1
ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆที่รอยแผลเป็นตรงหน้าอกข้างขวาด้วยหัวใจที่วูบไหวอีกครั้ง ผ่านมาสามปีแล้วแต่ไม่เคยลืมเหตุการณ์ในครั้งนั้นเลยแม้แต่นาทีเดียว เขาถูกลอบทำร้ายและโดนยิงก่อนที่รถจะตกหน้าผาไป ในวินาทีนั้นรู้ได้ทันทีว่าต้องตายในซากรถใต้น้ำแล้ว แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับเจอเด็กอายุราวๆสิบห้าปีนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลเล็กๆแห่งหนึ่ง เพียงไม่กี่นาทีเธอตื่นขึ้นมาพร้อมยิ้มกว้างให้อย่างสดใส
วินาทีนั้นแหละที่เขาตกหลุมรักเข้าอย่างจัง
ความรักที่ไม่ควรเกิด
เธอเล่าให้ฟังว่าไม่ได้เจอขาเพราะความบังเอิญ แต่เพราะวันนั้นเห็นว่ามีรถขับตกเขาลงมาเลยขับขับเรือไปดูทันทีและกระโดดลงไปในน้ำก่อนที่รถจะจมหายไป เธอหาทางงัดกระจกได้แล้วดึงตัวเขาออกมาขึ้นเรือ จากนั้นถึงขับรถมาส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดซึ่งมันก็แค่โรงพยาบาลเล็กๆธรรมดาทั่วไป หลังจากผ่าตัดและตรงตรวจเช็คอาการเรียบร้อยแล้วว่าปลอดภัยเลยเข้ามาดูก่อนจะกลับ แต่เพราะว่าง่วงเลยเผลอหลับไป
เธอจะโทรบอกญาติให้มารับเขาที่โรงพยาบาล
มุกความจำเสื่อมนั้นหลอกเด็กได้
หลังจากนั้นเขาก็ขอไปอยู่กับเธอในช่วงที่คิดอะไรไม่ออก เขาอ้างเรื่องความปลอดภัยเพราะเห็นชัดว่าโดนทำร้ายมาอย่างหนัก เธอในตอนนั้นยังเด็กมากเลยเชื่อแล้วพาเขาไปที่บ้านพักหลังเล็กที่อยู่ในสวน ส่วนตัวเธออยู่บ้านอีกหลังที่ไม่ได้ไกลมากเท่าไร เขาขายแหวนเพชรและนาฬิกาหรูที่ติดตัวมาในราคาต่ำมากกว่าราคาที่มันควรจะได้เพื่อเธอจะได้ไม่ต้องสงสัยในเงินทองที่มีใช้ในช่วงนั้น เขาให้เธอไปแทบทั้งหมดและพยายามซับพอร์ตเธอทุกอย่างที่ต้องการ เรื่องของเขาถูกเก็บเป็นความลับอยู่นานนับเดือนโดยไม่มีใครรู้หรือสงสัยด้วยซ้ำ นับตั้งแต่วันนั้นเธอคือนกน้อยในกรงทองของเขา
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ความลับแตก
เขาฆ่าคนต่อหน้าเธอ
เด็กคนนั้นวิ่งหนีไปด้วยความตกใจขวัญผวาอย่างหนักและหลังจากนั้นเขาไม่เคยเจอเธออีกเลย ข่าวที่ได้รู้ในเวลาไม่กี่นาทีต่อจากนั้นคือบ้านหลังใหญ่ไฟไหม้และเจอศพที่กลายเป็นตอตะโกนแล้ว สาเหตุไฟไหม้นั้นมาจากไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเขาได้ส่งคนไปตรวจสอบแล้วพบเจอความผิดปรกติ แต่คนที่ทำนั้นมีฝีมือสูงมากถึงได้แนบเนียนจนแทบไม่มีหลักฐานอะไรเหลือทิ้งไว้เลย
เขาสั่งคนตามสืบประวัติของเธอ
แต่ไม่มีเลย
เด็กอายุแค่สิบห้าปีควรจะมีข้อมูลหลายอย่างให้สืบแต่ทุกอย่างนั้นว่างเปล่า ชื่อที่เขารู้จักก็ไม่มีคนในระแวกนั้นรู้จัก โรงเรียนแถวนั้นไม่มีเธอเป็นนักเรียน ร้านค้าต่างๆที่มีกล้องวงจรปิดก็ไม่เคยบันทึกภาพของเธอได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่รู้คือบ้านหลังนั้นทำประกันวงเงินสูงมาก อยู่กับทั้งหมดสี่คนคือพ่อ แม่ ลูกชายและลูกสาว ญาติที่ได้รับผลประโยชน์นั้นอยู่ต่างจังหวัดที่เข้ามาจัดการเรื่องนี้ก่อนจะขายบ้านและที่ดินในราคาสูงพอสมควร แต่เพราะอยู่ในพื้นที่ทำเลดีเลยขายได้ราคางาม หลังจากนั้นญาติคนนั้นก็ย้ายไปอยู่เมืองนอกถาวรและไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย
ผ่านมาสามปีแล้วสินะที่ตามหาเธอ
ในตอนนี้น่าจะอายุสิบแปด
“คุณวาดิมรถพร้อมแล้วครับ”
“สายของเราแทรกแซงเข้าไปแล้วใช่ไหม?”
“เรียบร้อยครับ งานนี้เราน่าจะจับตัวมันได้สักที”
“รอยแผลนั่น…ไม่เชื่อว่าจะรอดมาได้”
“ฉันไม่มีวันพลาดอีกครั้งแน่นอน”
คืนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่างานประมูลที่จัดขึ้นในรอบหลายปี คนที่เข้าร่วมล้วนได้รับบัตรเชิญและไม่เชิญคนนอกเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย ส่วนใหญ่ของที่จะประมูลนั้นมักจะได้มาผิดกฏหมายและช่วงท้ายก่อนจะปิดนั้นจะมีผู้หญิงมาให้ร่วมประมูล เขาไม่ค่อยชอบไปงานแบบนี้แต่เพื่อตามเอาตัวเป็นเหยื่อล่ออดีตคู่หมั้นที่ทรยศความไว้ใจและหักหลังกัน แต่ว่าเธอไม่ใช่ตัวบงการ เธอก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมนี้เท่านั้น
ในระหว่างที่คนในงานกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแต่เขากลับเบื่อหน่าย เขาเดินออกมาหาที่สงบแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบเพื่อเอาสารแห่งความสุขพร้อมกับพ่นควันออกไป เปลวไปสีส้มแดงแผดเผาช้าๆในขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆเกี่ยวกับการเคลียร์ปัญหาที่ยืดยาวมานานมาก
เด็กคนนั้นกำลังเดินมาทางนี้
โตขึ้นมากเลยนะ
เรื่องในอดีตที่มีรสชาติหวานที่ซ่อนไปด้วยความขมถูกเก็บเป็นความลับมานานแสนนาน นกน้อยในกรงทองโบยบินหนีออกไปโดยไม่มีคำร่ำลา หัวใจที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและโหยหาไม่เคยได้รับการเยียวมานานหลายปี แต่ในวันนี้แม่นกน้อยอยู่ตรงหน้ามีเหรอจะลังเลที่จะคว้ามากอดไว้แนบแน่น
เจอกันอีกครั้งอย่าคิดว่าจะหนีไปไหนได้อีก
เขาไม่มีวันโดนทิ้งอีกแน่
"ไม่เจอกันนานเลยนะ"
"คุณวาดิม!!"
"ฉันเจอเธอแล้ว เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก"
ก่อนที่เธอหนีถูกจับแขนดึงเข้าไปจนตัวกระแทกชนหน้าอกและถูกกอดเอาไว้แน่นจนแทบขยับตัวไม่ได้ เราไม่ได้เจอกันมานานถึงสามปีไม่น่าเชื่อเขาจะยังจำเธอได้ แล้วการที่เขาโผลมาที่นี่นั่นก็เป็นการบอกได้ดีว่าสถานะของเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เขานับว่าเป็นบุคคลอันตรายคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพียงแค่เขาคลายอ้อมกอดก็ตั้งท่าจะวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนี้ทันที
แต่เขารู้ทัน
เขาอุ้มเธอจนตัวลอยเลย
“คิดว่าครั้งนี้จะหนีพ้นเหรอ?”
“ปล่อยฉันนะ!!”
“ไม่ปล่อย!!”
“คุณจะพาฉันไปไหนเนี่ย!?”
“กลับบ้าน”
“ห่ะ!?”
“ฉันจะพาเธอกลับบ้านและจะไม่ให้หนีไปไหนได้อีกแล้ว”
“คุณวาดิมปล่อย!!”
เธอดิ้นไม่หยุดแต่ด้วยแรงขนาดนี้ทำให้ยากที่จะหลุดได้ เขาหันไปมองบอดี้การ์ดที่ตามมาเพียงไม่กี่นาทีก็ขับรถมารอรับทันที แล้วเด็กดื้อคนนี้จะต้องอยู่ในเขาสอบปากคำทั้งวันทั้งคืนและจะกักขังเธอให้อยู่ด้วยกันตลอดไป เขาจะไม่มีวันพลาดทำให้เธอหลุดหายออกไปจากชีวิตอีกเด็ดขาด
สิ่งแรกที่ต้องรู้คือเธอชื่ออะไรกันแน่
หวังว่าจะไม่โดนหลอกด้วย
“หยุดดิ้นได้แล้ว!!”
“ก็ปล่อยสิ!!”
“บอกมาก่อนว่าชื่ออะไร?”
“คุณลักพาตัวฉันมาทั้งที่ไม่รู้จักชื่อนี่นะ คุณบ้าไปแล้วรึเปล่าห่ะ!?”
“จะตอบดีๆให้ฉันบังคับ?”
“คุณ…”
“เลือกดีๆ ตอนนี้ชีวิตเธออยู่ในกำมือฉันแล้ว”
“วันนั้นฉันไม่น่าช่วยคุณเลย!!”
“คิดได้ตอนนี้ก็สายไปแล้ว”
“คุณ…ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้คุณเลยด้วยซ้ำทำไมต้องจับตัวมาด้วยล่ะ!?”
“ทำสิ”
“ทำอะไรคะ?”
“ทำให้ฉันคิดถึงจนแทบบ้าไง เธอหลอกทุกคนว่าตายรู้ไหมว่าฉันเสียใจมากขนาดไหนห่ะ เธอคิดว่ามีโอกาสขนาดนี้ฉันจะปล่อยให้เธอหนีไปงั้นเหรอ สามปีแล้วนะที่ฉันตามหาเธอ สามปีที่คว้าน้ำเหลวมาตลอด จนกระทั่งวันนี้ที่เธอเดินมาหยุดตรงหน้าฉันเอง คิดว่ามันเป็นพรหมลิขิตไหมล่ะ?”
“เวรกรรมมากกว่า!”
“เธอเป็นของฉัน เราก็เลยต้องกลับมาเจอกันไง”
“ฉันไม่ชอบคนแก่!”
“ยี่สิบแปดยังไม่แก่!”
“ตอนนี้ฉันอายุสิบแปดปีนั่นเท่ากับว่าคุณแก่กว่าสิบปี”
“เธอ!!”
“แก่ก็คือแก่ คุณวาดิมคือเ*******ู!!”