เวลาผ่านไปไม่นานมากเท่าไรเด็กปากดีก็นอนหลับไปแล้ว เขาค่อยๆขยับตัวเธออย่างเบามือให้นอนหันมาหากัน แล้วเกลี่ยที่แก้มนุ่มแผ่วเบาด้วยความเอ็นดูมาก ความลับระหว่างเราไม่มีใครรู้เลยสักคน เขาไม่เคยพูดว่าหลังจากรถตกเขาแล้วหายไปไหนถึงสองเดือนกว่าจะกลับมาเพื่อเอาคืน หลายคนคิดว่าเขาซุ่มเงียบเพื่อสืบหาคนที่มันทำร้ายมากกว่าถึงได้ลงมือเร็วขนาดนั้น ลูกน้องที่สนิทก็ไม่รู้ว่าสองเดือนที่ผ่านมานั้นเขาแกล้งความจำเสื่อมเพื่ออยู่กับเด็กน่ารักและวางแผนเอาเธอมาอยู่ด้วยกัน
ถ้าจำเป็นต้องขังเธอไว้ตลอดไปก็จะทำ
แค่เธอไม่หนีไปก็พอ
เธอปิดบังตัวตนจริงๆจากเขาทุกอย่าง เรื่องขับเรือกับขับรถเด็กทั่วไปอาจจะทำกันได้บ้าง เรื่องว่ายน้ำแข็งมากก็น่าจะเรียนรู้มาเยอะเพราะบ้านอยู่ใกล้แหล่งน้ำลึก ไหนจะทักษะการเอาตัวรอดหลายอย่างที่ทำให้หมกมุ่นมากขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขาถลำลึกลงไปนั้นคือความลึกลับต่างหาก
เธอคือปริศนาที่ยินดีจะไขตลอดชีวิต
แม่นกน้อยของเขา
เช้าวันต่อมาวาดิมโอบไหล่เด็กดื้อที่ร้องจะกลับโรงแรมอย่างเดียวให้ลงไปกินอาหารเช้าด้วยกัน วันนี้วีมากินด้วยเป็นปรกติทุกวัน หากตัดเรื่องสถานะและหน้าที่วีก็เป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เขาอยากให้เธอรู้จักกับวีเพราะนับต่อจากนี้เธอจะได้อยู่ที่นี่ทุกวันและมีบางวันที่วีมาดูแลแทนเขาด้วย เรื่องของเธอจะต้องเป็นความลับต่อไปเพื่อความปลอดภัยจนกว่าเขาจะหาตัวบงการได้และเธอไว้ใจจะเล่าอะไรให้ฟังบ้าง
เด็กตัวแค่นี้จะใจแข็งแค่ไหนเชียว
“นี่วีคนสนิทของฉันเอง”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณวี”
“เรียกพี่วีก็ได้ครับ”
“เรียกคุณดีกว่าค่ะ แล้วจะไปโรงแรมตอนไหน?”
“กินข้าวเช้าก่อนแล้วค่อยไป สรุปชื่ออะไรกันแน่?”
วีแทบสำลักข้าวทันทีที่ได้ยิน คุณวาดิมถามชื่อเด็กคนนี้ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งคืน แล้วเด็กคนนี้ก็เบ้ปากไม่ยอมตอบแล้วหันไปกินข้าวเงียบๆด้วยสีหน้าดื้อดึง เขาปรายตามองด้วยความสนใจมากขึ้นกว่าเดิมและสะดุดเข้ากับแววตาของคุณวาดิมที่ลุ่มลึกและอ่อนโยน ตกหลุมรักชัวร์! เขาเริ่มพยายามคิดอีกครั้งแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีคำตอบอะไรเลยที่พอจะทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร หรือเคยเห็นจากที่ไหนบ้าง
คุณวาดิมซ่อนความลับไว้นาน
แต่เอามาอยู่ด้วยแบบนี้ความลับได้แตกแน่
“คุณวาดิมไปงานเมื่อคืนนี้ทำไมเหรอคะ?”
“เขาเชิญ”
“อยากถูกเชิญบ้างจัง!”
“เมื่อคืนเธอก็ไปไม่ใช่รึไง!?”
“ก็ใช่ค่ะ แต่บัตรเชิญเป็นของปลอม”
“เด็กแสบ! ต้องการอะไรถึงไป เธอมีเงินพอจะซื้อเหรอ?”
“มีสิ ของมันราคาไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก แต่ตอนนี้คนอื่นได้ไปแล้วเลยเสียดายนิดหน่อย”
“มันคืออะไร?”
“สร้อยไข่มุก”
“ฉันซื้อให้ก็ได้”
“มันไม่เหมือนกันซะหน่อย ประวัติของสร้อยเส้นนั้นทำให้ฉันสนใจเลยปลอมบัตรเชิญเพื่อจะประมูลมา แต่คุณวาดิมทำให้ฉันพลาดไป คุณไม่น่าลักพาตัวฉันมาเลย”
“รู้ไหมว่าใครได้ไปฉันจะไปขอซื้อมาให้”
“ไม่รู้สิ! เมื่อคืนมีเ*******ูอุ้มออกมาก่อนจะเข้างานได้ด้วยซ้ำ!”
“อยากได้อะไรชดเชยไหม?”
“งั้น…ขอให้คุณวาดิมหายไปได้ไหมคะ?”
“คำขอนี้มัน…เออเร้อ! เห็นทีว่าเธอคงต้องอยู่กับฉันตลอดไปแล้วแหละ”
วียิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดีมากเพราะเห็นชัดว่าคุณวาดิมมีความสุขมากขนาดไหน แววตาแบบนี้ไม่เคยเห็นมานานมากแล้วนะ เขาที่อยู่ดูแลและปกป้องมาตั้งแต่เด็กมีเหรอว่าดูไม่ออกว่าอีกไม่นานจะต้องมีข่าวดีแน่นอน คุณวาดิมในตอนนี้อายุยี่สิบแปดปี อีกไม่นานก็จะพร้อมมีครอบครัว
เด็กคนนี้สำคัญกับคุณวาดิมมาก
นอกจากความลับแล้วคงเต็มไปด้วยความรัก
“คุณยังอยากรู้ชื่อฉันอยู่ไหม?”
“ต้องการอะไรก็พูดมาสิ ฉันให้ได้ทุกอย่าง”
“ขอเงินสิบล้าน”
“ได้สิ แต่สิบล้านแลกกันการอยู่ที่นี่ต่ออีกสัก…”
“สามเดือน ให้ได้มากสุดแค่นั้น”
“ตกลง เอาเป็นเงินสดหรือเช็ค?”
“เดี๋ยวส่งบัญชีให้ โอนไปที่นั่นสิบล้านในวันนี้เลย”
“จะไม่บอกหน่อยเหรอว่าทำไมถึงเปลี่ยนใจอยู่กับฉันต่อ”
“พี่บอกว่าแม่ส่งคนมารับกลับบ้านแล้ว ดังนั้นฉันต้องหาทางหนีก่อนจะถูกจับได้”
“ถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
“ค่ะ”
“ที่ครอบครัวมีปัญหามากเลยเหรอถึงหนีขนาดนี้?”
“ก็…มันน่าเบื่ออะ! กลับไปก็ต้องเรียนอะไรเดิมๆ ทำแบบเดิมๆ กว่าจะได้ออกมาอีกครั้งคงต้องรอจนอายุยี่สิบเหมือนพี่ชายแน่เลย ฉันอยากจะเที่ยวนานๆมากกว่า แล้วสิบล้านที่คุณให้มาก็มากพอจะใช้สองปีแบบที่พ่อแม่สืบหาไม่เจอว่าฉันอยู่ที่ไหน ไว้ครบอายุยี่สิบเมื่อไรค่อยกลับบ้าน”
“เด็กดื้อ!” ถึงจะดุไปแบบนั้นแต่ก็รู้สึกดีมากที่เราจะอยู่ด้วยกันสามเดือน เธอจะไม่กลับบ้านในสองปีนี้และถ้าหากว่าสิบล้านมันยังน้อยเกินไป เขากล้าให้อีกร้อยล้านเพื่อรั้งเอาไว้จนกว่าเธอจะยอมเป็นของเขาคนเดียว แต่ถ้าร้อยล้านยังคงไม่พอเห็นทีว่าคงยกทั้งหมดที่มีรวมถึงร่างกายและหัวใจนี้เลย
เขากล้าทำทุกอย่างเพื่อคว้าเธอไว้แนบกาย
ใครมาแตะต้องมันได้ตายแน่
มือเล็กวางช้อนลงอย่างเรียบร้อยแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม จริงๆแล้วเธอก็ไม่ได้อยากอยู่กับเขานักหรอก แต่เพื่อหลบซ่อนตัวจากคนของแม่ก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ เธอแค่เบื่อจะอยู่แต่ในเขตบ้านถึงมันจะเป็นทั้งเกาะเลยก็ตาม กว่าเธอจะหนีออกมาได้ก็ใช่จะทำง่ายๆแล้วเรื่องอะไรจะยอมกลับไปล่ะ
คุณวาดิมคือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
เขาจะทำให้เธอไม่ต้องกลับบ้านเร็วเกินไป
“รชา นี่คือชื่อของฉัน”
“ชื่อจริงๆแล้วใช่ไหม?”
“แล้วจะโกหกทำไมล่ะ?”
“โอเค ต่อจากนี้เธอจะอยู่ที่นี่ในฐานะคนของฉัน เรื่องห้องพักก็…อยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อคืน”
“บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ไม่มีห้องว่างเลยรึไง!?”
“มีสิ แต่อยากอยู่ด้วยมากกว่า เกิดวันดีคืนดีเธอหาทางหนีไปจะได้จับตัวไว้ทัน”
“แต่ถ้าคุณวาดินไม่แยกห้องฉันก็จะไม่อยู่ที่นี่ ฉันจะไปเที่ยวประเทศอื่นวันนี้เลย”
“ดื้อ!”
“ว่าไงคะลุง?”
“ลุงเลยเหรอ!?”
“ก็หน้าแก่อะ เรียกลุงน่ะดีแล้ว”
“ปากดีนักนะ! กลับจากโรงแรมฉันจะพาไปดูห้องพักที่อยู่ติดกัน ตกลงตามนี้นะรชา”
“ตกลงค่ะลุงวาดิม”
เด็กบ้านี่กวนประสาทดีจังวะ
เดี๋ยวจะจูบให้พูดไม่ออกเลยคอยดู!
อาหารเช้าวันนี้อร่อยมากกว่าหลายปีที่ผ่านมาเยอะเลย เขาไม่ได้รู้สึกถึงคำว่าครอบครัวนานมาก หลังจากนั้นก็พารชาไปที่โรงแรมและจ่ายค่าห้องทั้งหมดให้เอง เธอแต่งตัวค่อนข้างมิดชิดและปิดบังใบหน้าเพื่อไม่ให้ใครจับได้ว่าเป็นใคร ดูท่าแล้วคงจะหนีออกจากบ้านและไม่มีทางยอมกลับไปง่ายๆหรอก ของทุกอย่างในห้องพักมีแค่ไม่กี่ชิ้นเอง และสิ่งที่ทำให้หัวเราะออกมาคงไม่พ้นบัตรเชิญหลายใบที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อเข้างาน เขาหยิบขึ้นมาดูเรื่อยๆด้วยความสนใจมาก จนได้เห็นรูปสร้อยไข่มุกที่มีเพชรสีเขียวมรกตช่วยเพิ่มรายละเอียดเล็กๆให้น่าดึงดูดมากขึ้น
สร้อยถูกร้อยเรียงด้วยไข่มุกนับร้อยคุมลำคอเล็กไปจนถึงหัวไหล่และระย้าเพิ่มที่ต้นแขน เวลาใส่แล้วโดนแสงคงจะระยิบระยับจนแสบตาน่าดูพร้อมประวัติที่หาที่ดีไม่ได้เลยสักอย่างนอกจากอายุยาวนานหลายปีของมัน ส่วนราคาจะว่าแพงคงไม่ใช่สำหรับเขา แต่กับเด็กดื้อคนนี้มันน่าจะมีราคาแพงพอสมควรเลยไม่ใช่รึไง หรือว่าเธอรวยมากอยู่แล้ว
สร้อยไข่มุกราคาประมูลจบที่หกล้าน
รชาคงมีเงินมากกว่านั้น
“นี่นะเหรอที่บอกว่าอยากได้?”
“อื้ม ตามหามาตั้งนานแหนะ แต่สุดท้ายก็หลุดมือไปเพราะคุณวาดิมคนเดียว!”
“เดี๋ยวฉันหามาให้เอง”
“จริงๆนะ!?”
“แล้วจะโกหกทำไมเล่า สร้อยราคานี้ไปขอซื้อกับคนที่ได้ไปในราคาที่มากกว่ายังไงก็ต้องขายอยู่ดี”
“คุณนี่เป็นคนแก่ที่ใจดีมากเลย”
“จะดีถ้าตัดคำว่าคนแก่ออก”
“แต่ตีนกาขึ้นแล้วนะ!”
“ยังไม่มี!”
“เนี่ย! ดูสิมีตีนกาตั้งสามเส้นแล้ว”