bc

อันดามันที่รัก

book_age18+
188
ติดตาม
1.0K
อ่าน
วันไนท์สแตนด์
มีชู้
รักต่างวัย
เย่อหยิ่ง
เกรียน
ดราม่า
หักมุม
หญิงจีบหญิง
เบาสมอง
ตึงเครียด
like
intro-logo
คำนิยม

จะทำอย่างไรเมื่อคนที่ไม่มีอะไรเลยอย่างนิลลดาเด็กสาวที่ดันไปตกหลุมรักคนที่เธอไม่ควรจะรักได้อย่างอันชิตา เจ้านายคนสวยแสนหยิ่ง ที่ใครๆ ต่างเข็ดขยาดในความเจ้าระเบียบ

นิลลดา อายุ 24 ปี

การที่เข้ามาทำงานประจำในบริษัทใหญ่โตในฐานะช่างภาพ ก็ทำให้คนอย่างฉันภูมิใจไม่น้อย

แต่ก็มาพร้อมกับความกดดันจากเพื่อนร่วมงาน เพราะฉันเข้ามาได้เพราะการเป็นเด็กฝากของดอกเตอร์สันต์

โดยเฉพาะถูกเพ่งเล็งจากเจ้านายคนสวยหน้าดุ ที่ใครๆ ต่างเข็ดขยาด ในความเจ้าระเบียบและเย่อหยิ่งอย่างหล่อน

ทีแรกก็ดูเหมือนจะอยากออกห่างไม่เอาตัวเข้าใกล้เพราะกลัวถูกรังสีอำมหิต ฆ่าตาย หล่อนคือระเบิดเวลา

แต่พอยิ่งรู้จักหล่อนมากขึ้นยิ่งขึ้นยิ่งอยากอยู่ใกล้ อยากเข้าไปอยู่ในชีวิตของหล่อน แม่จะตายก็ยอม

"เพราะคำว่ารัก"

อันชิตา อายุ 36 ปี

การทำงานคือชีวิตจิตใจของฉัน แต่เหนือการทำงานคือกฎระเบียบและวินัย

ฉันเกลียดการทุจริตและความไม่โปร่งใส ทุกรูปแบบ แต่มันกลับทำให้ฉันต้องพบเจออยู่ตลอด

เพราะคนอย่างดอกเตอร์สันต์รุ่นพี่ที่ทำงาน เขาทำให้ฉันต้องเลี่ยงไม่ได้

จนทำให้ฉันต้องมาพบเจอกับเด็กไร้มารยาทไม่รู้จักโตและปากเสียอย่าง นิลลดา

หล่อนทำให้กฎต่างๆ ที่ฉันเคยมีมาพังลง และฉันต้องรีบออกห่างจากหล่อนให้เร็วที่สุด

"เพราะคำว่ารัก" อาจจะฆ่าหล่อน

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1-2-3
ตอนที่ 1 "คุณไม่ชอบฉันเหรอ" นิลลดากลั้นใจเอ่ยปากถามเจ้านายสาวหน้ายักษ์ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาล้างมือถัดจากอ่างล้างมือตรงที่เธอยืนอยู่ หล่อนเพียงเหลือบตามองคนถามผ่านกระจกบานโตเพียงแวบเดียวก่อนจะละสายตาและตอบคำถามอย่างไม่ยี่หระ "ฉันเกลียดความไม่ถูกต้อง และเธอก็เข้ามาที่นี่แบบไม่ถูกต้อง" พร้อมกับส่งยิ้มเย็นๆ ให้คนถามก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจนิลลดาที่ยืนทำหน้าเหวอกับคำตอบที่ได้รับ 'เจ้ยักษ์ เจ้โหด เจ้หยิ่ง' และอีกมากมาย ฉายาที่ทุกคนในออฟฟิศต่างมอบให้หล่อนวันนี้นิลลดาได้เจอกับตัวแล้ว รอยยิ้มและแววตาของคนที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่ทำให้นิลลดาขนลุกจนไม่กล้าจะขยับไปไหน อุตส่ารวบรวมความกล้าที่มีเอ่ยถามออกไปไม่คิดว่าเจ้านายหน้าดุจะตอบได้ตรงและตรงมากขนาดนี้ ไม่ชอบเหรอ ไม่ใช่สิ หล่อนไม่ใช่แค่ไม่ชอบแต่หล่อนใช้คำว่าเกลียด ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ทำงานที่นี่ หล่อนไม่เคยแม้จะมองหน้านิลลดาเดินผ่านเธอไปเฉยๆ ทำอย่างกับเธอเป็นอากาศธาตุ แม้จะอยู่แผนกเดียวกันแต่โชคดีที่นิลลดาไม่ได้ทำงานกับหล่อนโดยตรงเวลาหล่อนต้องการจะใช้งานอะไรก็จะฝากผ่านคุณจอห์นเจ้านายนิลลดาที่เธอทำงานด้วยโดยตรงหรือฝากเพื่อนร่วมงานมาบอก และวันนี้ก็เป็นครั้งที่สองที่นิลลดาได้คุยกับหล่อน หลังจากวันสัมภาษณ์งาน 'เจ้ยักษ์อันชิตา' หนึ่งเดือนที่แล้ว "สวัสดีค่ะ" อันชิตายกหูโทรศัพท์รับสายเบอร์ภายในจากฝ่ายบุคคล "คุณอันชิตาคะ เชิญที่ห้องดอกเตอร์สันต์สักครู่ค่ะ" เลขาคนสวยของดอกเตอร์สันต์หัวหน้าฝ่ายบุคคลมักจะมีเรื่องมากวนใจเธอเสมอซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องไร้สาระของผู้ชายหัวงูคนนั้นมากกว่าเรื่องงาน ซึ่งครั้งนี้ก็คงจะไม่พ้นเรื่องพรรค์นั้นเธอคาดเดา "ค่ะ สิบห้านาที" การรีบร้อนทำในสิ่งที่คนอื่นต้องการในทันทีไม่ใช่สิ่งเธอชอบทำมากนักหากมันไม่มีผลประโยชน์มากพอ "อีกแล้วเหรอคะ" อันชิตาพยายามเก็บอารมณ์โมโหไม่ให้เผลอวีนออกมามากกว่านี้ เพราะยังไงคนตรงหน้าก็อายุมากกว่าแม้ตำแหน่งของเราจะเท่ากัน "เอาน่า คุณอันผมขอโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ได้แสดงฝีมือสักครั้งเถอะ ไหนๆ แผนกคุณขาดคนอยู่" "ครั้งที่แล้วคุณก็พูดแบบนี้ค่ะ และกรุณาเรียกชื่อจริงดิฉันด้วย" "ผมก็แค่อยากให้เราสนิทสนมกันมากกว่านี้" เขาทำท่าทางหยอกล้อตามประสาคนเจ้าชู้ ซึ่งอันชิตาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหลงคารมและท่าทางชีกอของเขาเหมือนกับพนักงานสาวๆ ในบริษัท "ไม่ดีกว่าค่ะ ไม่อยากสนิท" นอกจากครอบครัวและคนรักของเธอ เธอก็ไม่ชอบให้ใครก็ตามเรียกชื่อเล่นและการไม่ทำตามกฎระเบียบคือสิ่งที่เธอเกลียดและพยายามหลีกเลี่ยงมัน แต่ด้วยบริษัทใหญ่ๆ แบบนี้ก็คงเลี่ยงไม่ได้กับระบบเส้นสาย ซึ่งคำขอร้องแกมบังคับของเขากำลังจะสร้างปัญหาให้เธออีกครั้ง "คราวนี้ผมมั่นใจว่าเด็กผมไม่สร้างปัญหาให้คุณแน่นอนเอาหัวผมเป็นประกันได้เลย" ไม่พูดเปล่า เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะทำงานของตัวเองเข้าประชิดตัวอันชิตา สองมือวางบนบ่าบางของเธอและบีบเบาๆ อย่างฉวยโอกาสดีที่ก่อนจะมาหาเขาหล่อนเลือกหยิบสูทมาสวมไว้อย่างรู้ทัน แต่มีเหรอที่อันชิตาจะอยู่เฉย หล่อนลุกพรวดขึ้นทันทีและกระทุ้งข้อศอกใส่เข้าเต็มแรงจนเขาโซซัดโซเซไม่เป็นท่าโทษฐานที่กล้ารุ่มร่ามใส่หล่อน พร้อมกับยืนกอด-อก พร้อมกับเชิดหน้าขึ้นด้วยมาดนางพญาอย่างเคย ส่วนดอกเตอร์สันต์ก็ได้แต่กุมท้องตัวเองด้วยความเจ็บไม่กล้าส่งเสียงร้องและไม้กล้าแม้แต่จะสบตาหล่อน "ฉันไม่อยากได้หัวของคุณค่ะ ขอแค่พรุ่งนี้เด็กของคุณรักษาเวลาก็พอ" พูดจบ หล่อนก็พาตัวเองออกจากห้องแทบจะทันทีเพราะไม่อยากจะยืนอยู่ในนี้นานนาน แต่ไม่ทันจะพ้นประตูหล่อนก็เดินย้อนกลับเข้ามาใหม่ "โอ้ยย อีนังบ้า" ดอกเตอร์สันต์ถึงกับสบถออกมาคำโตพร้อมกับเลื่อนมือขึ้นกุมศีรษะ "นี่สำหรับที่คุณทำรุ่มร่ามกับฉันและถ้าคุณคิดจะทำอีกฉันจะแจ้งตำรวจ อนาคตคุณจบแน่" หล่อนเดินเข้ามาอีกรอบพร้อมกับคว้าหนังสือเล่มหนาบนโต๊ะและฟาดสันไปที่ศีรษะเขาอย่างเต็มแรง เกลียดที่สุดกับผู้ชายเลวๆ แบบนี้ แค่ผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ในบริษัท ก็เสร็จดอกเตอร์สันต์เกือบหมดแถมผู้หญิงเหล่านั้นก็คิดสั้นอยากไต่เต้าเรื่องงานโดยใช้เต้าไต่แทนที่จะใช้ความสามารถ แม้หล่อนจะไม่ค่อยชอบเรื่องซุบซิบในที่ทำงานแต่เรื่องนี้ก็อื้อฉาวไปทั่วจนใครๆ ต่างก็รู้กันดีกับวีรกรรมของดอกเตอร์สันต์ ซึ่งแน่นอนว่าเลขาหน้าห้องของเขาก็ไม่รอด แต่ในความไม่ดีของเขาก็ยังพอโชคดีอยู่บ้างที่ไม่มีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนเพียงคั่วกันเป็นครั้งคราวไม่งั้นเหล่าสาวๆ ในสังกัดคงมีเรื่องมีราวกันไม่จบไม่สิ้น "และบอกไว้ก่อนนะ ฉันจะจับตาดูเด็กของคุณไม่ให้คาดสายตาถ้าหล่อนเหมือนกับพวกที่ผ่านๆ ฉันไม่ปล่อยไว้แน่" อันชิตาทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับออกไป ตอนที่ 2 "แนะนำตัวเลยค่ะ" "ดิฉันชื่อ นางสาวนิลลดา หิรัญดารา ชื่อเล่น นิล อายุ 26 ค่ะ" การถูกสัมภาษณ์รับเข้าทำงานครั้งแรกหลังเรียนจบทำให้นิลลดาประหม่า โดยเฉพาะการที่มีคนห้าคนคอยตั้งคำถาม แต่อย่างน้อยยังคงมีดอกเตอร์สันต์คนที่แนะนำให้เธอมาสัมภาษณ์งานที่นี่เพราะเหตุผลบางอย่าง เขาเป็นคนเดียวที่ดูเป็นมิตรที่สุดในห้องนี้ รองมาคงเป็นผู้ชายต่างชาติที่พูดภาษาไทยได้คล่องปรื๋อคนนั้น ผู้หญิงอีกสองคนที่พลัดกันยิงคำถามอย่างกับเกมส์โชว์ และผู้หญิงอีกคนที่เอาแต่นั่งมองหน้านิลลดาอย่างไม่วางตา การสัมภาษณ์กินเวลานานพอสมควรซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคำถามทั่วๆ ไป ประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิตของเธอซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องงาน จากที่รู้สึกเกร็งในตอนแรก ก็เริ่มผ่อนคลายขึ้นบ้าง "คำถามสุดท้ายครับ มีครอบครัวหรือเปล่า" คำถามนี้ออกจากปากใครเป็นไม่ได้นอกจากดอกเตอร์สันต์ "ถ้าคุณหมายถึงสถานะ ดิฉันโสดค่ะ แต่ถ้าหมายถึงครอบครัวดิฉันเป็นเด็กกำพร้าค่ะไม่มีญาติพี่น้อง " นิลลดาเลือกที่จะตอบเพียงแค่นั้น "ฉันขออีกคำถาม" นี่คงเป็นคำพูดแรกของอันชิตา ภายในห้องนี้ "เธอบอกว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า แล้วเธอใช้ชีวิตอยู่ยังไงโดยไม่มีญาติพี่น้อง" นิลลดาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ "ถ้าเมื่อกี้ดอกเตอร์สันต์บอกว่าคำถามนั้นเป็นคำถามสุดท้าย ดิฉันขอไม่ตอบคำถามนี้ค่ะ" สายตาเย้ยหยันของหล่อนทำให้นิลลดาไม่อยากจะตอบคำถามนั้นแถมยังท่าทางดูถูกนั่นอีก "ดี ไม่ตอบคำถามเจ้านายของเธอแต่เลือกที่จะตอบคำถามผู้ชายคนนี้" "สรุป คุณรับดิฉันเหรอคะ" นิลลดาตอบด้วยน้ำเสียงดีใจ "ฉันคิดว่าเธอจะรู้ก่อนแล้วซะอีก" อันชิตาตอบกลับด้วยรอบยิ้มเย็นๆ และเดินออกไปจากห้องโดยไม่มีท่าทีจะหันกลับมามองเธอ ทำให้ทั้งห้องเงียบสงัด "ฮะฮ่า คุณอันชิตาก็เป็นอย่างนี้เเหละครับน้องนิลไม่ต้องกลัวนะยังไงคนที่น้องนิลต้องทำงานด้วยคือคุณจอห์น และสาวสาวสองคนนี้เเหละ" เจ้าของเสียงหัวเราะนั่นคือดอกเตอร์สันต์แถมเขายังยื่นมือมาจับแขนนิลลดาเพื่อแสดงความดีใจกับเธอ ซึ่งภาพนั้นต่างตกอยู่ในสายตาของทุกคนที่เหลือในห้อง สองสาวพากันสบตาอย่างรู้ทัน "เดี๋ยวไปคุยเรื่องสัญญาจ้างงานกันเลยดีกว่าครับน้องนิล" ดอกเตอร์สันต์เดินนำคนอายุน้อยกว่าออกจากห้องไปส่วนนิลลดาก็เดินตามออกไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอบคุณคนที่เหลือ "ผมไปก่อนนะฝากเก็บของด้วยมีประชุมต่อ" ภาษาไทยสำเนียงแปล่งๆ ออกมาจากจอนนี่ ยิ้มให้ทั้งคู่และเดินออกไป "ยังไงอีกเนี่ยเด็กดอกเตอร์สัน" หญิงพนักงานอายุสี่สิบปลายๆ เอ่ยบ่นขึ้นกับเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องที่กำลังช่วยกันเก็บเอกสาร "สาธุ ก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้เหมือนอีเด็กบ้าโรคจิตคนก่อนก็แล้วกันพี่" เชอร์รี่ ยกมือท่วมหัว เพราะเด็กคนก่อนที่ดอกเตอร์สันต์ฝากฝังเข้าทำงานในแผนกพวกเธอสร้างเรื่องมากมายจนทุกคนต่างพากันเข็ดขยาด "แต่รอบนี้ดูเจ้ยักษ์เงียบๆ ไปนะพี่ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว " "คงเข็ดน่ะสิแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ดอกเตอร์สันชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อยเจ้ยักษ์ก็ไม่น่ายอม" "แต่วันแรกก็เจอคำถามพาจุกเลยนะพี่ คำถามเดียวจอด" "คอยดูกันไป" "ไปหากาแฟกินก่อนดีกว่าพี่ อีกสิบห้านาทีค่อยเข้าออฟฟิศ" เป็นเรื่องประจำที่พนักงานบริษัทจะทำกันคือการแว้บไปดื่มกาแฟในเวลางาน นิลลดาได้งานที่นี่แบบงงๆ ก่อนหน้านี้หล่อนทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่บาร์เหล้าหรูแห่งหนึ่งซึ่งเป็นงานที่เธอทำตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษาจนเรียนจบและตอนนี้ก็ยังคงทำอยู่ ซึ่งงานนี้ก็ทำให้นิลลดาพอจะรู้จักผู้คนมากมายและหลากหลายอาชีพซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือดอกเตอร์สันต์ เขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เขามักแวะเวียนมาพูดคุยกับเธออยู่เสมอ จากทีแรกเขาตั้งใจเพียงมาแทะโลมเพื่อหวังเจาะไข่แดงสาวสวยอย่างหล่อนเหมือนกับที่เคยๆ ทำกับผู้หญิงคนอื่นแต่พอได้พูดคุยกันได้สักพักเขาเริ่มจะชอบนิลลดาขึ้นมาจริงๆ ชอบในความสดใสและความจริงใจของหล่อนอยากให้หล่อนมีอนาคตที่สดใสจึงชักชวนให้มาสัมภาษณ์งานในบริษัทและพอดีกับที่แผนกของอันชิตากำลังหาพนักงานในตำแหน่งช่างภาพอยู่พอดี เขารู้ว่านอกจากเธอจะทำงานพาร์ทไทม์ที่บาร์นี้ยังมีงานฟรีแลนซ์รับถ่ายภาพเขาอยากจึงอยากช่วยเหลือเธอและอยากให้เธออยู่ในสายตาตลอด ตอนที่ 3 นิลลดาทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งนี้มาได้สามเดือนเต็มพอดี ในตอนแรกพนักงานในแผนกดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับเธอมากสักเท่าไหร่ จะมีก็เพียงพี่หญิงและพี่เชอร์รี่ที่เธอต้องทำงานด้วยที่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทและคนอื่นๆ ก็เริ่มจะเปิดใจกับเธอซึ่งเหตุผลหลักก็น่าจะมาจากวีรกรรมของพนักงานคนก่อนที่ดอกเตอร์สันต์ฝากฝังให้เข้าทำงานและเธอก็คือเด็กฝากของดอกเตอร์สันต์อีกคน ดังนั้นไม่แปลกที่ทุกคนจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอในทีแรก "วันนี้จะไปฉลองกับดอกเตอร์สันต์ที่ไหนจ้ะ" พี่หญิงเอ่ยทักขณะที่นิลลดายังก้มหน้าก้มตาทำงาน "ขอไปด้วยคนสิ" พี่เชอร์รี่รีบเดินเข้้ามาเกาะพาทิชั่นของเธออีกคนเพียงเพราะได้ยินชื่อของดอกเตอร์สันต์ "งานยังไม่เสร็จเลยค่ะคงได้ฉลองกับเค้กของพี่ๆ ที่ออฟฟิศคนเดียว" นิลลดามักจะนั่งทำงานคนเดียวหลังเวลาเลิกงานเพราะงานของเธอจำเป็นต้องใช้สมาธิและต้องอยู่กับตัวเอง หลังจากการออกไปถ่ายภาพและวิดีโอนอกสถานที่ งานตัดต่อก็ต้องรับผิดชอบด้วยซึ่งก็มักจะกินเวลามากพอสมควร "อย่าหลอกกูนะ ถ้ารู้จะตามไปด่าให้ขาดใจตาย" พี่เชอร์รี่มักใช้คำพูดแรงๆ และตลกกับนิลลดาเป็นประจำซึ่งหล่อนไม่เคยถือสาเพราะมันก็ทำให้ชีวิตการทำงานของเธอมีสีสันขึ้นไม่เครียดเหมือนที่คิดไว้ทีแรกแถมยังสนิทกันไวขึ้น "จริงจริ๊ง" นิลลดาตอบเสียงสูง นั่นเพราะดอกเตอร์สันต์มักจะแวะเวียนมาที่แผนกที่พวกเธอทำงานเป็นประจำในเวลาพักกลางวันเพื่อชวนนิลลดากินข้าวจนทุกคนที่แผนกชินตา แต่ก็มีพี่เชอร์รี่และพี่หญิงติดตามไปด้วยทุกครั้งเพราะการเอ่ยชวนในครั้งแรกของนิลลดาและทุกครั้งเจ้ามือก็คือดอกเตอร์สันต์ซึ่งพี่พี่ก็ยินดีเป็นอย่างมาก "เสียดายนะวันเกิดยังต้องนั่งทำงาน ไปกินข้าวกับพวกพี่มั้ยแล้วค่อยทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้" พี่หญิงยังไม่ละพยายาม "เดี๋ยวกูเลี้ยงเลย" พี่เชอร์รี่เสนอเพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ยินคำๆ นี้ "คุณอันชิตาต้องการงานด่วนน่ะค่ะ แต่พี่เชอร์รี่ติดหนูอยู่นะมื้อนึง" เธอตอบพี่หญิงด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ก่อนจจะหันมาต่อล้อต่อเถียงกับพี่เชอร์รี่ นิลลดามักทำงานหามรุ่งหามค่ำก็เพราะความต้องการของอันชิตา "งั้นจบ กูไปละ" พี่เชอร์รี่เดินสะพายกระเป๋าออกจากออฟฟิศไป "สุขสันต์วันเกิดนะ พี่ก็ไปละ" "สวัสดีค่ะพี่หญิง" นิลลดายกมือไหว้คนอายุมากกว่า หลังจากผู้คนพากันเดินออกจากออฟฟิศ เธอก็คว้าหูฟังมาสวมและก้มหน้าทำงานต่อ การฟังเพลงดังๆ ทำให้หล่อนมีสมาธิกับงานมากขึ้น นิลลดาเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาบนฝาผนังเวลาขณะนี้ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่า หล่อนถอดแว่นสายตาวางไว้บนโต๊ะและบิดขี้เกียจคลายความปวดเมื่อย หลังจากที่พนักงานทุกคนพากันกลับบ้านเธอก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากจอเลย เธอคว้าแก้วน้ำข้างตัวเดินออกไปยังห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม แต่สายตาก็พลันไปสะดุดกับแสงไฟที่รอดออกมาจากห้องของเจ้านายหน้าดุอันชิตา นั่นก็แสดงว่าหล่อนยังอยู่ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ อันชิตามักจะอยู่ทำงานจนดึกทุกครั้งที่ต้องการงานด่วนจากนิลลดาเหมือนกับว่าพยายามกดดันเมื่อเห็นดังนั้นนิลลดาจึงย้อนกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อกดส่งงานเหมือนทุกครั้ง เมื่ออันชิตาได้งานจากหล่อนไม่เกินห้านาทีเธอก็จะปิดไฟและเดินออกจากออฟฟิศไปราวกับจงใจซึ่งมันก็ดีต่อตัวนิลลดา แต่คราวนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้งหล่อนยังคงอยู่เมื่อนิลลดาเดินกลับเข้ามาอีกรอบ 'เพล้ง' เสียงบางอย่างตกแตกดังออกมาจากห้องของอันชิตา นิลลดาวางแก้วน้ำและรีบเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องของหล่อนกำลังจะหมุนลูกบิดแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเป็นเคาะประตูแทน 'ก๊อก ก๊อก' "เจ้านายโอเคมั้ยคะ พอดีฉันได้ยินเสียงเหมือนของแตก" ไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านในนิลลดาจึงตัดสินใจเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ มองเห็นเศษแจกันแตกกระจัดกระจายเต็มห้อง "เดี๋ยวฉันจัดการให้ค่ะ" นิลลดาอาสา และค่อยๆ เดินไปหยุดที่กองเศษแก้วนั่งลงเพื่อตั้งใจจะช่วยเก็บอย่างระวัง แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป้าหมายเห็นอันชิตายืนกุมขมับมืออีกข้างเท้าอยู่กับโต๊ะทำงานราวกับหล่อนกำลังจะหมดแรงและล้มลง ด้วยความไวนิลลดาเดินเข้าไปประคองหล่อนไว้และพาไปนั่งที่โซฟาส่วนนิลลดาก็นั่งลงยองๆ ข้างโซฟาไม่กล้าจะนั่งเคียงข้างหล่อนเพราะเมื่อกี้อันชิตาก็พยายามขืนตัวไม่ยอมให้หล่อนจับตัวแถมใบหน้าหงิกงอนั่นอีกแต่มีเหรอที่นิลลดาจะยอมดีที่หล่อนตัวบางและเธอก็สูงกว่าเยอะ สภาพที่ดูไม่ได้ของอันชิตาผมเผ้ายุ่งเหยิงเหงื่อผุดออกเต็มตามใบหน้า แล้วตอนนี้อีกหล่อนรีบทรุดลงกับโซฟาหมดกันกับมาดนางพญา "เจ้านายมีพวกยาดมยาหอมอะไรแบบนี้มั้ยคะ" นิลลดาพยายามมองไปรอบๆ ไม่มีเสียงตอบกลับจากอันชิตาแต่หล่อนกลับชี้ไปที่กระเป๋าสีดำที่วางบนโต๊ะแทน อันชิตารับยาดมจากมือของนิลลดาไป ส่วนตัวนิลลดานั่งเฝ้าอันชิตาอยู่ข้างๆ ไม่ห่างในมือก็ถือกระดาษแผ่นใหญ่ที่พับครึ่งจนสามารถทำเป็นพัดเฉพาะกิจคอยโบกพัด เวลาผ่านไปนานพอสมควร ดูเหมือนอันชิตาจะดีขึ้น หล่อนพยายามจะลุกนิลลดาจึงรุดเข้าประคองแต่หล่อนกลับยกมือห้ามเธอจึงทำได้แค่ถอยออกมา "ฉันดีขึ้นมากแล้ว" อันชิตาพยายามฝืนตัวเอง "แต่หน้าเจ้านายดูซีดมากไปโรงพยาบาลมั้ยคะ" "ฉันดูแลตัวเองได้ เธอกลับบ้านเถอะดึกมากแล้ว" "เจ้านายทานอะไรบ้างหรือยังตั้งแต่กลับมาจากโรงแรม" นิลลดาเปลี่ยนเรื่องไม่สนกับคำพูดที่หล่อนไล่ เมื่อตอนบ่ายอันชิตาและนิลลดาออกไปบรีฟงานข้างนอกกับลูกค้า ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่หน้าที่นิลลดาแต่เป็นเพราะพนักงานขับรถของอันชิตาเกิดอุบัติเหตุขับรถตกถนนไม่สามารถทำงานได้สักพักหวยจึงมาออกที่นิลลดาเพราะทุกคนในแผนกลงความเห็นว่าหล่อนอายุน้อยสุดและนี่น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ของนิลลดาคือการเป็นคนขับรถของอันชิตาซึ่งมันก็ทำให้งานหลักของหล่อนต้องทำนอกเวลาแทนเหมือนวันนี้ "งั้นเจ้านายรอเดี๋ยวนะคะ" นิลลดาเดินออกจากห้องและกลับเข้ามาใหม่พร้อมกับเค้กวันเกิดของตัวเองที่พี่พี่ในแผนกนำมาเซอร์ไพร้ส์ "เจ้านายทานเค้กรองท้องก่อนนะคะ ฉันคิดว่าที่คุณหน้ามืดน่าจะหิว" อันชิตารับเค้กไปจากนิลลดาและทานน่าอร่อย นิลลดารินน้ำใส่แก้วและส่งให้หล่อนเพราะกลัวจะติดคอ และหันไปจัดการกับเศษแก้วที่กระจัดกระจายอยู่กลางห้องอย่างระวังมือ "วันเกิดเธอเหรอ" อันชิตาถาม "ถ้าเป็นเมื่อห้านาทีที่แล้วน่ะใช่ค่ะ" นิลลดามองนาฬิกาที่ผนังตอนนี้ เที่ยงคืนห้านาที "เป็นเพราะฉันสินะ ทำให้เธอไม่มีเวลาส่วนตัว" ที่อันชิตาพูดก็ถูกตั้งแต่มาทำงานที่นี่นิลลดาขยันขันแข็งเพียงเพราะไม่อยากให้คนอื่นๆ มองว่าใช้เส้นเข้ามาทำงานซึ่งมันคือเรื่องจริงและมันก็ยิ่งเป็นแรงผลักดันทำให้เธอทำทุกอย่างไม่เกี่ยงงานหนักงานเบา "ไม่หรอกค่ะ เป็นเพราะฉันอยากทำงานให้ออกมาดีมากกว่า" "ยังไงก็ขอบใจ อีกสักพักฉันคงจะกลับแล้ว" "ค่ะ" นิลลดาตอบแค่นั้นแล้วเดินออกมาการพยายามจะจุ้นจ้านกับอันชิตามากไปคงจะไม่ใช่ผลดีนัก นิลลดาปิดคอมพิวเตอร์ และเก็บกระเป๋าเพื่อกลับบ้านก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศโดยไม่ลืมหันกลับไปมองประตูห้องหล่อนเพราะมันยังคงมีแสงไฟลอดออกมาอยู่ เธอยืนชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะหันกลับและเดินออกจากออฟิศไป จะดูใจดำเกินไปไหมนะ นิลลดารู้สึกเป็นห่วงหล่อนขึ้นมา

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1.2K
bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.9K
bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1.1K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.8K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook