม่เมา” ลูคัสพูดเสียงดังเมื่อถูกขัดใจ “ใช่ ไม่เมา” นิลลดาเสริมหน้ายุ่งไม่มองหน้าเด็กหนุ่มเพราะตาแทบจะปิด และอีกมากมายที่ทั้งคู่พากันนั่งคุยในแบบคนเมาไม่ยอมลุกนั่งที่เก้าอี้อย่างเดิมอยู่เป็นเวลานานจนพากันคอพับหลับไปกับพื้น ตอนนี้คนที่ต้องรับบทหนักที่สุดคือป้ามณีและเจ้าหุยเพราะต้องแบกทั้งคู่ไปยังที่นอน เมื่อจัดการกับสามีโดยโยนไว้ที่โซฟากลางบ้านได้แล้ว คนต่อไปก็คือเด็กแสบที่นอนคอพับนิลลดาถูกพาไปไว้บนเตียงของลูกสาวคนสวยอย่างอันชิตา เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยจึงอนุญาตให้คนงานทั้งหมดกลับไปพักผ่อนได้และคนเป็นประมุขตัวจริงแห่งรีสอร์ทอันดามันก็ตรงไปยังห้องอันชิตาอีกรอบ ไอ้แก่นะไอ้แก่ อุส่าให้ไปกินเหล้ากะจะมอมหนูนิลแต่กลับพากันเมาปลิ้นทั้งคู่แถมเกือบจะเสีท่าเองซะด้วย แต่ก็ยังดีที่เด็กสาวหลับไปเอง ป้ามณียิ้มเจ้าเล่ห์แม้จะกินเวลาไปมากเสียหน่อยกับเด็กแสบอย่างนิลลดา จัดการถอดเสื้อผ้าลูกสาวตัวเองและนิลลดาโยนไว้รอบเตียงจนไม่เหลือติดตัวสักชิ้นพร้อมจัดท่าทางทั้งคู่ให้นอนแนบชิดภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน นึกถึงภาพลูกสาวตัวเองนั่งยิ้มแทบจะแก้มปริตอนที่นิลลดาร้องเพลงให้ก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา ___________________________________________________________ แอบมาลงให้ตอนดึก อย่าเพิ่งเบื่อกันน๊าาา อยากให้ลองฟังเพลงนะคะ น่ารักดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม